หัตถ์เทวะธิดาพญายม 470 เดรัจฉาน

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 470 เดรัจฉาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 470 เดรัจฉาน

ยามนี้พลังฝีมือที่สูงส่งส่งผลให้มังกรทองตัวน้อยสามารถเปลี่ยนสภาพรูปกายของตน ทว่าเขากลับต้องแปลงกายเป็นเดรัจฉานตัวน้อย ที่มีรูปร่างไม่ต่างจากร่างเดิมของตนเท่าไรนัก

หากการแปลงกายในครานี้ต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้มีขนาดใหญ่โตราวช้างสาร อาจพอรู้สึกถึง การสิ้นเปลืองเวลา และแรงพลังบ้างเล็กน้อย ทว่านี่….

ตุ๊กแกสี่ขาหนึบหนับตัวดํามันเลื่อมคลานกระดื้บเข้าห้องหนังสือของมู่หรงฟังอย่างคล่องแคล่วว่องไวกระทั่งไม่มีผู้ใดทันไหวตัว

แค่เพียงอึดใจ มังกรตัวจิ๋วก็รีบคาบข่าวกลับมารายงานเกอซี “นายท่าน ภายในล้วนว่างเปล่าได้ ผู้คนเพียงข้าสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเย็นยะเยียบภายใต้ห้องตําราแห่งนี้”

เกอซีและกู้หลิวเพิ่งหันมาสบตากันคราหนึ่ง หินก้อนน้อยโผล่ขึ้นจากชายเสื้อเกอซีเมื่อไรไม่อาจทราบ รู้สึกตัวอีกที หินก้อนนั้นพลันถูกเขวี่ยงใส่พงหญ้าที่ไกลออกไป

เพียงเสียงดัง “ตับ” หน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งหมดพลันรีบออกตรวจสํารวจในทันที

หนึ่งในนั้นส่งเสียง “ผู้ใด ?” ก่อนเหล่าผู้รักษาความปลอดภัยทั้งหมดจะแตกกระจายแยกย้ายคนละทาง เพื่อเร่งควานหาผู้ต้องสงสัยใต้พงหญ้า

เกอซีและกู้หลิวเพิ่งรีบลอบเข้าสู่ห้องตราด้านใน โดยมีสายเถาวัลย์แผ่เลื้อยปกคลุมซ่อนเร้นเรือนกาย

“เยว่เอ๋อน้อย มาทางนี้ !” เสียงของคู่หลิวเพึ่งพลันดังแทรกขึ้น

เมื่อเกอซีหันกลับมาจึงเห็นชายหนุ่มทาบมือลงบนสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งมีรูปร่างคล้ายอสรพิษสีดําตัวหนึ่ง

สิ่งประดิษฐ์รูปงูตัวนี้ถูกวางปะปนอยู่กับเครื่องตบแต่งเก่าแก่โบราณที่ล้ําค่า เพียงหากเพ่งมองใกล้ชิดย่อมสามารถสังเกตพบว่าวัสดุที่ใช้หาใช่เหล็กหรืออัญมณีใด ทั้งผิวสัมผัสของมันยังมันเลื่อมคล้ายถูกสัมผัสอยู่เนืองนิตย์

ใบหน้าของคู่หลิวเพึ่งพลันกลับกลายเคร่งขรึม ขณะน้ําเสียงถูกขับออกมาอย่างเชื่องช้า “ข้าเคยเห็นมู่หรงฟังหมุนส่วนหัวของเจ้าสิ่งนี้”

พร้อมคํากล่าว ชายหนุ่มพลันออกแรงบิดส่วนหัวของงูให้หมุนไปอีกทาง สิ่งที่ติดตามมาพร้อมการขยับคือเสียงเคลื่อนขยับดังของผู้ตารา

ชั้นตําราแยกขยับเคลื่อนออกจากกันทั้งสองด้านเผยทางเดินลึกมืดอึมครึมภายใน เส้นทางลับแห่งนี้ถูกปลาดด้วยแผ่นศิลา เพียงย่างเหยียบลงไปก็สามารถส่งความเย็นยะเยียบเสียดถึงชั้นกระดูก

ทั้งคู่ต่างย่างก้าวลงสู่เส้นทางลับเบื้องหน้าด้วยความระมัดระวัง

แค่เพียงไม่นาน เกอซีพลันได้ยินเสียงร้องโอดครวญของกลุ่มเด็กน้อย

“ได้โปรด ปล่อยข้าไปเถิด…ปล่อยข้าไปเถิด….ข้าไม่ต้องการเงิน…..ไม่ต้องการอา หาร….ได้โปรด…..ปล่อยข้าไปเถิด…ฮือ ฮือ….”

“ท่านพี่ ข้าทรมานเหลือเกิน ท่านพี่ ข้าหายใจไม่ออก…..ท่านพี่….”

“พวกเจ้ามันเดรัจฉาน อย่าแตะต้องน้องสาวข้า ! น้องพี่ ! น้องพี่ ! เจ้าจะต้องไม่ตาย ! ต้องไม่ตายด้วยเงื้อมมือของเดรัจฉานพวกนี้ !”

เกอซีและกู้หลิวเพิ่งต่างหันมองหน้ากันคราหนึ่ง ก่อนรีบหลบหลบเข้าซ่อนในเงามืด พลางส่งสายตามองผ่านปลายแสงรําไรเบื้องหน้า

กู้หลิวเพิ่งต้องสูดหายใจเฮือกเย็นยะเยือก ใบหน้าที่ปกติไร้ความอาทรร้อนใจ ยามนี้กลับกลายเป็นโกรธเดือดดาลขึ้นทันทีที่ได้เห็นภาพฉากเบื้องหน้า

กระทั่งเกอซี มือสังหารผู้ไร่ใจเหี้ยมโหดอํามหิต ยังอดมิได้ที่จะขมวดคิ้วหน้ายุ่งย่น

ห้องลับใต้ดินเบื้องหน้าถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน

ห้องฝั่งซ้ายดูคล้ายห้องต้มโอสถโบราณ กลุ่มชายชราหนวดขาวช่วยกันโหมแรงไฟหลอมโอสถอย่างต่อเนื่อง ขณะรอผลการหลอมปรุงโอสถภายในเตาหลอม

ส่วนซีกขวาภายในห้องใต้ดินกลับดูคล้ายโรงฆ่า

ทั่วทั้งห้องแออัดด้วยกรงขังนับร้อยที่บรรจุเด็กน้อยไว้สองหรือสามคนในหนึ่งกรงขัง

เด็กชายเด็กหญิงจํานวนมาก วัยแตกต่างล้วนถูกกักไว้ภายใน เด็กรุ่นเยาว์ที่สุดเห็นจะมีวัยแค่ เพียงสามหรือสี่ขวบปีเท่านั้น

พวกเขาถูกกักบริเวณเพียงในกรงน้อยราวสัตว์เดรัจฉาน บ้างส่งเสียงร้องไห้ บ้างร่ําร้องวิงวอน บ้างส่งเสียงด่าทอด้วยความเกรี้ยวกราด ขณะที่บางคนอยู่ในอาการแห่งความสิ้นหวัง

ผ่านสายตาไปด้านข้างก็คือเด็กน้อยราวเจ็ดหรือแปดชีวิตถูกห้อยตัวเท้าชี้ฟ้า ลําคอถูกปาดเฉือนตัดหลอดเลือดให้สายโลหิตหยุดร่วงลงใส่หม้อทองแดงด้านล่าง ซึ่งพร้อมจะเต็มปริมในอีกไม่ช้า

***จบตอน เดรัจฉาน***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 470 เดรัจฉาน

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 470 เดรัจฉาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 470 เดรัจฉาน

ยามนี้พลังฝีมือที่สูงส่งส่งผลให้มังกรทองตัวน้อยสามารถเปลี่ยนสภาพรูปกายของตน ทว่าเขากลับต้องแปลงกายเป็นเดรัจฉานตัวน้อย ที่มีรูปร่างไม่ต่างจากร่างเดิมของตนเท่าไรนัก

หากการแปลงกายในครานี้ต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้มีขนาดใหญ่โตราวช้างสาร อาจพอรู้สึกถึง การสิ้นเปลืองเวลา และแรงพลังบ้างเล็กน้อย ทว่านี่….

ตุ๊กแกสี่ขาหนึบหนับตัวดํามันเลื่อมคลานกระดื้บเข้าห้องหนังสือของมู่หรงฟังอย่างคล่องแคล่วว่องไวกระทั่งไม่มีผู้ใดทันไหวตัว

แค่เพียงอึดใจ มังกรตัวจิ๋วก็รีบคาบข่าวกลับมารายงานเกอซี “นายท่าน ภายในล้วนว่างเปล่าได้ ผู้คนเพียงข้าสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเย็นยะเยียบภายใต้ห้องตําราแห่งนี้”

เกอซีและกู้หลิวเพิ่งหันมาสบตากันคราหนึ่ง หินก้อนน้อยโผล่ขึ้นจากชายเสื้อเกอซีเมื่อไรไม่อาจทราบ รู้สึกตัวอีกที หินก้อนนั้นพลันถูกเขวี่ยงใส่พงหญ้าที่ไกลออกไป

เพียงเสียงดัง “ตับ” หน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งหมดพลันรีบออกตรวจสํารวจในทันที

หนึ่งในนั้นส่งเสียง “ผู้ใด ?” ก่อนเหล่าผู้รักษาความปลอดภัยทั้งหมดจะแตกกระจายแยกย้ายคนละทาง เพื่อเร่งควานหาผู้ต้องสงสัยใต้พงหญ้า

เกอซีและกู้หลิวเพิ่งรีบลอบเข้าสู่ห้องตราด้านใน โดยมีสายเถาวัลย์แผ่เลื้อยปกคลุมซ่อนเร้นเรือนกาย

“เยว่เอ๋อน้อย มาทางนี้ !” เสียงของคู่หลิวเพึ่งพลันดังแทรกขึ้น

เมื่อเกอซีหันกลับมาจึงเห็นชายหนุ่มทาบมือลงบนสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งมีรูปร่างคล้ายอสรพิษสีดําตัวหนึ่ง

สิ่งประดิษฐ์รูปงูตัวนี้ถูกวางปะปนอยู่กับเครื่องตบแต่งเก่าแก่โบราณที่ล้ําค่า เพียงหากเพ่งมองใกล้ชิดย่อมสามารถสังเกตพบว่าวัสดุที่ใช้หาใช่เหล็กหรืออัญมณีใด ทั้งผิวสัมผัสของมันยังมันเลื่อมคล้ายถูกสัมผัสอยู่เนืองนิตย์

ใบหน้าของคู่หลิวเพึ่งพลันกลับกลายเคร่งขรึม ขณะน้ําเสียงถูกขับออกมาอย่างเชื่องช้า “ข้าเคยเห็นมู่หรงฟังหมุนส่วนหัวของเจ้าสิ่งนี้”

พร้อมคํากล่าว ชายหนุ่มพลันออกแรงบิดส่วนหัวของงูให้หมุนไปอีกทาง สิ่งที่ติดตามมาพร้อมการขยับคือเสียงเคลื่อนขยับดังของผู้ตารา

ชั้นตําราแยกขยับเคลื่อนออกจากกันทั้งสองด้านเผยทางเดินลึกมืดอึมครึมภายใน เส้นทางลับแห่งนี้ถูกปลาดด้วยแผ่นศิลา เพียงย่างเหยียบลงไปก็สามารถส่งความเย็นยะเยียบเสียดถึงชั้นกระดูก

ทั้งคู่ต่างย่างก้าวลงสู่เส้นทางลับเบื้องหน้าด้วยความระมัดระวัง

แค่เพียงไม่นาน เกอซีพลันได้ยินเสียงร้องโอดครวญของกลุ่มเด็กน้อย

“ได้โปรด ปล่อยข้าไปเถิด…ปล่อยข้าไปเถิด….ข้าไม่ต้องการเงิน…..ไม่ต้องการอา หาร….ได้โปรด…..ปล่อยข้าไปเถิด…ฮือ ฮือ….”

“ท่านพี่ ข้าทรมานเหลือเกิน ท่านพี่ ข้าหายใจไม่ออก…..ท่านพี่….”

“พวกเจ้ามันเดรัจฉาน อย่าแตะต้องน้องสาวข้า ! น้องพี่ ! น้องพี่ ! เจ้าจะต้องไม่ตาย ! ต้องไม่ตายด้วยเงื้อมมือของเดรัจฉานพวกนี้ !”

เกอซีและกู้หลิวเพิ่งต่างหันมองหน้ากันคราหนึ่ง ก่อนรีบหลบหลบเข้าซ่อนในเงามืด พลางส่งสายตามองผ่านปลายแสงรําไรเบื้องหน้า

กู้หลิวเพิ่งต้องสูดหายใจเฮือกเย็นยะเยือก ใบหน้าที่ปกติไร้ความอาทรร้อนใจ ยามนี้กลับกลายเป็นโกรธเดือดดาลขึ้นทันทีที่ได้เห็นภาพฉากเบื้องหน้า

กระทั่งเกอซี มือสังหารผู้ไร่ใจเหี้ยมโหดอํามหิต ยังอดมิได้ที่จะขมวดคิ้วหน้ายุ่งย่น

ห้องลับใต้ดินเบื้องหน้าถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน

ห้องฝั่งซ้ายดูคล้ายห้องต้มโอสถโบราณ กลุ่มชายชราหนวดขาวช่วยกันโหมแรงไฟหลอมโอสถอย่างต่อเนื่อง ขณะรอผลการหลอมปรุงโอสถภายในเตาหลอม

ส่วนซีกขวาภายในห้องใต้ดินกลับดูคล้ายโรงฆ่า

ทั่วทั้งห้องแออัดด้วยกรงขังนับร้อยที่บรรจุเด็กน้อยไว้สองหรือสามคนในหนึ่งกรงขัง

เด็กชายเด็กหญิงจํานวนมาก วัยแตกต่างล้วนถูกกักไว้ภายใน เด็กรุ่นเยาว์ที่สุดเห็นจะมีวัยแค่ เพียงสามหรือสี่ขวบปีเท่านั้น

พวกเขาถูกกักบริเวณเพียงในกรงน้อยราวสัตว์เดรัจฉาน บ้างส่งเสียงร้องไห้ บ้างร่ําร้องวิงวอน บ้างส่งเสียงด่าทอด้วยความเกรี้ยวกราด ขณะที่บางคนอยู่ในอาการแห่งความสิ้นหวัง

ผ่านสายตาไปด้านข้างก็คือเด็กน้อยราวเจ็ดหรือแปดชีวิตถูกห้อยตัวเท้าชี้ฟ้า ลําคอถูกปาดเฉือนตัดหลอดเลือดให้สายโลหิตหยุดร่วงลงใส่หม้อทองแดงด้านล่าง ซึ่งพร้อมจะเต็มปริมในอีกไม่ช้า

***จบตอน เดรัจฉาน***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+