ตอนที่ 556 คลื่นพลังทมิฬ

หนานกงยี่โอบร่างของเกอซีผู้ยังคงกระสับกระส่ายขึ้นปล่อยพลังเข้าสํารวจตรวจดูลักษณะพิษที่หญิงสาวได้รับ

แม้นเขาจะไม่มีทักษะทางการแพทย์ ทว่าอาการเจ็บป่วยเรื้อรังทําให้เขามีความเข้าใจในการรักษาไปโดยปริยาย แม้นมิได้มีความสามารถในการรักษาอันสูงส่ง ทว่าพิษแปลกประหลาดแทบทุกชนิดล้วนอยู่ในหัวของเขาแทบทั้งสิ้น

เพียงปราณพลังถูกถ่ายเทลงสู่ร่างเพื่อสํารวจอาการ หนอนตัวน้อยที่ชอนไชอยู่ในหัวใจของเกอซีพลันปรากฏ ม่านตาด่าของหนานกงยี่หดตัวลงอย่างรวดเร็วในทันที

หาใช่ยาพิษ ทว่าเป็นตัวกู่ !!

เฟิ่งเหลียนอิ่ง หญิงชั่วช้าผู้นั้น กล้าทําร้ายซีเอ๋อถึงเพียงนี้ !!

ชายหนุ่มต้องสูดลมหายใจเฮือกใหญ่อีกครา เพื่อข่มห้ามความเดือดดาลที่พลุ่งพล่านพร้อมทลายฟ้าถล่มผืนปฐพีให้พินาศสิ้น เขายกฝ่ามือขึ้น ขุมพลังปราณถูกรวบรวมอยู่ภายใน

หากผู้ใดได้เห็นขุมพลังที่หนานกงยวรวบรวมขึ้นในยามนี้ ล้วนต้องแผดเสียงคร่ําครวญด้วยความหวาดผวา

เนื่องเพราะขมพลังที่ถูกขับ มีสีดําสนิทประหนึ่งกลุ่มหมอกดําที่หนาทึบ มันเคลื่อนหมนวนอย่างเชื่องช้าอยู่ในใจกลางฝ่ามือของเขา ช่างแปลกประหลาด น่าสะพรึงกลัวอย่างเหลือแสน

เพียงขุมพลังสายนี้ปรากฏ หนอนพิษที่หลบซ่อนอยู่ในหัวใจของเกอซีต่างหวาดกลัว ทว่าพวกมันกลับกระดื้บร่างเข้าหาด้วยอาการโหยหาอย่างมิอาจยับยั้งใจ

คลื่นพลังดําทมิฬที่เป็นดั่งตํานาน คือเคล็ดวิชาที่แทบมอาจพบเจอในแถบทวีปหมีหลัว

พลังทมิฬมืดดําประหลาดที่แตกต่างจากทั่วไปชนิดนี้เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าพฤกษาเวท สัตว์เวท ยิ่งกับหมู่หนอนแมลงล้วนมอาจอดใจ เมื่อได้พบเจอขุมพลังชนิดนี้

เช่นนั้นในยามนี้ แม้ก่ตัวน้อยจะโหยหาขุมพลังสายนี้มากมายเพียงไร มันย่อมตระหนักดีว่าวงจรชีวิตของมันดําเนินได้ด้วยการกัดกินสิ่งมีชีวิตอื่น เพื่อความดํารงอยู่ของตน สัญชาตญาณคอยย้ําเตือนให้มันตระหนักว่าคลื่นพลังทมิฬสายนี้สามารถสูบกินมันได้อย่างน่าเวทนา

ถูกแล้ว ที่ตัวคู่กําลังเผชิญ ก็คือคลื่นพลังทมิฬสีดําเข้มแรงกล้าน่าสะพรึงกลัวซึ่งสามารถกลืนกินสิ่งมีชีวิตแฝงอาคมตลอดถึงหมู่สัตว์ แมลงใด ๆ ที่มีพลังด้อยกว่าเพื่อแปรสภาพขุมพลังทั้งหมดให้กลับกลายมาเสริมพลังความแข็งแกร่งให้ตัวมันเอง

พลังด่าทมิฬที่ก่อตัวอยู่ใจกลางฝ่ามือของหนานกงยว ค่อย ๆ เคลื่อนแทรกลงสู่ร่างของเกอซี กระทั่งที่สุดตัวอ่อนไม่อาจฝืนทนแอบแฝงตนในหัวใจของเหยื่ออันโอชะได้อีกต่อไป มันรีบดิ้นรนหลีกหนีออกจากแหล่งกบดานของตน

ทว่าหนานกงยวรวดเร็วอย่างยิ่ง เขาควักกล่องใบน้อยขนาดประมาณฝ่ามือรวบเก็บตัวอ่อนคู่ซึ่งแทบมิอาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ก่อนจะปิดฝากล่องไว้อย่างแน่นหนา

เมื่อพ้นความทรมานจากการกัดกินของตัวอ่อนคู่ เกอซีจึงไม่รุ่มร้อนทุรนทุรายดังที่เคย สีหน้าแดงก๋ค่อย ๆ คืนกลับสู่ปกติ

ชายหนุ่มค่อย ๆ ประคองร่างของสตรีอันเป็นที่รักวางราบลงกับผืนหญ้าด้วยความระมัดระวัง และอ่อนโยนก่อนจะค่อย ๆ ขยับกายลุกขึ้นยืน

สายตาของเขาจดจ้องอยู่กับกล่องใบน้อยที่บรรจุตัวอ่อนคู่ในมือ เมื่อฝากล่องถูกเผยอเปิด สิ่งที่เผยเบื้องหน้าก็คือหนอนตัวใหญ่สีแดงเข้มที่กําลังสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

“คู่พิษร่านสวาท แท้จริงคือคู่พิษร่านสวาทนี่เอง ! !”

สองตาของเขาแดงกําดังโลหิต ใบหน้าหล่อเหลากลับกลายเผยความน่าตื่นผวาจนขนหัวลุก

ไม่คิดเลยว่าเขาจะได้พบสิ่งชั่วร้ายชนิดนี้ หนอนพิษร้ายชนิดนี้ก็คือสิ่งปลิดชีวิตมารดาของเขาทั้งในยามนี้ มันยังเข้ามาฝังตัวอยู่ในร่างของเกอซี

หากมิใช่เพราะพลังของคู่แม่ลูกคู่นี้ยังอยู่ในระดับต่ํา เกรงว่าเกอซีอาจไม่สามารถรั้งรอความช่วยเหลือจากเขา

เพียงคิดว่าเขาเกือบจะสูญเสียเกอซีไป ฝ่ามือที่กํากล่องบรรจุตัวอ่อนคู่ของเขาก็สั่นเทา

ชายหนุ่มย่างสามขุมเข้าหาเพิ่งเหลียนยิ่ง เนียจินเฉิน ตลอดถึงพวกมันทั้งหมดที่ยังคงอยู่ในอาการสลบไสลไม่ได้สติ

ขุมพลังที่เย็นยะเยียบเสียวสันหลังไหลวาบผ่านร่างของพวกมันทั้งหลาย

เฟิ่งเหลียนยิ่งส่งเสียงครางเบา ๆ ก่อนเผยอเปลือกตาทั้งสองขึ้น

ขณะที่เนียจินเฉินก็เริ่มรู้สึกตัวตื่น เพียงได้เห็นใบหน้าของหนานกงยวี่ ทั้งร่างของมันพลันสั่นสะท้าน

“หนานกงยวี่ โปรดฟังข้าก่อน…ข้าข้ามิได้…”

“พี่ย…”

เฟิ่งเหลียนอิ่งเนื้อตัวสั่นเทา คล้ายอยากเอ่ยกล่าวบางสิ่ง

***จบตอน คลื่นพลังทมิฬ***