หัตถ์เทวะธิดาพญายม 505 เหล่าชาวยุทธร่วมตัดสินความ

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 505 เหล่าชาวยุทธร่วมตัดสินความ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 505 เหล่าชาวยุทธร่วมตัดสินความ

น้ําเสียงที่เย็นชาของเกอซีค่อย ๆ เอื้อนเอ่ยคําติดตามมา โดยไม่รั้งรอให้เทพธิดาบัวเยือกแข็งบ่ายเบี่ยงแต่ประการใด

“เพิ่งเหลียนยิ่ง เจ้าอ้างว่าตนมีหลักฐานอยู่ในมือมิใช่หรือ ? เมื่อเจ้ามั่นใจนักว่าข้าคือผู้สังหารฉางกวนรุ่ยย่อมสมควรนําหลักฐานออกแสดงให้ทุกคนได้ประจักษ์แก่สายตาข้าเองก็อยากรู้ยิ่งนักว่าข้าลงมือปลิดชีพองค์ชายสามเช่นไร ?”

“คิดว่าข้าไม่กล้ากระนั้นหรือ ?”

เสียงเพิ่งเหลียนยิ่งกัดฟันกรอด

“เมื่อหลักฐานถูกนําออกประจานต่อหน้าฝูงชน ทุกผู้คนในที่นี้จะได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้า…”

“เมื่อเป็นเช่นนี้” เฉินเซินพลันส่งเสียงแทรกเพิ่งเหลียนยิ่งขึ้นมา

“ย่อมสมควรยิ่งที่จะให้ฉางกวนเหวิน (ฮ่องเต้แห่งแคว้นจินหลิง) ออกมาร่วมรับรู้พร้อมเหล่าชาวยุทธข้อเสนอของข้านี้มิทราบนายน้อยเพิ่งคิดเห็นเช่นไร ?”

สีหน้าของผู้ถูกซักถามยังคงหม่นมัว เขาหันไปหาเกอซกระซิบเบาเสียง

“ซีเยว่ เจ้าจงตรองให้ดีหากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกเบื้องหน้าเหล่าชาวยุทธเจ้าย่อมไม่สามารถหลีกหนีความผิดอาญาข้อหาสังหารองค์ชายทั้งย่อมไม่สามารถยืนหยัดอยู่ในทวีปหมีหลัวในฐานะแพทย์ผู้หนึ่งทว่าหากเจ้ายอมรับความผิดข้าย่อมสามารถเอ่ยปากขอลดทอนความผิดเปิดทางให้เจ้าสามารถยืนหยัดในฐานะแพทย์ผู้หนึ่งในแคว้นจินหลิงเจ้ายังสามารถฝึกฝนพลังฝีมือเรียนรู้ทักษะแพทย์ปรุงยาช่วยเหลือผู้อื่นได้ต่อไป”

การฆ่าฟันกันด้วยพลังฝีมือล้วนเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ทว่าหากแพทย์ผู้ใดใช้วิชาแพทย์รักษาผู้ป่วยกระทั่งถึงแก่ชีวิต คนผู้นั้นย่อมต้องสิ้นสุดเส้นทางการแพทย์ของตนไปตลอดกาล

เกอซีหัวเราะเยาะหยัน

“ข้าคงไม่ต้องขอรับความเมตตาจากนายน้อยเพิ่งกระมัง ข้าเองก็อยากรู้ยิ่งนักว่าเจ้าจะป้ายสีใส่ไคล้ข้าเช่นไร ? เพราะถึงอย่างไร สิ่งที่พวกตระกูลเพิ่งอย่างเจ้าชํานาญเหนืออื่นใดก็คือการกลับขาวให้เป็นดํามิใช่หรือ? ในวันนี้ข้าคงได้เปิดหูเปิดตาแล้วกระมัง”

ยิ่งได้ฟัง สีหน้าของเพิ่งอขึ้นจึงก็ยิ่งหม่นมัว ความอ่อนโยนบนสีหน้าพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาแข็งกร้าวในทันที

“เมื่อเจ้ารนหาที่ตาย ก็จงอย่าตําหนิที่ข้าไร้เมตตา !”

กล่าวจบ เขาจึงหันมากล่าวคํากับเฉินเซ็น “เมื่อนี่คือการพิจารณาไต่สวนต่อหน้าสาธารณะชนหากมีเพียงคนของตระกูลเฉินและตระกูลเฟิงจะเป็นการชี้แจงต่อหน้าเหล่าชาวยุทธทั่วหล้าได้เช่นไร สมควรที่พวกเราจะเชื้อเชิญคนของวังเจ็ดดารารวมถึงสํานักนที่จันทราตลอดทั้งเหล่าสํานักใหญ่และเหล่าชาวยุทธผู้เข้าร่วมการแข่งขันล่าสัตว์ในครานี้มาร่วมเป็นสักขีพยานในที่นี้ด้วย”

เมื่อได้เห็นแววตาหนักแน่นเปี่ยมความมั่นใจของเฟงอวินจึงเช่นนี้ เฉินเซ็นยิ่งอดที่จะขมวดคิ้วมิได้

หรือตระกูลเพิ่งจะมีหลักฐานผูกมัดผู้กระทําผิดได้แน่นหนาจริง ? หากความจริงถูกเปิดเผยเบี้องหน้าสี่ตระกูลและสํานักใหญ่ สิ้นสุดคดีความเกิดมีการพลิกผันเช่นนั้นตระกูลเฉินผู้ออกรับหน้าย่อมต้องพลอยได้รับความเสื่อมเสียมิใช่น้อย

ยังมิทันที่เฉินเซินจะกล่าวว่า เสียงของหลานสาวคนเก่งพลันดังแทรกขึ้น

“ตัดสินกันเบื้องหน้าเหล่าชาวยุทธนี่สิเยี่ยม คุณชายซีมิได้กระทําผิดสิ่งใดมีหรือจะต้องเกรงกลัวพวกคนตระกูลเฟังตระกูลเฉินของข้าขอรับรองได้ว่าคุณชายซีเป็นคนดีมิใช่ผู้กระทําความผิดอาญาตามพวกเจ้ากล่าวอ้างอย่างแน่นอน”

เฉินเซ็นให้รู้สึกมึนตึบขึ้นมาทันที สถานการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วรวบรัดยากเกินควบคุมเช่นนี้คงได้เพียงปลงใจคล้อยตามเท่านั้น

****

*การแข่งขันล่าสัตว์อสูรจะเริ่มขึ้นในยามบ่าย ทว่ายามนี้เพิ่งเพียงรุ่งสาง เหล่ายอดฝีมือผู้เดินทางมาเข้าร่วมการประชันฝีมือล่าสัตว์อสูรล้วนลงนามเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นนั้นการตัดสินคดีความโดยมีเหล่าชาวยุทธเป็นสักขีพยานล้วนมากมายเพียงพอ

ยามนี้สองข้างซ้ายขวาของโถงพระโรงใหญ่ในวัง ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาสลายวิญญาณกลับเนื่องแน่นด้วยเหล่าชาวยุทธผู้มีวิชาความรู้

ฮ่องเต้แห่งแคว้นจนหลัง ฉานกวนเหวินจีนั่งอยู่เหนือบัลลังก์มังกรที่สูงเด่นเป็นสง่าทว่าที่วกายของโอรสสวรรค์กลับเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเย็นร่างของเขาขยับกระสับกระส่ายไม่หยุด

แม้ตัวเขาจะเป็นโอรสสวรรค์ผู้ต้องออกว่าราชการพบเจอผู้คนมากหน้าหลายตาก็จริง

ทว่าในโลกยุทธภพแห่งทวีปหมีหลัวนั้น นับถือกันที่ความเก่งกล้าสามารถยามต้องเผชิญหน้ากับเหล่ายอดฝีมือขั้นอาจารย์ตลอดถึงสํานักใหญ่และเหล่าผู้ฝึกฝนบําเพ็ญตนสู่ชั้นเซียนเพียงฐานะองค์ประมุขแห่งแคว้นผู้ต้อยต่าในโลกวรยุทธจะนับเป็นอย่างไรได้

ตลอดทั้งซ้ายและขวา ล้วนคือเหล่าอาวุโสจากสี่สํานักใหญ่ผู้ประกอบด้วยพลังฝีมือที่ไม่ต่ำเตี้ยไปกว่าพลังปราณขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ
ล่าดับแรกทางซ้ายมือของเขาก็คือ เฉินเซ็นแห่งสํานักเมฆาแดง ส่วนผู้ที่ยืนในตําแหน่งแรกทางขวานั้นเล่าก็คือ เพิ่งอวินจึงแห่งสํานักหลิวหลี

***จบตอนเหล่าชาวยุทธร่วมตัดสินความ* * *

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 505 เหล่าชาวยุทธร่วมตัดสินความ

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 505 เหล่าชาวยุทธร่วมตัดสินความ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 505 เหล่าชาวยุทธร่วมตัดสินความ

น้ําเสียงที่เย็นชาของเกอซีค่อย ๆ เอื้อนเอ่ยคําติดตามมา โดยไม่รั้งรอให้เทพธิดาบัวเยือกแข็งบ่ายเบี่ยงแต่ประการใด

“เพิ่งเหลียนยิ่ง เจ้าอ้างว่าตนมีหลักฐานอยู่ในมือมิใช่หรือ ? เมื่อเจ้ามั่นใจนักว่าข้าคือผู้สังหารฉางกวนรุ่ยย่อมสมควรนําหลักฐานออกแสดงให้ทุกคนได้ประจักษ์แก่สายตาข้าเองก็อยากรู้ยิ่งนักว่าข้าลงมือปลิดชีพองค์ชายสามเช่นไร ?”

“คิดว่าข้าไม่กล้ากระนั้นหรือ ?”

เสียงเพิ่งเหลียนยิ่งกัดฟันกรอด

“เมื่อหลักฐานถูกนําออกประจานต่อหน้าฝูงชน ทุกผู้คนในที่นี้จะได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้า…”

“เมื่อเป็นเช่นนี้” เฉินเซินพลันส่งเสียงแทรกเพิ่งเหลียนยิ่งขึ้นมา

“ย่อมสมควรยิ่งที่จะให้ฉางกวนเหวิน (ฮ่องเต้แห่งแคว้นจินหลิง) ออกมาร่วมรับรู้พร้อมเหล่าชาวยุทธข้อเสนอของข้านี้มิทราบนายน้อยเพิ่งคิดเห็นเช่นไร ?”

สีหน้าของผู้ถูกซักถามยังคงหม่นมัว เขาหันไปหาเกอซกระซิบเบาเสียง

“ซีเยว่ เจ้าจงตรองให้ดีหากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกเบื้องหน้าเหล่าชาวยุทธเจ้าย่อมไม่สามารถหลีกหนีความผิดอาญาข้อหาสังหารองค์ชายทั้งย่อมไม่สามารถยืนหยัดอยู่ในทวีปหมีหลัวในฐานะแพทย์ผู้หนึ่งทว่าหากเจ้ายอมรับความผิดข้าย่อมสามารถเอ่ยปากขอลดทอนความผิดเปิดทางให้เจ้าสามารถยืนหยัดในฐานะแพทย์ผู้หนึ่งในแคว้นจินหลิงเจ้ายังสามารถฝึกฝนพลังฝีมือเรียนรู้ทักษะแพทย์ปรุงยาช่วยเหลือผู้อื่นได้ต่อไป”

การฆ่าฟันกันด้วยพลังฝีมือล้วนเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ทว่าหากแพทย์ผู้ใดใช้วิชาแพทย์รักษาผู้ป่วยกระทั่งถึงแก่ชีวิต คนผู้นั้นย่อมต้องสิ้นสุดเส้นทางการแพทย์ของตนไปตลอดกาล

เกอซีหัวเราะเยาะหยัน

“ข้าคงไม่ต้องขอรับความเมตตาจากนายน้อยเพิ่งกระมัง ข้าเองก็อยากรู้ยิ่งนักว่าเจ้าจะป้ายสีใส่ไคล้ข้าเช่นไร ? เพราะถึงอย่างไร สิ่งที่พวกตระกูลเพิ่งอย่างเจ้าชํานาญเหนืออื่นใดก็คือการกลับขาวให้เป็นดํามิใช่หรือ? ในวันนี้ข้าคงได้เปิดหูเปิดตาแล้วกระมัง”

ยิ่งได้ฟัง สีหน้าของเพิ่งอขึ้นจึงก็ยิ่งหม่นมัว ความอ่อนโยนบนสีหน้าพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาแข็งกร้าวในทันที

“เมื่อเจ้ารนหาที่ตาย ก็จงอย่าตําหนิที่ข้าไร้เมตตา !”

กล่าวจบ เขาจึงหันมากล่าวคํากับเฉินเซ็น “เมื่อนี่คือการพิจารณาไต่สวนต่อหน้าสาธารณะชนหากมีเพียงคนของตระกูลเฉินและตระกูลเฟิงจะเป็นการชี้แจงต่อหน้าเหล่าชาวยุทธทั่วหล้าได้เช่นไร สมควรที่พวกเราจะเชื้อเชิญคนของวังเจ็ดดารารวมถึงสํานักนที่จันทราตลอดทั้งเหล่าสํานักใหญ่และเหล่าชาวยุทธผู้เข้าร่วมการแข่งขันล่าสัตว์ในครานี้มาร่วมเป็นสักขีพยานในที่นี้ด้วย”

เมื่อได้เห็นแววตาหนักแน่นเปี่ยมความมั่นใจของเฟงอวินจึงเช่นนี้ เฉินเซ็นยิ่งอดที่จะขมวดคิ้วมิได้

หรือตระกูลเพิ่งจะมีหลักฐานผูกมัดผู้กระทําผิดได้แน่นหนาจริง ? หากความจริงถูกเปิดเผยเบี้องหน้าสี่ตระกูลและสํานักใหญ่ สิ้นสุดคดีความเกิดมีการพลิกผันเช่นนั้นตระกูลเฉินผู้ออกรับหน้าย่อมต้องพลอยได้รับความเสื่อมเสียมิใช่น้อย

ยังมิทันที่เฉินเซินจะกล่าวว่า เสียงของหลานสาวคนเก่งพลันดังแทรกขึ้น

“ตัดสินกันเบื้องหน้าเหล่าชาวยุทธนี่สิเยี่ยม คุณชายซีมิได้กระทําผิดสิ่งใดมีหรือจะต้องเกรงกลัวพวกคนตระกูลเฟังตระกูลเฉินของข้าขอรับรองได้ว่าคุณชายซีเป็นคนดีมิใช่ผู้กระทําความผิดอาญาตามพวกเจ้ากล่าวอ้างอย่างแน่นอน”

เฉินเซ็นให้รู้สึกมึนตึบขึ้นมาทันที สถานการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วรวบรัดยากเกินควบคุมเช่นนี้คงได้เพียงปลงใจคล้อยตามเท่านั้น

****

*การแข่งขันล่าสัตว์อสูรจะเริ่มขึ้นในยามบ่าย ทว่ายามนี้เพิ่งเพียงรุ่งสาง เหล่ายอดฝีมือผู้เดินทางมาเข้าร่วมการประชันฝีมือล่าสัตว์อสูรล้วนลงนามเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นนั้นการตัดสินคดีความโดยมีเหล่าชาวยุทธเป็นสักขีพยานล้วนมากมายเพียงพอ

ยามนี้สองข้างซ้ายขวาของโถงพระโรงใหญ่ในวัง ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาสลายวิญญาณกลับเนื่องแน่นด้วยเหล่าชาวยุทธผู้มีวิชาความรู้

ฮ่องเต้แห่งแคว้นจนหลัง ฉานกวนเหวินจีนั่งอยู่เหนือบัลลังก์มังกรที่สูงเด่นเป็นสง่าทว่าที่วกายของโอรสสวรรค์กลับเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเย็นร่างของเขาขยับกระสับกระส่ายไม่หยุด

แม้ตัวเขาจะเป็นโอรสสวรรค์ผู้ต้องออกว่าราชการพบเจอผู้คนมากหน้าหลายตาก็จริง

ทว่าในโลกยุทธภพแห่งทวีปหมีหลัวนั้น นับถือกันที่ความเก่งกล้าสามารถยามต้องเผชิญหน้ากับเหล่ายอดฝีมือขั้นอาจารย์ตลอดถึงสํานักใหญ่และเหล่าผู้ฝึกฝนบําเพ็ญตนสู่ชั้นเซียนเพียงฐานะองค์ประมุขแห่งแคว้นผู้ต้อยต่าในโลกวรยุทธจะนับเป็นอย่างไรได้

ตลอดทั้งซ้ายและขวา ล้วนคือเหล่าอาวุโสจากสี่สํานักใหญ่ผู้ประกอบด้วยพลังฝีมือที่ไม่ต่ำเตี้ยไปกว่าพลังปราณขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ
ล่าดับแรกทางซ้ายมือของเขาก็คือ เฉินเซ็นแห่งสํานักเมฆาแดง ส่วนผู้ที่ยืนในตําแหน่งแรกทางขวานั้นเล่าก็คือ เพิ่งอวินจึงแห่งสํานักหลิวหลี

***จบตอนเหล่าชาวยุทธร่วมตัดสินความ* * *

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+