เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 255.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 255.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 255

“เสด็จมาแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท”

“ฝ่าบาทล่ะ”

“วันนี้ก็เหมือนเคยพ่ะย่ะค่ะ ซ้ำร้ายยังดูจะอาการแย่ลงด้วย…”

อัศวินที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องบรรทมส่ายหน้าเบาๆ

“แต่ในเมื่อเจ้าชายเสด็จมาเยี่ยม พระองค์จะต้องยินดีแน่พ่ะย่ะค่ะ ดูเหมือนจะรอเจ้าชายอยู่ทั้งวัน”

“อย่างนั้นหรือ”

เฟเรสตอบสั้นๆ แต่ก็ไม่อาจห้ามไม่ให้มุมปากข้างหนึ่งกระตุกขึ้นได้

องค์จักรพรรดิเฝ้ารอการมาของเขาอย่างนั้นหรือ

ชุดน้ำชาบนถาดในมือส่งเสียงดังแกรกเบาๆ

“เปิดประตู”

“พ่ะย่ะค่ะ เจ้าชาย”

เหล่าอัศวินผู้จงรักภักดีรีบเปิดประตูห้องบรรทมขององค์จักรพรรดิออกอย่างรวดเร็ว

วันละสองครั้ง มันเป็นเวลาที่ถูกกำหนดเอาไว้อยู่แล้วว่าเฟเรสจะต้องมาชงชาให้โยบาเนส ดังนั้นนางกำนัลทั้งหลายจึงปลีกตัวออกไปจากห้องกันก่อนที่เขาจะมาถึง

“มาช้า”

โยบาเนสกล่าวพร้อมเสียงลมหายใจเหนื่อยอ่อนดังแฮก แฮก

พูดเช่นนี้เหมือนกันทุกครา

ข้างเตียงมีเศษแจกันแตกเป็นชิ้นตกอยู่บนพื้น ดูท่าทางวันนี้โยบาเนสก็คงไม่อาจเอาชนะอารมณ์ฉุนเฉียวของตัวเองได้อีกแล้ว

“กระหม่อมชงชามาถวายพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสเตรียมชามาเหมือนทุกวัน

น้ำชาร้อนกรุ่นถูกรินใส่แก้วชาใบหนาทนทานกว่าชุดน้ำชาทั่วไป เด็กหนุ่มช่วยส่งมันให้ถึงมือของโยบาเนส

ถึงแม้มือจะสั่นเทาไม่หยุด หายใจได้ลำบากแค่ไหน แต่โยบาเนสก็รีบรับชาแก้วนั้นมาถือไว้

“แปลกจริง ดื่มชานี่ทีไร ก็รู้สึกหายใจได้คล่องขึ้นมาก”

โยบาเนสกล่าวเช่นนั้น แล้วจิบน้ำชาลงคอ

สายตาของเฟเรสเฝ้ามองภาพนั้นอยู่เงียบๆ

“อีกแก้ว”

โยบาเนสรีบร้อนดื่มชาจนหมดไปถึงสองแก้ว

“ฮู่ว อืม ค่อยดีขึ้นหน่อย”

โยบาเนสยกมือขึ้นลูบอกตัวเองด้วยใบหน้าพอใจ

ตลอดระยะเวลาที่ได้แต่นอนซมติดเตียง โยบาเนสผ่ายผอมลงไปมากเสียจนไม่อาจจินตนาการได้ถึงภาพลักษณ์องอาจที่เคยมีในวันเก่าๆ

แต่นัยน์ตาคู่นั้นก็ยังมีแต่ความเหยียดหยามยามมองไปทางเฟเรสเหมือนเคย

“วันมะรืนใช่มั้ย พิธีราชาภิเษกของเจ้า”

“เป็นเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสยืนเอามือไขว้หลังนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน

โยบาเนสกระตุกยิ้มเย้ยหยันให้กับภาพนั้น

“คนอื่นๆ จะด่าทอสาปส่งลับหลังเจ้ามากเพียงใด องค์รัชทายาทของอาณาจักรกลับเป็นแค่คนอย่างเจ้าที่มีเลือดชั้นต่ำไหลเวียนอยู่ในกาย”

คนที่ปรารถนาอยากครอบครองนางกำนัลชั้นต่ำจนมีหนึ่งชีวิตถือกำเนิดลืมตาขึ้นบนโลกคือตัวโยบาเนสเองแท้ๆ แต่สายตาของโยบาเนสที่มองเฟเรสกลับไม่ได้มีความรู้สึกผิดเลยสักนิด

“ต้องช่วยชีวิตอาสทาน่า”

นี่เป็นคำที่โยบาเนสพูดบ่อยมากที่สุดในช่วงหลังมานี่

ราวกับคิดว่าคำพูดประโยคนี้จะยั่วโทสะเฟเรสได้

แต่เฟเรสก็มักจะตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยอยู่เสมอ

เหมือนอย่างตอนนี้

“อย่างน้อย…อาสทาน่า…ก็…ไม่เย่อหยิ่ง…เหมือนเจ้า…”

โยบาเนสหยุดชะงัก จู่ๆ ร่างกายรู้สึกได้ถึงอาการประหลาด

“แฮก แฮก”

ลมหายใจหอบถี่กว่าที่เคย สูดอากาศเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่เต็มปอดคล้ายกับปอดถูกบีบรัดจนแน่น

“แฮก รีบ…ไป…แพทย์หลวง…!”

หน้าอกรู้สึกอึดอัดไปหมด คอก็เหมือนถูกใครบีบจนหายใจไม่ออก

ลมหายใจหอบถี่ทำให้เสียงติดอยู่ในลำคอไม่อาจดังออกไปได้เต็มปาก

ทว่าเฟเรสกลับไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆ เขายังคงยืนเอามือไขว้หลังนิ่ง ในขณะที่สายตาจับจ้องไปยังโยบาเนสอยู่อย่างนั้น

“มะ…มัวทำอะไร…”

สุดท้ายโยบาเนสที่เคยนั่งเอนหลังอยู่บนเตียงก็หงายหลังล้มลงไป

ตุบ กลุก กลุก กลุก

แก้วชาในมือร่วงหล่นตกลงไปบนพื้นพรมผืนนา

ตึก

จังหวะนั้นเองที่เฟเรสยอมขยับกาย มือข้างหนึ่งเอื้อมไปเก็บแก้วชาขึ้นจากพื้น ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะเล็กข้างเตียงด้วยใบหน้าเย็นชา

“จะ…เจ้า…!”

โยบาเนสตระหนักอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ปลายนิ้วชี้ตรงไปยังเฟเรส

และเค้นเสียงสุดแรงเพื่อตะโกนออกไป

“ขะ…ข้างนอก…เรียกตัวแพทย์…”

ทว่าเสียงที่กว่าจะเค้นออกมาจากลำคอได้ ก็เป็นเพียงแค่เสียงแผ่วที่เบายิ่งกว่าเสียงหาวหวอดเสียอีก

“แค็ก แค็ก!”

มือเท้าทั้งสี่ของโยบาเนสเริ่มค่อยๆ แข็งจนขยับไม่ได้

เฟเรสหลุบตามองมือเท้าที่สั่นเทาไม่หยุด ก่อนจะเปิดปากพูด

“ตายเสียเถอะ เจ้าต้องตาย คนอื่นๆ ถึงจะค่อยสบายขึ้นหน่อยมิใช่หรือไง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 255.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 255.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 255

“เสด็จมาแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท”

“ฝ่าบาทล่ะ”

“วันนี้ก็เหมือนเคยพ่ะย่ะค่ะ ซ้ำร้ายยังดูจะอาการแย่ลงด้วย…”

อัศวินที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องบรรทมส่ายหน้าเบาๆ

“แต่ในเมื่อเจ้าชายเสด็จมาเยี่ยม พระองค์จะต้องยินดีแน่พ่ะย่ะค่ะ ดูเหมือนจะรอเจ้าชายอยู่ทั้งวัน”

“อย่างนั้นหรือ”

เฟเรสตอบสั้นๆ แต่ก็ไม่อาจห้ามไม่ให้มุมปากข้างหนึ่งกระตุกขึ้นได้

องค์จักรพรรดิเฝ้ารอการมาของเขาอย่างนั้นหรือ

ชุดน้ำชาบนถาดในมือส่งเสียงดังแกรกเบาๆ

“เปิดประตู”

“พ่ะย่ะค่ะ เจ้าชาย”

เหล่าอัศวินผู้จงรักภักดีรีบเปิดประตูห้องบรรทมขององค์จักรพรรดิออกอย่างรวดเร็ว

วันละสองครั้ง มันเป็นเวลาที่ถูกกำหนดเอาไว้อยู่แล้วว่าเฟเรสจะต้องมาชงชาให้โยบาเนส ดังนั้นนางกำนัลทั้งหลายจึงปลีกตัวออกไปจากห้องกันก่อนที่เขาจะมาถึง

“มาช้า”

โยบาเนสกล่าวพร้อมเสียงลมหายใจเหนื่อยอ่อนดังแฮก แฮก

พูดเช่นนี้เหมือนกันทุกครา

ข้างเตียงมีเศษแจกันแตกเป็นชิ้นตกอยู่บนพื้น ดูท่าทางวันนี้โยบาเนสก็คงไม่อาจเอาชนะอารมณ์ฉุนเฉียวของตัวเองได้อีกแล้ว

“กระหม่อมชงชามาถวายพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสเตรียมชามาเหมือนทุกวัน

น้ำชาร้อนกรุ่นถูกรินใส่แก้วชาใบหนาทนทานกว่าชุดน้ำชาทั่วไป เด็กหนุ่มช่วยส่งมันให้ถึงมือของโยบาเนส

ถึงแม้มือจะสั่นเทาไม่หยุด หายใจได้ลำบากแค่ไหน แต่โยบาเนสก็รีบรับชาแก้วนั้นมาถือไว้

“แปลกจริง ดื่มชานี่ทีไร ก็รู้สึกหายใจได้คล่องขึ้นมาก”

โยบาเนสกล่าวเช่นนั้น แล้วจิบน้ำชาลงคอ

สายตาของเฟเรสเฝ้ามองภาพนั้นอยู่เงียบๆ

“อีกแก้ว”

โยบาเนสรีบร้อนดื่มชาจนหมดไปถึงสองแก้ว

“ฮู่ว อืม ค่อยดีขึ้นหน่อย”

โยบาเนสยกมือขึ้นลูบอกตัวเองด้วยใบหน้าพอใจ

ตลอดระยะเวลาที่ได้แต่นอนซมติดเตียง โยบาเนสผ่ายผอมลงไปมากเสียจนไม่อาจจินตนาการได้ถึงภาพลักษณ์องอาจที่เคยมีในวันเก่าๆ

แต่นัยน์ตาคู่นั้นก็ยังมีแต่ความเหยียดหยามยามมองไปทางเฟเรสเหมือนเคย

“วันมะรืนใช่มั้ย พิธีราชาภิเษกของเจ้า”

“เป็นเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสยืนเอามือไขว้หลังนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน

โยบาเนสกระตุกยิ้มเย้ยหยันให้กับภาพนั้น

“คนอื่นๆ จะด่าทอสาปส่งลับหลังเจ้ามากเพียงใด องค์รัชทายาทของอาณาจักรกลับเป็นแค่คนอย่างเจ้าที่มีเลือดชั้นต่ำไหลเวียนอยู่ในกาย”

คนที่ปรารถนาอยากครอบครองนางกำนัลชั้นต่ำจนมีหนึ่งชีวิตถือกำเนิดลืมตาขึ้นบนโลกคือตัวโยบาเนสเองแท้ๆ แต่สายตาของโยบาเนสที่มองเฟเรสกลับไม่ได้มีความรู้สึกผิดเลยสักนิด

“ต้องช่วยชีวิตอาสทาน่า”

นี่เป็นคำที่โยบาเนสพูดบ่อยมากที่สุดในช่วงหลังมานี่

ราวกับคิดว่าคำพูดประโยคนี้จะยั่วโทสะเฟเรสได้

แต่เฟเรสก็มักจะตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยอยู่เสมอ

เหมือนอย่างตอนนี้

“อย่างน้อย…อาสทาน่า…ก็…ไม่เย่อหยิ่ง…เหมือนเจ้า…”

โยบาเนสหยุดชะงัก จู่ๆ ร่างกายรู้สึกได้ถึงอาการประหลาด

“แฮก แฮก”

ลมหายใจหอบถี่กว่าที่เคย สูดอากาศเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่เต็มปอดคล้ายกับปอดถูกบีบรัดจนแน่น

“แฮก รีบ…ไป…แพทย์หลวง…!”

หน้าอกรู้สึกอึดอัดไปหมด คอก็เหมือนถูกใครบีบจนหายใจไม่ออก

ลมหายใจหอบถี่ทำให้เสียงติดอยู่ในลำคอไม่อาจดังออกไปได้เต็มปาก

ทว่าเฟเรสกลับไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆ เขายังคงยืนเอามือไขว้หลังนิ่ง ในขณะที่สายตาจับจ้องไปยังโยบาเนสอยู่อย่างนั้น

“มะ…มัวทำอะไร…”

สุดท้ายโยบาเนสที่เคยนั่งเอนหลังอยู่บนเตียงก็หงายหลังล้มลงไป

ตุบ กลุก กลุก กลุก

แก้วชาในมือร่วงหล่นตกลงไปบนพื้นพรมผืนนา

ตึก

จังหวะนั้นเองที่เฟเรสยอมขยับกาย มือข้างหนึ่งเอื้อมไปเก็บแก้วชาขึ้นจากพื้น ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะเล็กข้างเตียงด้วยใบหน้าเย็นชา

“จะ…เจ้า…!”

โยบาเนสตระหนักอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ปลายนิ้วชี้ตรงไปยังเฟเรส

และเค้นเสียงสุดแรงเพื่อตะโกนออกไป

“ขะ…ข้างนอก…เรียกตัวแพทย์…”

ทว่าเสียงที่กว่าจะเค้นออกมาจากลำคอได้ ก็เป็นเพียงแค่เสียงแผ่วที่เบายิ่งกว่าเสียงหาวหวอดเสียอีก

“แค็ก แค็ก!”

มือเท้าทั้งสี่ของโยบาเนสเริ่มค่อยๆ แข็งจนขยับไม่ได้

เฟเรสหลุบตามองมือเท้าที่สั่นเทาไม่หยุด ก่อนจะเปิดปากพูด

“ตายเสียเถอะ เจ้าต้องตาย คนอื่นๆ ถึงจะค่อยสบายขึ้นหน่อยมิใช่หรือไง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด