หัตถ์เทวะธิดาพญายม 504 เสื่อมเสียชื่อเสียง

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 504 เสื่อมเสียชื่อเสียง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 504 เสื่อมเสียชื่อเสียง

เพียงได้ยินคํากล่าวอ้างจากอีกฝ่าย ใบหน้าของเฟิงเหลียนยิ่งพลันซีดขาวบิดเบี้ยวน่ากลัว

ขณะเหล่าผู้ร่วมชมสถานการณ์ต่างตกตะลึงลอบนึกขันอยู่ในใจ

ครั้งเทพธิดาบัวเยือกแข็งออกจากเขตแดนผนึกมังกรปรากฏข่าวลือลอยมาตามลม ทว่ากระแสข่าวนั้นกลับถูกกลบกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว

เหล่ายอดฝีมือที่ชุมนุมอยู่ในที่นั้นล้วนเคยได้ยินผ่านหู เพียงไม่มีผู้ใดใส่ใจ เนื่องเพราะต่างเข้าใจว่าล้วนเป็นเพียงข่าวลือที่ถูกสร้างอย่างไร้มูลความจริง เพื่อทําลายชื่อเสียงของเทพธิดาบัวเยือกแข็งเท่านั้น

หากแต่ยามนี้ เมื่อเรื่องราวทั้งหมดถูกเผยออกจากปากของเฉินซึ่งช ทุกผู้คนในที่นั้นเริ่มเห็นพ้องคล้อยตามด้วยถึงเจ็ดหรือแปดส่วน

เนื่องเพราะนัยน์ตาของสาวน้อยเฉินผู้นี้ช่างกระจ่างใสแวววาวดวงหน้าไร้เดียงสาราวเด็กน้อยผนวกกับถ้อยคําตรงไปตรงมาอย่างไร้อาการเสแสรั้งตามประสาเด็กวัยเยาว์ ล้วนไม่มีสิ่งใดแสดงถึงความเจ้าเล่ห์เพทุบายไม่น่าเชื่อถือแต่อย่างใด

“อาจารย์เฉิน ท่านปล่อยให้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ํานมผู้นี้กล่าววาจาเพ้อเจ้อประวิงเวลาเช่นนี้ ท่านมีใจประสงค์คิดปกป้องผู้ร้ายกระนั้นหรือ ?”

น้ําเสียงทุ่มต่ําของบุรุษผู้หนึ่งดังก้องขึ้นจากตําแหน่งที่ไกลห่างออกไป

ครั้นเมื่อทุกสายตาเบียงหันไปตามแนวเสียงจึงพบกับใบหน้าแสนเย็นชา บนสีหน้าเผยความดูแคลนของเพิ่งอวนจึงยังจะมีผู้ใดกล้าเอ่ยปากซุบซิบนินทาได้อีกเล่า

หากแต่ย่อมไร้ความหมายสําหรับเฉินเซ็น

“นายน้อยเพิ่ง ท่านเพียงกล่าวด้วยวาจาปากเปล่าว่าซีเยวคือผู้ร้าย ทว่ากลับไม่ยอมเผยหลักฐานให้แจ้งชัด เช่นนั้นข้อกล่าวหานี้อาจเป็นการปรักปรําอย่างไร้มูล

ขณะกล่าว เฉินเซ็นก็หันมาหาเกอซีพลางเอ่ยถาม “ซีเยว่ เจ้าคือผู้ลงมือสังหารองค์ชายสามหรือไม่ ?”

เกอซียืนกรานหนักแน่น “มิได้”

เฉินเซินจ้องมองลึกลงในแววตาคู่นั้น เพียงสิ่งเดียวที่สะท้อนกลับมาคือแววตาที่ใสกระจ่างมั่นคงหนักแน่น ทั้งขณะเดียวกันยังแฝงไว้ด้วยความเย็นชาในที

แววตาเช่นนี้ ไร้ร่องรอยแห่งการเลี่ยงหนีหลบหลีกอย่างแน่แท้

เฉินเซินคลี่ยิ้มออกในทันที

“ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า เมื่อเจ้าไม่ได้ลงมือกระทํา ศิษย์ส่านักเมฆาแดงจะไม่มีวันยอมให้ผู้ใดล่วงเป็นเจ้าได้”

เพียงถ้อยคําเช่นนั้นหลุดลอดจากปากของท่านอาจารย์ใหญ่แห่งสํานักเมฆาแดง สีหน้าของเฟงอวินจึงพลันแปรเปลี่ยนเป็นหมองคล้ําในทันที สายตาที่จับจ้องมองเกอซีกลับแข็งกร้าวกว่าเก่าก่อน

มิรู้ด้วยเหตุใด คนผู้นี้จึงมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนได้มากมาย คราแรกคือหนานกงยวี ต่อมาคือกู้หลิวเฟิง ทั้งคู่ล้วนทุ่มเทกายใจปกป้องนางอย่างถึงที่สุด เมื่อครั้งอยู่ในเขตแดนผนึกมังกร กระทั่งแม้ในครานี้ ขณะนี้ที่พวกเขาขึ้นมาถึงยอดเขาสลายวิญญาณตระกูลเฉินแห่งสํานักเมฆาแดงยังออก หน้าปกป้องนาง

ชายหนุ่มจ้องหน้าเฉินเซินด้วยท่าที่เย็นชาพลางกล่าว

“ตระกูลเฉินชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่นตั้งแต่เมื่อใดกัน ? ที่นี่คือเขตแดนแคว้นจินหลิง ทั้งองค์ชายก็คือองค์ชายแห่งแคว้นจินหลิง เมื่อองค์ชายต้องสิ้นพระชนม์เช่นนี้ ย่อมเป็นธรรมดาที่เหล่าพสกนิกรทั่วหล้าจะอกสั่นขวัญหาย”

“เช่นนั้นนายน้อยเพิ่งย่อมสมควรตระหนักว่า นี่คือเรื่องของราชสํานักแคว้นจินหลิง”
เฉินเซินโต้คารมกลับอย่างไม่ยอมลดราวาศอก

“เมื่อผู้สิ้นชีวิตคือราชนิกูลแห่งแคว้นจนหลิง แล้วเกี่ยวพันอันใดกับตระกูลเพิ่งของท่าน ? นายน้อยเพิ่ง การที่ท่านขุดคุ้ยติดตามราวีเด็กน้อยผู้มีพลังฝีมือเพียงขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ไม่ปล่อยวางเช่นนี้ ข้าชักเริ่มสงสัยเสียแล้วว่าตระกูลเฟิงของท่านแท้จริงมีจุดประสงค์ใดแอบแฝงกันแน่ ?”

ใบหน้าของเฟงอวินจึงมืดคล้ํา เริ่มกระอักกระอ่วน เมื่อถูกอีกฝ่ายต้อนกระทั่งจนมุมเช่นนี้

ฐานอํานาจของตระกูลเฉินนับได้ว่าสูสีเทียบเคียงกับตระกูลเพิ่ง หากคิดใช้อํานาจบารมีของตระกูลเพิ่งข่มขวัญช่วงชิงซีเยว่จากการปกป้องของตระกูลเฉินผลสําเร็จย่อมไม่อาจมี

เขาไม่อาจเข้าใจได้จริง ๆ ว่าด้วยเหตุใดตระกูลใหญ่เยี่ยงตระกูลเฉินจึงออกหน้าปกป้องผู้ฝึกยุทธซึ่งมีพลังต่าต้อยเพียงขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ กระทั่งพร้อมตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับตระกูลเพิ่งเช่น

ยามนี้เฟิงเหลียนยิ่งผู้ยืนอยู่ด้านข้าง ยังอดมิได้ที่จะส่งเสียงร้องตะคอกออกมาด้วยความเกรียวกราด

“ซีเยว่ เมื่อไรเจ้าจะรู้จักยางอายกับผู้อื่นบ้าง ? เจ้าเป็นผู้กระทําผิดอาญาแผ่นดินโดยแท้ ทว่ากลับปล่อยให้น้องชูเอ๋อ ปล่อยให้คนตระกูลเฉินออกหน้ารับแทนเช่นนี้ !”

“หากเจ้ายังมีสํานึกหลงเหลืออยู่บ้าง ก็จงยอมรับความผิดของตนเสีย หาไม่หากหลักฐานถูกเผยเบื้องหน้าสายตาประจักษ์พยานทุกผู้คน ไม่เพียงเจ้าจะต้องจบชีวิตชดใช้ความผิดกระทั่งสํานักเมฆาแดงก็ต้องแปดเปื้อนเสื่อมเสียหรือนี่ นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการเห็น ?”

ที่สุดเกอซ์ ผู้ถูกกล่าวอ้างซึ่งนิ่งเงียบไร้เสียงต่อปากต่อคําอยู่นานจึงแหงนเงยศีรษะคลี่ยิ้มออกรับ

“เช่นนั้นหรือ ? ผู้ร้ายคดีอาญาที่สังหารฉางกวนรุ่ยนั้น…ข้ามั่นใจว่าเทพธิดาบัวเยือกแข็ง และ คุณชายเพิ่งสมควรกระจ่างแจ้งกว่าผู้ใดมิใช่หรือ ?”

***จบตอน เสื่อมเสียชื่อเสียง***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 504 เสื่อมเสียชื่อเสียง

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 504 เสื่อมเสียชื่อเสียง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 504 เสื่อมเสียชื่อเสียง

เพียงได้ยินคํากล่าวอ้างจากอีกฝ่าย ใบหน้าของเฟิงเหลียนยิ่งพลันซีดขาวบิดเบี้ยวน่ากลัว

ขณะเหล่าผู้ร่วมชมสถานการณ์ต่างตกตะลึงลอบนึกขันอยู่ในใจ

ครั้งเทพธิดาบัวเยือกแข็งออกจากเขตแดนผนึกมังกรปรากฏข่าวลือลอยมาตามลม ทว่ากระแสข่าวนั้นกลับถูกกลบกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว

เหล่ายอดฝีมือที่ชุมนุมอยู่ในที่นั้นล้วนเคยได้ยินผ่านหู เพียงไม่มีผู้ใดใส่ใจ เนื่องเพราะต่างเข้าใจว่าล้วนเป็นเพียงข่าวลือที่ถูกสร้างอย่างไร้มูลความจริง เพื่อทําลายชื่อเสียงของเทพธิดาบัวเยือกแข็งเท่านั้น

หากแต่ยามนี้ เมื่อเรื่องราวทั้งหมดถูกเผยออกจากปากของเฉินซึ่งช ทุกผู้คนในที่นั้นเริ่มเห็นพ้องคล้อยตามด้วยถึงเจ็ดหรือแปดส่วน

เนื่องเพราะนัยน์ตาของสาวน้อยเฉินผู้นี้ช่างกระจ่างใสแวววาวดวงหน้าไร้เดียงสาราวเด็กน้อยผนวกกับถ้อยคําตรงไปตรงมาอย่างไร้อาการเสแสรั้งตามประสาเด็กวัยเยาว์ ล้วนไม่มีสิ่งใดแสดงถึงความเจ้าเล่ห์เพทุบายไม่น่าเชื่อถือแต่อย่างใด

“อาจารย์เฉิน ท่านปล่อยให้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ํานมผู้นี้กล่าววาจาเพ้อเจ้อประวิงเวลาเช่นนี้ ท่านมีใจประสงค์คิดปกป้องผู้ร้ายกระนั้นหรือ ?”

น้ําเสียงทุ่มต่ําของบุรุษผู้หนึ่งดังก้องขึ้นจากตําแหน่งที่ไกลห่างออกไป

ครั้นเมื่อทุกสายตาเบียงหันไปตามแนวเสียงจึงพบกับใบหน้าแสนเย็นชา บนสีหน้าเผยความดูแคลนของเพิ่งอวนจึงยังจะมีผู้ใดกล้าเอ่ยปากซุบซิบนินทาได้อีกเล่า

หากแต่ย่อมไร้ความหมายสําหรับเฉินเซ็น

“นายน้อยเพิ่ง ท่านเพียงกล่าวด้วยวาจาปากเปล่าว่าซีเยวคือผู้ร้าย ทว่ากลับไม่ยอมเผยหลักฐานให้แจ้งชัด เช่นนั้นข้อกล่าวหานี้อาจเป็นการปรักปรําอย่างไร้มูล

ขณะกล่าว เฉินเซ็นก็หันมาหาเกอซีพลางเอ่ยถาม “ซีเยว่ เจ้าคือผู้ลงมือสังหารองค์ชายสามหรือไม่ ?”

เกอซียืนกรานหนักแน่น “มิได้”

เฉินเซินจ้องมองลึกลงในแววตาคู่นั้น เพียงสิ่งเดียวที่สะท้อนกลับมาคือแววตาที่ใสกระจ่างมั่นคงหนักแน่น ทั้งขณะเดียวกันยังแฝงไว้ด้วยความเย็นชาในที

แววตาเช่นนี้ ไร้ร่องรอยแห่งการเลี่ยงหนีหลบหลีกอย่างแน่แท้

เฉินเซินคลี่ยิ้มออกในทันที

“ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า เมื่อเจ้าไม่ได้ลงมือกระทํา ศิษย์ส่านักเมฆาแดงจะไม่มีวันยอมให้ผู้ใดล่วงเป็นเจ้าได้”

เพียงถ้อยคําเช่นนั้นหลุดลอดจากปากของท่านอาจารย์ใหญ่แห่งสํานักเมฆาแดง สีหน้าของเฟงอวินจึงพลันแปรเปลี่ยนเป็นหมองคล้ําในทันที สายตาที่จับจ้องมองเกอซีกลับแข็งกร้าวกว่าเก่าก่อน

มิรู้ด้วยเหตุใด คนผู้นี้จึงมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนได้มากมาย คราแรกคือหนานกงยวี ต่อมาคือกู้หลิวเฟิง ทั้งคู่ล้วนทุ่มเทกายใจปกป้องนางอย่างถึงที่สุด เมื่อครั้งอยู่ในเขตแดนผนึกมังกร กระทั่งแม้ในครานี้ ขณะนี้ที่พวกเขาขึ้นมาถึงยอดเขาสลายวิญญาณตระกูลเฉินแห่งสํานักเมฆาแดงยังออก หน้าปกป้องนาง

ชายหนุ่มจ้องหน้าเฉินเซินด้วยท่าที่เย็นชาพลางกล่าว

“ตระกูลเฉินชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่นตั้งแต่เมื่อใดกัน ? ที่นี่คือเขตแดนแคว้นจินหลิง ทั้งองค์ชายก็คือองค์ชายแห่งแคว้นจินหลิง เมื่อองค์ชายต้องสิ้นพระชนม์เช่นนี้ ย่อมเป็นธรรมดาที่เหล่าพสกนิกรทั่วหล้าจะอกสั่นขวัญหาย”

“เช่นนั้นนายน้อยเพิ่งย่อมสมควรตระหนักว่า นี่คือเรื่องของราชสํานักแคว้นจินหลิง”
เฉินเซินโต้คารมกลับอย่างไม่ยอมลดราวาศอก

“เมื่อผู้สิ้นชีวิตคือราชนิกูลแห่งแคว้นจนหลิง แล้วเกี่ยวพันอันใดกับตระกูลเพิ่งของท่าน ? นายน้อยเพิ่ง การที่ท่านขุดคุ้ยติดตามราวีเด็กน้อยผู้มีพลังฝีมือเพียงขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ไม่ปล่อยวางเช่นนี้ ข้าชักเริ่มสงสัยเสียแล้วว่าตระกูลเฟิงของท่านแท้จริงมีจุดประสงค์ใดแอบแฝงกันแน่ ?”

ใบหน้าของเฟงอวินจึงมืดคล้ํา เริ่มกระอักกระอ่วน เมื่อถูกอีกฝ่ายต้อนกระทั่งจนมุมเช่นนี้

ฐานอํานาจของตระกูลเฉินนับได้ว่าสูสีเทียบเคียงกับตระกูลเพิ่ง หากคิดใช้อํานาจบารมีของตระกูลเพิ่งข่มขวัญช่วงชิงซีเยว่จากการปกป้องของตระกูลเฉินผลสําเร็จย่อมไม่อาจมี

เขาไม่อาจเข้าใจได้จริง ๆ ว่าด้วยเหตุใดตระกูลใหญ่เยี่ยงตระกูลเฉินจึงออกหน้าปกป้องผู้ฝึกยุทธซึ่งมีพลังต่าต้อยเพียงขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ กระทั่งพร้อมตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับตระกูลเพิ่งเช่น

ยามนี้เฟิงเหลียนยิ่งผู้ยืนอยู่ด้านข้าง ยังอดมิได้ที่จะส่งเสียงร้องตะคอกออกมาด้วยความเกรียวกราด

“ซีเยว่ เมื่อไรเจ้าจะรู้จักยางอายกับผู้อื่นบ้าง ? เจ้าเป็นผู้กระทําผิดอาญาแผ่นดินโดยแท้ ทว่ากลับปล่อยให้น้องชูเอ๋อ ปล่อยให้คนตระกูลเฉินออกหน้ารับแทนเช่นนี้ !”

“หากเจ้ายังมีสํานึกหลงเหลืออยู่บ้าง ก็จงยอมรับความผิดของตนเสีย หาไม่หากหลักฐานถูกเผยเบื้องหน้าสายตาประจักษ์พยานทุกผู้คน ไม่เพียงเจ้าจะต้องจบชีวิตชดใช้ความผิดกระทั่งสํานักเมฆาแดงก็ต้องแปดเปื้อนเสื่อมเสียหรือนี่ นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการเห็น ?”

ที่สุดเกอซ์ ผู้ถูกกล่าวอ้างซึ่งนิ่งเงียบไร้เสียงต่อปากต่อคําอยู่นานจึงแหงนเงยศีรษะคลี่ยิ้มออกรับ

“เช่นนั้นหรือ ? ผู้ร้ายคดีอาญาที่สังหารฉางกวนรุ่ยนั้น…ข้ามั่นใจว่าเทพธิดาบัวเยือกแข็ง และ คุณชายเพิ่งสมควรกระจ่างแจ้งกว่าผู้ใดมิใช่หรือ ?”

***จบตอน เสื่อมเสียชื่อเสียง***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+