หัตถ์เทวะธิดาพญายม 551 แหวกม่านท้องนภา

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 551 แหวกม่านท้องนภา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 551 แหวกม่านท้องนภา

บุรุษในชุดดําท่าทางลามกมากเล่ห์ร้ายพากันย่างกรายเข้าหายื่นมือออกคว้ากุม

เกอซีส่งเสียงตวาดลั่น

“ไสหัวไป ! !”

แบ่งเข็มในมือถูกสะบัดใส่อีกฝ่าย

หากแต่หางเสียงที่เปล่งออกมากลับแหบพร่า แม้จะเต็มไปด้วยความเย็นชา ทว่าก็แฝงความหักห้ามยับยั้งจิตใจ ทั้งยิ่งกลับกลายเสมือนเป็นสิ่งช่วยกระตุ้นเร้าท้าทายให้เหล่าบุรุษตื่นตัวกลุ่มคลั่งถึงที่สุด

ท่านเลี่ยวผู้อยู่ในอาภรณ์สีดําบิดกายหลบแบ่งเข็มเงินที่ซัดเข้าใส่ ก่อนปลดปล่อยเสียงหัวเราะร่วนที่แฝงความตื่นเต้นเร้าอารมณ์

“รีบมาช่วยกันจับตัวนางไว้ ภู่พิษร่านสวาทในกายนางเริ่มสําแดงฤทธิ์แล้ว ไม่ต้องกลัว ยามนี้ นางแทบไม่เหลือพลังต่อสู้ใดแล้ว”

เพียงเกอซีพลาดท่าล้มลงเหล่าศิษย์อัปลักษณ์ทั้งหมดก็รีบรุดเข้ามารุมกดร่างของนางไว้อย่างแน่นหนา

สองเท้าของนางถูกรวบจับ ร่างน้อยดิ้นรนสะบัดหนีสุดกําลัง กระทั่งแขนเสื้อข้างซ้ายฉีกขาด

เพียงเสียงฉีกกระชากอาภรณ์ดังขึ้น เนินไหล่ที่ขาวเนียนสล้างแต่งแต้มด้วยริ้วรอยจากแส้ที่ฟาดตวัดพลันถูกเผยขึ้นเบื้องหน้าสายตาทกผู้คน

เรือนร่างงามที่ยามนี้ไร้สิ้นแรงกําลังถูกกดให้นาบลงกับพื้น

มิรู้ตั้งแต่เมื่อไรที่สายแส้ซึ่งถูกเกอซียึดไว้กลับเข้ามาอยู่ในมือของท่านเลี่ยวอีกครา ยามนี้มันกําลังยกสายแส้ขึ้นโบกสะบัดด้วยใบหน้าตื่นเต้นในกระหายชวนขนหัวลุก

เมื่อเหล่าศิษย์ทั้งหลายได้เห็นความงดงามของสตรีผู้เลอโฉมหาใดเปรียบอย่างเต็มตา พวกมันล้วนหัวใจเต้นแรง ลมหายใจถี่รัว สองตาจ้องเขม็งอยู่กับความงามเบื้องหน้าอย่างมิอาจละสายตา

ท่านเลี่ยวฉีกเสื้อผ้าบนกายออกขณะแหกปากร้องลัน

“ทูนหัว ไม่ต้องห่วง รอท่านปู่ผู้นี้เปลื้องอาภรณ์ ทิ้งรอยแส้ไว้กับเรือนร่างงดงามของเจ้าแล้ว ข้าจะมอบความรักอย่างสุดซึ้ง กระทั่งเจ้ามิอาจลืมเลือนได้เลยทีเดียว !”

สายแส้สีดําถูกยกขึ้นสูงพร้อมเสียงหัวเราะก้อง เต็มไปด้วยความตื่นกระหายตื่นเต้น ฟังแล้วชวนขนลุกขนพอง

เพียงเสี้ยวนาที่ที่ปลายแส้กําลังจะฟาดลงยังเป้าหมาย

แสงแวววาวพลันเปล่งประกายผ่านบางสิ่งบนล่าคอของเกอซี

ม่านหมอกมืดครื้มปกคลุมทั่วท้องนภา แสงสีทองส่องเป็นลําทะลุผ่านชั้นเมฆาเหนือยอดเขาสลายวิญญาณ สายลมพัดแรง พายุกรรโชก ฝุ่นดินเม็ดทรายฟุ้งกระจายตลบทั่วผืนฟ้าประหนึ่ง พสุธากําลังคลุ้มคลั่ง

ภายใต้ลําแสงสีแดง ปรากฏรอยแยกแตกอย่างน่าอัศจรรย์เหนือห้วงเวหา หลุมอากาศสีดําขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือแผ่นฟ้า

ลมพายุแรงพัดกระหน่าซัดร่างผู้คนให้ปลิดปลิวจากผืนดินอย่างไม่ปรานีต่อผู้ใด กระทั่งอาคมปกป้องกายที่ครอบคลุมป้องกันล้วนปริแตกแหลกละเอียดด้วยแรงลมและพายุทราย

เสียงมันผู้หนึ่งร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก

“เกิดอะไรขึ้น ?”

เพียงสิ้นเสียง เงาร่างสูงโปร่งของคนผู้หนึ่งพลันปรากฏขึ้นท่ามกลางรอยแตกแยกกลางห้วงเวหา ร่างของคนผู้นั้นค่อย ๆ ลอยเคลื่อนคล้อยเลื่อนลงจากนภากาศ

บรรยากาศที่หม่นมัวอมครีมแฝงอายรัศมีหม่นมัวสีดําแดงครอบคลุมตลอดเรือนกายคนผู้นั้น กระทั่งไม่อาจแลเห็นใบหน้า ทว่าความน่ากลัวหวั่นผวาคือขุมพลังที่แผ่ซ่านไปทั่วชั้นบรรยากาศสร้างความน่าสะพรึงกลัวสันผวาให้แก่ทุกผู้คนที่ได้ยลเห็น

ที่สุด เมื่อร่างของคนผู้นั้นเคลื่อนคล้อยจรดผืนแผ่นดิน พายุใหญ่ที่กรรโชกอย่างบ้าคลั่ง ลำแสงสีแดงผ่าท้องนภาอันเจิดจ้า ตลอดถึงกลุ่มเมฆาคมอันหม่นมัวพลันเลือนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ท่านเลี่ยวใช้ท่อนเหล็กในมือช่วยดันหยัดกายให้ลุกยืน กระทั่งยามนี้เองที่มันสามารถแลเห็นทุกสิ่งเบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน

เพียงใบหน้าของผู้มาเยือนปรากฏแก่ครรลองสายตาอย่างชัดเจน มันกลับร้องลั่นเสียงหลง

“องค์ราชัน—องค์ราชันมัจจุราช เหตุใดองค์ราชันมัจจุราชจึงมาปรากฏกายในที่นี้ ?!!!”

เบื้องหน้าสายตาของเขาคือบุรุษผู้มีเรือนผมดํายาวเงางามประดุจใยไหม ประกายแสงสีส้มแดงยามอาทิตย์อัสดงสะท้อนจับดวงหน้าคมสันให้ยิ่งงดงามดั่งภาพขีดเขียนแห่งจิตรกรชั้นยอด ความหล่อเหลาอย่างหาใดเปรียบที่บันดาลให้เหล่าสตรีทั้งหลายคลุ้มคลั่งละเมอฝันแทบเสียสติ

เขายืนกุมกระบี่สีดําด้ามยาวในมือด้วยอาการนิ่งสงบ ชายอาภรณ์สะบัดปลิวไปตามสายลม แวววตาคู่นั้นสนิทนิ่งไร้ความโศกาอาดูรไร้ความรื่นเริงสุขสันต์ หากทว่าเพียงแนวสายตาคู่นั้น เคลื่อนผ่านกลับเสมือนสามารถกวาดทําลายทุกสรรพสิ่งให้พินาศย่อยยับได้ทุกเมื่อ

“องค์ราชันมัจจุราช…หนานกงยว เหตุใดเขาจึงปรากฏกาย ? !”

***จบตอน แหวกม่านท้องนภา***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 551 แหวกม่านท้องนภา

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 551 แหวกม่านท้องนภา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 551 แหวกม่านท้องนภา

บุรุษในชุดดําท่าทางลามกมากเล่ห์ร้ายพากันย่างกรายเข้าหายื่นมือออกคว้ากุม

เกอซีส่งเสียงตวาดลั่น

“ไสหัวไป ! !”

แบ่งเข็มในมือถูกสะบัดใส่อีกฝ่าย

หากแต่หางเสียงที่เปล่งออกมากลับแหบพร่า แม้จะเต็มไปด้วยความเย็นชา ทว่าก็แฝงความหักห้ามยับยั้งจิตใจ ทั้งยิ่งกลับกลายเสมือนเป็นสิ่งช่วยกระตุ้นเร้าท้าทายให้เหล่าบุรุษตื่นตัวกลุ่มคลั่งถึงที่สุด

ท่านเลี่ยวผู้อยู่ในอาภรณ์สีดําบิดกายหลบแบ่งเข็มเงินที่ซัดเข้าใส่ ก่อนปลดปล่อยเสียงหัวเราะร่วนที่แฝงความตื่นเต้นเร้าอารมณ์

“รีบมาช่วยกันจับตัวนางไว้ ภู่พิษร่านสวาทในกายนางเริ่มสําแดงฤทธิ์แล้ว ไม่ต้องกลัว ยามนี้ นางแทบไม่เหลือพลังต่อสู้ใดแล้ว”

เพียงเกอซีพลาดท่าล้มลงเหล่าศิษย์อัปลักษณ์ทั้งหมดก็รีบรุดเข้ามารุมกดร่างของนางไว้อย่างแน่นหนา

สองเท้าของนางถูกรวบจับ ร่างน้อยดิ้นรนสะบัดหนีสุดกําลัง กระทั่งแขนเสื้อข้างซ้ายฉีกขาด

เพียงเสียงฉีกกระชากอาภรณ์ดังขึ้น เนินไหล่ที่ขาวเนียนสล้างแต่งแต้มด้วยริ้วรอยจากแส้ที่ฟาดตวัดพลันถูกเผยขึ้นเบื้องหน้าสายตาทกผู้คน

เรือนร่างงามที่ยามนี้ไร้สิ้นแรงกําลังถูกกดให้นาบลงกับพื้น

มิรู้ตั้งแต่เมื่อไรที่สายแส้ซึ่งถูกเกอซียึดไว้กลับเข้ามาอยู่ในมือของท่านเลี่ยวอีกครา ยามนี้มันกําลังยกสายแส้ขึ้นโบกสะบัดด้วยใบหน้าตื่นเต้นในกระหายชวนขนหัวลุก

เมื่อเหล่าศิษย์ทั้งหลายได้เห็นความงดงามของสตรีผู้เลอโฉมหาใดเปรียบอย่างเต็มตา พวกมันล้วนหัวใจเต้นแรง ลมหายใจถี่รัว สองตาจ้องเขม็งอยู่กับความงามเบื้องหน้าอย่างมิอาจละสายตา

ท่านเลี่ยวฉีกเสื้อผ้าบนกายออกขณะแหกปากร้องลัน

“ทูนหัว ไม่ต้องห่วง รอท่านปู่ผู้นี้เปลื้องอาภรณ์ ทิ้งรอยแส้ไว้กับเรือนร่างงดงามของเจ้าแล้ว ข้าจะมอบความรักอย่างสุดซึ้ง กระทั่งเจ้ามิอาจลืมเลือนได้เลยทีเดียว !”

สายแส้สีดําถูกยกขึ้นสูงพร้อมเสียงหัวเราะก้อง เต็มไปด้วยความตื่นกระหายตื่นเต้น ฟังแล้วชวนขนลุกขนพอง

เพียงเสี้ยวนาที่ที่ปลายแส้กําลังจะฟาดลงยังเป้าหมาย

แสงแวววาวพลันเปล่งประกายผ่านบางสิ่งบนล่าคอของเกอซี

ม่านหมอกมืดครื้มปกคลุมทั่วท้องนภา แสงสีทองส่องเป็นลําทะลุผ่านชั้นเมฆาเหนือยอดเขาสลายวิญญาณ สายลมพัดแรง พายุกรรโชก ฝุ่นดินเม็ดทรายฟุ้งกระจายตลบทั่วผืนฟ้าประหนึ่ง พสุธากําลังคลุ้มคลั่ง

ภายใต้ลําแสงสีแดง ปรากฏรอยแยกแตกอย่างน่าอัศจรรย์เหนือห้วงเวหา หลุมอากาศสีดําขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือแผ่นฟ้า

ลมพายุแรงพัดกระหน่าซัดร่างผู้คนให้ปลิดปลิวจากผืนดินอย่างไม่ปรานีต่อผู้ใด กระทั่งอาคมปกป้องกายที่ครอบคลุมป้องกันล้วนปริแตกแหลกละเอียดด้วยแรงลมและพายุทราย

เสียงมันผู้หนึ่งร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก

“เกิดอะไรขึ้น ?”

เพียงสิ้นเสียง เงาร่างสูงโปร่งของคนผู้หนึ่งพลันปรากฏขึ้นท่ามกลางรอยแตกแยกกลางห้วงเวหา ร่างของคนผู้นั้นค่อย ๆ ลอยเคลื่อนคล้อยเลื่อนลงจากนภากาศ

บรรยากาศที่หม่นมัวอมครีมแฝงอายรัศมีหม่นมัวสีดําแดงครอบคลุมตลอดเรือนกายคนผู้นั้น กระทั่งไม่อาจแลเห็นใบหน้า ทว่าความน่ากลัวหวั่นผวาคือขุมพลังที่แผ่ซ่านไปทั่วชั้นบรรยากาศสร้างความน่าสะพรึงกลัวสันผวาให้แก่ทุกผู้คนที่ได้ยลเห็น

ที่สุด เมื่อร่างของคนผู้นั้นเคลื่อนคล้อยจรดผืนแผ่นดิน พายุใหญ่ที่กรรโชกอย่างบ้าคลั่ง ลำแสงสีแดงผ่าท้องนภาอันเจิดจ้า ตลอดถึงกลุ่มเมฆาคมอันหม่นมัวพลันเลือนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ท่านเลี่ยวใช้ท่อนเหล็กในมือช่วยดันหยัดกายให้ลุกยืน กระทั่งยามนี้เองที่มันสามารถแลเห็นทุกสิ่งเบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน

เพียงใบหน้าของผู้มาเยือนปรากฏแก่ครรลองสายตาอย่างชัดเจน มันกลับร้องลั่นเสียงหลง

“องค์ราชัน—องค์ราชันมัจจุราช เหตุใดองค์ราชันมัจจุราชจึงมาปรากฏกายในที่นี้ ?!!!”

เบื้องหน้าสายตาของเขาคือบุรุษผู้มีเรือนผมดํายาวเงางามประดุจใยไหม ประกายแสงสีส้มแดงยามอาทิตย์อัสดงสะท้อนจับดวงหน้าคมสันให้ยิ่งงดงามดั่งภาพขีดเขียนแห่งจิตรกรชั้นยอด ความหล่อเหลาอย่างหาใดเปรียบที่บันดาลให้เหล่าสตรีทั้งหลายคลุ้มคลั่งละเมอฝันแทบเสียสติ

เขายืนกุมกระบี่สีดําด้ามยาวในมือด้วยอาการนิ่งสงบ ชายอาภรณ์สะบัดปลิวไปตามสายลม แวววตาคู่นั้นสนิทนิ่งไร้ความโศกาอาดูรไร้ความรื่นเริงสุขสันต์ หากทว่าเพียงแนวสายตาคู่นั้น เคลื่อนผ่านกลับเสมือนสามารถกวาดทําลายทุกสรรพสิ่งให้พินาศย่อยยับได้ทุกเมื่อ

“องค์ราชันมัจจุราช…หนานกงยว เหตุใดเขาจึงปรากฏกาย ? !”

***จบตอน แหวกม่านท้องนภา***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+