หัตถ์เทวะธิดาพญายม 402

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 402 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 402 ท่านหมอซีเยาผู้อัจฉริยะ

“ผลสําเร็จควรอยู่ในมืออย่างเห็นได้ชัด มิคาดคิดเลยว่านางจะพ่ายแพ้ให้แก่เด็กหนุ่มผู้มีพลังฝีมือเพียงขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ ทั้งยังกระทําทุ่มบ่ามในม่านหมอกร้อยพฤกษ์สมุนไพร เป็นความเสียหน้าของตระกูลเฟิงเราอย่างแท้จริง !”

“หากมิใช่เพราะเห็นแก่หน้าอาจารย์ของนาง ข้าคงเฉดหัวนางออกจากสกุลเฟุ้งไปนานแล้ว !”

เฟิงเทียนป้าโกรธเกรี้ยวกระทั่งลูกตาแทบกลับ เพียงนึกถึงเหตุการณ์นอกอาณาจักรกําบังที่เฟิงเหลียนอิ่งปล่อยตนให้อยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่าต่อหน้าฝูงชนเขาก็อยากจะตีบุตรสาวคนนี้ให้ตายคามือไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ !

เดิมที่เคยหมายจะให้นางได้ออกเรือนไปกับหนานกงยวี่ เพื่อผูกมัดชายผู้นี้ให้แน่นเหนียว ทว่าเห็นที่ยามนี้จําต้องละความคิดนี้ไปเสียแล้ว !

เศษสวะผู้นี้ไม่อาจเผยตนต่อหน้าสาธารณชน ยิ่งกับหนานกงยผู้มีสายตาเฉียบคมบรรทัดฐานสูงกว่าบรรทัดฐานระดับสูงทั่วไป มีหรือจะชายตา แลนางได้อีก !

“กล่าวถึงเด็กหนุ่มผู้ช่วงชิงตําแหน่งผู้สืบทอ ดวังจือจินไปได้…” เฟิงเทียนป้าถอนหายใจยาวขึ้นคราหนึ่ง ก่อนจะหยิบยื่นหนังสือฉบับหนึ่งให้แก่เฟิงอวิ๋นจิ่ง ทั้งยังกระซิบน้ําเสียงเบา “เกรงว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะมิใช่ธรรมดาสามัญ เจ้าต้องจับตาดูไว้ให้ดี”

ใบหน้าของเฟงอวิ่นจึงแสดงความฉงนสนเท่ห์ เพียงเมื่อเขารับหนังสือฉบับนั้นมา สีหน้าของชายหนุ่มพลันเคร่งเครียด

หากแต่เพียงครู่ ดวงหน้านั้นพลันกลับคืนสู่ภาวะปกติ อย่างไร้ร่องรอยแม้เพียงอาการกระเพื่อมไหว ก่อนน้ําเสียงเบาบางแฝงความประหลาดใจจะเอ่ยขึ้น

“สามารถเชื่อมสมานเส้นชีพจรูปราณให้โอวหยางฮ่าวเซวียนกระทั่งมันสามารถฟื้นฟูพลังยุทธคืนขั้นพลังปราณเดิมก่อนหน้าได้กระนั้นหรือ? !”

“หมอซียอดอัจฉริยะ..ซีเยว่ ท่านพ่อ ท่านแน่ใจกระนั้นหรือว่าคือผู้เดียวกัน ?”

เฟิงเทียนป้าชี้แจง “จากที่เจ้ากล่าว เด็กหนุ่มซีเยวผู้นี้คือผู้ได้รับช่วงสืบทอดวังจือจิน ย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถทางการแพทย์ของมัน”

“ทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นในม่านหมอกร้อยพฤกษ์ สมุนไพรล้วนแสดงแน่ชัดว่าฝีมือการแพทย์ของ มันสูงส่งกว่าความสามารถทางการแพทย์ของเฟิงเหลียนอิ่ง”

“ใต้หล้า ปรากฏแพทย์ผู้มีพรสวรรค์เฉลียว ฉลาดโดดเด่นไม่มากนัก ทว่าให้บังเอิญเสียเหลือเกินว่าแพทย์อัจฉริยะถึงสองกลับปรากฏกายขึ้นฉับพลันในเวลาเดียวกัน ยังมีทั้งคู่ล้วนแซ่ซี ข้าได้ยินมาว่าท่านหมอซีผู้อัจฉริยะที่ให้การเยียวยารักษาโอวหยางฮ่าวเซวียน เป็นเพียงหนุ่มน้อยผู้มีวัยสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีเท่านั้น”

“เช่นนั้นข้าค่อนข้างมั่นใจถึงเก้าในสิบส่วนว่าหนุ่มน้อยผู้มีนามว่าซีเยวผู้นี้ ย่อมต้องเป็นท่านหมอซียอดอัจฉริยะผู้ทําให้วงการแพทย์ทั่วหล้าแทบคลุ้มคลั่ง”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ สายตาของเฟิงเทียนป้าพลันแปรเปลี่ยนเป็นเจิดจ้า “อขึ้นจึง แม้ภารกิจในอาณาจักรกําบังครานี้จะล้มเหลว ทว่าย่อมมิอาจกล่าวว่าเราไม่ได้ผลพวงใด เรื่องซีเยวผู้นี้ เจ้าต้องไปสืบมาให้กระจ่าง หากมันคือผู้สามารถใช้วิชาแพทย์ดั่งเทวะจริง ตระกูลเฟิงของเราต้องรีบรวบตัวคนผู้นี้มาให้จงได้…..”

ความรุ่มร้อนดั่งเปลวเพลิงพลันปรากฏในแวว ตาของเฟิงอวิ๋นจิ่งขึ้นวูบหนึ่ง ก่อนจะเลือนหายไปในทันที่คล้ายเขากําลังครุ่นคิดบางสิ่งชายหนุ่มมี สีหน้าอ่อนล้าเมื่อต้องเอ่ยถาม “ทว่าท่านพ่อ เราจะจัดการกับหนานกงยวเช่นไร ?”

“ความสัมพันธ์ระหว่างหนานกงยีกับซีเยวลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพื่อซีเยวผู้นี้ เขาพร้อมปะทะกับข้าโดยไม่หยุดคิด”

มิรู้ว่าความคิดเช่นนี้มาจากที่ใด หากทว่าเฟิงอวิ๋นจิ่งกลับรู้สึกว่า มีความเป็นไปได้ที่ชีเยว่จะเป็นอิสตรี ทั้งความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างหนานกงยวี่ และซีเยว่คือสิ่งที่ถูกปกปิดอําพราง

ย่อมเป็นธรรมดาที่เฟิงเทียนป้าจะเข้าใจว่าความถูกใจชอบพอของหนานกงยวที่มีต่อซีเยว่ ย่อมเกิดจากความสามารถทางการแพทย์เฉพาะตัวของคนผู้นั้น เช่นนั้นเขาจึงตอบคําบุตรชายด้วยสีหน้าย่ําแย่ “หนานกงยวี่ผู้นี้ หากเจ้าเลี่ยงหลีกได้ จงเลี่ยงหลีก ไม่ว่าจะอย่างไร เจ้าต้องไม่ปะทะคนผู้นี้โดยตรง เขามิใช่ผู้ที่เจ้าจะล่วงเกินได้ในยามนี้”

สีหน้าของเฟิงอวิ๋นจิ่งหม่นมัว ในใจมีเพียงความไม่เห็นพ้อง เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นบิดาเอ่ยกล่าว

หนานกงยี่คือยอดฝีมือผู้บรรลุถึงขอบเขตพลังปราณขั้นที่ห้า ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ ส่วนตัวเขาก็คือยอดฝีมือผู้ฝึกฝนพลังปราณถึงขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณเช่นกัน ทั้งเขายังมีอาวุธเวทซึ่งมีอานุภาพร้ายกาจยากรับมือของตระกูลเฟิงอีกนับไม่ถ้วน เฟิงอวิ๋นจิ่งไม่เชื่อว่า เขาจะตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้แก่หนานกงยี่

เช่นนั้นเหตุใดท่านพ่อกลับกล่าวว่าหนานกงยวี่คือผู้ที่เขาไม่อาจล่วงเกิน ?

เฟิงอวิ๋นจิ่งกัดฟันแน่น “ท่านพ่อมิจําเป็นต้องกล่าวให้มากความ หนานกงยวี่มีเพียงทักษะฝีมือเล็กน้อย ท่านคือผู้มีบุญคุณช่วยชีวิต เขาจะขบกัดฝ่ามือที่ป้อนคําข้าวตนกระนั้นหรือ ? เหตุใดเราต้องหลีกเลี่ยงการปะทะคนผู้นี้เสมือนหนึ่งข้อห้ามถึงเพียงนี้ ?”

***จบตอน ท่านหมอซีเยผู้อัจฉริยะ***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 402

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 402 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 402 ท่านหมอซีเยาผู้อัจฉริยะ

“ผลสําเร็จควรอยู่ในมืออย่างเห็นได้ชัด มิคาดคิดเลยว่านางจะพ่ายแพ้ให้แก่เด็กหนุ่มผู้มีพลังฝีมือเพียงขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ ทั้งยังกระทําทุ่มบ่ามในม่านหมอกร้อยพฤกษ์สมุนไพร เป็นความเสียหน้าของตระกูลเฟิงเราอย่างแท้จริง !”

“หากมิใช่เพราะเห็นแก่หน้าอาจารย์ของนาง ข้าคงเฉดหัวนางออกจากสกุลเฟุ้งไปนานแล้ว !”

เฟิงเทียนป้าโกรธเกรี้ยวกระทั่งลูกตาแทบกลับ เพียงนึกถึงเหตุการณ์นอกอาณาจักรกําบังที่เฟิงเหลียนอิ่งปล่อยตนให้อยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่าต่อหน้าฝูงชนเขาก็อยากจะตีบุตรสาวคนนี้ให้ตายคามือไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ !

เดิมที่เคยหมายจะให้นางได้ออกเรือนไปกับหนานกงยวี่ เพื่อผูกมัดชายผู้นี้ให้แน่นเหนียว ทว่าเห็นที่ยามนี้จําต้องละความคิดนี้ไปเสียแล้ว !

เศษสวะผู้นี้ไม่อาจเผยตนต่อหน้าสาธารณชน ยิ่งกับหนานกงยผู้มีสายตาเฉียบคมบรรทัดฐานสูงกว่าบรรทัดฐานระดับสูงทั่วไป มีหรือจะชายตา แลนางได้อีก !

“กล่าวถึงเด็กหนุ่มผู้ช่วงชิงตําแหน่งผู้สืบทอ ดวังจือจินไปได้…” เฟิงเทียนป้าถอนหายใจยาวขึ้นคราหนึ่ง ก่อนจะหยิบยื่นหนังสือฉบับหนึ่งให้แก่เฟิงอวิ๋นจิ่ง ทั้งยังกระซิบน้ําเสียงเบา “เกรงว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะมิใช่ธรรมดาสามัญ เจ้าต้องจับตาดูไว้ให้ดี”

ใบหน้าของเฟงอวิ่นจึงแสดงความฉงนสนเท่ห์ เพียงเมื่อเขารับหนังสือฉบับนั้นมา สีหน้าของชายหนุ่มพลันเคร่งเครียด

หากแต่เพียงครู่ ดวงหน้านั้นพลันกลับคืนสู่ภาวะปกติ อย่างไร้ร่องรอยแม้เพียงอาการกระเพื่อมไหว ก่อนน้ําเสียงเบาบางแฝงความประหลาดใจจะเอ่ยขึ้น

“สามารถเชื่อมสมานเส้นชีพจรูปราณให้โอวหยางฮ่าวเซวียนกระทั่งมันสามารถฟื้นฟูพลังยุทธคืนขั้นพลังปราณเดิมก่อนหน้าได้กระนั้นหรือ? !”

“หมอซียอดอัจฉริยะ..ซีเยว่ ท่านพ่อ ท่านแน่ใจกระนั้นหรือว่าคือผู้เดียวกัน ?”

เฟิงเทียนป้าชี้แจง “จากที่เจ้ากล่าว เด็กหนุ่มซีเยวผู้นี้คือผู้ได้รับช่วงสืบทอดวังจือจิน ย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถทางการแพทย์ของมัน”

“ทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นในม่านหมอกร้อยพฤกษ์ สมุนไพรล้วนแสดงแน่ชัดว่าฝีมือการแพทย์ของ มันสูงส่งกว่าความสามารถทางการแพทย์ของเฟิงเหลียนอิ่ง”

“ใต้หล้า ปรากฏแพทย์ผู้มีพรสวรรค์เฉลียว ฉลาดโดดเด่นไม่มากนัก ทว่าให้บังเอิญเสียเหลือเกินว่าแพทย์อัจฉริยะถึงสองกลับปรากฏกายขึ้นฉับพลันในเวลาเดียวกัน ยังมีทั้งคู่ล้วนแซ่ซี ข้าได้ยินมาว่าท่านหมอซีผู้อัจฉริยะที่ให้การเยียวยารักษาโอวหยางฮ่าวเซวียน เป็นเพียงหนุ่มน้อยผู้มีวัยสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีเท่านั้น”

“เช่นนั้นข้าค่อนข้างมั่นใจถึงเก้าในสิบส่วนว่าหนุ่มน้อยผู้มีนามว่าซีเยวผู้นี้ ย่อมต้องเป็นท่านหมอซียอดอัจฉริยะผู้ทําให้วงการแพทย์ทั่วหล้าแทบคลุ้มคลั่ง”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ สายตาของเฟิงเทียนป้าพลันแปรเปลี่ยนเป็นเจิดจ้า “อขึ้นจึง แม้ภารกิจในอาณาจักรกําบังครานี้จะล้มเหลว ทว่าย่อมมิอาจกล่าวว่าเราไม่ได้ผลพวงใด เรื่องซีเยวผู้นี้ เจ้าต้องไปสืบมาให้กระจ่าง หากมันคือผู้สามารถใช้วิชาแพทย์ดั่งเทวะจริง ตระกูลเฟิงของเราต้องรีบรวบตัวคนผู้นี้มาให้จงได้…..”

ความรุ่มร้อนดั่งเปลวเพลิงพลันปรากฏในแวว ตาของเฟิงอวิ๋นจิ่งขึ้นวูบหนึ่ง ก่อนจะเลือนหายไปในทันที่คล้ายเขากําลังครุ่นคิดบางสิ่งชายหนุ่มมี สีหน้าอ่อนล้าเมื่อต้องเอ่ยถาม “ทว่าท่านพ่อ เราจะจัดการกับหนานกงยวเช่นไร ?”

“ความสัมพันธ์ระหว่างหนานกงยีกับซีเยวลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพื่อซีเยวผู้นี้ เขาพร้อมปะทะกับข้าโดยไม่หยุดคิด”

มิรู้ว่าความคิดเช่นนี้มาจากที่ใด หากทว่าเฟิงอวิ๋นจิ่งกลับรู้สึกว่า มีความเป็นไปได้ที่ชีเยว่จะเป็นอิสตรี ทั้งความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างหนานกงยวี่ และซีเยว่คือสิ่งที่ถูกปกปิดอําพราง

ย่อมเป็นธรรมดาที่เฟิงเทียนป้าจะเข้าใจว่าความถูกใจชอบพอของหนานกงยวที่มีต่อซีเยว่ ย่อมเกิดจากความสามารถทางการแพทย์เฉพาะตัวของคนผู้นั้น เช่นนั้นเขาจึงตอบคําบุตรชายด้วยสีหน้าย่ําแย่ “หนานกงยวี่ผู้นี้ หากเจ้าเลี่ยงหลีกได้ จงเลี่ยงหลีก ไม่ว่าจะอย่างไร เจ้าต้องไม่ปะทะคนผู้นี้โดยตรง เขามิใช่ผู้ที่เจ้าจะล่วงเกินได้ในยามนี้”

สีหน้าของเฟิงอวิ๋นจิ่งหม่นมัว ในใจมีเพียงความไม่เห็นพ้อง เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นบิดาเอ่ยกล่าว

หนานกงยี่คือยอดฝีมือผู้บรรลุถึงขอบเขตพลังปราณขั้นที่ห้า ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ ส่วนตัวเขาก็คือยอดฝีมือผู้ฝึกฝนพลังปราณถึงขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณเช่นกัน ทั้งเขายังมีอาวุธเวทซึ่งมีอานุภาพร้ายกาจยากรับมือของตระกูลเฟิงอีกนับไม่ถ้วน เฟิงอวิ๋นจิ่งไม่เชื่อว่า เขาจะตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้แก่หนานกงยี่

เช่นนั้นเหตุใดท่านพ่อกลับกล่าวว่าหนานกงยวี่คือผู้ที่เขาไม่อาจล่วงเกิน ?

เฟิงอวิ๋นจิ่งกัดฟันแน่น “ท่านพ่อมิจําเป็นต้องกล่าวให้มากความ หนานกงยวี่มีเพียงทักษะฝีมือเล็กน้อย ท่านคือผู้มีบุญคุณช่วยชีวิต เขาจะขบกัดฝ่ามือที่ป้อนคําข้าวตนกระนั้นหรือ ? เหตุใดเราต้องหลีกเลี่ยงการปะทะคนผู้นี้เสมือนหนึ่งข้อห้ามถึงเพียงนี้ ?”

***จบตอน ท่านหมอซีเยผู้อัจฉริยะ***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+