Alchemy Emperor of the Divine Dao 1147

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1147 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แน่นอนว่าหลิงฮันไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย กระทั่งขี้เกียจสนใจเลยด้วยซ้ำ แล้วนำผลวิญญาณออกมากิน

มันเป็นแค่ผลวิญญาณระดับสอง ซึ่งไม่ได้ล้ำค่าอะไรมากนัก แต่การที่หลิงฮันนำผลวิญญาณออกมากินเล่นนั้น มันทำให้ทุกคนเสียดายมาก

กังสื่อหยุนแทบจะระเบิดความโกรธออกมา ชายคนนี้ยังนำผลวิญญาณออกมากินราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร? เหมือนกับว่าเขาไม่เห็นนางอยู่ในสายตา!

มีคนเดินทางมาถึงกันเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่มีใครมาเพิ่ม

ศิษย์เมล็ดพันธุ์ต่างนั่งบนก้อนหิน ส่วนผู้ติดตามคอยยืนอยู่ด้านข้าง เพราะพวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะได้นั่ง

การรวบตัวของศิษย์เมล็ดพันธุ์ทำให้พวกเขาสนใจคนอื่นเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นศิษย์เมล็ดพันธุ์ทุกคนเชื่อว่าตัวเองนั้นแข็งแกร่งที่สุด โดยปกติแล้วพวกเขาจะใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างจุดยืนของตัวเอง

“ฮ่าฮ่าฮ่า ในเมื่อทุกคนอยู่ที่นี่กันแล้วเช่นนั้นข้าก็จะไม่รอให้เสียเวลาอีกต่อไป” ชายคนหนึ่งลุกขึ้นยืนและยิ้มให้ฝูงชน “บางทีอาจยังมีคนไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร เช่นนั้นข้าจะเริ่มต้นจากการแนะนำตัวเองก่อน ข้าคือเหอเต๋าที่เข้าร่วมกับนิกายสวรรค์เยือกแข็งเมื่อเก้าร้อยปีก่อน”

ชายคนนี้แข็งแกร่งมาก หลิงฮันคิดในใจ

กลิ่นอายของอีกฝ่ายนั้นคลุมเครือและลึกลับเหมือนทะเลเป็นไปได้มากว่าอีกฝ่ายสร้างภูผาวารีสายที่ห้าได้แล้ว ถึงแม้จะมีกลิ่นอายที่คลุมเครือแต่ก็ทรงพลัง

-ถ้าอยู่ในดาวเหอหนิง หลิงฮันอาจไม่คิดเช่นนี้ แต่ที่นี่คือนิกายสวรรค์เยือกแข็ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีอัจฉริยะมารวมตัวกันนับไม่ถ้วน และผู้อาวุโสไห่หยุนเองก็กล่าวไว้ว่า นอกจากหลิงฮันแล้วยังมีศิษย์อีกเจ็ดคนที่สร้างภูผาวารีสายที่ห้าได้สำเร็จ

นี่นับเฉพาะจอมยุทธระดับภูผาวารี หากนับรวมไปถึงจอมยุทธระดับสุริยันจันทราอาจมีมากกว่านั้น

“เขาคือเหอเต๋า!”

“ในบรรดาศิษย์เมล็ดพันธุ์ที่อยู่ระดับภูผาวารี ความแข็งแกร่งของเขาจัดอยู่ในห้าอันดับแรก”

“หืม? คนที่อยู่ด้านข้างเขาคืออู๋เจ๋อที่เป็นศิษย์เมล็ดพันธุ์เหมือนกัน และความแข็งแกร่งของเขาสามารถเทียบเคียงกับเหอเต๋าได้”

“เมื่อรวมกับหวู่เหวินตง  สืออันเกา เฉินจู๋เอ๋อ และกวงเป่ยชาน พวกเขาถูกขนานนามว่าราชันน้อยทั้งหก”

ใครบางคนพูดพึมพัมอยู่ด้านข้าง ทำให้หลิงฮันเข้าใจทันทีเมื่อได้ยิน ราชันน้อยทั้งหกคนคือศิษย์ของนิกายสวรรค์เยือกแข็งที่สามารถสร้างภูผาวารีสายที่ห้าได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า ในเมื่อมันเป็นงานเลี้ยงน้ำชา แน่นอนว่าจะต้องมีชา” เหอเต๋าหัวเราะ “จากนั้นเขาก็หยิบกาน้ำเล็กๆออกมาจากอุปกรณ์มิติและวางกาน้ำชาเพื่อทำให้น้ำร้อน”

เขาไม่ได้ก่อฝืนหรืออะไรทำนองนั้น แต่ใช้ไฟที่ปล่อยออกมาจากฝ่ามือ

ด้วยเปลวเพลิงของเขา แม้แต่แร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ยังต้องถูกหลอมละลายด้วยความร้อนแรงของเปลวเพลิง และเกรงว่าแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สี่ก็อาจถูกหลอมละลายอย่างช้าๆ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ากาน้ำที่เขานำออกมาจะเล็กและประณีต แต่ก็มีความทนทานต่อความร้อนและไม่ละลายภายใต้เปลวเพลิงของเหอเต๋า

เตานี่ไม่ธรรมดา

หลิงฮันพูดในใจ และคิดว่าถ้าได้มันมาขัดเกลาดาบอสูรนิรันดร์ก็คงจะดี

มันเป็นเรื่องธรรมดาที่น้ำภายในกาน้ำจะเดือดอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งธูปดับก็ไม่มีไอน้ำปรากฏออกมาให้เห็น ซึ่งทำให้ทุกคนสงสัยว่าทำไมน้ำยังไม่เดือด

“ฮ่าฮ่าฮ่า มันเป็นน้ำแข็งราตรีเหมันตร์ต้องใช้เวลานานนิดหน่อยกว่ามันจะละลาย” เหอเต๋าหัวเราะ “อย่างไรก็ตาม พวกเราจะดื่มชากันสามถึงห้าวันได้อย่างไร? ระหว่างที่รอน้ำเดือดพวกเรามาทำอะไรอย่างอื่นกันเถอะ แล้วค่อยดื่มชากันทีหลัง”

“อะไรนะ! น้ำแข็งราตรีเหมันตร์!”

หลายคนอุทาน แต่ก็มีบางคนที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร และเข้าใจหลังจากที่มีคนอธิบายให้ฟัง

“น้ำแข็งราตรีเหมันตร์ก่อตัวจากทางตอนเหนือสุดของดาวเฟยหยุน มันเป็นสถานที่ที่หนาวเเหน็บและปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะตลอดทั้งปี มิหน่ำซ้ำยังมีหลุมน้ำแข็งอยู่ทุกหนแห่ง หากผู้ใดย่างก้าวเข้าไปก็อาจตกลงไปในหลุมและถูกแช่แข็งตลอดไปกาล”

“แม้แต่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราก็ยังลังเลที่ยังไปที่นั่น เพราะที่แห่งนั้นไม่มีสมุนไพรล้ำค่าให้เก็บเกี่ยว แม้กระทั่งสัตว์อสูรก็ยังไม่มี”

“อย่างไรก็ตาม น้ำแข็งราตรีเหมันตร์เป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่ก่อตัวขึ้นมาจากพลังแห่งเต๋า และการได้ดื่มน้ำจากน้ำแข็งที่ละลายมันทำให้สัมผัสถึงความงดงามของน้ำแข็ง”

“จอมยุทธระดับภูผาวารีทั่วไปจะถูกแช่แข็งทันทีเมื่อสัมผัสมัน และหากไม่ตายก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัส”

“สมแล้วที่เป็นศิษย์พี่ มันน่าทึ่งมากที่ศิษย์พี่สามารถเก็บน้ำแข็งราตรีเยือกแข็งมาได้”

แม้ว่าอัจฉริยะส่วนใหญ่จะไม่ยอมรับความฝ่ายแพ้ แต่ในเมื่อความจริงปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้าพวกเขา ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับความห่างชั้น แล้วพวกเขาจะก้าวข้ามฝ่ายตรงข้ามได้อย่างไร?

ดังนั้น ทุกคนจึงยอมรับและชื่นชมในตัวเหอเต๋า

เหอเต๋ายิ้มและพูดว่า “ข้าแค่โชคดีเท่านั้น หลังจากที่ข้าตามล่าจิ้งจอกน้ำแข็ง มันได้พาข้าไปยังถ้ำน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ข้าได้รับน้ำแข็งราตรีเหมันตร์มาจำนวนหนึ่ง แล้วข้าจึงนำมันออกมาชงชาให้ศิษย์น้องอย่างพวกเจ้าได้ดื่ม”

บางคนรู้สึกแปลกและพูดพึมพัมว่า “ศิษย์พี่ แต่กาน้ำของท่านเล็กขนาดนั้น มันจะเพียงพอให้พวกเราทุกคนได้ดื่มถึงครึ่งแก้วหรือไม่?”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง แม้มันจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ข้าเชื่อว่าเพียงพอให้ทุกคนได้ดื่ม” เหอเต๋าพูดด้วยรอยยิ้ม

อู๋เจ๋อพูดว่า “ศิษย์พี่เหอได้บริจาคน้ำแข็งราตรีเหมันตร์เพื่อชงชา ถ้างั้นข้าจะให้ใบชาหยางไว้ชงชาทีหลัง”

พรวด!

หลายคนแทบสำลักและแสดงท่าทางตื่นเต้น

ใบชาหยางนั้นถือได้ว่าเป็นสมบัติอย่างหนึ่ง มันสามารถช่วยให้จอมยุทธเกิดการรู้แจ้ง แม้แต่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราก็ยังมีผล

ใบชาดังกล่าวไม่ควรนำมาใช้ไร้สาระแบบนี้

มีเพียงแค่จักรพรรดิพิรุณและติ่งผิงเท่านั้นที่ไม่ตื่นตระหนก

เจ้าล้อข้าเล่นหรือเปล่า ใบชาหยางทำให้เกิดการรู้แจ้งงั้นรึ? แล้วต้นสังสารวัฎล่ะ? ฝึกฝนหนึ่งวันเท่ากับหนึ่งปี ใบชาหยางของเจ้าทำได้หรือไม่?

ยิ่งไปกว่านั้น ต้นสังสารวัฎสามารถทำให้เกิดการรู้แจ้งได้ทุกวัน ใบชาหยางของเจ้าจะมีสักกี่ใบกันเชียว?

“อย่างไรก็ตาม ข้ามีใบชาหยางแค่สิบใบเท่านั้น” อู๋เจ๋อกล่าวอีกครั้ง “เอาแบบนี้เป็นไง สิบอันดับแรกของครั้งนี้จะได้ดื่มชาหยาง พวกเจ้าเห็นด้วยหรือไม่?”

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยและอดใจรอไม่ไหว มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่คนแข็งแกร่งที่สุดจะได้รับโชคลาภนี้ไป นี่คือความจริงของโลกแห่งวรยุทธ

ผู้แข็งแกร่งคือราชา!

“เอาล่ะ ถ้างั้นเริ่มจากข้าก่อน มีศิษย์น้องคนไหนต้องการให้คำแนะนำแก่ข้าหรือไม่?” ชายหนุ่มคนหนึ่งกระโดดออกมาท้าทายคนอื่นและเรียกอีกฝ่ายว่าศิษย์น้อง นี่แสดงให้เห็นว่าเขามั่นใจตัวเองขนาดไหนและคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งพอ

“ข้าเอง!” ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งก้าวออกมา

“ขอความกรุณาด้วย!”

ชายหนุ่มทั้งสองคนโค้งคำนับให้กันและกัน จากนั้นพวกเขาก็เริ่มต่อสู้กันทันที

การต่อสู้ของพวกเขานั้นดุเดือดเป็นอย่างมาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด