Alchemy Emperor of the Divine Dao 1005

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1005 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงฮันไม่ได้ออกทะเลเพื่อหนีเจียงอันหยุน

ท่าเรือขวานทรราชเรือจะออกทุกสามวัน แต่ขนาดของเรือนั้นจะแตกต่างกัน

ตัวอย่างเช่น ครั้งนี้เป็นเรือขนาดใหญ่ ซึ่งไม่เพียงแค่รองรับผู้คนได้มากเท่านั้น แต่ยังมีกองกำลังรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ด้วยการคุ้มครองของจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นต้นชั้นสูงสุด

แต่ปัญหาคือหลิงฮันและสุ่ยเยี่ยนยวี่มาที่นี่เพื่อกำจัดโจรสลัด หากมีคนที่แข็งแกร่งคอยปกป้องเรืออยู่ พวกโจรสลัดก็คงไม่กล้าบุกมาปล้น

ดังนั้น พวกเขาทั้งสองคนจะต้องรอให้เรือเล็กออกจากท่าเรือ ภายใต้การคุ้มครองจากจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด มันก็จะมีโอกาสสูงมากที่โจรสลัดจะบุกมาปล้น

สามวันต่อมา เรือขนาดใหญ่ออกจากท่า ดังนั้นพวกเขาจะต้องรออีกสามวันเพื่อที่จะถึงคิวเรือเล็กออกจากท่า

หลังจากที่ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว หลิงฮันและภรรยาของเขาก็เข้าไปในหอคอยทมิฬเพื่อฝึกฝน

สุ่ยเยี่ยนยวี่ฝึกฝนทักษะยุทธ ในขณะที่หลิงฮันกำลังศึกษาปรุงยาตัวใหม่

ก่อนหน้านี้หลิงฮันเอาแต่ฝึกฝนบ่มเพาะพลัง ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาศึกษาค้นคว้าสูตรปรุงยา

ในฐานะที่เขาเป็นจักรพรรดินักปรุงยา แม้จะอาศัยอยู่ในโลกใบเล็ก เขาก็ยังสามารถหลอมเม็ดยากึ่งระดับศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากระดับเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์เท่าไหร่นัก

“การปรุงยามีสองอย่างที่สำคัญคือ อย่างแรกคือการควบคุมเปลวเพลิง อย่างที่สองคือผสานอักขระศักดิ์สิทธิ์ในเม็ดยา”

“ทั้งสองอย่างจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณ”

“และหลังจากที่ข้าได้ดื่มชาเกิดใหม่ ทำให้พลังวิญญาณของข้าแข็งแกร่งกว่าคนอื่นมาก อาจเทียบได้กับจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุด หากบวกคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เข้าไปด้วยแล้วจะไม่มีใครในระดับเดียวกันเทียบกับข้าได้”

“กล่าวคือข้าเหนือกว่าคนอื่นมาก”

“ส่วนในเรื่องของเทคนิคปรุงยา การหลอมเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้แตกต่างจากเม็ดยาทั่วไปนัก แค่ต้องใช้เปลวเพลิงที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นและผสานอักขระศักดิ์สิทธิ์ลงบนเม็ดยา”

“เริ่มกันเลย!”

หลิงฮันเริ่มหลอมเม็ดยาปราณสวรรค์ ซึ่งเป็นเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่หนึ่ง ประสิทธิภาพของมันคือจะช่วยให้จอมยุทธระดับภูผาวารีรวบรวมพลังปราณได้เร็วขึ้น ถึงแม้เม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ให้ประสิทธิภาพแบบนี้จะมีมากมาย แต่เม็ดยาปราณสวรรค์นั้นเป็นหนึ่งในเม็ดยาที่ดีที่สุดแล้ว

ต้องทราบก่อนว่าการกินเม็ดยาบ่อยนั้นจะเป็นเหมือนดาบสองคน ดังนั้นถ้าสามารถกินเม็ดยาได้แค่สิบเม็ด เช่นนั้นก็จะต้องเลือกกินเม็ดยาที่ดีที่สุด

ล้มเหลว ล้มเหลว ล้มเหลว

ท้ายที่สุดมันก็ยังคงเป็นเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์อยู่ดี เพราะหลิงฮันทำเตาหลอมระเบิดหลายครั้งราวกับเพิ่งหัดหลอมเม็ดยา แต่อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่เขาหลอมเม็ดยาล้มเหลว มันจะทำให้เขาก้าวหน้าขึ้นทีละเล็กน้อย

แต่น่าเสียดาย หกวันต่อมาถึงเวลาที่พวกเขาต้องออกทะเลแล้ว แต่หลิงฮันก็ยังคงหลอมเม็ดยาล้มเหลว

“หากข้าลองอีกสักสิบครั้ง ข้าจะต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอน”

หลิงฮันและสุ่ยเยี่ยนยวี่ออกจากหอคอยทมิฬและมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือ

ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเดินมาถึง พวกเขาก็เห็นกลุ่มคนกำลังเดินมาหาพวกเขาและมีบางคนที่พวกเขารู้จักที่ไม่ใช่เจียงอันหยุน

“นั่นมันคนตระกูลหลัว หลัวยวี่ หลัวอู้ และหลัวเซินหยุน หลัวเซินหยุนคือจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา เขาน่าจะทะลวงผ่านระดับนี้มานานกว่าสามหมื่นปีแล้ว และตอนนี้เขาน่าจะอยู่ในระดับสุริยันจันทราขั้นต้นชั้นสูงสุด” สุ่ยเยี่ยนยวี่กระซิบอยู่ข้างหูของหลิงฮัน

“ส่วนคนพวกนั้นคือจั่วเซียวและฟานหยง ผู้ติดตามอีกสองคนของจ้าวหยุน ตอนนี้ทั้งสองคนน่าจะทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุดแล้ว” สุ่ยเยี่ยนยวี่มองพวกมันขณะพูดกับหลิงฮัน

หลิงฮันพยักหน้า และเขาเห็นหนึ่งในสี่สตรีที่ชื่อเหลี่ยวหยิงที่เป็นผู้หญิงของซาหยวน ซึ่งนางเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีเหมือนกันและไม่ควรมองข้าม

นอกจากนั้นยังมีชายหนุ่มอายุประมาณสิบเจ็ดปี แต่ทะลวงผ่านระดับพลังของพระเจ้าแล้ว แต่เขาอยู่ระดับใดนั้นไม่แน่ชัด และสายตาของชายหนุ่มคนนั้นเป็นเหมือนเสือที่ทำให้คนที่ถูกจ้องมองต้องหวาดกลัว

หญิงสาวคนหนึ่งมีผิวพรรณที่ขาวเนียนเหมือนกับหยกและงดงามเหมือนกับนางฟ้าพร้อมกับริมฝีปากสีแดงเย้ายวน และถักเปีย แล้วมีจี้หยกอยู่ที่คอของนาง และนางดูเย็นชามากจนผู้คนกลัวที่จะเข้าใกล้

ชายหนุ่มจับด้ามดาบแน่นราวกับพร้อมที่จะชักดาบออกมาทุกเมื่อ

คนสุดท้ายคือชายหนุ่มสวมชุดเทาที่มีใบหน้าน่าเกลียด และราวกับไม่มีตัวตนในกลุ่มคนพวกนั้น

หลิงฮันมีอุปกรณ์บินแหวกเมฆาที่มีความรวดเร็วสูง แต่ตระกูลหลัว ตระกูลซา ตระกูลจ้าวรู้ว่าเขาจะมาที่นี่ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้เวลาเดินทางอยู่สักพักและในที่สุดก็มาถึงที่นี่

“ยังพอมีเวลาเหลืออีกเล็กน้อยก่อนที่เรือจะออก พวกเจ้าแต่ละคนต้องจ่ายผลึกก่อเกิดสิบก้อนก่อนขึ้นเรือ” ลูกเรือที่อยู่บนเรือตะโกนเสียงดัง

ชายหนุ่มชุดเทาขึ้นไปคนแรก ตามด้วยหญิงผิวขาว และชายถือดาบ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครขึ้นไปอีก

ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะยิ้มออกมา ดูเหมือนคนที่เหลือกำลังรอให้เขาขึ้นไปก่อน ถ้าเขาไม่ขึ้นเรือ พวกเขาก็จะไม่ขึ้นตาม

เอาแบบนั้นก็ได้!

เขาและสุ่ยเยี่ยนยวี่เดินขึ้นไปดาดฟ้าเรือและจ่ายผลึกก่อเกิดยี่สิบก้อนให้กับลูกเรือที่ยืนอยู่บนหัวเรือ

ทันใดนั้นเอง ผู้คนจากตระกูลหลัว ตระกูลซา และตระกูลจ้าวก็เคลื่อนไหวและจ่ายผลึกก่อเกิดเพื่อขึ้นเรือ

“เดี๋ยวก่อน ท่านเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราไม่สามารถโดยสารบนเรือลำนี้ได้” ลูกเรือบนหัวเรือพูดหยุดหลัวเซินหยุนที่เป็นคนของตระกูลหลัว

“ทำไมข้าจะขึ้นเรือไม่ได้อย่างนั้นรึ?” หลัวเซินหยุนกล่าวอย่างไม่พอใจ อีกฝ่ายเป็นแค่จอมยุทธระดับภูผาวารีแต่กล้าที่จะหยุดเขา? นี่ทำให้เขาโกรธจนตัวสั่น

“นายท่าน หากคิดจะใช้พลังข่มขู่โปรดไปทำในสถานที่อื่น เพราะที่นี่คือท่าเรือทรราช!” ชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวอย่างกะทันหันและมีสุริยันจันทราอยู่เบื้องหลัง “กฎของตระกูลหยางคือเรือเล็กจำกัดแค่จอมยุทธระดับภูผาวารีเท่านั้น นั่นเป็นเพราะเพื่อความปลอดภัยของทุกคนว่าจะไม่ถูกทำอะไรหลังจากท่าเรือ”

เรือเล็กมีจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุดเป็นผู้คุ้มกัน หากมีจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขึ้นมาด้วย ใครจะแข็งแกร่งที่สุด?

ดวงตาของหลัวเซินหยุนจ้องมองไปที่อีกฝ่ายอยู่สักพัก แต่เขาก็ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจและพูดกับหลัวยวี่กับหลัวอู้ไม่กี่คำก่อนที่จะลงจากดาดฟ้าเรือ

แต่ก่อนที่จะลงจากดาดฟ้าเรือนั้น เขาจ้องมองไปที่หลิงฮันด้วยจิตสังหาร ถึงแม้เขาจะไม่สามารถขึ้นเรือได้ หลัวยวี่และหลัวอู้ต่างก็เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูง ในขณะที่หลัวยวี่ทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดชั้นสูงสุดแล้ว เขาสามารถจัดการอีกฝ่ายได้ด้วยมือข้างเดียว

หลังจากนั้นไม่นาน เรือเล็กก็แล่นออกจากท่าเรือทรราชท่องไปในทะเลอันกว้างใหญ่

เรือที่พวกหลิงฮันโดยสารนั้นมันมีขนาดเล็กมาก ตัวเรือมีขนาดยาวเพียงสิบฟุตและสูงห้าฟุต ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสามชั้น ผู้โดยสารจะอยู่ชั้นบนสุด ลูกเรือจะอยู่ชั้นล่างสุด ส่วนชั้นกลางจะเป็นโกดังเก็บอาวุธอย่างเช่นปืนใหญ่ที่ใช้ผลึกก่อเกิดเป็นพลังงานเพื่อสร้างการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัว

อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วจะไม่ค่อยยิงปืนใหญ่เท่าไหร่นัก เพราะมันต้องใช้ผลึกก่อเกิดหลายก้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป

ยิ่งไปกว่านั้น แหล่งพลังงานของเรือลำนี้คือผลึกก่อเกิด ซึ่งตัวเรือจะมีรูปแบบอาคมอยู่หากลมนิ่ง รูปแบบอาคมก็จะเปิดใช้งานด้วยผลึกก่อเกิด

เมื่อท่าเรือเริ่มลับหายไปในสายตา สายตาของผู้คนจำนวนมากก็จ้องมองไปที่หลิงฮัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด