หัตถ์เทวะธิดาพญายม 390 ผลไม่อาจคะเน

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 390 ผลไม่อาจคะเน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 390 ผลไม่อาจคะเน

“ยากจะเชื่อว่าท่านหมอยอดอัจฉริยะจะเป็น เพียงหนุ่มน้อยวัยเยาว์เช่นนี้ ไม่เพียงท่านจะมีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมเหนือคนทั่วไป ทั้งพลังฝีมือยังสูงส่ง ทําให้ผู้เฒ่าชราเช่นพวกเรานี้ต้องยอมรับนับถืออย่างแท้จริง !”

เพียงคนผู้นั้นเอ่ยกล่าว กลุ่มผู้คุ้มกันเดิมที่ตรงเข้าล้อมกรอบ รวมกระทั่งบุรุษวัยกลางคนผู้นั้นต่างแสดงสีหน้าบ่งบอกความเคารพ พวกมันค่อย ๆ ขยับถอยออกทีละคนเปิดทางเดิน

ปลายสุดทางเดิน บุรุษร่างสูงโปร่งผู้หนึ่งก้าวต่อ จึงออกมา

ทั้งหมดทั้งมวลที่ปรากฏแก่สายตาหญิงสาว คือบุรุษหนวดเครายาวผู้สวมใส่ชุดคลุมสีเทา สายตาที่จับจ้องเขม็งอยู่กับเกอซีล้วนอัดแน่นด้วยความริษยาระคนขุ่นเคืองคับแค้น หากคนผู้นี้มิใช่ท่านหมอเซีย ยังจะมีผู้ใดไหนได้อีกเล่า ?

ยังมีชายสูงวัยผู้มีอายุราวห้าสิบหรือหกสิบปี เดินนําหน้าท่านหมอเซีย ทั้งเรือนผมแลหนวดเคราของคนผู้นี้ล้วนเป็นสีดอกเลา ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยับย่นยิ่งช่วยประกาศกล่าวคืนวันแห่งประสบการณ์

เห็นได้ชัดว่าบุรุษผู้นี้ชราภาพกว่าท่านหมอเซียมากนัก หากแต่ในแววตากลับซุกซ่อนความปราดเปรื่อง ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทุกการขยับเคลื่อนของคนผู้นี้หาได้ปรากฏร่องรอยแห่งการรั่วไหลของพลังปราณไม่ แน่ชัดว่าชายชราผู้นี้ย่อมต้องเป็นยอดฝีมือชั้นเซียน

ท่าที่แสดงความนอบน้อมของท่านหมอเซียผู้นี้ด้านหลังสามารถแถลงไขได้ว่า คนผู้นี้ย่อมต้องเป็นนายใหญ่แห่งเรือนห่างไกลหลังนี้ ทั้งย่อมสมควรคืออาวุโสเจียงที่พวกมันทุกคนล้วนกล่าวอ้างถึง

ด้านหลังอาวุโสเจียง และหมอเซีย คือชายรูปร่างกํายําด้วยมัดกล้ามเนื้อที่แน่นหนั่นสองนาย พวกมันทั้งคู่ล้วนบรรลุระดับสูงสุดของพลังปราณขั้นที่สาม พลิกผันอเวจี ซึ่งสูงส่งกว่าเหล่าผู้คุมทั้งหลายในเรือนหลังนี้

เกอซีอาศัยความสามารถพิเศษเฉพาะตนจึงสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า พลังฝีมือของอาวุโสเจียงผู้นี้อยู่ในระดับกลางของพลังปราณขั้นที่สี่ ปฐพี่สะท้านสะเทือน

ด้วยพลังฝีมือในยามนี้ของเกอซี การประมือกับผู้ฝึกยุทธซึ่งมีพลังต่ํากว่าขั้นปฐพีสะท้านสะเทือน ล้วนไม่นับเป็นอย่างไรได้ ทว่าหากต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือระดับปฐพี่สะท้านสะเทือน ยิ่งกับผู้สามารถบรรลุถึงระดับกลางของพลังขั้นนี้ ผลลัพธ์ล้วนไม่อาจคาดเดา
หมอเซียผู้ยืนจ้องมองเกอซีเบี่ยงสายตาเย็นชาของตนออกไปเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวกลั้วเสียงหัวเราะ “อาวุโสเจียง ผู้นี้คือท่านหมอซียอดอัจฉริยะที่ผู้น้อยเคยบอกเล่าให้ท่านฟังในวันนั้นขอรับ”

พร้อมคํากล่าว มันหันมาส่งยิ้มอย่างจริงใจให้เกอซี “ท่านหมอซีผู้อัจฉริยะ ท่านเข้าใจผิดไปแล้ว พวกเราเพียงทิ้งข้อความไว้ในเรือนท่านด้วยเจตนาดี หวังเรียนเชิญท่านให้เกียรติมาเป็นแขกของเราในที่นี้”

“แม้นหากท่านไม่พอใจ เหตุใดต้องลักลอบเข้าเรือน ซ้ํายังทําร้ายผู้คุมของเราเช่นนี้?”

ยังไม่ทันกล่าวจบ หมอเซียกลับถูกอาวุโสเจียงยังขัดด้วยน้ําเสียงจริงใจ “ไยกล่าวเช่นนั้นชงหมิง ท่านหมอซียอดอัจฉริยะให้เกียรติมาเป็นแขกพวกเราในวันนี้ ไม่ว่าจะเยือนด้วยวิธีการใด พวกเราล้วนสมควรมอบการต้อนรับ”

อาวุโสเจียงยกยิ้มพร้อมคํากล่าวบนสีหน้า และน้ําเสียงอันเปี่ยมด้วยความเมตตาปราศจากร่องรอยแห่งความประสงค์ร้ายแต่ประการใด “พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง การมาเยือนของท่านหมอซีผู้อัจฉริยะช่วยจุดประกายให้เรือนน้อยต่ําต้อยของข้าสว่างไสวขึ้นมา”

“คนของข้าล้วนจดจําท่านหมอซีผู้อัจฉริยะมิได้ล่วงเกินแล้ว ขอท่านโปรดอย่าได้ถือสา”

บนดวงหน้าของหญิงสาว คือรอยยิ้มอันอ่อนโยนเช่นกัน เค้าโครงรูปหน้าอันงดงามเนียนละเอียด สว่างไสวเจิดจ้าท่ามกลางแสงประทีปยามราตรี บางคราดวงหน้านั้นก็มอบความรู้สึกบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ทว่าเมื่อยิ่งแลมองกลับยิ่งดูคล้ายภูตผีปีศาจ “ผู้คุมที่นี่ล้วนไม่อาจจดจําใบหน้าของข้าได้ จึงกระทําเกินเลยไปบ้างกระนั้นหรือ ?”

“เช่นนั้น คนในเรือนเบี้ยของข้าเล่า ? พวกมันล้วนแน่ชัดแก่ใจ เหตุใดจึงกระทําเกินเลยถึงเพียงนั้น ? !”

อาวุโสเจียงอึ้งตะลึงคงได้เพียงยืนตาค้างมองหนุ่มน้อยเบื้องหน้าคล้ายจิตใจเลื่อนลอยชั่วขณะ

เขาย่อมเคยได้ยินกิตติศัพท์ของหนุ่มน้อยผู้นี้จากหมอเซีย ว่าหมอน้อยอัจฉริยะผู้สามารถสมานกระดูกประสานเส้นเอ็นหลอดเลือด เป็นแค่เพียงหนุ่มน้อยเยาว์วัยผู้หนึ่ง

ทว่ายามนี้ครั้นเขาได้ประจักษ์แก่สายตา กลับต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าหนุ่มน้อยผู้นี้ยังเยาว์วัยอย่างยิ่ง ทั้งยังมีรูปร่างที่บอบบาง และดวงหน้าที่งดงามหมดจด

เห็นได้ชัดว่าหมอน้อยยอดอัจฉริยะผู้นี้มีดวงหน้าจิ้มลิ้มน่ารักราวดรุณีแรกรุ่น หากทว่านัยน์ตาคู่นั้นกลับเย็นยะเยือกเฉียบคม กระทั่งสามารถสั่นขวัญผู้คนให้ตื่นผวาหวาดกลัว และเหน็บหนาวเพียงเมื่อสบตา

***จบตอน ผลไม่อาจคะเน***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 390 ผลไม่อาจคะเน

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 390 ผลไม่อาจคะเน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 390 ผลไม่อาจคะเน

“ยากจะเชื่อว่าท่านหมอยอดอัจฉริยะจะเป็น เพียงหนุ่มน้อยวัยเยาว์เช่นนี้ ไม่เพียงท่านจะมีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมเหนือคนทั่วไป ทั้งพลังฝีมือยังสูงส่ง ทําให้ผู้เฒ่าชราเช่นพวกเรานี้ต้องยอมรับนับถืออย่างแท้จริง !”

เพียงคนผู้นั้นเอ่ยกล่าว กลุ่มผู้คุ้มกันเดิมที่ตรงเข้าล้อมกรอบ รวมกระทั่งบุรุษวัยกลางคนผู้นั้นต่างแสดงสีหน้าบ่งบอกความเคารพ พวกมันค่อย ๆ ขยับถอยออกทีละคนเปิดทางเดิน

ปลายสุดทางเดิน บุรุษร่างสูงโปร่งผู้หนึ่งก้าวต่อ จึงออกมา

ทั้งหมดทั้งมวลที่ปรากฏแก่สายตาหญิงสาว คือบุรุษหนวดเครายาวผู้สวมใส่ชุดคลุมสีเทา สายตาที่จับจ้องเขม็งอยู่กับเกอซีล้วนอัดแน่นด้วยความริษยาระคนขุ่นเคืองคับแค้น หากคนผู้นี้มิใช่ท่านหมอเซีย ยังจะมีผู้ใดไหนได้อีกเล่า ?

ยังมีชายสูงวัยผู้มีอายุราวห้าสิบหรือหกสิบปี เดินนําหน้าท่านหมอเซีย ทั้งเรือนผมแลหนวดเคราของคนผู้นี้ล้วนเป็นสีดอกเลา ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยับย่นยิ่งช่วยประกาศกล่าวคืนวันแห่งประสบการณ์

เห็นได้ชัดว่าบุรุษผู้นี้ชราภาพกว่าท่านหมอเซียมากนัก หากแต่ในแววตากลับซุกซ่อนความปราดเปรื่อง ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทุกการขยับเคลื่อนของคนผู้นี้หาได้ปรากฏร่องรอยแห่งการรั่วไหลของพลังปราณไม่ แน่ชัดว่าชายชราผู้นี้ย่อมต้องเป็นยอดฝีมือชั้นเซียน

ท่าที่แสดงความนอบน้อมของท่านหมอเซียผู้นี้ด้านหลังสามารถแถลงไขได้ว่า คนผู้นี้ย่อมต้องเป็นนายใหญ่แห่งเรือนห่างไกลหลังนี้ ทั้งย่อมสมควรคืออาวุโสเจียงที่พวกมันทุกคนล้วนกล่าวอ้างถึง

ด้านหลังอาวุโสเจียง และหมอเซีย คือชายรูปร่างกํายําด้วยมัดกล้ามเนื้อที่แน่นหนั่นสองนาย พวกมันทั้งคู่ล้วนบรรลุระดับสูงสุดของพลังปราณขั้นที่สาม พลิกผันอเวจี ซึ่งสูงส่งกว่าเหล่าผู้คุมทั้งหลายในเรือนหลังนี้

เกอซีอาศัยความสามารถพิเศษเฉพาะตนจึงสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า พลังฝีมือของอาวุโสเจียงผู้นี้อยู่ในระดับกลางของพลังปราณขั้นที่สี่ ปฐพี่สะท้านสะเทือน

ด้วยพลังฝีมือในยามนี้ของเกอซี การประมือกับผู้ฝึกยุทธซึ่งมีพลังต่ํากว่าขั้นปฐพีสะท้านสะเทือน ล้วนไม่นับเป็นอย่างไรได้ ทว่าหากต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือระดับปฐพี่สะท้านสะเทือน ยิ่งกับผู้สามารถบรรลุถึงระดับกลางของพลังขั้นนี้ ผลลัพธ์ล้วนไม่อาจคาดเดา
หมอเซียผู้ยืนจ้องมองเกอซีเบี่ยงสายตาเย็นชาของตนออกไปเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวกลั้วเสียงหัวเราะ “อาวุโสเจียง ผู้นี้คือท่านหมอซียอดอัจฉริยะที่ผู้น้อยเคยบอกเล่าให้ท่านฟังในวันนั้นขอรับ”

พร้อมคํากล่าว มันหันมาส่งยิ้มอย่างจริงใจให้เกอซี “ท่านหมอซีผู้อัจฉริยะ ท่านเข้าใจผิดไปแล้ว พวกเราเพียงทิ้งข้อความไว้ในเรือนท่านด้วยเจตนาดี หวังเรียนเชิญท่านให้เกียรติมาเป็นแขกของเราในที่นี้”

“แม้นหากท่านไม่พอใจ เหตุใดต้องลักลอบเข้าเรือน ซ้ํายังทําร้ายผู้คุมของเราเช่นนี้?”

ยังไม่ทันกล่าวจบ หมอเซียกลับถูกอาวุโสเจียงยังขัดด้วยน้ําเสียงจริงใจ “ไยกล่าวเช่นนั้นชงหมิง ท่านหมอซียอดอัจฉริยะให้เกียรติมาเป็นแขกพวกเราในวันนี้ ไม่ว่าจะเยือนด้วยวิธีการใด พวกเราล้วนสมควรมอบการต้อนรับ”

อาวุโสเจียงยกยิ้มพร้อมคํากล่าวบนสีหน้า และน้ําเสียงอันเปี่ยมด้วยความเมตตาปราศจากร่องรอยแห่งความประสงค์ร้ายแต่ประการใด “พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง การมาเยือนของท่านหมอซีผู้อัจฉริยะช่วยจุดประกายให้เรือนน้อยต่ําต้อยของข้าสว่างไสวขึ้นมา”

“คนของข้าล้วนจดจําท่านหมอซีผู้อัจฉริยะมิได้ล่วงเกินแล้ว ขอท่านโปรดอย่าได้ถือสา”

บนดวงหน้าของหญิงสาว คือรอยยิ้มอันอ่อนโยนเช่นกัน เค้าโครงรูปหน้าอันงดงามเนียนละเอียด สว่างไสวเจิดจ้าท่ามกลางแสงประทีปยามราตรี บางคราดวงหน้านั้นก็มอบความรู้สึกบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ทว่าเมื่อยิ่งแลมองกลับยิ่งดูคล้ายภูตผีปีศาจ “ผู้คุมที่นี่ล้วนไม่อาจจดจําใบหน้าของข้าได้ จึงกระทําเกินเลยไปบ้างกระนั้นหรือ ?”

“เช่นนั้น คนในเรือนเบี้ยของข้าเล่า ? พวกมันล้วนแน่ชัดแก่ใจ เหตุใดจึงกระทําเกินเลยถึงเพียงนั้น ? !”

อาวุโสเจียงอึ้งตะลึงคงได้เพียงยืนตาค้างมองหนุ่มน้อยเบื้องหน้าคล้ายจิตใจเลื่อนลอยชั่วขณะ

เขาย่อมเคยได้ยินกิตติศัพท์ของหนุ่มน้อยผู้นี้จากหมอเซีย ว่าหมอน้อยอัจฉริยะผู้สามารถสมานกระดูกประสานเส้นเอ็นหลอดเลือด เป็นแค่เพียงหนุ่มน้อยเยาว์วัยผู้หนึ่ง

ทว่ายามนี้ครั้นเขาได้ประจักษ์แก่สายตา กลับต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าหนุ่มน้อยผู้นี้ยังเยาว์วัยอย่างยิ่ง ทั้งยังมีรูปร่างที่บอบบาง และดวงหน้าที่งดงามหมดจด

เห็นได้ชัดว่าหมอน้อยยอดอัจฉริยะผู้นี้มีดวงหน้าจิ้มลิ้มน่ารักราวดรุณีแรกรุ่น หากทว่านัยน์ตาคู่นั้นกลับเย็นยะเยือกเฉียบคม กระทั่งสามารถสั่นขวัญผู้คนให้ตื่นผวาหวาดกลัว และเหน็บหนาวเพียงเมื่อสบตา

***จบตอน ผลไม่อาจคะเน***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+