หัตถ์เทวะธิดาพญายม 476 ทรมาน

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 476 ทรมาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 476 ทรมาน

นัยน์ตาของผู้ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนแสดงถึงอาการวิงวอนหวาดผวา ปากของเขาอ้า ๆ หุบ ๆ คล้ายพยายามเอ่ยวาจาทว่ากลับไร้สุ่มเสียง

มู่หรงฟังจ้องบุรุษผู้ถูกร้อยรัดด้วยตรวนเหล็กดําด้วยสายตาเย้ยหยัน “มู่หรงหลิวเฟิงเป็นอย่างไรบ้าง ? ยังดื้อดึงอยู่อีกกระนั้นรี ? อยากเห็นมารดาของเจ้าถูกข้าเฆี่ยนกระทั่งสิ้นใจกระนั้นหรือ

บุรุษผู้ถูกร้อยตรึงกับตรวนพยายามอ้าปากส่งเสียงดัง ทว่ากลับฟังไม่รู้ความหยาดน้ำตาของเขาร่วงหล่นอาบข้างแก้ม

นอกเสียจากท่าหน้าตาบิดเบี้ยว ทําปากพะเยิบพะยาบฟังไม่เป็นคําแล้ว เขายังกระทําสิ่งใดได้อีก

“อ้า… ช่างเถิด” มู่หรงฟังทําเสียงละเที่ยอ่อนใจ “เดิมที่ข้าเพียงต้องการเค้นความจากเจ้าเพียงต้องการรู้ฐานะที่แท้จริงของหมอลึกลับผู้นั้นจากปากของเจ้าทว่าเมื่อเจ้ายังกระทําโอหังเช่นนี้ก็ถือเสียว่าข้าไม่เคยมีบุตรเช่นเจ้า”

เขากล่าวพร้อมเผยสีหน้าชั่วช้าเลวร้าย ฝ่ามือกว้างตรงเข้ากระชากหน้ากากอีกฝ่ายเผยดวงหน้ากระจ่างใสที่ถูกคาดผ่านด้วยรอยแผลเป็นน่าเกลียด

“ยามนี้ตระกูลมู่หรงเป็นผู้ครอบครองตําราปรุงโอสถสํารับเย็น หมออัจฉริยะผู้นั้นจะมีความหมายใดอีก เจ้ามันก็เหมือนกับมารดาของเจ้า นางสุนัขจิ้งจอกที่เลี้ยงไม่เชื่องเจ้าชอบอาศัยใบห น้านี้ยั่วยวนผู้คนให้ลุ่มหลงมิใช่หรือ ?”

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะส่งมอบตัวเจ้าให้แก่ท่านหมอเลี่ยวคนสนิทของผู้พิทักษ์ในเงามืดเขามีอุปนิสัยชอบเริงสําราญกับบุรุษรูปงาม หากพวกเขาพึงพอใจอาจยินยอมให้เรามอบโอสถสํารับเย็นน้อยลงกว่าเดิมก็เป็นได้ อย่างน้อยลูกนอกสมรสเช่นเจ้าก็ยังได้ทําหน้าที่บําเรอความสุขสนองคุณตระกูลมู่หรงอย่างไรเล่าฮ่าฮ่าฮ่า”

บุรุษผู้ถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนเบิกตาโพลง ทั่วร่างสันสะท้านหวาดผวา

เขาออกแรงดิ้นรนสุดชีวิต อ้าปากส่งเสียงเต็มกําลังคล้ายพยายาม
ส่งเสียงร้องคํารามขู่เข็ญ

หากทว่านอกเสียจากเสียงตรวนเหล็กดําที่กระทบกระแทกใส่กัน เสียงที่ถูกปลดปล่อยออกมาได้มีเพียงสุ่มเสียงแหบพร่าดัง “อ้าาาาาา” เพียงเท่านั้น
น้ำมูกน้ำตาไหลอาบท่วมดวงหน้าท่วงท่าหยิ่งผยองดังเคยมีมลายหายสิ้น คงปรากฏเพียงแววตาแห่งความขยาดขลาดกลัวสีหน้าเศร้าสลดตื่นตระหนก

ยิ่งมู่หรงฟงได้เห็นสภาพยามนี้ของบุรุษเบื้องหน้า มันกลับยิ่งเข้าใจว่าที่สุดแล้ว มันก็สามารถทรมานคนผู้นี้กระทั่งถึงความหวาดกลัวได้ดังคาดคิด ภาพที่ประจักษ์เบื้องหน้ายิ่งพอกพูนความอิ่มเอมใจให้มันรู้สึกเต็มตื้น กู้หลิวฟังควักเม็ดโอสถยัดใส่ปากอีกฝ่าย “กินเข้าไปโอสถนี้ย่อมสามารถกักกั้นพลังของเจ้าได้เนิ่นนานถึงเจ็ดวัดแม้นเจ้าสามารถบรรลุถึงพลังขั้นสูงสุดแห่งขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือน เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์หลีกหนี จงทอดร่างมอบความสุขสันต์แก่ท่านหมอเลี้ยวให้เต็มที่เถิดเกรงว่าเจ็ดวันนี้เจ้าคงได้ลิ้มรสชาติความสุขทวีคูณประกบคู่ชนิดต้องติดใจไปจนตายเลยทีเดียว”
“หึหึหึกูอวหลานมู่หรงหลิวเพิ่งนี่คือจุดจบของผู้ที่คิดตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับข้า !”

กล่าวจบ มู่หรงฟังก็ยกมือขึ้นโบกให้สัญญาณพร้อมน้ำเสียงออกคําสั่งอย่างเย็นชา “จับนางแพศยาผู้นี้ยัดใส่หีบกลับที่เดิมส่วนไอ้สารเลวนนิ้วปีกมันไปส่งให้ท่านหมอเลี่ยว !”

ยิ่งได้เห็น หลิวเพิ่ง” พยายามดิ้นรนต่อสู้ขณะถูกลากตัวออกไปเช่นนั้นเขาก็ยิ่งกระหยิ่มยิ้มย่องพึงพอใจบุรุษสูงวัยหันร่างกลับเข้าสู่ห้องปรุงโอสถอีกครา

หลายวันมานี้ เขามัวขลุกอยู่กับการปรุงกลั่นโอสถสํารับเย็น

มู่หรงฟังย่อมมีความคุ้นชินกับโอสถชุดนี้ เมื่อสิ่งนี้คือโอสถที่ก่อหลานเสพกันอย่างเนิ่นนานต่อเนื่องถึงยี่สิบปี

เมื่อนานมาแล้ว เขาเคยได้รับโอสถสํารับเย็นมาชุดหนึ่ง ไม่คิดเลยว่า ที่สุดตระกูลมู่หรงกลับกลายเป็นผู้สามารถปรุงกลั่นโอสถชุดนี้ขึ้นได้

ทุกวันนี้ ตระกูลผู้ทรงอิทธิพลสูงส่งในเมืองเหยียนจึงล้วนแข็งแกร่งกว่าก่อน ยิ่งโดยเฉพาะตระกูลฮวงปู่ คลื่นลูกใหม่ที่น่าหวั่นเกรง ผู้คนในตระกูลนี้ล้วนมากมายด้วยเหล่ายอดฝีมือผู้บรรลุถึงพลังปราณขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือน ขณะสกุลมู่หรงตกต่ําลงทุกวัน กระทั่งยามนี้ยอดฝีมือผู้สามารถบรรลุถึงขอบเขตพลังปราณขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือนก็ปรากฏเพียงสองหรือสามคนเท่านั้นตลาดการค้าโอสถล้วนถูกตระกูลน่าหลานและโรงโอสถเซิงเต่อยึดครองสิ้นหนทางตั้งรับอับจนหนทางต่อกร

***จบตอน ทรมาน***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 476 ทรมาน

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 476 ทรมาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 476 ทรมาน

นัยน์ตาของผู้ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนแสดงถึงอาการวิงวอนหวาดผวา ปากของเขาอ้า ๆ หุบ ๆ คล้ายพยายามเอ่ยวาจาทว่ากลับไร้สุ่มเสียง

มู่หรงฟังจ้องบุรุษผู้ถูกร้อยรัดด้วยตรวนเหล็กดําด้วยสายตาเย้ยหยัน “มู่หรงหลิวเฟิงเป็นอย่างไรบ้าง ? ยังดื้อดึงอยู่อีกกระนั้นรี ? อยากเห็นมารดาของเจ้าถูกข้าเฆี่ยนกระทั่งสิ้นใจกระนั้นหรือ

บุรุษผู้ถูกร้อยตรึงกับตรวนพยายามอ้าปากส่งเสียงดัง ทว่ากลับฟังไม่รู้ความหยาดน้ำตาของเขาร่วงหล่นอาบข้างแก้ม

นอกเสียจากท่าหน้าตาบิดเบี้ยว ทําปากพะเยิบพะยาบฟังไม่เป็นคําแล้ว เขายังกระทําสิ่งใดได้อีก

“อ้า… ช่างเถิด” มู่หรงฟังทําเสียงละเที่ยอ่อนใจ “เดิมที่ข้าเพียงต้องการเค้นความจากเจ้าเพียงต้องการรู้ฐานะที่แท้จริงของหมอลึกลับผู้นั้นจากปากของเจ้าทว่าเมื่อเจ้ายังกระทําโอหังเช่นนี้ก็ถือเสียว่าข้าไม่เคยมีบุตรเช่นเจ้า”

เขากล่าวพร้อมเผยสีหน้าชั่วช้าเลวร้าย ฝ่ามือกว้างตรงเข้ากระชากหน้ากากอีกฝ่ายเผยดวงหน้ากระจ่างใสที่ถูกคาดผ่านด้วยรอยแผลเป็นน่าเกลียด

“ยามนี้ตระกูลมู่หรงเป็นผู้ครอบครองตําราปรุงโอสถสํารับเย็น หมออัจฉริยะผู้นั้นจะมีความหมายใดอีก เจ้ามันก็เหมือนกับมารดาของเจ้า นางสุนัขจิ้งจอกที่เลี้ยงไม่เชื่องเจ้าชอบอาศัยใบห น้านี้ยั่วยวนผู้คนให้ลุ่มหลงมิใช่หรือ ?”

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะส่งมอบตัวเจ้าให้แก่ท่านหมอเลี่ยวคนสนิทของผู้พิทักษ์ในเงามืดเขามีอุปนิสัยชอบเริงสําราญกับบุรุษรูปงาม หากพวกเขาพึงพอใจอาจยินยอมให้เรามอบโอสถสํารับเย็นน้อยลงกว่าเดิมก็เป็นได้ อย่างน้อยลูกนอกสมรสเช่นเจ้าก็ยังได้ทําหน้าที่บําเรอความสุขสนองคุณตระกูลมู่หรงอย่างไรเล่าฮ่าฮ่าฮ่า”

บุรุษผู้ถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนเบิกตาโพลง ทั่วร่างสันสะท้านหวาดผวา

เขาออกแรงดิ้นรนสุดชีวิต อ้าปากส่งเสียงเต็มกําลังคล้ายพยายาม
ส่งเสียงร้องคํารามขู่เข็ญ

หากทว่านอกเสียจากเสียงตรวนเหล็กดําที่กระทบกระแทกใส่กัน เสียงที่ถูกปลดปล่อยออกมาได้มีเพียงสุ่มเสียงแหบพร่าดัง “อ้าาาาาา” เพียงเท่านั้น
น้ำมูกน้ำตาไหลอาบท่วมดวงหน้าท่วงท่าหยิ่งผยองดังเคยมีมลายหายสิ้น คงปรากฏเพียงแววตาแห่งความขยาดขลาดกลัวสีหน้าเศร้าสลดตื่นตระหนก

ยิ่งมู่หรงฟงได้เห็นสภาพยามนี้ของบุรุษเบื้องหน้า มันกลับยิ่งเข้าใจว่าที่สุดแล้ว มันก็สามารถทรมานคนผู้นี้กระทั่งถึงความหวาดกลัวได้ดังคาดคิด ภาพที่ประจักษ์เบื้องหน้ายิ่งพอกพูนความอิ่มเอมใจให้มันรู้สึกเต็มตื้น กู้หลิวฟังควักเม็ดโอสถยัดใส่ปากอีกฝ่าย “กินเข้าไปโอสถนี้ย่อมสามารถกักกั้นพลังของเจ้าได้เนิ่นนานถึงเจ็ดวัดแม้นเจ้าสามารถบรรลุถึงพลังขั้นสูงสุดแห่งขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือน เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์หลีกหนี จงทอดร่างมอบความสุขสันต์แก่ท่านหมอเลี้ยวให้เต็มที่เถิดเกรงว่าเจ็ดวันนี้เจ้าคงได้ลิ้มรสชาติความสุขทวีคูณประกบคู่ชนิดต้องติดใจไปจนตายเลยทีเดียว”
“หึหึหึกูอวหลานมู่หรงหลิวเพิ่งนี่คือจุดจบของผู้ที่คิดตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับข้า !”

กล่าวจบ มู่หรงฟังก็ยกมือขึ้นโบกให้สัญญาณพร้อมน้ำเสียงออกคําสั่งอย่างเย็นชา “จับนางแพศยาผู้นี้ยัดใส่หีบกลับที่เดิมส่วนไอ้สารเลวนนิ้วปีกมันไปส่งให้ท่านหมอเลี่ยว !”

ยิ่งได้เห็น หลิวเพิ่ง” พยายามดิ้นรนต่อสู้ขณะถูกลากตัวออกไปเช่นนั้นเขาก็ยิ่งกระหยิ่มยิ้มย่องพึงพอใจบุรุษสูงวัยหันร่างกลับเข้าสู่ห้องปรุงโอสถอีกครา

หลายวันมานี้ เขามัวขลุกอยู่กับการปรุงกลั่นโอสถสํารับเย็น

มู่หรงฟังย่อมมีความคุ้นชินกับโอสถชุดนี้ เมื่อสิ่งนี้คือโอสถที่ก่อหลานเสพกันอย่างเนิ่นนานต่อเนื่องถึงยี่สิบปี

เมื่อนานมาแล้ว เขาเคยได้รับโอสถสํารับเย็นมาชุดหนึ่ง ไม่คิดเลยว่า ที่สุดตระกูลมู่หรงกลับกลายเป็นผู้สามารถปรุงกลั่นโอสถชุดนี้ขึ้นได้

ทุกวันนี้ ตระกูลผู้ทรงอิทธิพลสูงส่งในเมืองเหยียนจึงล้วนแข็งแกร่งกว่าก่อน ยิ่งโดยเฉพาะตระกูลฮวงปู่ คลื่นลูกใหม่ที่น่าหวั่นเกรง ผู้คนในตระกูลนี้ล้วนมากมายด้วยเหล่ายอดฝีมือผู้บรรลุถึงพลังปราณขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือน ขณะสกุลมู่หรงตกต่ําลงทุกวัน กระทั่งยามนี้ยอดฝีมือผู้สามารถบรรลุถึงขอบเขตพลังปราณขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือนก็ปรากฏเพียงสองหรือสามคนเท่านั้นตลาดการค้าโอสถล้วนถูกตระกูลน่าหลานและโรงโอสถเซิงเต่อยึดครองสิ้นหนทางตั้งรับอับจนหนทางต่อกร

***จบตอน ทรมาน***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+