หัตถ์เทวะธิดาพญายม 525 สิ้นคิดสุดบรรยาย

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 525 สิ้นคิดสุดบรรยาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 525 สิ้นคิดสุดบรรยาย

แม้นไม่อยากยอมรับ ทว่าเกอซีย่อมตระหนักดีว่าการที่เฒ่าเต่าเหม็นผู้นั้นโยนนางใส่ค่ายกลกระบี่กลับกลายเป็นสิ่งเสริมส่งพลังฝีมือให้นางอย่างแท้จริง

หากเป็นก่อนหน้า แม้นนางสามารถกราบพยัคฆ์ขาวขั้นหาตนนี้ได้ ย่อมต้องทุ่มเทอย่างหนักกระทั่งแทบสิ้นพลัง

หากแต่หลังการฝ่าฟันค่ายกลกระบี่ในครานั้น สัตว์อสูรขั้นห้าล้วนกลับกลายเป็นสัตว์ที่อ่อนแอไร้สามารถในสายตาของนาง

แม้นสัตว์อสูรขั้นห้าที่น่าสะพรึง สามารถเทียบได้กับผู้ฝึกยุทธขั้นสี่ ปฐพี่สะท้านสะเทือน ทว่าแท้จริงย่อมมีส่วนประกอบหลายสิ่งที่ไม่อาจเทียบได้กับผู้ฝึกยุทธที่มีพลังปราณขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือน ทั้งพยัคฆ์ขาวตนนี้เพิ่งบรรลถึงขั้นที่ห้าเมื่อไม่นานมานี้ พลังของมันจึงยังไม่แข็งแกร่งถึงที่สุด

เกอซีก้มลงเก็บซากร่างของพยัคฆ์ขาวเข้าในธํามรงค์เวท

หากแต่ต้านต้านกลับกระโจนออกมาจากมิติเวทพร้อมสายเถาวัลย์สีม่วงสองเส้นตั้งโด่อยู่เหนือหัว

เมื่อหญิงสาวหันไปเห็นเจ้าตัวยัง มุมปากทั้งสองของนางกลับต้องกระตุกนี่มันตัวอะไรกัน !

หนวดอะไรของต้านต้านกันนั้น !

*ต้านต้านมีหนวดบนศีรษะสองเส้นคล้ายหนวดกุ้ง

มังกรทองตัวน้อยย่อมตระหนักดีว่าตัวตนแท้จริงของเขานั้นพิเศษ และย่อมนําพามาซึ่งความโลภโมโทสันของผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ เช่นนั้นเขาจึงพยายามแปลงกายให้อยู่ในร่างของสัตว์เวทที่น่าเกรงขาม ซึ่งสมควรเป็นไดโนเสาร์พันธุ์กินเนื้อที่แสนร้ายกาจไทรันโนซอรัสเร็กซ์

หากแต่พลังของเขายังต่ําต้อยเกินไป ไม่อาจแปลงกายเป็นร่างที่ใหญ่โต เช่นนั้นยามนี้ จึงมีเพียงอุ้งเท้าหน้าทั้งสองที่ถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นอุ้งเท้าพร้อมเขี้ยวเล็บที่น่าสะพรึงของไทรันโนซอรัส เร็กซ์

ครั้นเมื่อหันไปกล่าวคํากับผู้เป็นนายปลายเล็บในอุ้งมือเจ้ามังกรถูกยกชี้ขึ้นฟ้า

“อ้า— ฝนดาบดอกไม้เหาะ ฆ่าทิ้งไม่เหลือซาก ! โหฟังดูหรูมากเลย…นายท่าน ท่านว่าให้เคล็ดวิชานี้มีนามว่าฝนดาบดอกไม้เหาะเป็นอย่างไร ?”

เกอซีเหลือบมองอีกฝ่าย เจ้านี่ช่างกล้าอวดอ้างตนเป็นมังกรทองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในโลกหล้ามาเนิ่นนานนับพันปีนามขนานที่ตั้ง
ช่างสิ้นคิดได้เหนือค่าบรรยายเสียเหลือเกิน

ต้านต้านกําลังสาละวนอยู่กับซากร่างของพยัคฆ์ขาวเขากําลังควานหาแก่นจิตอสูรเพื่อเคี้ยวเล่น

หากแต่เกอซีกลับตรงเข้ามาแย่งซากร่างพยัคฆ์ขาวตนนั้นไปจากเขาเจ้าตัวน้อยจึงร้องโวยวายจ้า

เส้นเลือดดําบนหน้าผากของเกอซีเต้นตุ้บ แก่นจิตอสูรคือสิ่งนับคะแนนสะสมในการแข่งขันครานี้ หากนางปล่อยให้ต้านต้านกินเล่นเช่นนี้คงได้พ่ายยับไม่เป็นท่ากระมัง

หญิงสาวอุ้มต้านต้านขึ้นพลางกล่าวปลอบใจ

“ดวงจิตนี้แม่จําต้องใช้คราหน้าแม่ค่อยนํามาชดเชยให้เจ้าดีหรือไม่ ?”

เจ้าตัวน้อยผงกศีรษะพลางชี้นิ้วไปที่ร่างของพยัคฆ์ขาวตนนั้น

“แต่ต้านต้านอยากกินเนื้อเสือ เนื้อเสือรมควันย่างหนังกรอบคั่วพริกสดรสเยี่ยม…”

แค่เพียงคิด เจ้าตัวน้อยก็ดีใจจนเนื้อเต้น

เมื่อยามนี้ ไม่มีเฒ่าเต่าเหม็นผู้นั้นมาคอยแย่งกินของอร่อยส่วนป้าเถาม่วงกับหลงหลงนั้นเล่าก็แสนจะเอาอกเอาใจ ตามใจเขาทุกสิ่ง เช่นนี้มเท่ากับยอดสํารับอันโอชะของท่านแม่จะเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวกระนั้นหรือ ?

ต้านต้านกลืนน้ําลายเอื้อกอังเท้าน้อย ๆ กระทุ่งชายเสื้อเกอซีพร้อมน้ําเสียงออดอ้อนออเซาะ

“ท่านแม่ เจ้าลูกกลม ๆ พวกนั้นต้านต้านไม่กินก็ได้ ทว่าท่านแม่ต้องจับเอาสัตว์อสูรที่ได้พบเจอมาทําของอร่อยให้ต้านต้านกันนะ ”

เพียงต้านต้านยอมรามือจากดวงจิตอสูรเกอซีก็สามารถคลายใจได้

เพียงปรุงอาหารไม่กี่สํารับล้วนเป็นเรื่องง่ายดายสําหรับนาง

หญิงสาวแยกโลหิตสัตว์อสูรไว้ให้ม่วงน้อยดื่มกิน ทั้งยังผสมทิพย์ธาราเพิ่มรสชาติให้อีกเล็กน้อย ม่วงน้อยสบกินโลหิตอย่างชื่นมื่นสุขสันต์ ใบไม้ตลอดทั่วสายเถาสั่นไกวไหวแสดงถึงความสดชื่น

เนื้อพยัคฆ์ขาวตนนั้นถูกนํามาปรุงเป็นสํารับอันโอชะที่ส่งกลิ่นหอมคลุ้งตลบอบอวลไปทั่ว กระทั่งต้านต้านกับมังกรทองตัวน้อยต้องกลืนน้ําลายเอื้อก ๆ อยู่เป็นระยะ

ร่างกลมตุ้ยนุ่ยของต้านต้านกระโจนเข้าใส่เนื้อเสื้อที่ถูกนํามาย่างรมควันจนหนังกรอบ หากทว่ากลับยังคงความชุ่มชื้นภายใน เจ้าตัวน้อยกัดกินไป หัวเราะคิกคักอย่างสุขใจไป

ไม่มีเฒ่าเต่าเหม็นผู้นั้นคอยแย่งอาหารเขาอีกแล้ว ช่างสุขเสียจริง

เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วยามเนื้อเสื้อร่างยักษ์ก็ถูกเจ้าตัวน้อยทั้งสองเขมือบกินจนสิ้นซากอย่างรวด
เร็ว

***จบตอน สิ้นคิดสุดบรรยาย***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 525 สิ้นคิดสุดบรรยาย

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 525 สิ้นคิดสุดบรรยาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 525 สิ้นคิดสุดบรรยาย

แม้นไม่อยากยอมรับ ทว่าเกอซีย่อมตระหนักดีว่าการที่เฒ่าเต่าเหม็นผู้นั้นโยนนางใส่ค่ายกลกระบี่กลับกลายเป็นสิ่งเสริมส่งพลังฝีมือให้นางอย่างแท้จริง

หากเป็นก่อนหน้า แม้นนางสามารถกราบพยัคฆ์ขาวขั้นหาตนนี้ได้ ย่อมต้องทุ่มเทอย่างหนักกระทั่งแทบสิ้นพลัง

หากแต่หลังการฝ่าฟันค่ายกลกระบี่ในครานั้น สัตว์อสูรขั้นห้าล้วนกลับกลายเป็นสัตว์ที่อ่อนแอไร้สามารถในสายตาของนาง

แม้นสัตว์อสูรขั้นห้าที่น่าสะพรึง สามารถเทียบได้กับผู้ฝึกยุทธขั้นสี่ ปฐพี่สะท้านสะเทือน ทว่าแท้จริงย่อมมีส่วนประกอบหลายสิ่งที่ไม่อาจเทียบได้กับผู้ฝึกยุทธที่มีพลังปราณขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือน ทั้งพยัคฆ์ขาวตนนี้เพิ่งบรรลถึงขั้นที่ห้าเมื่อไม่นานมานี้ พลังของมันจึงยังไม่แข็งแกร่งถึงที่สุด

เกอซีก้มลงเก็บซากร่างของพยัคฆ์ขาวเข้าในธํามรงค์เวท

หากแต่ต้านต้านกลับกระโจนออกมาจากมิติเวทพร้อมสายเถาวัลย์สีม่วงสองเส้นตั้งโด่อยู่เหนือหัว

เมื่อหญิงสาวหันไปเห็นเจ้าตัวยัง มุมปากทั้งสองของนางกลับต้องกระตุกนี่มันตัวอะไรกัน !

หนวดอะไรของต้านต้านกันนั้น !

*ต้านต้านมีหนวดบนศีรษะสองเส้นคล้ายหนวดกุ้ง

มังกรทองตัวน้อยย่อมตระหนักดีว่าตัวตนแท้จริงของเขานั้นพิเศษ และย่อมนําพามาซึ่งความโลภโมโทสันของผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ เช่นนั้นเขาจึงพยายามแปลงกายให้อยู่ในร่างของสัตว์เวทที่น่าเกรงขาม ซึ่งสมควรเป็นไดโนเสาร์พันธุ์กินเนื้อที่แสนร้ายกาจไทรันโนซอรัสเร็กซ์

หากแต่พลังของเขายังต่ําต้อยเกินไป ไม่อาจแปลงกายเป็นร่างที่ใหญ่โต เช่นนั้นยามนี้ จึงมีเพียงอุ้งเท้าหน้าทั้งสองที่ถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นอุ้งเท้าพร้อมเขี้ยวเล็บที่น่าสะพรึงของไทรันโนซอรัส เร็กซ์

ครั้นเมื่อหันไปกล่าวคํากับผู้เป็นนายปลายเล็บในอุ้งมือเจ้ามังกรถูกยกชี้ขึ้นฟ้า

“อ้า— ฝนดาบดอกไม้เหาะ ฆ่าทิ้งไม่เหลือซาก ! โหฟังดูหรูมากเลย…นายท่าน ท่านว่าให้เคล็ดวิชานี้มีนามว่าฝนดาบดอกไม้เหาะเป็นอย่างไร ?”

เกอซีเหลือบมองอีกฝ่าย เจ้านี่ช่างกล้าอวดอ้างตนเป็นมังกรทองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในโลกหล้ามาเนิ่นนานนับพันปีนามขนานที่ตั้ง
ช่างสิ้นคิดได้เหนือค่าบรรยายเสียเหลือเกิน

ต้านต้านกําลังสาละวนอยู่กับซากร่างของพยัคฆ์ขาวเขากําลังควานหาแก่นจิตอสูรเพื่อเคี้ยวเล่น

หากแต่เกอซีกลับตรงเข้ามาแย่งซากร่างพยัคฆ์ขาวตนนั้นไปจากเขาเจ้าตัวน้อยจึงร้องโวยวายจ้า

เส้นเลือดดําบนหน้าผากของเกอซีเต้นตุ้บ แก่นจิตอสูรคือสิ่งนับคะแนนสะสมในการแข่งขันครานี้ หากนางปล่อยให้ต้านต้านกินเล่นเช่นนี้คงได้พ่ายยับไม่เป็นท่ากระมัง

หญิงสาวอุ้มต้านต้านขึ้นพลางกล่าวปลอบใจ

“ดวงจิตนี้แม่จําต้องใช้คราหน้าแม่ค่อยนํามาชดเชยให้เจ้าดีหรือไม่ ?”

เจ้าตัวน้อยผงกศีรษะพลางชี้นิ้วไปที่ร่างของพยัคฆ์ขาวตนนั้น

“แต่ต้านต้านอยากกินเนื้อเสือ เนื้อเสือรมควันย่างหนังกรอบคั่วพริกสดรสเยี่ยม…”

แค่เพียงคิด เจ้าตัวน้อยก็ดีใจจนเนื้อเต้น

เมื่อยามนี้ ไม่มีเฒ่าเต่าเหม็นผู้นั้นมาคอยแย่งกินของอร่อยส่วนป้าเถาม่วงกับหลงหลงนั้นเล่าก็แสนจะเอาอกเอาใจ ตามใจเขาทุกสิ่ง เช่นนี้มเท่ากับยอดสํารับอันโอชะของท่านแม่จะเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวกระนั้นหรือ ?

ต้านต้านกลืนน้ําลายเอื้อกอังเท้าน้อย ๆ กระทุ่งชายเสื้อเกอซีพร้อมน้ําเสียงออดอ้อนออเซาะ

“ท่านแม่ เจ้าลูกกลม ๆ พวกนั้นต้านต้านไม่กินก็ได้ ทว่าท่านแม่ต้องจับเอาสัตว์อสูรที่ได้พบเจอมาทําของอร่อยให้ต้านต้านกันนะ ”

เพียงต้านต้านยอมรามือจากดวงจิตอสูรเกอซีก็สามารถคลายใจได้

เพียงปรุงอาหารไม่กี่สํารับล้วนเป็นเรื่องง่ายดายสําหรับนาง

หญิงสาวแยกโลหิตสัตว์อสูรไว้ให้ม่วงน้อยดื่มกิน ทั้งยังผสมทิพย์ธาราเพิ่มรสชาติให้อีกเล็กน้อย ม่วงน้อยสบกินโลหิตอย่างชื่นมื่นสุขสันต์ ใบไม้ตลอดทั่วสายเถาสั่นไกวไหวแสดงถึงความสดชื่น

เนื้อพยัคฆ์ขาวตนนั้นถูกนํามาปรุงเป็นสํารับอันโอชะที่ส่งกลิ่นหอมคลุ้งตลบอบอวลไปทั่ว กระทั่งต้านต้านกับมังกรทองตัวน้อยต้องกลืนน้ําลายเอื้อก ๆ อยู่เป็นระยะ

ร่างกลมตุ้ยนุ่ยของต้านต้านกระโจนเข้าใส่เนื้อเสื้อที่ถูกนํามาย่างรมควันจนหนังกรอบ หากทว่ากลับยังคงความชุ่มชื้นภายใน เจ้าตัวน้อยกัดกินไป หัวเราะคิกคักอย่างสุขใจไป

ไม่มีเฒ่าเต่าเหม็นผู้นั้นคอยแย่งอาหารเขาอีกแล้ว ช่างสุขเสียจริง

เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วยามเนื้อเสื้อร่างยักษ์ก็ถูกเจ้าตัวน้อยทั้งสองเขมือบกินจนสิ้นซากอย่างรวด
เร็ว

***จบตอน สิ้นคิดสุดบรรยาย***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+