หัตถ์เทวะธิดาพญายม 468 ไม่อาจบุ่มบ่าม

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 468 ไม่อาจบุ่มบ่าม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 468 ไม่อาจบุ่มบ่าม

“เพียงทว่า….” อวินหวูเจียนบ่นพึมพําเพียงแผ่วเบาก่อนกล่าวต่อ “คงไม่บังเอิญถึงเพียงนั้นกระมัง อาจบางที แม้หมอหนุ่มลึกลับที่เจ้ากล่าวถึงจะมิใช่ผู้ปรุงโอสถ ทว่าอาจเป็นได้ที่คนผู้นี้จะมีส่วนเกี่ยวพันกับผู้ปรุงโอสถชุดนี้”

เจ้าลองส่งคนไปลอบสืบดู ทว่าก่อนทุกสิ่งกระจ่างแจ้ง อย่าได้กระทําการบ่มบ่ามเป็นอันขาด !

เพิ่งเทียนป้าและเพิ่งอวินจึงโค้งคารวะอย่างพร้อมเพรียง “ขอรับ ท่านอาวุโส”

ทั้งคู่ค่อย ๆ เดินหลีกออกจากม่านหมอกเทือกเขาวารอย่างไม่เร่งร้อน เพิ่งเทียนป้าหันกลับมาสั่งย้ําคําบุตรชาย “อวิ่นนิ่ง เยือนเมืองจินหลิงครานี้ เจ้าต้องขุดคุ้ยฐานะแท้จริงของหมอเทวะผู้นั้นมาให้ได้ ทั้งจะยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง หากเจ้าสามารถนําตัวคนผู้นั้นกลับมาตระกูลเพิ่งได้”

“ลูกทราบแล้ว ท่านพ่อเพิ่งอวินจึงรับคําด้วยน้ําเสียงเย็นชา ทว่ากลับหลุบใบหน้าลงต่ําเพื่อหลบซ่อนแววตาลําลึก

ซีเยว่ รอก่อนเถิด ไม่ช้าข้าจะทําให้เจ้าต้องกลายเป็นคนของข้า !!!

ภายใต้รัตติกาลที่มืดมิด เงาร่างสองสายพลันเห็นลอยขึ้นสู่ชั้นสองของโรงโอสถเซ็งเต่อ

กู้หลิวเพิ่งผู้กําลังหลับใหลพลันรับรู้ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่นส่งเสียงเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว “ผู้ใด ?”

ภายใต้แสงจันทร์สีเงินยวง ใบหน้างดงามของหนุ่มน้อยหน้ามนพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ติดตามมาด้านหลังคือบุรุษหนุ่มผู้มีใบหน้าคมคายท่วงท่าเย็นชาไร้ความรู้สึก

กู้หลิวเพิ่งส่งเสียงไถ่ถามด้วยความประหลาดใจ “เหตุใดจึงเป็นเจ้า สาวน้อย ?”

เกอซกระโจนขึ้นจากบานหน้าต่างด้วยท่วงท่านุ่มนวลอ่อนโยน ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้ากู้หลิวเพิ่ง

เมื่อยามนี้ใบหน้าของกู้หลิวเพิ่งคลายความตื่นตระหนก มุมปากบางจึงขยับยกเผยรอยยิ้มแฝงเลศนัยยั่วเย้าสายตาขณะกล่าวคํา “สาวน้อย เจ้าบุกเข้าห้องข้ากลางดึกเช่นนี้ คิดกระทํามิดีมิร้าย

ข้ากระนั้นหรือ ? ทว่าหากเยว่เอ๋อน้อยของข้ายินยอมพร้อมใจ อ้อมแขนของข้าย่อมพร้อมเปิดรอรับเจ้าเสมอ”

แม้กู้หลิวเพิ่งจะกล่าวเย้าถึงเพียงนั้น ก็ยังไม่อาจบีบคั้นให้เกอซีหลุดกล่าวถ้อยค่าใด ทว่าบุรุษผู้ยืนรั้งอยู่ด้านหลังกลับแผ่กระแสแห่งความเย็นยะเยียบ

ตลอดทั่วเรือนกายพลุ่งพล่านด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด พลังกดดันที่แผ่ซ่านทั่วชั้นบรรยากาศสร้างขุมพลังกดดันให้ภายในห้องร้อนระอุขึ้นอย่างรวดเร็ว

นัยน์ตาเย็นเยียบราวน้ําแข็งพุ่งเข้าที่มแทงใส่กู้หลิวเพิ่งอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปรานี “คุณชายกู้ โปรดสํารวมด้วย พระชายาของพวกเราคือผู้ที่ท่านสามารถล้อเล่นได้กระนั้นหรือ ? หากท่านไม่สํารวมวาจาเช่นนี้ ก็จงอย่าได้ตําหนิหากข้าไร้มารยาท !”

น้ําเสียงเด็ดขาดของเกอซีโพล่งออกมาโดยไม่รั้งรอให้กู้หลิวเพิ่งปริปากเอ่ยคํา “พอได้แล้ว ! เข้าเรื่องเถิด !”

ทั้งอู่ซินและกู้หลิวเพิ่งต่างหันมาเขม่นใส่กัน กู้หลิวเพิ่งยกมือขึ้นเขียปลายจมูกยกยิ้ม “เยว่เอ๋อน้อย อารักขาของเจ้านั้นช่างไม่มีอารมณ์ขันเอาเสียเลย เฮ้อ ! ช่างเหมือนผู้เป็นนายเอาเสียจริง ๆ”

ครั้นเห็นอู่ซินยังหงุดหงิดหัวเสียเช่นนั้น เกอซีจึงรีบกล่าวต่อ “อย่ามัวหาเรื่องกันเองอยู่เลย อู่ซินคือยอดฝีมือขั้นห้า ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ ที่เขาติดตามข้ามาในวันนี้ก็เพื่อติดตามอารักขาพวกเราหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน”

กู้หลิวเฟิงประหลาดใจ “เหตุไม่คาดฝัน ?”

แววตาทั้งคู่ของหญิงสาวเผยร่องรอยแห่งความเย็นชาราวแท่งน้ําแข็ง “มิใช่เจ้ากล่าวว่าจะสะสางบัญชีแค้นกับตระกูลมู่หรงหรอกหรือ ? ที่ข้าสับเปลี่ยนตัวมู่หรงหลินฟงกับมารดาของมัน ยามนี้สมควรใกล้เวลาถูกเปิดเผย…. ทั้งในวันนี้พวกมันยังกล้าติดตามราวีพวกเรามาถึงนี่ เพื่อตัดไฟเสียแต่ต้นลม ย่อมสมควรที่พวกเราจะบุกเข้าไปถล่มพวกมันให้ราบเสียเลยในคืนนี้”

ผู้รับฟังนัยน์ตาเป็นประกาย ทว่าภายในใจกลับรู้สึกสับสนอลหม่าน น้ําเสียงที่เอ่ยกล่าวจึงสันเครือ “เยว่เอ๋อน้อย นี่เจ้า…

เพียงได้ยินน้ําเสียงที่เย็นชาของนาง หลิวเพิ่งย่อมตระหนักได้ดีถึงความเคียดแค้นชิงชังที่มีในใจของหญิงสาว ทั้งย่อมรู้ดี ไร้หนทางเปลี่ยนความตั้งใจของนาง เมื่อครานี้นางหมายมุ่งจะบุกเข้าเรือนมู่หรง กระทั่งไปลากเอาอารักขาประจําตําหนักราชันมัจจุราชมาเข้าร่วมด้วยอีกคน

สายเถาวัลย์สีม่วงในมือของเกอซีพลันพุ่งออกรัดร่างของกู้หลิวเพิ่งพร้อมน้ําเสียงเยาะหยัน “เมื่อพวกมู่หรงแส่หาที่ตายกันดีนัก คืนนี้ พวกเราย่อมสมควรช่วยให้พวกมันได้สมหวัง”

***จบตอน ไม่อาจบุ่มบ่าม**

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 468 ไม่อาจบุ่มบ่าม

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 468 ไม่อาจบุ่มบ่าม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 468 ไม่อาจบุ่มบ่าม

“เพียงทว่า….” อวินหวูเจียนบ่นพึมพําเพียงแผ่วเบาก่อนกล่าวต่อ “คงไม่บังเอิญถึงเพียงนั้นกระมัง อาจบางที แม้หมอหนุ่มลึกลับที่เจ้ากล่าวถึงจะมิใช่ผู้ปรุงโอสถ ทว่าอาจเป็นได้ที่คนผู้นี้จะมีส่วนเกี่ยวพันกับผู้ปรุงโอสถชุดนี้”

เจ้าลองส่งคนไปลอบสืบดู ทว่าก่อนทุกสิ่งกระจ่างแจ้ง อย่าได้กระทําการบ่มบ่ามเป็นอันขาด !

เพิ่งเทียนป้าและเพิ่งอวินจึงโค้งคารวะอย่างพร้อมเพรียง “ขอรับ ท่านอาวุโส”

ทั้งคู่ค่อย ๆ เดินหลีกออกจากม่านหมอกเทือกเขาวารอย่างไม่เร่งร้อน เพิ่งเทียนป้าหันกลับมาสั่งย้ําคําบุตรชาย “อวิ่นนิ่ง เยือนเมืองจินหลิงครานี้ เจ้าต้องขุดคุ้ยฐานะแท้จริงของหมอเทวะผู้นั้นมาให้ได้ ทั้งจะยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง หากเจ้าสามารถนําตัวคนผู้นั้นกลับมาตระกูลเพิ่งได้”

“ลูกทราบแล้ว ท่านพ่อเพิ่งอวินจึงรับคําด้วยน้ําเสียงเย็นชา ทว่ากลับหลุบใบหน้าลงต่ําเพื่อหลบซ่อนแววตาลําลึก

ซีเยว่ รอก่อนเถิด ไม่ช้าข้าจะทําให้เจ้าต้องกลายเป็นคนของข้า !!!

ภายใต้รัตติกาลที่มืดมิด เงาร่างสองสายพลันเห็นลอยขึ้นสู่ชั้นสองของโรงโอสถเซ็งเต่อ

กู้หลิวเพิ่งผู้กําลังหลับใหลพลันรับรู้ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่นส่งเสียงเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว “ผู้ใด ?”

ภายใต้แสงจันทร์สีเงินยวง ใบหน้างดงามของหนุ่มน้อยหน้ามนพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ติดตามมาด้านหลังคือบุรุษหนุ่มผู้มีใบหน้าคมคายท่วงท่าเย็นชาไร้ความรู้สึก

กู้หลิวเพิ่งส่งเสียงไถ่ถามด้วยความประหลาดใจ “เหตุใดจึงเป็นเจ้า สาวน้อย ?”

เกอซกระโจนขึ้นจากบานหน้าต่างด้วยท่วงท่านุ่มนวลอ่อนโยน ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้ากู้หลิวเพิ่ง

เมื่อยามนี้ใบหน้าของกู้หลิวเพิ่งคลายความตื่นตระหนก มุมปากบางจึงขยับยกเผยรอยยิ้มแฝงเลศนัยยั่วเย้าสายตาขณะกล่าวคํา “สาวน้อย เจ้าบุกเข้าห้องข้ากลางดึกเช่นนี้ คิดกระทํามิดีมิร้าย

ข้ากระนั้นหรือ ? ทว่าหากเยว่เอ๋อน้อยของข้ายินยอมพร้อมใจ อ้อมแขนของข้าย่อมพร้อมเปิดรอรับเจ้าเสมอ”

แม้กู้หลิวเพิ่งจะกล่าวเย้าถึงเพียงนั้น ก็ยังไม่อาจบีบคั้นให้เกอซีหลุดกล่าวถ้อยค่าใด ทว่าบุรุษผู้ยืนรั้งอยู่ด้านหลังกลับแผ่กระแสแห่งความเย็นยะเยียบ

ตลอดทั่วเรือนกายพลุ่งพล่านด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด พลังกดดันที่แผ่ซ่านทั่วชั้นบรรยากาศสร้างขุมพลังกดดันให้ภายในห้องร้อนระอุขึ้นอย่างรวดเร็ว

นัยน์ตาเย็นเยียบราวน้ําแข็งพุ่งเข้าที่มแทงใส่กู้หลิวเพิ่งอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปรานี “คุณชายกู้ โปรดสํารวมด้วย พระชายาของพวกเราคือผู้ที่ท่านสามารถล้อเล่นได้กระนั้นหรือ ? หากท่านไม่สํารวมวาจาเช่นนี้ ก็จงอย่าได้ตําหนิหากข้าไร้มารยาท !”

น้ําเสียงเด็ดขาดของเกอซีโพล่งออกมาโดยไม่รั้งรอให้กู้หลิวเพิ่งปริปากเอ่ยคํา “พอได้แล้ว ! เข้าเรื่องเถิด !”

ทั้งอู่ซินและกู้หลิวเพิ่งต่างหันมาเขม่นใส่กัน กู้หลิวเพิ่งยกมือขึ้นเขียปลายจมูกยกยิ้ม “เยว่เอ๋อน้อย อารักขาของเจ้านั้นช่างไม่มีอารมณ์ขันเอาเสียเลย เฮ้อ ! ช่างเหมือนผู้เป็นนายเอาเสียจริง ๆ”

ครั้นเห็นอู่ซินยังหงุดหงิดหัวเสียเช่นนั้น เกอซีจึงรีบกล่าวต่อ “อย่ามัวหาเรื่องกันเองอยู่เลย อู่ซินคือยอดฝีมือขั้นห้า ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ ที่เขาติดตามข้ามาในวันนี้ก็เพื่อติดตามอารักขาพวกเราหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน”

กู้หลิวเฟิงประหลาดใจ “เหตุไม่คาดฝัน ?”

แววตาทั้งคู่ของหญิงสาวเผยร่องรอยแห่งความเย็นชาราวแท่งน้ําแข็ง “มิใช่เจ้ากล่าวว่าจะสะสางบัญชีแค้นกับตระกูลมู่หรงหรอกหรือ ? ที่ข้าสับเปลี่ยนตัวมู่หรงหลินฟงกับมารดาของมัน ยามนี้สมควรใกล้เวลาถูกเปิดเผย…. ทั้งในวันนี้พวกมันยังกล้าติดตามราวีพวกเรามาถึงนี่ เพื่อตัดไฟเสียแต่ต้นลม ย่อมสมควรที่พวกเราจะบุกเข้าไปถล่มพวกมันให้ราบเสียเลยในคืนนี้”

ผู้รับฟังนัยน์ตาเป็นประกาย ทว่าภายในใจกลับรู้สึกสับสนอลหม่าน น้ําเสียงที่เอ่ยกล่าวจึงสันเครือ “เยว่เอ๋อน้อย นี่เจ้า…

เพียงได้ยินน้ําเสียงที่เย็นชาของนาง หลิวเพิ่งย่อมตระหนักได้ดีถึงความเคียดแค้นชิงชังที่มีในใจของหญิงสาว ทั้งย่อมรู้ดี ไร้หนทางเปลี่ยนความตั้งใจของนาง เมื่อครานี้นางหมายมุ่งจะบุกเข้าเรือนมู่หรง กระทั่งไปลากเอาอารักขาประจําตําหนักราชันมัจจุราชมาเข้าร่วมด้วยอีกคน

สายเถาวัลย์สีม่วงในมือของเกอซีพลันพุ่งออกรัดร่างของกู้หลิวเพิ่งพร้อมน้ําเสียงเยาะหยัน “เมื่อพวกมู่หรงแส่หาที่ตายกันดีนัก คืนนี้ พวกเราย่อมสมควรช่วยให้พวกมันได้สมหวัง”

***จบตอน ไม่อาจบุ่มบ่าม**

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+