Alchemy Emperor of the Divine Dao 818

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 818 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ข้าน่ะรึคือใคร?” อี้ชวงชวงยิ้ม “แน่นอนว่าข้าคือสตรีที่งดงามที่สุดในโลกไงล่ะ!”

“ไร้สาระ หนิวต่างหาก!” ฮูหนิวตะโกนขึ้นไป แต่แน่นอนว่าในสถานการณ์ตอนนี้ย่อมไม่มีใครสนใจนาง

ราชันอสรพิษมารจ้องไปยังอี้ชวงชวงและกล่าว “ไม่ว่ายังไงวันนี้ข้าก็ต้องได้ตัวของเจ้าหนูนั่น”

“’งั้นเจ้าก็คงต้องทิ้งชีวิตของเจ้าเอาไว้ที่นี่เสียแล้ว” อี้ชวงชวงยิ้มกล่าวอย่างไม่แยแส แม้แต่ราชันอสรพิษมารก็ไม่อยู่ในสายตาของนาง

ยิ่งนางมีท่าทีสงบนิ่งมากเท่าไหร่ ราชันอสรพิษมารก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น

ก่อนที่หน้านี้เขาเป็นคนที่มั่นใจในพลังของตนเองมาก แต่หลังจากการปรากฏตัวของจักรวรรดิจันทราม่วง เขาก็รู้ว่าโลกนี้ยังมีตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแปดราชันอยู่

หรือว่าสตรีผู้นี้… ก็เป็นตัวตนจากยุคโบราณ?

อี้ชวงชวงเกิดอาการไม่สบอารมณ์และกล่าว “เจ้ากำลังคิดในใจว่าข้าเป็นหญิงชราจากยุคโบราณ?”

“บังอาจคิดว่าข้าคนนี้เป็นหญิงชรา เจ้าช่างรนหาที่ตาย!” อี้ชวงชวงกลายเป็นเกรี้ยวกราดและโจมตีใส่ราชันอสรพิษมารทันที

ราชันอสรพิษมารไม่กล้าประมาท เขารีบลงมือป้องกันอย่างรวดเร็ว

‘ปัง ปัง ปัง’ ทั้งสองคนเข้าปะทะกันกลางอากาศ หลิงฮันพยักหน้าพึงพอใจเพราะอี้ชวงชวงลงมือให้การปะทะไม่ส่งผลกระทบต่อเมืองจักรพรรดิ

สำหรับจอมยุทธที่ไม่ใช่ตัวตนระดับทลายมิติ มีเพียงแค่เขาเท่านั้นมีสามารถยืนหยัดดูการต่อสู้ของทั้งสองคนในระยะใกล้ได้

“สู้กันเลย! สู้กันเลย!” ฮูหนิวยืนอยู่ข้างๆเขาและปรบมือเล็กๆของนางในขณะที่ดูการต่อสู้

ใช่แล้ว เขาลืมนับสัตว์ประตัวน้อยคนนี้ไปเลย

หลังจากผ่านไปไม่กี่กระบวนท่า สีหน้าของราชันอสรพิษมารก็เปลี่ยนเป็นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

อีกฝ่ายแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นางไม่ได้ด้อยหรือเหนือไปกว่าเขา

“ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะต่อต้านห้านิกายโบราณ ข้าขอแนะนำให้เจ้าถอยไปดีกว่า ไม่เช่นนั้นความพยายามในการบ่มเพาะพลังของเจ้าที่ผ่านมาทั้งชีวิตจะกลายเป็นสูญเปล่า!” ราชันอสรพิษมารกล่าวแนะนำ

“ฮ่าๆๆ เจ้าก็แค่กบในบ่อน้ำ ข้ายังไม่ทันได้แสดงพลังออกมาให้เจ้าเห็นเลยเจ้าก็ด่วนตัดสินพลังของข้าเสียแล้ว?” อี้ชวงชวงยิ้ม นางอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยว ทันใดนั้นปีกสีแดงชาดคู่หนึ่งก็ปรากฏออกมา

ปีกที่ปรากฏขึ้นที่หลังของนางไม่มีขนนกหรือเกล็ดปกคลุม มันเป็นปีกที่เหมือนกับปีกของค้างคาว

“เจ้า… เจ้าเป็นใครกันแน่?” ราชันอสรพิษมารไม่อาจสงบสติได้อีกต่อไป ทันทีที่ปีกของอีกฝ่ายปรากฏออกมา ออร่าของอีกฝ่ายก็เหนือกว่าเขาอย่างเทียบไม่ได้

กลิ่นอายเช่นนี้ทำให้เขานึกถึงราชีนีหยินและราชันคนอื่นๆ ความน่ากลัวของราชันทั้งแปดได้ฝังลึกลงไปในจิตใจของเขาจนไม่อาจลืมเลือน

“เจ้ามีค่าพอจะรู้ถึงตัวตนของข้า?” อี้ชวงชวงกล่าวอย่างเหยียดหยามและพลิกฝ่ามือ ทันใดนั้นเองดวงดาวนับไม่ถ้วนก็ร่วงลงมาจากท้องฟ้า จนดูราวกับว่าท้องฟ้าถูกทำให้เป็นรู

สิบห้าดาว… นี่ต้องเป็นพลังต่อสู้สิบห้าดาวไม่ผิดแน่!

ราชันอสรพิษมารไม่พูดพล่ามและรีบหันหลังเพื่อหนี

สำหรับจอมยุทธระดับทลายมิติแล้ว พลังต่อสู้ที่ต่างกันแค่หนึ่งดาวก็ราวกับเป็นความต่างของสวรรค์และปฐพี พลังต่อสู้ของเขานั้นเป็นเพียงสิบสองดาวเท่านั้น ซึ่งต่างกับอีกฝ่ายตัวสามดาว

ต้องหนี!

เขาเผ่นหนีกลับไปที่เรือรบและรีบควบคุมให้เรือออกตัวโดยไว

อี้ชวงชวงไม่คิดจะไล่ตาม นางสะบัดปีกสีชาดของนางไปมาอย่างเกียจคร้าน

หลิงฮันชี้นิ้วไปยังทิศทางของเรือรบและกล่าว “ทำไมเจ้าไม่ตามไป?”

“ข้าสัญญาแค่ว่าจะปกป้องเมืองให้เจ้า ข้าไม่เคยบอกเสียหน่อยว่าจะยอมเหนื่อยเพื่อกำจัดศัตรูให้เจ้า” อี้ชวงชวงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ “ใช่ว่าข้าจะไม่ยอมทำตามคำสั่งของเจ้านะ เพียงแค่ข้าจะได้ผลประโยชน์อันใดก็เท่านั้นเอง?”

“พวกเราเราเป็นสหายกัน เจ้าจะไม่ใจดำไปหน่อยรึที่มาพูดกับสหายเรื่องผลประโยชน์?” หลิงฮันกล่าว

“เหอะ แค่เจ้ายอมบอกความลับในตัวเจ้ามาข้าก็จะยอมกำจัดทุกสิ่งให้เจ้าเลย! ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นห้านิกายโบราณหรือจักรวรรดิจันทราม่วงก็ตาม!” อี้ชวงชวงกล่าวกระตุ้นหลิงฮัน

หลิงฮันชะงักไปชั่วขณะก่อนจะกล่าว “เจ้าแข็งแกร่งมากก็จริง แต่ห้านิกายโบราณนั้นมีรากฐานที่มั่นคงมาเป็นเวลาผ่านร้อยหลายพันปี ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขามีไพ่ลับอันใดซ่อนไว้บ้าง ในส่วนของจักรวรรดิจันทราม่วงนั้น แม้เจ้าอ้วนหม่าจะยังไม่เคยลงมือ แต่การที่เขาสามารถปกครองแปดราชันได้ พลังของเขาจะต้องน่ากลัวเกินกว่าจะจินตนาการได้แน่นอน”

“ข้าเองก็แข็งแกร่งไม่แพ้ใคร” อี้ชวงชวงกล่าว

“พลังต่อสู้ของเจ้าตอนนี้คือสิบห้าดาว แม้จะเป็นพลังต่อสู้เช่นนี้ก็ยังยากที่จะปกครองโลกนี้!” หลิงฮันส่ายหัว ถ้าหากเฮ่อเหลียนเทียนหยุนบ่มเพาะพลังจนกลับไปมีพลังต่อสู้ยี่สิบดาวได้อีกครั้ง เจ้าคิดว่าจะทำอะไรเขาได้?

อี้ชวงชวงเค้นเสียงและกล่าว “ถ้าไม่ใช่เพราะถูกสวรรค์และปฐพีของโลกนี้จำกัดพลังเอาไว้ ข้าสามารถปกครองโลกนี้ได้ด้วยพลังหนึ่งในสิบส่วน!”

“ไร้สาระ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีจอมยุทธระดับสูงมากมายที่สามารถทำเช่นนั้นได้ เช่นนั้นแล้วทำไมข้าต้องพึ่งพาเจ้าด้วย?”

อี้ชวงชวงกลายเป็นไม่สบอารมณ์ ใบหน้าผากของนางปรากฏรอยเส้นเลือดปูดบวมและกล่าว “เจ้าหนู เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถกลืนกินเจ้าได้อย่างไม่ยากเย็น?”

หลิงฮันไม่อย่างยั่วยุปีศาจสาวนางนี้และกล่าวออกไป “โอ้ วันนี้อากาศดีจังนะ ด้วยแสงตะวันที่อบอุ่นเช่นนี้พวกเรามาดื่มชากันดีไหม?”

“ชาไม่อร่อย พวกเรากินเนื้อกันดีกว่า!” ฮูหนิวกล่าวแทรกทันที

อี้ชวงชวงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “เห็นแก่สาวน้อยฮูหนิว ข้าจะยอมไม่ถือสาเจ้าแล้วกัน แต่เจ้าจงจำเอาไว้ด้วยล่ะว่าข้าช่วยเหลือเจ้าเอาไว้แค่ไหน สักวันเจ้าต้องตอบแทนข้า!”

“หืม?”

ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังจะกลับลงมาจากท้องฟ้า พวกเขาก็เห็นรถม้าแล่นมาจากบริเวณที่ห่างไกล รถม้านั่นไม่ได้ขับเคลื่อนอยู่บนพื้นและแต่เป็นท้องฟ้า สิ่งที่ลากรถม้านั่นอยู่คือสัตว์อสูรระดับทลายมิติที่มีรูปร่างเหมือนสิงโต ออร่าที่ปลดปล่อยออกมาจากตัวสัตว์อสูรสิงโตนั้นทรงพลังจนทำให้ชั้นมิติของสวรรค์และปฐพีปริแตก

ปีกของอี้ชวงชวงกระพือทันที คนที่บุกมาในคราวนี้แข็งแกร่งมาก!

ดวงตาของนางมองยังทิศทางของสัตว์อสูรระดับทลายมิติ สายตาของนางนั้นแหลมคมจนราวกับว่าสามารถมองทะลุผ่านไปถึงด้านในรถม้าและสามารถตรวจสอบศัตรูที่อยู่ภายในได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด