Alchemy Emperor of the Divine Dao 1033

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1033 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เหอๆ สภาพแวดล้อมที่นี่แปรปรวนไม่น้อย เหมาะสำหรับให้พวกเราต่อสู้กันยิ่งนัก!” จู่เล่อหยุนแสยะยิ้ม “โฮ่วหยาง ถ้าเจ้าไม่อยากตายที่นี่ก็ส่งมันมา!”

โฮ่วหยางหัวเราะและกล่าว “จู่เล่อหยุน เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้างั้นรึ? เจ้ามีพลังบ่มเพาะเพียงขั้นต้นชั้นสูงสุด ด้วยพลังต่อสู้สองดาวของข้าคนนี้ ถ้าหากสู้กันก็ไม่รู้หรอกนะว่าใครกันแน่ที่จะตาย”

“ข้ารู้เพียงแค่ว่าหากเจ้าไม่ส่งสิ่งนั้นมา ข้าจะสังหารเจ้า!” จู่เล่อหยุนกล่าว

“ทำไมกัน สิ่งนั้นไม่สามารถเปิดออกมาได้ เพื่อสิ่งที่ไม่รู้ว่าข้างในคืออะไรเจ้าถึงขนาดต้องยอมสู้ตายละทิ้งความพยายามในการบ่มเพาะพลังหลายหมื่นปีของเจ้าเลยรึ?” โฮ่วหยางกล่าวแนะนำ

จู่เล่อหยุนตอบกลับอย่างเกรี้ยวกราด “เจ้าและข้าพบสิ่งนั้นพร้อมกัน เจ้าบอกว่าพวกเราจะศึกษามันไปด้วยกันแท้ๆแต่เจ้ากลับขโมยมันไปคนเดียว ถ้าข้าไม่สังหารเจ้าแล้วข้าจะระงับความโกรธได้อย่างไร?”

โฮ่วหยางยิ้ม “ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะไร้เดียงสาเช่นนี้! ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าโดดเดี่ยวมาโดยตลอด ในหัวของเจ้ามีเพียงการบ่มเพาะพลัง เจ้ามันช่างโง่งม!”

“ตาย!” จู่เล่อหยุนโกรธและลงมือโจมตี

‘ตูม!’

ทันใดนั้นท้องฟ้าก็เกิดปรากฏการณ์สายฟ้าแลบ มหาสมุทรเกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงทำให้เกิดคลื่นน้ำขนาดร้อยฟุตที่สูงราวกับภูเขาท่าโถมลงมา

“บัดซบ ตัวตนระดับนั้นปะทะกันให้จอมยุทธตัวเล็กๆเช่นพวกเราติดร่างแหไปด้วย!” หลิงฮันสบถให้กับความโชคร้ายของตนเองเนื่องจากปรมาจารย์ระดับดาราสองคนเลือกปะทะกันบนท้องห้าเหนือหัวพวกเขา

สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้คือเผชิญหน้าผ่านพ้นไปให้ได้

หลิงฮันลุกขึ้นยืนต้านลมอยู่บริเวณบนหัวเรือโดยกำดาบแน่นอยู่ในมือ เมื่อคลื่นยักษ์ใกล้เข้ามา เขาก็คำรามและสะบั้นดาบออกไป เขาคิดจะสร้างรูตรงคลื่นเพื่อให้ตัวเรือแล่นทะลุคลื่น

‘ฉึบ ฉึบ ฉึบ ฉึบ’ เขาสะบั้นดาบรัวไม่ยั้ง

คลื่นมหาสมุทรหนามาก ดาบสามารถผ่าเปิดช่องว่างได้ลึกเพียงสิบฟุต ดังนั้นเขาจึงต้องกระหน่ำสะบั้นดาบอย่างต่อเนื่อง

ในที่สุดเรือก็แล่นทะลุคลื่นไปได้สำเร็จ หลิงฮันในตอนนี้เหนื่อยล้ามาก

ครืน! ครืน! ครืน!

ยังไม่ทันที่หลิงฮันจะได้พักหายใจ เขาก็มองเห็นคลื่นยักษ์มากมายถาโถมเข้ามาไม่หยุด

“ให้ตายเถอะ!” หลิงฮันต้องการยอมแพ้และนำเรือเข้าไปในหอคอยทมิฬพร้อมกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ เมื่อจอมยุทธระดับดาราทั้งสองคนสู้กันเสร็จเขาจึงค่อยกลับออกมาและออกเดินเรืออีกครั้ง

แต่การจะได้เห็นการต่อสู้ระหว่างจอมยุทธระดับดารานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หากได้เห็นการต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองความเข้าใจของหลิงฮันจะต้องพัฒนาขึ้นแน่นอน

ดังนั้นเขาจึงกัดฟันยอมทนต่อไป

เขากวัดแกว่งดาบใช้ทักษะหมื่นผสานเป็นหนึ่งเพื่อทะลวงคลื่น

โชคดีที่ตอนนี้พลังบ่มเพาะของเขาสูงแล้ว การเผาผลาญพลังงานจากการใช้หมื่นแปรผันเป็นหนึ่งจึงลดลงอย่างมาก

แต่แน่นอนว่าปัจจัยหลักที่ทำให้เขาใช้ทักษะได้อย่างต่อเนื่องเป็นเพราะกายหยาบที่ทรงพลังของเขา ไม่เช่นนั้นหากเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีทั่วไปแขนของพวกเขาคงจะอ่อนแรงจนยกไม่ขึ้นแล้ว

หลิงฮันยังคงพยายามต่อต้านอย่างสุดความสามารถ

เพียงแต่ว่าการต่อสู้ของปรมาจารย์ระดับดาราทั้งสองก็ยิ่งรุนแรงขึ้น หมู่เมฆถูกพัดกระจาย แสงจากดวงตะมันสาดฉายลงมาทั่วทำให้ดูราวกับท้องฟ้ากำลังถูกเผาไหม้

ทรงพลังสมเป็นระดับดับดารา

หลิงฮันรู้สึได้เพียงว่าต่อหน้าตัวตนเช่นนี้เขาเป็นเพียงมดปลวก ไม่สิ อาจจะต่ำกว่ามดปลวกเสียด้วยซ้ำ ถ้าใครสักคนในสองคนนี้ต้องการสังหารเขา พวกเขาไม่จำเป็นต้องลงมือเพียงแค่ชำเลืองมองพวกเขาก็สามารถสังหารหลิงฮันได้แล้ว

อำนาจ! นี่ล่ะคืออำนาจที่แท้จริง!

จิตใจของหลิงฮันสั่นสะท้าน เขาสัมผัสได้เลยว่าทั่วร่างของเขากำลั่งตื่นเต้น

เขามองไม่เห็นการต่อสู้บนท้องฟ้าของทั้งสองคนแม้แต่น้อย

ท้องฟ้ากำลังถูกเผาไหม้ มหาสมุทรกำลังเดือดด้วยความร้อนสูง นี่มันราวกับเป็นขุมนรกบนพื้นดินชัดๆ!

โชคดีที่ปรมาจารย์สองคนอยู่ห่างจากตำแหน่งของพวกเขา ไม่เช่นนั้นหลิงฮันคงไม่สามารถต้านทานผลกระทบจากการต่อสู้ของทั้งสองคนได้แน่ๆ

ตูม!

ภายใต้ผิวสมุทร จู่ๆก็มีเสาแสงพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า คาดว่าต่อให้เป็นคนที่อยู่ไกลหลายพันไมล์ก็ต้องมองเห็นเสาแสงนี้

“จู่เล่อหยุน ดูเหมือนจะมีซากโบราณสถานที่ตกทอดอยู่ใต้ล่างนี้ เจ้าลงไปสำรวจมันสิ ข้าไม่ไปแย่งเจ้าหรอก!” โฮ่วหยางหัวเราะ

“ไร้สาระ ก็แค่ซากโบราณสถานของระดับสุริยันจันทรา มันจะเทียบกับกล่องนั่นได้?” จู่เล่อหยุนคำราม

“ยังไงกล่องนั่นก็เปิดไม่ได้อยู่แล้ว มันไม่มีค่าอะไรหรอก”

“ถ้าเช่นนั้นทำไมไม่ส่งมันมาให้ข้าล่ะ!”

“ก็ข้าชอบของแปลกๆ”

“ไร้สาระ!”

ทั้งสองคนเข้าปะทะกันอีกครั้ง ครั้งนี้การปะทะรุนแรงกว่าเดิม พวกเขามีบาดแผลจนโลหิตไหลออกมา โลหิตสาดกระจายทั่วท้องฟ้ากลายเป็นฝนโลหิต

สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวง พวกมันถูกฝนโลหิตกระทบจนร่างระเบิด

โลหิตของระดับดารานั้นแค่หยดเดียวก็หนักแน่นราวกับดวงดาวที่ร่วงลงสู่พื้น

หลิงฮันนำทั้งสุ่ยเยี่ยนยวี่และเรือพร้อมกับตัวเขาเข้าไปในหอคอยทมิฬเรียบร้อยแล้ว โดยหอคอยทมิฬได้ลอยไปตามคลื่นมหาสมุทร

หอคอยทมิฬนั้นเล็กราวกับไรฝุ่น มันไม่ได้รับผลกระทบจากทั้งแรงโนมถ่วงและอำนาจแห่งกฎเกณณ์ของที่แห่งนี้มันจึงไม่จมลงมหาสมุทร

‘พรึบ’ อะไรบางอย่างที่ส่องประกายตกลงมาจากท้องฟ้า

ดวงตาของหลิงฮันจดจ้องไปที่มันและพบว่าสิ่งที่ร่วงลงมาคือกล่องหยกสีขาว เมื่อมันตกลงสู่ผิวมหาสมุทรมันก็จมลงอย่างรวดเร็ว

หรือนั่นจะเป็นสิ่งที่ปรมาจารย์ระดับดาราสองคนแย่งชิงกันอยู่?

เขาเคยคิดว่าเขาไม่มีทางแย่งสมบัติมาจากมือของปรมาจารย์ระดับดาราได้ แต่ตอนนี้สมบัติที่ว่าได้ร่วงลงมาราวกับว่ามอบโอกาสให้เขา

เพียงแต่… มันอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย!

ภายในหอคอยทมิฬ หลิงฮันมองเห็นร่างสองร่างลอยลงมาจากฟ้าและดำลงไปในมหาสมุทรเพื่อไล่ตามกล่องหยก แม้ในขณะไล่ตามพวกเขาก็ยังต่อสู้กันอยู่เพื่อแย่งกันนำหน้า

แต่ด้วยแรงโน้มถ่วงที่รุนแรงของที่นี่ทำให้กล่องหยกดิ่งลงด้วยความเร็วสูง หลิงฮันคลาดสายตาจากกล่องหยกอย่างรวดเร็ว ปรมาจารย์ทั้งสองคนก็หายไปจากสายตาของเขาแล้วเช่นกัน

หอคอยทมิฬยังคงลอยอยู่โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น

หลิงฮันติดสินใจในที่สุดและออกมาจากหอคอยทมิฬ ‘ตูม’ แรงโน้มถ่วงที่น่าสะพรึงกลัวกระแทกเข้ากับร่างของเขาทำให้เขาจมลงสู่ใต้ท้องมหาสมุทร

นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด