หัตถ์เทวะธิดาพญายม 511 ฝันไปเถิด !

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 511 ฝันไปเถิด ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 511 ฝันไปเถิด !

เพียงได้ยิน เฟิงเหลียนอิ่งพลันรีบปั้นหน้าตื่นตกใจ

“ไอหย่า น้องชูเอ่อความหมายของเจ้าก็คือ เมื่อคุณชายซีช่วยชีวิตเจ้าไว้ แม้นเขาจะลงมือสังหารผู้คนไปมากมายล้วนไม่นับเป็นเรื่องใหญ่อันใด ถูกต้องหรือไม่ ?”

เฉินซึ่งชทิ้งหางตามองอีกฝ่ายด้วยอาการนิ่งอึ้งมิรู้จะต่อค่าใด

เฉินเซินลกพรวดจากที่นั่ง น้ําเสียงของเขาทั้งแข็งกร้าวทั้งเย็นเยียบ

“แม่นางเฟิง โปรดระมัดระวังถ้อยค่า….”

“ไอหย่า เหตุใดท่านอาจารย์เฉินจึงขู่กรรโชกพวกเราเช่นนี้ ? อาจเป็นได้หรือไม่ที่พวกท่านคิดปกป้องผู้ร้าย ?”

เพิ่งอวินจึงพลันส่งเสียงแทรกขัดด้วยอาการเย้ยหยันในทันที

“หากอาจารย์เฉินคิดช่วยปกป้องซีเยว่ แม้คนผู้นั้นจะกระทําผิดหนักหนาสักเพียงไร เช่นนั้น เหตุใดท่านจึงเรียกร้องให้เหล่าชาวยุทธเข้าร่วมเป็นสักขีพยานรู้เห็นด้วยเล่า ? เมื่อผลที่สุดกลับกลายเป็นเช่นนี้ อาจารย์เฉิน ท่านจะเปลี่ยนความคิดหรือไม่เล่า ?”

คํากล่าวของเฟงอวิ่นจึงช่วยกระตุ้นเร้าความขุ่นเคืองของเฉินเซินได้เป็นอย่างดี

กระทั่งอาวุโสจากสํานักใหญ่ทั้งสองผู้ชมละครจิ๋วโรงใหญ่ด้วยความบันเทิงยังเข้าร่วมประสมโรง

อาวุโสแห่งวังเจ็ดดารายกมือขึ้นลูบเครายาวพลางกล่าววาจาล้ําลึก

“อาจารย์เฉิน เฒ่าผู้นี้เคยได้ยินกิตติศัพท์ว่าตระกูลเฉินของท่านเป็นผู้เที่ยงธรรมมาโดยตลอด ไม่ควรเลยที่ท่านจะปล่อยให้มารตัวน้อยผู้นี้ทําลายชื่อเสียงของตระกูลเฉินที่สั่งสมมาเนิ่นนานนับพันปี”

“ข้าเชื่อว่าแม้นหากเฉินจังจ่อยู่ร่วมในที่นี้ ย่อมสามารถตัดสินใจได้ถูกต้อง

อาวุโสสันแห่งสํานักนทีจันทราอยู่ในอาการเดือดดาล เมื่อเหล่าศิษย์สํานักนที่จันทราต้องล้มตายเป็นจํานวนมาก ทว่ากลับมิได้สิ่งใดติดมือกลับมาจากเขตแดนผนึกมังกร

แววตาเฉียบคมที่เย็นชาหันมาทิ่มแทงใส่เฉินเซิน

“อาวุโสเซียกล่าวได้ถูกต้อง มารน้อยตนนี้จิตใจอํามหิตโหดร้าย หากปล่อยให้มันมีโอกาสเติบใหญ่ย่อมต้องเป็นภัยกับยุทธภพ การที่ท่านอาจารย์เฉินออกหน้าปกป้องคนผู้นี้จักทําให้พี่น้องชาวยุทธเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในสํานักเมฆาแดงของท่านได้ !”

ยามนี้บรรยากาศภายในท้องพระโรงกําลังร้อนระอุ สามสํานักใหญ่ต่างพากันรุมติเตียนตระกูลเฉิน ขณะสํานักน้อย ตระกูลใหญ่ทั้งหลายล้วนพากันกระซิบกระซาบชี้มือไม้มาทางเฉินเซินอย่างไม่หวั่นเกรง ความขุ่นเคือง ความฉงนสงสัยเริ่มทวีมากยิ่งขึ้นทุกขณะ

เพิ่งอขึ้นจึงมองภาพฉากเบื้องหน้าด้วยแววตาที่แสดงออกถึงความพึงพอใจ ยิ่งการสืบสาวคดีความยืดเยื้อมากเท่าไร บรรยากาศในที่ประชุมชนก็ยิ่งครึกครื้นมากขึ้นเพียงนั้น

สายตาของเขาไม่อาจละคลายไปจากเกอซีผู้ยืนอยู่เบื้องหน้า ปลายขนตายาวงอนงามราวขนนกที่สันกระเพื่อมน้อย ๆ ทอดสายเงาลงบนเนินผิวขาวสล้างงดงามแนวแผ่นหลังตั้งตรงให้ความรู้สึกถึงความอ่อนแอบอบบางน่าพิสมัย

อีกเพียงไม่ช้านาน คนผู้นี้จะต้องกลายเป็นของเขาเท่านั้น !

เพียงคิดได้เช่นนั้นเพิ่งอวินจึงพลันรวบรวมส่งกระแสจิตลอบสื่อสารกับเกอซี

“ซีเยว่ หากเจ้ายินยอมเป็นคนของข้า ข้าย่อมสามารถช่วยล้างมลทินในครานี้ให้เจ้าได้ เจ้าจักไม่ต้องถูกชาวยุทธทั่วหล้าเรียกขานว่า “มารปีศาจ อีกต่อไปอย่างไรเล่า”

ครั้นเมื่อเกอซีหันกลับมาจึงพบนัยน์ตาที่ร้อนแรงแผดเผาด้วยเพลิงตัณหา แววตาที่เผยถึงความใคร่ปรารถนาครอบครองอย่างเหลือแสนของอีกฝ่าย

มุมปากของนางขยักยกเผยรอยยิ้มเยาะอยู่ในที ก่อนริมฝีปากสีชมพูระเรื่อจะเผยอเผยถ้อยค่าเพียงหนึ่งประโยค

“ฝันไปเถิด !”

ใบหน้าของเฟงอวินจึงบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว เขาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะหันมากล่าวคํากับเฉินเซิน

“อาจารย์เฉิน ท่านยังต้องการชี้แจงสิ่งใดอีกหรือไม่ ?”

สองคิวของเฉินเซินขมวดแน่น ขณะหันมาเอ่ยปากไถ่ถามเกอซี

“ซีเยว่ เจ้ามีสิ่งใดจะแถลงความหรือไม่ ?”

ผู้ถูกซักถามส่ายหน้าเล็กน้อย

“ไม่”

ฉางกวนเหวินจี้ผู้นั่งอยู่เหนือบัลลังก์มังกรยกฝ่ามือตบที่วางแขนด้วยความสะใจในทันที

“หลักฐานชัดแจ้ง ทุกสิ่งเป็นที่ประจักษ์ ! ทหาร ! ลากตัวซีเยวผู้นี้ไป…..”

“ช้าก่อน”

เสียงเนิบช้าไร้ความอาทรร้อนใจของเกอซีพลันดังแทรกเสียงออกคําสั่งของฉางกวนเหวินจี

อีกฝ่ายขึ้นเสียงดูแคลน

“เมื่อครู่เจ้าเพิ่งยอมรับว่าได้ถ้อยค่าจะชี้แจง แล้วอย่างไร ? ยามนี้เกิดกลัวตาย คิดอยากโต้แย้งขึ้นมากระนั้นหรือ ?”

***จบตอน ฝันไปเถิด !***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หัตถ์เทวะธิดาพญายม 511 ฝันไปเถิด !

Now you are reading หัตถ์เทวะธิดาพญายม Chapter 511 ฝันไปเถิด ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 511 ฝันไปเถิด !

เพียงได้ยิน เฟิงเหลียนอิ่งพลันรีบปั้นหน้าตื่นตกใจ

“ไอหย่า น้องชูเอ่อความหมายของเจ้าก็คือ เมื่อคุณชายซีช่วยชีวิตเจ้าไว้ แม้นเขาจะลงมือสังหารผู้คนไปมากมายล้วนไม่นับเป็นเรื่องใหญ่อันใด ถูกต้องหรือไม่ ?”

เฉินซึ่งชทิ้งหางตามองอีกฝ่ายด้วยอาการนิ่งอึ้งมิรู้จะต่อค่าใด

เฉินเซินลกพรวดจากที่นั่ง น้ําเสียงของเขาทั้งแข็งกร้าวทั้งเย็นเยียบ

“แม่นางเฟิง โปรดระมัดระวังถ้อยค่า….”

“ไอหย่า เหตุใดท่านอาจารย์เฉินจึงขู่กรรโชกพวกเราเช่นนี้ ? อาจเป็นได้หรือไม่ที่พวกท่านคิดปกป้องผู้ร้าย ?”

เพิ่งอวินจึงพลันส่งเสียงแทรกขัดด้วยอาการเย้ยหยันในทันที

“หากอาจารย์เฉินคิดช่วยปกป้องซีเยว่ แม้คนผู้นั้นจะกระทําผิดหนักหนาสักเพียงไร เช่นนั้น เหตุใดท่านจึงเรียกร้องให้เหล่าชาวยุทธเข้าร่วมเป็นสักขีพยานรู้เห็นด้วยเล่า ? เมื่อผลที่สุดกลับกลายเป็นเช่นนี้ อาจารย์เฉิน ท่านจะเปลี่ยนความคิดหรือไม่เล่า ?”

คํากล่าวของเฟงอวิ่นจึงช่วยกระตุ้นเร้าความขุ่นเคืองของเฉินเซินได้เป็นอย่างดี

กระทั่งอาวุโสจากสํานักใหญ่ทั้งสองผู้ชมละครจิ๋วโรงใหญ่ด้วยความบันเทิงยังเข้าร่วมประสมโรง

อาวุโสแห่งวังเจ็ดดารายกมือขึ้นลูบเครายาวพลางกล่าววาจาล้ําลึก

“อาจารย์เฉิน เฒ่าผู้นี้เคยได้ยินกิตติศัพท์ว่าตระกูลเฉินของท่านเป็นผู้เที่ยงธรรมมาโดยตลอด ไม่ควรเลยที่ท่านจะปล่อยให้มารตัวน้อยผู้นี้ทําลายชื่อเสียงของตระกูลเฉินที่สั่งสมมาเนิ่นนานนับพันปี”

“ข้าเชื่อว่าแม้นหากเฉินจังจ่อยู่ร่วมในที่นี้ ย่อมสามารถตัดสินใจได้ถูกต้อง

อาวุโสสันแห่งสํานักนทีจันทราอยู่ในอาการเดือดดาล เมื่อเหล่าศิษย์สํานักนที่จันทราต้องล้มตายเป็นจํานวนมาก ทว่ากลับมิได้สิ่งใดติดมือกลับมาจากเขตแดนผนึกมังกร

แววตาเฉียบคมที่เย็นชาหันมาทิ่มแทงใส่เฉินเซิน

“อาวุโสเซียกล่าวได้ถูกต้อง มารน้อยตนนี้จิตใจอํามหิตโหดร้าย หากปล่อยให้มันมีโอกาสเติบใหญ่ย่อมต้องเป็นภัยกับยุทธภพ การที่ท่านอาจารย์เฉินออกหน้าปกป้องคนผู้นี้จักทําให้พี่น้องชาวยุทธเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในสํานักเมฆาแดงของท่านได้ !”

ยามนี้บรรยากาศภายในท้องพระโรงกําลังร้อนระอุ สามสํานักใหญ่ต่างพากันรุมติเตียนตระกูลเฉิน ขณะสํานักน้อย ตระกูลใหญ่ทั้งหลายล้วนพากันกระซิบกระซาบชี้มือไม้มาทางเฉินเซินอย่างไม่หวั่นเกรง ความขุ่นเคือง ความฉงนสงสัยเริ่มทวีมากยิ่งขึ้นทุกขณะ

เพิ่งอขึ้นจึงมองภาพฉากเบื้องหน้าด้วยแววตาที่แสดงออกถึงความพึงพอใจ ยิ่งการสืบสาวคดีความยืดเยื้อมากเท่าไร บรรยากาศในที่ประชุมชนก็ยิ่งครึกครื้นมากขึ้นเพียงนั้น

สายตาของเขาไม่อาจละคลายไปจากเกอซีผู้ยืนอยู่เบื้องหน้า ปลายขนตายาวงอนงามราวขนนกที่สันกระเพื่อมน้อย ๆ ทอดสายเงาลงบนเนินผิวขาวสล้างงดงามแนวแผ่นหลังตั้งตรงให้ความรู้สึกถึงความอ่อนแอบอบบางน่าพิสมัย

อีกเพียงไม่ช้านาน คนผู้นี้จะต้องกลายเป็นของเขาเท่านั้น !

เพียงคิดได้เช่นนั้นเพิ่งอวินจึงพลันรวบรวมส่งกระแสจิตลอบสื่อสารกับเกอซี

“ซีเยว่ หากเจ้ายินยอมเป็นคนของข้า ข้าย่อมสามารถช่วยล้างมลทินในครานี้ให้เจ้าได้ เจ้าจักไม่ต้องถูกชาวยุทธทั่วหล้าเรียกขานว่า “มารปีศาจ อีกต่อไปอย่างไรเล่า”

ครั้นเมื่อเกอซีหันกลับมาจึงพบนัยน์ตาที่ร้อนแรงแผดเผาด้วยเพลิงตัณหา แววตาที่เผยถึงความใคร่ปรารถนาครอบครองอย่างเหลือแสนของอีกฝ่าย

มุมปากของนางขยักยกเผยรอยยิ้มเยาะอยู่ในที ก่อนริมฝีปากสีชมพูระเรื่อจะเผยอเผยถ้อยค่าเพียงหนึ่งประโยค

“ฝันไปเถิด !”

ใบหน้าของเฟงอวินจึงบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว เขาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะหันมากล่าวคํากับเฉินเซิน

“อาจารย์เฉิน ท่านยังต้องการชี้แจงสิ่งใดอีกหรือไม่ ?”

สองคิวของเฉินเซินขมวดแน่น ขณะหันมาเอ่ยปากไถ่ถามเกอซี

“ซีเยว่ เจ้ามีสิ่งใดจะแถลงความหรือไม่ ?”

ผู้ถูกซักถามส่ายหน้าเล็กน้อย

“ไม่”

ฉางกวนเหวินจี้ผู้นั่งอยู่เหนือบัลลังก์มังกรยกฝ่ามือตบที่วางแขนด้วยความสะใจในทันที

“หลักฐานชัดแจ้ง ทุกสิ่งเป็นที่ประจักษ์ ! ทหาร ! ลากตัวซีเยวผู้นี้ไป…..”

“ช้าก่อน”

เสียงเนิบช้าไร้ความอาทรร้อนใจของเกอซีพลันดังแทรกเสียงออกคําสั่งของฉางกวนเหวินจี

อีกฝ่ายขึ้นเสียงดูแคลน

“เมื่อครู่เจ้าเพิ่งยอมรับว่าได้ถ้อยค่าจะชี้แจง แล้วอย่างไร ? ยามนี้เกิดกลัวตาย คิดอยากโต้แย้งขึ้นมากระนั้นหรือ ?”

***จบตอน ฝันไปเถิด !***

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+