Alchemy Emperor of the Divine Dao 566

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 566 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดาบกระดูก

หลิงฮันกระดิกนิ้วและพูด “เข้ามา!” เที๋ยนซิวหนิง

“ตามที่เจ้าต้องการ!” เที๋ยนซิวหนิงคำรามและพุ่งโจมตีใส่หลิงฮันพร้อมกับทหารซากศพทั้งห้าตัว เมื่อเห็นทหารซากศพห้าตัวที่ล้อมรอบหลิงฮันอยู่ ผู้คนในเมืองต่างก็ส่ายหัวถอนหายใจ รุ่นเยาว์ผู้นี้จะต้องตายแน่ๆ

นี่ไม่ใช่รุ่นเยาว์คนแรกที่ตายในวันนี้และคงจะไม่ใช่คนสุดท้ายด้วย ดังนั้นทุกคนจึงไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ ใครจะไปสนใจคนที่ไม่รู้จักกัน?

แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้กลับทำทุกคนตกตะลึง

ร่างของหลิงฮันพลิ้วไหวและค่อยๆขยับเข้าใกล้ทหารซากศพทั้งห้า เขาโคจรปราณก่อเกิดและโจมตีใส่ทหารซากศพจนกระเด็น

“เป็นไปได้อย่างไร!”

“รุ่นเยาว์ผู้นั้นต้องไม่ใช่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานขั้นสองแน่ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วพลังโจมตีของเขาจะน่ากลัวขนาดนั้นได้อย่างไร?”

“พลังต่อสู้ของทหารซากศพเหล่านั้นเกือบจะถึงสิบสี่ดาวเลยไม่ใช่รึไง?”

“พลังต่อสู้ของพวกมันคือสิบสี่ดาวไม่ผิดแน่! แต่คลื่นพลังจากฝ่ามือของรุ่นเยาว์ผู้นี้กลับสามารถซัดพวกมันกระเด็นได้อย่างง่ายดาย พลังต่อสู้ของเขาช่างน่ากลัวนัก”

“อัจฉริยะ! อัจฉริยะไร้ที่เปรียบ!”

“ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าซวนหยวนจื่อกวงหรือย่าวหุยเยว่เลย!”

ใบหน้าของชายชราทรงภูมิกระตุกไปมา เพียงแค่ไม่นานได้มีรุ่นเยาว์อัจฉริยะปรากฏตัวขึ้นมาหักหน้าเขาติดต่อกันถึงสามคน ตอนนี้ชายชราทรงภูมิอยากจะหาหลุมสักหลุมเพื่อมุดลงไปเหลือเกิน

“นับว่าพอมีความสามารถอยู่บ้าง” เที๋ยนซิวหนิงแสยะยิ้มและเข้าร่วมต่อสู้

อาวุธที่มันใช้คือดาบกระดูก ดูจากรูปร่างของดาบแล้ว มันคงถูกหลอมขึ้นจากกระดูกของสัตว์อสูรยักษ์ บนตัวดาบมีอักขระลึกลับถูกสลักเอาไว้

เมื่อใดที่อักขระเหล่านั้นถูกกระตุ้นใช้งานและเชื่อมต่อกัน อำนาจอันทรงพลังของสัตว์อสูรยักษ์จะสำแดงออกมา

หลิงฮันรู้สึกราวกับมองเห็นเงาของสัตว์อสูรยักษ์อยู่เหนือตัวดาบรางๆ รูปร่างของมันองอาจราวกับจะสามารถบดขยี้สวรรค์และปฐพี หลิงฮันอดที่จะมองไปยังดาบกระดูกนั่นไม่ได้ “ดาบนั้นหลอมขึ้นมาจากกระดูกของมังกรอสรพิษ?”

ตำนานกล่าวไว้ว่ามังกรที่แท้จริงมีบุตรอยู่เก้าตัว รูปร่างของพวกมันทั้งเก้าแตกต่างกันออกไปเพราะเกิดจากสัตว์อสูรเพศเมียคนละชนิด สัตว์อสูรทั้งเก้าที่กำเนิดขึ้นมาสืบทอดโลหิตของมังกรที่แท้จริงมาเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น หนึ่งในนั้นคือสัตว์อสูรที่รูปร่างเหมือนกับอสรพิษ หัวเป็นสิงโตและมีเขางอกสองเขา ทั่วทั้งร่างถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดมังกร

แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยงของสายโลหิตมังกรที่แท้จริง แต่มังกรที่แท้จริงคือตัวตนที่ทรงพลังที่สุดที่ปกครองโลกนี้ โลหิตเพียงแค่เศษเสี้ยวเดียวของมันก็นับว่าล้ำค่าและยากที่หาได้พบ

เที๋ยนซิวหนิงเผยสีหน้าตกตะลึงและกล่าว “เจ้ารู้จักดาบนี้?” มันเองก็ได้รับการบอกเล่าตำนานของมังกรอสรพิษหลังจากที่ได้รับดาบนี้มา แต่ถึงอย่างไรสายเลือดที่อยู่ในร่างของมังกรอสรพิษก็เบาบาง แต่นั่นก็ไม่แปลกอะไร ถ้าหากเป็นมังกรที่แท้จริงจริงๆล่ะก็ ใครจะไปนำกระดูกของมันมาหลอมเป็นดาบได้?

“สายเลือดที่เบาบางและรูปแบบอักขระที่ยุ่งเหยิง ก็แค่งั้นๆ” หลิงฮันพูดประเมินดาบกระดูก

เที๋ยนซิวหนิงกลายเป็นชะงักในทันที เจ้าบอกว่า ‘ก็แค่งั้นๆ’ อย่างนั้นรึ? มันเค้นเสียงดูถูกและพูดออกมา “เพื่อสังหารเจ้า แค่ดาบงั้นๆเล่มนี้ก็เพียงพอแล้ว!” เที๋ยนซิวหนิงตวัดดาบใส่หลิงฮัน

หลิงฮันหัวเราะและพูด “แม้จะเป็นดาบที่งั้นๆ แต่ข้าก็ต้องการมัน!” ดาบกำเนิดมารไม่สามารถนำออกมาใช้อย่างผลีผลาม ดังนั้นหากได้ดาบกระดูกมาใช้แทนก็ไม่เลวเหมือนกัน

“อวดดี!” เที๋ยนซิวหนิงเกรี้ยวกราด ชายหนุ่มผู้นี้บ้าไปได้ นี่เขาไม่เห็นมันอยู่ในสายตาเลยรึไง?

หลิงฮันใช้ย่างก้าวเทพธิดาปีศาจพร้อมกับปล่อยหมัดใส่เที๋ยนซิวหนิง

ทหารซากศพทั้งห้ากรีดร้องอย่างชั่วร้ายและพุ่งไล่ตามหลิงฮันจากด้านหลัง

ตอนนี้สถานการณ์กลายเป็นการเผชิญหน้าระหว่างหลิงฮันและเที๋ยนซิวหนิง ด้วยการสนับสนุนของดาบกระดูก ปราณดาบที่เที๋ยนซิวหนิงฟันออกมาจึงมีขนาดยาวขึ้นสามฟุต

หลิงฮันไม่หวาดหวั่น หมัดของเขาปะทะเข้ากับปราณดาบของเที๋ยนซิวหนิงโดยตรง

‘ตูม’ ปราณดาบเหล่านั้นแตกสลายทันที

เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สีหน้าของทุกคนก็กลายเป็นตกตะลึง

ทรงพลังเกินไปแล้ว ต้องรู้ก่อนว่าปราณดาบของเที๋ยนซิวหนิงนั้นถูกเสริมแกร่งโดยดาบกระถูก ความแหลมคมและทนทานของพวกมันเพิ่มขึ้นจากเดิมไม่รู้กี่เท่า ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทุกคนถึงต้องการครอบครองอาวุธวิญญาณระดับสูง

แต่ถึงอย่างนั้นหลิงฮันกลับสามารถบดขยี้ปราณดาบเหล่านั้นหมัดด้วยเดียว แถมกำปั้นของเขายังไม่ปรากฏร่องรอยบาดเจ็บอีกด้วย… นั่นยังเรียกว่าเป็นกล้ามเนื้ออยู่อีกรึ?

เที๋ยนซิวหนิงชะงัก มันจงใจให้หลิงฮันปล่อยหมัดใส่มันและใช้ปราณดาบสวนกลับไปเพื่อทำลายหมัดของหลิงฮัน แต่มันนึกไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้! เที๋ยนซิวหนิงก้มลงมองไปยังดาบกระดูกในมือ นี่ใช่อาวุธวิญญาณที่หลอมขึ้นจากทายาทของมังกรที่แท้จริงจริงๆรึ?

“ไม่ต้องสงสัยให้เสียเวลา ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะกำปั้นของข้าทนทานและทรงพลัง!” หลิงฮันหัวเราะ เขาบ่มเพาะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ถ้าหากร่างกายของเขาบรรลุกายาเพชรล่ะก็ กายหยาบของเขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่ามังกรที่แท้จริงเสียอีก

แม้ตอนนี้เขาจะยังบรรลุเพียงกายาเหล็กไหล แต่ดาบกระดูกก็หลอมขึ้นจากซากกระดูกสัตว์อสูรที่ตายแล้ว แม้มันจะเป็นซากกระดูกของสัตว์อสูรที่สืบสายเลือดมาจาก มังกรที่แท้จริง แต่มันจะทำให้เขาบาดเจ็บได้อย่างไร?

ถ้าเจ้าอยากจะสร้างบาดแผลให้กับร่างกายที่ทนทานเทียบเท่าแร่เหล็กระดับหกล่ะก็ เจ้าก็ต้องใช้อาวุธวิญญาณระดับเจ็ดเป็นอาวุธ

ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่ หลิงฮันก็ปล่อยหมัดออกไปอีกสองหมัด ทำให้เที๋ยนซิวหนิงทำได้เพียงล่าถอย

ภาพที่มองเห็นนั้นตลกเป็นอย่างมาก เที๋ยนซิวหนิงล่าถอย หลิงฮันไล่ตาม ส่วนทหารซากศพก็ไล่ตามหลิงฮันอีกที

“ฮ่าๆๆ รุ่นเยาว์ผู้นั้นค้นพบจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของทหารซากศพเสียแล้ว” ใครบางคนพูดขึ้นจากบนกำแพงเมือง

“ใช่แล้ว จุดอ่อนของทหารซากศพก็คือความเร็วที่ถูกจำกัด เพราะอย่างไรมันก็เป็นเพียงซากศพ มันไม่สามารถวิ่งได้”

“แต่ถึงอย่างไรพวกมันก็มีพลังอำนาจเทียบเท่ากับจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานขั้นเก้า คงมีอัจฉริยะระดับบุปผาผลิบานไม่กี่คนที่เคลื่อนไหวได้เร็วกว่าพวกมัน”

“รุ่นเยาว์ผู้นั้นช่างอัจฉริยะยิ่งนัก!”

เที๋ยนซิวหนิงหวาดหวั่น ตอนนี้ทหารซากศพทั้งห้ากลายเป็นไร้ประโยชน์แล้ว มันต้องเผชิญหน้ากับหลิงฮันด้วยตนเอง! พลังต่อสู้ของศิษย์ส่วนใหญ่ของนิกายพันศพนั้นขึ้นอยู่กับทหารซากศพ ถ้าหากทหารซากศพไม่สามารถใช้งานได้ พลังต่อสู้ของพวกเขาก็จะลดลงไปด้วย

ด้วยพลังบ่มเพาะระดับบุปผาผลิบานขั้นแปดและพลังต่อสู้สิบห้าดาว มันคืออัจฉริยะรุ่นเยาว์แห่งยุคสมัยนี้อย่างไม่ต้องสงสัย มันไม่หวั่นเกรงผู้ใดในช่วงอายุเดียวกัน แต่การที่ต้องมาเจอกับสัตว์ประหลาดอย่างหลิงฮันนั้น นับว่าเป็นโชคร้ายของมันอย่างมาก

‘ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!’

หลังจากผ่านไปร้อยกว่าหมัด ดาบกระดูกของเที๋ยนซิวหนิงก็กระเด็นหลุดจากมือและหลิงฮันคว้ามันเอาไว้ได้

“คืนมาให้ข้า!” เที๋ยนซิวหนิงรีบพูดออกมา ดาบกระดูกคือสมบัติที่ผู้นำนิกายมอบให้กับมันด้วยตนเอง

หลิงฮันส่ายหัวและพูด “ปล่อยให้อาวุธวิญญาณเช่นนี้ตกไปอยู่ในมือของเจ้าก็เสียของเปล่าๆ!” เขาหันหลังและจ้องมองไปยังทหารซากศพทั้งห้า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด