Alchemy Emperor of the Divine Dao 908

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 908 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงฮันเตรียมอาหารมือใหญ่ให้แมวอ้วนและตัวเขา แน่นอนว่าหนูทองคำก็ต้องออกมากินกับพวกเขาด้วย

เมื่อเห็นแมวกับหนูกินอาหารด้วยกัน หลิงฮันก็อดหัวเราะไม่ได้

แต่เมื่อแมวอ้วนเดินเข้าไปใกล้หนูทองคำเพราะจะแย่งเนื้อของมัน หนูทองคำก็หวาดกลัวจนตัวแข็งและนอนแน่นิ่งไปเพื่อแกล้งตาย

ที่มันขี้ระแวงเช่นนี้เป็นเพราะตอนที่อยู่กับฮูหนิว เด็กสาวคนนั้นมักจะมองมาที่มันด้วยน้ำลายที่ไหลเต็มปาก ทำให้มันรู้สึกไม่ปลอดภัย

เมื่อเด็กสาวที่ว่าหายไปไม่นาน ก็มีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวตัวใหม่ปรากฏขึ้น!

ทำไมเจ้านายของมันจึงมีแต่พวกน่ากลัวอยู่รอบๆตลอดเวลาเลย?

หลิงฮันหัวเราะไม่หยุด ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ แต่ในตอนนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เมื่อไปเปิดประตูเขาก็เห็นหลี่เหว่ยเหว่ยที่ยืนอยู่หน้าประตู มือของนางพาดเอวเอาไว้อย่างหยิ่งยโส

“เจ้าโง่ นี่เจ้าหายหัวไปไหนมาตั้งเจ็ดวัน? เจ้ารู้ไหมว่าคุณหนูคนนี้เสียเวลามาหาเจ้าทุกวันเลย? เจ้าเป็นแค่ผู้ติดตามของข้าแท้ๆ กล้าดีอย่างไรถึงให้ข้าเป็นฝ่ายมาหาเจ้า หรือเจ้าคิดจะกบฏ?”

คำพูดของนางแสดงออกถึงนิสัยความเป็นคุณหนูจริงๆ

หลิงฮันยกมือเกาหัวและยิ้ม “ข้าขอโทษจริงๆ พอดีเมื่อไม่กี่วันก่อนข้ามีธุระนิดหน่อย ว่าแต่ทำไมเจ้าถึงได้รีบร้อนเจอข้าขนาดนี้ หรือว่าหาช่องทางขายวัตถุดิบได้แล้ว?”

“เหอะ คุณหนูคนนี้เป็นคนขายเอง คิดหรือว่าจะขายไม่ได้?” หลี่เหว่ยเหว่ยกล่าว “วัตถุดิบที่เจ้าให้มาขายออกหมดแล้ว เพียงแต่ว่าเนื่องจากพวกมันเป็นเพียงของทดลองจึงยังไม่ได้ผลึกก่อเกิดแม้แต่ก้อนเดียว”

หลิงฮันพยักหน้า ถ้าไม่ใช่หลี่เหว่ยเหว่ยกับจื่อหยุนเอ๋อแต่เป็นคนอื่นคงจะไม่สามารถหาช่องทางขายได้ไวเช่นนี้

เขานำวัตถุดิบอาหารมากมายออกมาและมอบให้หลี่เหว่ยเหว่ย นางรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก หลังจากนี้วัตถุดิบจะถูกซื้อขายด้วยผลึกก่อเกิด นางไม่รู้ว่าวัตถุดิบเหล่านี้จะทำรายได้ได้มากแค่ไหน แต่อย่างน้อยมันก็เป็นเงินที่นางหาได้ด้วยตัวเอง

หลิงฮันส่ายหัว ธุรกิจเช่นนี้ไม่อาจทำได้นาน

ไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะอธิบายได้อย่างไรว่าวัตถุดิบที่นำออกมานั้นเขาเอามาจากที่ไหน?

อุปกรณ์มิติมีพื้นที่ที่จำกัด หากเขานำวัตถุดิบออกมาไม่จำกัด แถมอาหารที่ทำจากวัตถุดิบเหล่านี้ก็อร่อยเป็นอย่างมาก ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะไม่มีใครสงสัย

นี่เป็นเพียงการหากำไรขั้นต้น เมื่อใดที่เขาหลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างเชี่ยวชาญ เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็จะหารายได้เข้าตัวได้อย่างมหาศาล

เมื่อหลี่เหว่ยเหว่ยเดินจากไปหลิงฮันจึงเริ่มปรุงยาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ฝึกในหอคอยทมิฬแต่เป็นในสวนของที่พัก

เจ้าแมวอ้วนที่กินอิ่มนอนอย่างขี้เกียจอยู่บนกำแพง ถ้าหากมันอยู่ที่นี่หลิงฮันมั่นใจว่าจะไม่มีใครกล้าเข้ามารบกวนเขาแน่นอน มีใครไม่รู้ด้วยรึว่าแมวตัวนี้เป็นสัตว์ที่ประมุขเลี้ยงดูอยู่? พวกเขาจะกล้าล่วงเกินจอมยุทธระดับดาราได้อย่างไร?

เทียบกับในหอคอยทมิฬซึ่งเขาสามารถควบคุมทุกอย่างได้ดั่งใจแล้ว ภายนอกนี้อุณภูมิความร้อนนั้นควบคุมได้ยากมาก แต่ถึงอย่างนั้นหลิงฮันก็ยังพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเปิดฝาเตาเขาก็มองเห็นเม็ดยาสามเม็ดที่ล้มเหลว

ส่วนเม็ดยาที่หลอมสำเร็จคือสองเม็ด

การพัฒนาของเขาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ถ้าหากเป็นนักปรุงยาคนอื่นล่ะก็เกรงว่าอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปีกว่าจะทำได้เช่นนี้

เพียงแต่ว่ามันก็ยังไม่มีร่องรอยของเมฆสายฟ้าอยู่ดี

“หรือว่าบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ เม็ดยาระดับสิบจะไม่สามารถดึงดูดสายฟ้าสวรรค์ได้?” หลิงฮันคาดเดา หากไม่ใช่อย่างที่เขาคิดเขาก็นึกเหตุผลอื่นไม่ออกแล้ว

“ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องหลอมเม็ดยาให้สำเร็จทุกเม็ด มาลองอีกครั้ง!”

เมื่อหลอมครั้งที่เก้าเม็ดยาที่หลอมสำเร็จก็เพิ่มเป็นสามเม็ด ครั้งที่สิบเพิ่มเป็นสี่เม็ด

วัตถุดิบหมดแล้ว…

“หากได้หลอมอีกครั้ง บางทีข้าอาจจะหลอมสำเร็จครบห้าเม็ด” หลิงฮันกล่าวในใจ

ตอนนี้เขาหลอมเม็ดยาสำเร็จแล้วสิบเม็ด หากนำเจ็ดเม็ดไปแลกเป็นผลึกก่อเกิดก็ยังนับว่าได้กำไร

“นี่ล่ะคือข้อได้เปรียบของนักปรุงยา ข้าเลือกทางเดินในชีวิตที่แล้วไม่ผิดจริงๆ!”

หลิงฮันยิ้มและเดินออกจากสวนที่พักเพื่อนำเม็ดยาเจ็ดเม็ดไปขายเป็นผลึกก่อเกิดและจะซื้อชุดสมุนไพรกลับมาอีกครั้ง หลายวันที่ผ่านมาเขาเก็บตัวปรุงยาโดยไม่ได้ฝึกฝนทักษะบ่มเพาะเลย

“สิ่งที่ขาดแคลนคือเวลา ข้ารู้สึกว่าเวลาฝึกฝนตอนนี้ไม่เพียงพอแม้แต่น้อย!”

หลิงฮันถอนหายใจ ตอนนี้เขาต้องฝึกฝนทั้งการปรุงยาและการบ่มเพาะซึ่งเขาต้องเลือกฝึกอย่างใดอย่างหนึ่งก่อน หากทำทั้งสองพร้อมกันจะไม่มีอะไรเลยที่ประสบความสำเร็จ

“ต้องมุ่งเน้นไปที่ฝึกวิถีวรยุทธ!” หลิงฮันตัดสินใจเลือกได้ทันที การปรุงยานั้นคือการฝึกฝนเพื่อสนับสนุนการบ่มเพาะพลัง การจะแข็งแกร่งหรือเป็นที่ยอมรับนั้นคือการมีพลังอำนาจที่แข็งแกร่ง

ความแข็งแกร่งต่างหากคือทุกสิ่ง

เขาไปขายเม็ดยาที่ร้านโอสถร้านเดิม คนที่รับซื้อนั้นไม่รู้สึกตัวเลยว่าเม็ดยาที่หลิงฮันขายไปคือการทดลองหลอมครั้งแรกและคิดว่าเขาเป็นนักปรุงยามากประสบการณ์

คนที่รับซื้อมีท่าทีอ่อนน้อมต่อเขาทันที เพราะอย่างไรนักปรุงยาก็เป็นตัวตนที่หาได้ยากยิ่ง การจะหลอมเม็ดยาระดับสิบนั้นไม่ใช้เรื่องง่ายๆ

หลิงฮันยิ้มและขอซื้อชุดสมุนไพรสิบชุด เขาเก็บพวกมันเข้าไปในหอคอยทมิฬก่อนที่จะขอตัวลา

“หืม?” เมื่อหลิงฮันเดิมออกจากร้านโอสถ หลัวหลี่ก็ปรากฏตัวจากมุมหนึ่งและมองตามหลังหลิงฮัน เขาแปลกใจไม่น้อยที่หลิงฮันที่เป็นคนจากโลกใบเล็กมาทำอะไรทีนี่?

เขาเดินเข้าไปในร้านโอสถและเอ่ยถาม “คนที่ออกไปเมื่อครู่มาทำอะไรที่นี่?”

เขาที่เป็นถึงนายน้อยของตระกูลหลัว มีหรือที่อีกฝ่ายจะไม่กล้าตอบคำถามของเขา “ลูกค้าคนเมื่อกี้มาขายเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์เจ็ดเม็ดแล้วก็…”

“ว่าไงนะ!” หลัวหลี่อุทานออกมาก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดเสร็จ แววตาของเขาส่องประกายและกล่าว “เจ้าพูดไม่ผิดแน่นะ?”

อีกฝ่ายพยักหน้า เรื่องแค่นี้เขาจะพูดผิดรึไง?

หลัวหลี่แสยะยิ้มทันที สำนักนั้นมีกฎที่เคร่งครัดว่าห้ามนำเม็ดยามาขายให้ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นทักษะบ่มเพาะหรือทักษะยุทธก็เช่นกัน โทษที่ฝ่าฝือกฏนั้นหนักหนาแน่นอน ฮ่าๆๆ เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะบังเอิญเจอวิธีแก้แค้นหลิงฮันได้โดยบังเอิญเช่นนี้

ว่าแต่หลิงฮันไปเอาเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์เจ็ดเม็ดมาจากไหนกัน?

ข้อสงสัยนี้ผุดขึ้นมาในหัวของหลัวหลี่แต่เขาก็โยนมันทิ้งไปอย่างรวดเร็ว ตราบใดที่หลิงฮันนำเม็ดยาที่ได้จากสำนักมาขาย นั่นก็ถือว่าเป็นการทำผิดกฎที่ร้ายแรง!

เขาตื่นเต้นจนลืมเรื่องที่ว่าเขามาซื้อเม็ดยาและหันหลังกลับทันที

เรื่องที่น่าขบขันก็คือหากเขาเอ่ยถามคนขายอีกสักหน่อย เขาอาจจะรู้ว่าเม็ดยาเหล่านั้นถูกหลอมขึ้นโดยหลิงฮัน แต่ถึงแม้คนขายจะบอกเขาเช่นนั้นหลัวหลี่ก็ไม่เชื่ออยู่ดี จอมยุทธจากโลกใบเล็กแถมยังเป็นเพียงรุ่นเยาว์น่ะรึจะสามารถหลอมเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์ได้?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด