หัตถ์เทวะธิดาพญายม 573 มิอาจกลับคืน

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 573 มิอาจกลับคืน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 573 มิอาจกลับคืน

กระบี่ผนึกมังกรเทียมซึ่งถูกโยนขึ้นให้ลอยคว้างอยู่กลางอากาศพลันปักที่มลงมาในทันที ถึงลูกดอกอาคมของท่านอาวุโสกระเด็นสะท้อนร่วงไป

ฝ่ามือแกร่งที่เย็นยะเยียบได้รูปเอื้อมคว้าจกลําคอ ปิดกั้นการเข้าออกแห่งลมหายใจของมันในทันที

มันอยากเล่นเสียงหัวร่อ เมื่อมันคือยอดฝีมือขั้นปราณที่ห้า ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ มันย่อมสามารถดูดซับกระแสพลังทางจิตวิญญาณจากทั่วทุกอณูแห่งชั้นบรรยากาศ แม่ไม่อาจหายใจ หรือแม้กระทั่งหัวใจหยุดเต้น ตราบเท่าที่มันคือยอดฝีมือขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ มันย่อมไม่ถึงแก่ความตาย !

ทว่า !!! มันกลับหัวเราะไม่ออก

เมื่อมันเริ่มค้นพบว่าทั่วร่างยามนี้คล้ายถูกพลังที่เย็นยะเยือกสายหนึ่งเข้าปิดล้อม คลื่นพลังใด ๆ ล้วนไม่อาจแสดงผล แม้นเพียงหมายขยับเขยื้อนร่างกายก็ยังมิอาจ!!

นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร ? เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ?

ไม่สมควรมีผู้ใดกระทําเช่นนี้ได้ มิใช่ ! ไม่มีทางที่ผู้ใดจะกระทําเช่นนี้ได้เลยต่างหาก ! กระทั่ง ผู้สามารถบรรลุถึงระดับสูงสุดของพลังปราณขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณก็เป็นไปไม่ได้ที่จะกระทําเช่นนี้

มิใช่ ! พึงมี ! ตามตํานานที่เล่าขานสืบต่อกันมาในทวีปหมีหลัว ยังมีเคล็ดวิชาชุดหนึ่ง ซึ่งสามารถครอบง่าพลังของผู้อื่น ทั้งสามารถควบคุมกระทั่งถ่ายเทกระแสพลังของผู้อื่นดั่งใจปรารถนา

เคล็ดวิชา…มนตราอันธการ !

สองตาของมันเบ็งโพลง สายตาของมันจับจ้องดวงหน้าอันหล่อเหลาของหนุ่มน้อยเบื้องหน้าด้วยความเหลือเชื่อ

เป็นไปได้อย่างไร ? หนานกงยี่เพิ่งมีวัยแค่เพียงยี่สิบ ! เป็นไปได้อย่างไร !!!!

สิ่งนั้นคือประมวลความครั้งสุดท้ายในหัวของมันก่อนในหูจะก่องดังเสียง กร็อก ทั่วร่างอ่อนระทวยร่วงล้ม เพื่อเข้าสู่ห้วงแห่งนิทราอันเป็นนิรันดร์

อาวุโสเพิ่งแทบไม่เชื่อสายตา มันเคยคิดว่าตนสามารถกําราบชายหนุ่มเบื้องหน้าให้ยอมสิโรราบ

หากทว่า เพียงชั่วพริบตา ศิษย์น้องทั้งสองของมันกลับถูกหนานกงย-สังหารอย่างง่ายดาย

เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร พลังวัตรของหนานกงยวอยู่ในระดับกลางของพลังปราณขั้นห้า ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณมิใช่หรือ ?

อาวุโสเพิ่งส่งเสียงคํารามด้วยอาการคลุ้มคลั่ง ขณะสะบัดโคมหลิวหลีเข้าจู่โจมหนานกงยวี่ อย่างมิให้ทันตั้งตัว

เสียงมังกรร้องคํารามก๊กก้องทั่วท้องนภา ก่อนกระบี่ผนึกมังกรเทียมจะตรงเข้าปะทะโคมหลิวหลี บังเกิดเสียงดังสนั่นกัมปนาท

โคมหลิวหลีพลันแตกแหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี ภายใต้ฝุ่นควันที่ฟังตลบทั่วชั้นบรรยากาศ

กระบี่ผนึกมังกรเทียมคืนกลับเข้าสู่อุ้งมือของหนานกงยีในสภาพสมบูรณ์ไร้รอยขีดข่วน

ยามนี้ร่างกํายําของชายหนุ่มได้แปรเปลี่ยนมาปรากฏอยู่เบื้องหน้าสายตาของอาวุโสเพิ่ง

ระยะห่างเพียงเอื้อมมือคว้า ชีวิตของมันก็สามารถปลิดปลิวออกจากร่างได้ทุกขณะ

“ไม่ ! ข้าไม่ยอมรับ ! !”

อาวุโสเพิ่งแหกปากร้องตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด

“ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าให้คงอยู่เป็นภัยคุกคามคนตระกูลเฟิง แม้นในวันนี้ ข้าจะต้องสูญเสียพลังวัตรทั้งหมด ข้าก็จะลากคอเจ้ากลับคืนขุมนรกให้จงได้ ! !”

สิ้นถ้อยคําร้องลั่น จิตปราณขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณที่อัดแน่นภายในจุดตันเถียนของมันพลันระเบิดรัศมีเจิดจ้า

“แย่แล้ว ! มันหมายระเบิดร่าง !”

เสียงชิงหลงร้องอุทานลั่น

“นายท่านหลบ !”

ร่างของอาวุโสเพิ่งสว่างไสวเจิดจ้าตา มันค่ารามเสียงหัวเราะในลําคอ

“หนานกงยว เจ้าไม่มีทางหยุดยั้งได้อย่างแน่นอน เมื่อใดที่ปราณย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณเกิดการระเบิด ทั่วอาณาบริเวณหลายร้อยล์โดยรอบย่อมแหลกราญ ทั้งเจ้า ทั้งคนของเจ้า ล้วนได้หนทางต้านทาน

“ไปตายซะ !!!!!”

หากแต่ในแววตาที่จับจ้องชายชราเบื้องหน้าของชายหนุ่มกลับปรากฏเพียงอาการขบขัน

อาวุโสเพิ่งชักฝ่าเท้าขยับอย่างเชื่องช้า ทว่าคลับคล้ายกระทบเข้ากับบางสิ่ง

ยังมิทันหันกลับแลมอง ความเย็นยะเยือกสายหนึ่งพลันวาบขึ้นด้านหลังพร้อมอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง

มีผู้เจาะทะลวงจุดตันเถียน รวบกุมปราณจิตย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณซึ่งพร้อมแตกระเบิดของเขากระนั้นหรือ ?”

ชั่วอึดใจ ทุกผู้คนล้วนต้องตื่นตะลึงงงงัน

เมื่อผู้ยืนตระหง่านเบื้องหน้าอาวุโสเพิ่งคือบุรุษหนุ่มหนานกงยว ขณะด้านหลังเขาก็คือหนานกงยวี่ผู้ยึดกุมจิตปราณย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณของเขา

สองหนานกงยวี่ หนึ่งหน้าหนึ่งหลัง ยืนประกบอาวุโสเพิ่งผู้กําลังเร่งเร้าพลังระเบิดจิตปราณในร่าง ทว่ายามนี้กลับเสมือนถูกขุมพลังที่แข็งแกร่งครอบงําบีบคั้นมิอาจเคลื่อนไหว

***จบตอน มิอาจกลับคืน***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 573 มิอาจกลับคืน

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 573 มิอาจกลับคืน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 573 มิอาจกลับคืน

กระบี่ผนึกมังกรเทียมซึ่งถูกโยนขึ้นให้ลอยคว้างอยู่กลางอากาศพลันปักที่มลงมาในทันที ถึงลูกดอกอาคมของท่านอาวุโสกระเด็นสะท้อนร่วงไป

ฝ่ามือแกร่งที่เย็นยะเยียบได้รูปเอื้อมคว้าจกลําคอ ปิดกั้นการเข้าออกแห่งลมหายใจของมันในทันที

มันอยากเล่นเสียงหัวร่อ เมื่อมันคือยอดฝีมือขั้นปราณที่ห้า ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ มันย่อมสามารถดูดซับกระแสพลังทางจิตวิญญาณจากทั่วทุกอณูแห่งชั้นบรรยากาศ แม่ไม่อาจหายใจ หรือแม้กระทั่งหัวใจหยุดเต้น ตราบเท่าที่มันคือยอดฝีมือขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ มันย่อมไม่ถึงแก่ความตาย !

ทว่า !!! มันกลับหัวเราะไม่ออก

เมื่อมันเริ่มค้นพบว่าทั่วร่างยามนี้คล้ายถูกพลังที่เย็นยะเยือกสายหนึ่งเข้าปิดล้อม คลื่นพลังใด ๆ ล้วนไม่อาจแสดงผล แม้นเพียงหมายขยับเขยื้อนร่างกายก็ยังมิอาจ!!

นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร ? เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ?

ไม่สมควรมีผู้ใดกระทําเช่นนี้ได้ มิใช่ ! ไม่มีทางที่ผู้ใดจะกระทําเช่นนี้ได้เลยต่างหาก ! กระทั่ง ผู้สามารถบรรลุถึงระดับสูงสุดของพลังปราณขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณก็เป็นไปไม่ได้ที่จะกระทําเช่นนี้

มิใช่ ! พึงมี ! ตามตํานานที่เล่าขานสืบต่อกันมาในทวีปหมีหลัว ยังมีเคล็ดวิชาชุดหนึ่ง ซึ่งสามารถครอบง่าพลังของผู้อื่น ทั้งสามารถควบคุมกระทั่งถ่ายเทกระแสพลังของผู้อื่นดั่งใจปรารถนา

เคล็ดวิชา…มนตราอันธการ !

สองตาของมันเบ็งโพลง สายตาของมันจับจ้องดวงหน้าอันหล่อเหลาของหนุ่มน้อยเบื้องหน้าด้วยความเหลือเชื่อ

เป็นไปได้อย่างไร ? หนานกงยี่เพิ่งมีวัยแค่เพียงยี่สิบ ! เป็นไปได้อย่างไร !!!!

สิ่งนั้นคือประมวลความครั้งสุดท้ายในหัวของมันก่อนในหูจะก่องดังเสียง กร็อก ทั่วร่างอ่อนระทวยร่วงล้ม เพื่อเข้าสู่ห้วงแห่งนิทราอันเป็นนิรันดร์

อาวุโสเพิ่งแทบไม่เชื่อสายตา มันเคยคิดว่าตนสามารถกําราบชายหนุ่มเบื้องหน้าให้ยอมสิโรราบ

หากทว่า เพียงชั่วพริบตา ศิษย์น้องทั้งสองของมันกลับถูกหนานกงย-สังหารอย่างง่ายดาย

เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร พลังวัตรของหนานกงยวอยู่ในระดับกลางของพลังปราณขั้นห้า ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณมิใช่หรือ ?

อาวุโสเพิ่งส่งเสียงคํารามด้วยอาการคลุ้มคลั่ง ขณะสะบัดโคมหลิวหลีเข้าจู่โจมหนานกงยวี่ อย่างมิให้ทันตั้งตัว

เสียงมังกรร้องคํารามก๊กก้องทั่วท้องนภา ก่อนกระบี่ผนึกมังกรเทียมจะตรงเข้าปะทะโคมหลิวหลี บังเกิดเสียงดังสนั่นกัมปนาท

โคมหลิวหลีพลันแตกแหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี ภายใต้ฝุ่นควันที่ฟังตลบทั่วชั้นบรรยากาศ

กระบี่ผนึกมังกรเทียมคืนกลับเข้าสู่อุ้งมือของหนานกงยีในสภาพสมบูรณ์ไร้รอยขีดข่วน

ยามนี้ร่างกํายําของชายหนุ่มได้แปรเปลี่ยนมาปรากฏอยู่เบื้องหน้าสายตาของอาวุโสเพิ่ง

ระยะห่างเพียงเอื้อมมือคว้า ชีวิตของมันก็สามารถปลิดปลิวออกจากร่างได้ทุกขณะ

“ไม่ ! ข้าไม่ยอมรับ ! !”

อาวุโสเพิ่งแหกปากร้องตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด

“ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าให้คงอยู่เป็นภัยคุกคามคนตระกูลเฟิง แม้นในวันนี้ ข้าจะต้องสูญเสียพลังวัตรทั้งหมด ข้าก็จะลากคอเจ้ากลับคืนขุมนรกให้จงได้ ! !”

สิ้นถ้อยคําร้องลั่น จิตปราณขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณที่อัดแน่นภายในจุดตันเถียนของมันพลันระเบิดรัศมีเจิดจ้า

“แย่แล้ว ! มันหมายระเบิดร่าง !”

เสียงชิงหลงร้องอุทานลั่น

“นายท่านหลบ !”

ร่างของอาวุโสเพิ่งสว่างไสวเจิดจ้าตา มันค่ารามเสียงหัวเราะในลําคอ

“หนานกงยว เจ้าไม่มีทางหยุดยั้งได้อย่างแน่นอน เมื่อใดที่ปราณย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณเกิดการระเบิด ทั่วอาณาบริเวณหลายร้อยล์โดยรอบย่อมแหลกราญ ทั้งเจ้า ทั้งคนของเจ้า ล้วนได้หนทางต้านทาน

“ไปตายซะ !!!!!”

หากแต่ในแววตาที่จับจ้องชายชราเบื้องหน้าของชายหนุ่มกลับปรากฏเพียงอาการขบขัน

อาวุโสเพิ่งชักฝ่าเท้าขยับอย่างเชื่องช้า ทว่าคลับคล้ายกระทบเข้ากับบางสิ่ง

ยังมิทันหันกลับแลมอง ความเย็นยะเยือกสายหนึ่งพลันวาบขึ้นด้านหลังพร้อมอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง

มีผู้เจาะทะลวงจุดตันเถียน รวบกุมปราณจิตย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณซึ่งพร้อมแตกระเบิดของเขากระนั้นหรือ ?”

ชั่วอึดใจ ทุกผู้คนล้วนต้องตื่นตะลึงงงงัน

เมื่อผู้ยืนตระหง่านเบื้องหน้าอาวุโสเพิ่งคือบุรุษหนุ่มหนานกงยว ขณะด้านหลังเขาก็คือหนานกงยวี่ผู้ยึดกุมจิตปราณย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณของเขา

สองหนานกงยวี่ หนึ่งหน้าหนึ่งหลัง ยืนประกบอาวุโสเพิ่งผู้กําลังเร่งเร้าพลังระเบิดจิตปราณในร่าง ทว่ายามนี้กลับเสมือนถูกขุมพลังที่แข็งแกร่งครอบงําบีบคั้นมิอาจเคลื่อนไหว

***จบตอน มิอาจกลับคืน***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+