Alchemy Emperor of the Divine Dao 998

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 998 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อหลิงฮันออกจากสำนัก ขุมอำนาจทั้งหมดในเมืองจักรพรรดิก็ได้รับข่าวนี้

“อะไรกัน หมอนี่เลือกออกจากสำนักในเวลานี้จริงๆรึ? แถมยังถึงขนาดออกไปจากเมืองจักรพรรดิด้วย?”

“นี่เขาแส่หาความตาย?”

“ตระกูลหลัวกับตระกูลจ้าวจะต้องลงมือสะสางหนี้แค้นแน่!”

“เมื่อใดที่เขาออกจากเมืองจักรพรรดิ โชคชะตาของเขาคือความตาย!”

“ให้ตายเถอะ เขาเป็นเพียงจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลางเท่านั้น พลังต่อสู้เองก็ไม่เกินไปกว่าระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด มีจอมยุทธคนอื่นมากมายนักที่สามารถจัดการจับเขาได้”

“ถึงแม้เขาจะเป็นอัจฉริยะแต่เขาก็โง่เกินไป”

“อัจฉริยะที่โง่เง่าเช่นนั้น… ไม่ต้องไปไล่ตาม เขาก็แค่คนโง่ที่ไม่รู้ว่าจะมุ่งหน้าไปอย่างไล่หรือล่าถอยตอนไหน!”

ในตอนนี้ ขุมอำนาจส่วนใหญ่ที่ต้องการตัวหลิงฮันเลือกที่จะอยู่เฉยๆไปก่อน

ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ขุมอำนาจเหล่านี้ต้องการให้หลิงฮันเข้าร่วมกับพวกเขา แต่พวกเขาเกรงว่าถ้าหากพวกเขารับหลิงฮันมาอยู่ พวกเขาจะไปยั่วยุความโกรธของตระกูลจ้าว ยิ่งตอนนี้เมื่อเห็นหลิงฮันทำตัวไม่เกรงกลัว พวกเขาก็ทำได้เพียงส่ายหัว

……

ณ ตระกูลหลัว

“เจ้าหนูนั่นออกจากเมืองจักรพรรดิจริงๆ?” หลัวหงชะงัก การกระทำที่โง่เง่าเช่นนี้ทำให้เขาเชื่อไม่ลง แต่เขาก็หัวเราะออกมาและกล่าว “นี่มันแส่หาความตายชัดๆ!”

“จัดหาคนไปสังหารเขาซะ สมาคมราตรีนิรันดร์นั้นพึ่งพาไม่ได้ แค่มดปลวกระดับภูผาวารีก็สังหารไม่สำเร็จ ยิ่งตอนนี้เจ้าเด็กนั่นเป็นคนเดินออกจากประตูด้วยตัวเองด้วยแล้ว หากเขาตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา”

“เหอๆ เงินที่ใช้จ้างภารกิจตั้งหนึ่งแสนผลึกก่อเกิด ในเมื่อโอกาสมาแล้วทำไมต้องให้พวกเขาไปด้วย!”

“เรื่องสำคัญที่สุดคือต้องนำตาข่ายผนึกสีชาดกลับมา ตระกูลของเราต้องใช้จ่ายไปจำนวนมากเพื่อสิ่งนี้ จะยอมให้มันตกไปอยู่ในมือคนอื่นไม่ได้เด็ดขาด!”

……

ในด้านจ้าวหลุนที่กำลังฟังข่าวจากจั่วเซียวและฟานหยง

เขาแสยะยิ้มและกล่าว “บิดาข้ามอบผลึกภูผาวารีจำนวนมากและเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ให้กับข้าแล้ว ข้าจะเก็บตัวสักพัก เมื่อข้าออกจากฝึกฝนข้าจะมีพลังบ่มเพาะระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดชั้นสูงสุด”

“และหลังจากนั้นเมื่อใดที่ข้าทะลวงผ่าน ข้าก็จะกลายเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิ”

“ดังนั้นภารกิจสังหารมดปลวกนั่นข้าขอมอบให้เป็นหน้าที่เจ้า!”

“ขอรับนายน้อย!” จั่วเซียวกับฟานหยงคุกเจ่าข้างเดียวเพื่อแสดงความเคารพ

ถึงแม้จ้าวหลุนจะเสียหน้าอย่างสาหัสเพราะการประลอง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าสูญเสียความเคารพไปแม้แต่น้อย จ้าวหลุนนั้นไม่อาจนำไปเทียบกับหลิงฮันได้ เขาเป็นถึงบุตรชายคนเดียวของแม่ทัพจ้าว ส่วนหลิงฮันเป็นเพียงจอมยุทธจากโลกใบเล็กเท่านั้น ทั้งสองไม่อาจนำมาเทียบกันได้แม้แต่น้อย

ส่วนในด้านราชินีที่เก้านั้นนางยังเยาว์วัย แม้ตอนนี้นางจะมีความรู้สึกดีๆกับหลิงัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความรู้สึกของนางจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

ทั้งสองคนตกตะลึงอย่างมากที่จ้าวหลุนกล่าวออกมาเช่นนี้ ถ้าจ้าวหลุนทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราได้ในเวลาสั้นๆจริงๆ เขาจะต้องกลายเป็นดาวเด่นที่สุดของทั่วทั้งจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะแน่นอน

ระดับพลังนี้ยากที่จะข้ามผ่าน ทั่วทั้งจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะนั้นจอมยุทธอย่างน้อยเก้าในสิบส่วนเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารี จอมยุทธที่สามารถทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราได้นั้นมีเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น!

ตัวของจ้าวหลุนมีอายุน้อยกว่าพันปี อนาคตของเขาจะสดใสขนาดไหน?

ถึงแม้พวกเขาทั้งสองจะมีพรสวรรค์ที่ด้อยกว่าจ้าวหลุน แต่พวกเขาก็เป็นอัจฉริยะสองดาวที่เกือบจะสามดาว เมื่อเทียบจ้าวหลุนแล้วความแตกต่างระหว่างพวกเขานั้นเห็นได้อย่างชัดเจน ตอนนี้พวกเขาอายุเกินกว่าสองหมื่นปีแล้ว พลังบ่มเพาะของพวกเขายังอยู่ที่ระดับภูผาวารีขั้นสูงเท่านั้นเอง

นี่เป็นเพราะทรัพยากรบ่มเพาะของพวกเขาเทียบกับจ้าวหลุนไม่ได้ ทรัพยากรที่มากมายทำให้พรสวรรค์ของจ้าวหลุนถูกดึงออกมาใช้อย่างเต็มที่

“มดปลวกนั่นเป็นเพียงระดับภูผาวารีขั้นกลาง แต่เขาฝึกฝนทักษะเกี่ยวกับจิตวิญญาณ นำหยกสองชิ้นนี้พกติดตัวไว้ มันสามารถใช้ต้านทานการโจมตีทางจิตวิญญาณได้ร้อยครั้ง” จ้าวหลุนโยนหยกสองชิ้นให้พวกเขา

“ขอขอบคุณนายน้อย!” จั่วเซียวเต็มไปด้วยความสุข

แม้จะเป็นบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อุปกรณ์ป้องกันการโจมตีทางจิตวิญญาณก็ยังถือว่าเป็นของล้ำค่า มีเพียงจอมยุทธระดับดาราเท่านั้นที่จะมีครอบครอง

จ้าวหลุนครุ่นคิดและยังรู้สึกว่าแค่นี้ยังไม่พอ เขานำดาบออกมาและมอบให้ “ข้ามอบดาบตะวันม่วง บิดาข้าเป็นสลักรูปแบบอักขระเอาไว้ถึงเก้าตัว หากใช้งานมันพลังต่อสู้ของพวกเจ้าจะเพิ่มเป็นระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด”

จั่วเซียวกับฟานหยงรู้สึกเป็นกังวลกับตาข่ายผนึกสีชาดของหลิงฮันอยู่บ้าง เพราะตาข่ายนั้นจะทำให้พลังของพวกเขาลดลง แต่ด้วยดาบเล่มนี้พวกเขารู้สึกมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก

“ขอรับ พวกเราจะไม่ทำให้นายน้อยผิดหวัง!” ทั้งสองคนกล่าวตะโกน

……

สุ่ยเยี่ยนยวี่ออกจากเมืองจักรพรรดิไปกับหลิงฮัน

เมื่อออกมาจากประตูเมือง หลังฮันก็หันกลับไปย้อนมองดูเมืองจักรพรรดิและมีความรู้สึกบางอย่างผุดขึ้นมาในใจ

ในเมืองจักรพรรดิแห่งนี้ ถึงแม้เขาจะพยายามทำตัวปกติไม่โดดเด่น แต่ก็มักจะมีอะไรมาขัดขวางไม่ให้เป็นเช่นนั้น

“ภรรยาข้า ตอนนี้พวกเราอยู่กับสองคนแล้ว เจ้าจะมอบจูบให้ข้าได้รึยัง?” หลิงฮันยิ้ม

สุ่ยเยี่ยนยวี่ถลึงตามองและกล่าว “เมื่ออยู่นอกเมืองจักรพรรดิ เจ้าก็ถือไม่ปลอดภัยแล้ว นี่เจ้าจะช่วยจริงจังหน่อยได้หรือไม่?”

“ตกลง จริงจังก็จริงจัง” หลิงฮันนำอุปกรณ์บินแหวกเมฆาออกมาแล้วกล่าว “ภรรยาข้า ขึ้นมาเลย!”

สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่โต้ตอบ หน้าของชายคนนี้หนายิ่งกว่ากำแพงเมืองเสียอีก แต่ถึงอย่างนั้นนางก็รู้สึกมีความสุขที่ถูกหยอกล้อเช่นนี้

พรึบ!

พวกเขาขึ้นนั่งอุปกรณ์บินแหวกเมฆา โดยหลิงฮันเป็นผู้ควบคุม ภายในพริบตาภาหนะก็พุ่งทะยานด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์จนมองเห็นเป็นเพียงจุดสีดำและมีคลื่นเสียงแหวกอากาศระเบิดตามมา

การจะเคลื่อนที่ให้เร็วเหนือเสียงบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทำได้ยากยิ่ง แม้แต่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราก็มีเพียงหยิบมือที่สามารถทำได้

เมื่อเห็นอุปกรณ์บินของหลิงฮันทะยานออกไป เหล่านักฆ่าที่ไล่ตามพวกเขาก็มีร้องโอดครวญในใจ

“ไม่ต้องกังวล เป้าหมายของพวกเขาจะต้องไปมหาสมุทรดาราแน่นอน พวกเราไปที่นั่นและสังหารพวกเขา!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด