Alchemy Emperor of the Divine Dao 1056

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1056 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“สหายที่ว่าคือใคร?” หลิงฮันถาม

“พวกหลินยู่ หม่าซิงแล้วก็…” หลีเหว่ยเหว่ยไล่รายชื่อ “พวกเขาเป็นสหายที่เข้าร่วมสำนักตอนระดับทลายมิติกับเจ้า เมื่อวานพวกเขาถูกท้าประลองอย่างต่อเนื่องจนได้รับบาดเจ็บไปทีละคน”

“มีอะไรเกิดขึ้นงั้นรึ?” สีหน้าของหลิงฮันเปลี่ยนไป

หลีเหว่ยเหว่ยพยักหน้า “ถ้าให้คุณหนูคนนี้เดา นี่คงเป็นแผนการของชาหยวน เนื่องจากบิดาของเหล่าศิษย์ที่ไปท้าประลองเป็นคนของแม่ทัพชา”

“… เจ้าช่วยพูดให้ชัดเจนหน่อยได้รึไม่?” หลิงฮันถอนหายใจ

“ทำไมเจ้าถึงได้หัวช้าเช่นนี้!” หลีเหว่ยเหว่ยหงุดหงิด “พูดง่ายๆคือชาหยวนส่งพวกคนมาเมื่อวานแล้วบังคับให้สหายเจ้าสู้ด้วย พวกเขามีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติเหมือนกันดังนั้นจึงไม่มีใครห้ามการท้าประลองได้”

“คนของชาหยวนอยู่ในส่วนของศิษย์ระดับทลายมิติมานานหลายปี พวกเขาย่อมแข็งแกร่งกว่าพวกหลินยู่มาก”

หลิงฮันจับคาง นี่คือการข่มขู่จากชาหยวนถึงเขา?

อีกฝ่ายเคยส่งเหลี่ยวหยิงและองครักษ์สตรีอีกสี่คนมาสังหารเขาแต่ก็ล้มเหลว

“เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้ ใครใช้ให้เจ้าบรรลุระดับภูผาวารีขั้นกลางแล้วทำให้หาคนมาแก้แค้นไม่ได้ล่ะ?” หลีเหว่ยเหว่ยถอนหายใจ

ที่สำนักนภาสีชาด ศิษย์ในส่วนเดียวกันสามารถประลองกันได้ตลอดเวลา ตราบใดที่ไม่มีการสังหารหรือการตายเกิดขึ้นทางสำนักก็จะไม่ลงโทษพวกเขา แต่ศิษย์ที่อยู่ในส่วนที่สูงกว่าไม่เป็นฝ่ายสามารถท้าประลองศิษย์ส่วนที่ต่ำกว่าก่อน

หลิงฮันหัวเราะ “ที่ฝ่ายกลางสมควรมีคนของชาหยวนอยู่บ้างสินะ?”

หลีเหว่ยเหว่ยตื่นเต้นขึ้นมาทันทีและกล่าว “เจ้าคิดจะไปทุบตีคนพวกนั้น?”

หลิงฮันกล่าว “ในเมื่อชาหยวนไม่คิดจะเล่นตามกฎและทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อนไปด้วย ทำไมข้าจะต้องไปสนใจด้วย?”

“ดีมาก คุณหนูผู้นี้จะช่วยเจ้ารวบรวมรายชื่อเอง!” หลีเหว่ยเหว่ยคือเด็กสาวที่กลัวว่าโลกนี้จะสงบสุขเกินไป ดังนั้นนางจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะรวบรวมรายชื่อให้หลิงฮัน

แต่แน่นอนว่านางทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม เพียงแค่วันเดียวรายชื่อลูกน้องของชาหยวนก็ถูกรวบรวมเสร็จสิ้น

หลิงฮันนำรายชื่อไปและเริ่มท้าประลองศิษย์ของฝ่ายกลาง

ไม่ใช่เพียงแค่สำนักฝ่ายเหนือแต่เขายังไม่ท้าประลองอีกสามฝ่ายที่เหลือด้วย

ตอนนี้เขามีพลังบ่มเพาะอยู่ที่ระดับภูผาวารีขั้นกลางชั้นปลาย แต่แค่พลังต่อสู้ในตอนปกติของเขาก็เทียบเท่าขั้นสูงชั้นสูงสุดแล้ว ถ้าหากใช้ทักษะบัญญัติดาวเร็วหรือศรฆ่ามังกรทะลวงดารา พลังต่อสู้ก็จะเพิ่มไปอีกหนึ่งดาว!

การประลองย่อมเป็นเขาที่ทุบตีอยู่ฝ่ายเดียว

เรื่องที่วุ่นวายจนสำนักต้องประกาศห้ามไม่ให้หลิงฮันกับชาหยวนนำคนอื่นมาเกี่ยวข้องกับความบาดหมางของพวกเขาเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้กลับมาสงบเหมือนเดิม

ชาหยวน… จ้าวหลุน…

หลังฮันให้คำสัตย์ในใจว่าเมื่อเขามีอำนาจเพียงพอ เขาจะตัดหัวทั้งสองด้วยดาบของตัวเอง!

หลิงฮันเตรียมตัวกลับไปยังจักรวรรดิต้าหลิงด้วยความตื่นเต้น หลังจากผ่านไปหลายปีเขาคิดถึงพี่ชายทั้งสามของเขามาก และเขาตั้งใจว่าจะนำทรัพยากรกลับไปเสริมความแข็งแกร่งให้กับจักรวรรดิต้าหลิง

และในตอนนี้เองข่าวใหญ่ก็ถูกประกาศอย่างกะทันหัน

แคว้นราชสีห์ทองคำกับแคว้นพิรุณบูรพาแตกหักกัน

แคว้นราชสีห์คือหนึ่งในแคว้นภายใต้จักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ ส่วนแคว้นแคว้นพิรุณบูรพาเป็นแคว้นภายใต้จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ ทั้งสองแคว้นเป็นแคว้นชายแดนของสองจักรวรรดิราชวงศ์

ดังนั้นจักรวรรดิราชวงศ์ทั้งสองจึงให้ความสำคัญกับแคว้นเล็กๆสองแคว้นนี้มาก

ตอนนี้ทั้งสองแคว้นมีสงครามเกิดขึ้น จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะจึงต้องยื่นมือเข้าช่วย

จักรพรรดินีออกคำสั่งทันที โดยส่งให้กองกำลังที่นำโดยราชินีที่เก้าและศิษย์ของสำนักนภาสีชาดไปช่วยเหลือ

ทำไมต้องศิษย์ของสำนักนภาสีชาด?

อย่างแรกถึงศิษย์เหล่านี้จะเป็นอัจฉริยะแต่พวกเขาก็ไม่เคยเข้าร่วมสงครามจริง จักรพรรดินีจึงต้องการใช้โอกาสนี้มอบประสบการณ์ให้พวกเขา

อย่างที่สองศิษย์ของสำนักนภาสีชาดมีพลังบ่มเพาะจำกัดอยู่ที่ระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด ต่อให้พวกเขาเข้าร่วมสงคราม ขนาดของสงครามก็คงไม่ขยายกว้างขึ้น ไม่เช่นนั้นหากส่งจอมยุทธที่แข็งแกร่งกว่านี้ไปอาจจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดสงครามระหว่างจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิกับจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ

อย่างที่สามคือในเมื่อศิษย์เหล่านี้เป็นอัจฉริยะ พลังต่อสู้ของพวกเขาจึงไม่มีทางอ่อนแอและกองทัพที่เกิดจากศิษย์เหล่านี้ไม่อาจดูถูกได้

เมื่อองค์จักพรรดินีตัดสินใจเช่นนี้ย่อมไม่มีใครสามารถโต้แย้งได้ แทบจะในทันทีทั่วทั้งสำนักนภาสีชาดก็ทำการระดมกำลังพล

ศิษย์ที่ไม่ต้องเข้าร่วมสงครามคือศิษย์ระดับทลายมิติกับศิษย์ฝ่ายปรุงยา ส่วนศิษย์คนอื่นๆนอกจากนี้กระตือรือร้นเป็นอย่างมาก

ถึงแม้สงครามจะโหดเหี้ยม แต่มันก็เป็นวิธีเพิ่มชื่อเสียงให้ตัวเองได้เร็วที่สุดวิธีหนึ่ง

จักรวรรดิได้เสนอมาว่าถ้าจัดการศัตรูได้หนึ่งหมื่นคนจะถูกแต่งตั้งให้เป็นกองกำลังของจักวรรดิ!

ใครกันจะไม่ต้องการ?

ในสายตารุ่นเยาว์เหล่านี้ พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ การจะสังหารศัตรูบนสนามรบย่อมไม่ใช่เรื่องยาก ไม่มีใครคิดเตรียมใจไว้เลยว่าพวกเขาจะเป็นฝ่ายตกตายเอง

หลิงฮันที่มาจากโลกใบเล็กย่อมรู้ถึงความโหดเหี้ยมของสงครามดี ในสนามรบไม่มีการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่ง การโจมตีต่างๆจะโกลาหลมั่วซั่วไปหมด

แต่ซึ่งที่หลิงฮันไม่เข้าใจก็คือทำไมจักรพรรดินีถึงให้ราชินีที่เก้าเป็นคนนำกองทัพ

ไม่ใช่ว่าเขาดูถูกหูเฟยหยิน แต่หญิงสาวผู้นี้ไม่รู้จักวิธีการต่อสู้เลย

แต่ใครจะสามารถเปลี่ยนใจจักรพรรดินีได้?

หลังจากเตรียมการสามวันกองทัพก็ถูกส่งออกไป

“นายน้อยหลิง องค์ราชินีมีคำเชื้อเชิญมาถึงท่าน!” พวกเขาเพิ่งจะออกจากประตูเมือง องครักษ์หญิงก็เข้ามาหาหลิงฮันและพาเขาขึ้นไปยังรถม้าหรูหราที่อยู่ตรงกลางกองทัพ

นี่คือรถม้าของราชินีที่เก้าซึ่งมีขนาดพอๆกับลานที่พักขนาดย่อมๆและหรูหราอย่างมาก

หลิงฮันเข้าไปในรถม้าท่ามกลางสายตาของทุกคน

เมื่อเข้าไปไม่เพียงแค่เขาจะพบหูเฟยหยินแต่ยังเห็นสุ่ยเยียนยวี่ด้วย

“หลิงฮัน ข้าไม่ได้พบเจ้านานเลย!” หูเฟยหยินกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “หลังจากกลับมาข้าก็ถูกให้อยู่เฉยๆมาตลอด เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ข้าถูกส่งให้ออกไปนอก ข้าดีใจมากที่มีเจ้าอยู่ด้วย”

เขาชำเลืองไปยังหูเฟยหยินและอดแสดงท่าทีตกตะลึงออกมาไม่ได้

ขั้นสูง!

หญิงสาวคนนี้บรรลุระดับภูผาวารีขั้นสูงแล้ว ซึ่งสูงกว่าเขาเล็กน้อย

นี่เจ้ากินอะไรเข้าไป ทำไมถึงได้พัฒนาได้รวดเร็วเช่นนี้?

ต้องรู้ว่าหลิงฮันนั้นดูดซับแก่นพลังของจ้าวอสูรทำให้และฝึกฝนทักษะบ่มเพาะหกธาตุผสานเป็นหนึ่งทำให้พลังบ่มเพาะพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว! สามารถกล่าวได้ว่าเขาสามารถทะลวงผ่านชั้นพลังเล็กได้ภายในเวลาไม่กี่เดือน แต่สำหรับหูเฟยหยินแล้วนางทำได้อย่างไร?

คนแรกก็จ้าวหลุน ต่อก็มาหูเฟยหยิน การมีผู้หนุนหลังเป็นตัวตนระดับดาราทำให้จอมยุทธสามารถพัฒนาระดับพลังบ่มเพาะได้รวดเร็วเพียงนี้?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด