Alchemy Emperor of the Divine Dao 829

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 829 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สีหน้าของแปดราชันเปลี่ยนไปทันที

ฉัวชี่ฟยืนอย่างภาคภูมิใจ มือของเขายังคงอยู่ด้านหลังและพูดขณะหัวเราะว่า “หากเจ้าไม่รวดเร็วกว่านี้ เจ้าคงจะไม่มีทางจับข้าได้!”

ในขณะนั้น สีหน้าของราชันขุนเขาเที่ยงธรรมดูระมัดระวังอีกฝ่ายอย่างมาก จากการประเมินของหม่าตั๋วเป่า ฉัวชี่ฟงเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก แม้ว่าอีกฝ่ายจะแสดงความเร็วที่น่าสะพรึงกลัวออกมาให้เห็นเพียงอย่างเดียว แต่เชื่อว่าพลังต่อสู้ของอีกฝ่ายจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน มิฉะนั้นมันคงไม่เป็นเรื่องยากสำหรับหม่าตั๋วเป่าที่จะประเมิน

มือของราชันแห่งขุนเขาเที่ยงธรรมมีพลังจำนวนกำลังรวบตัวกัน

“อำนาจแห่งกฎเกณฑ์?” ฉัวชี่ฟงขมวดคิ้ว “นั่นเป็นปัญหาสำหรับข้าเลยทีเดียว ดูเหมือนกระบวนท่าเดียวจะไม่เพียงพอ”

ถ้าเขาพูดแบบนั้นออกมาก่อนหน้านี้ ทุกคนคงไม่มีทางเชื่อว่าเขาจะเอาชนะราชันทั้งแปดได้ เขาต้องการแค่สองกระบวนท่า? แต่หลังจากที่เห็นความเร็วที่น่าตกตะลึงของเขาแล้ว คำพูดของเขาเริ่มมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น และอาจไม่ได้ดีแต่คุย

บางทีเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าราชันทั้งแปดจริงๆก็ได้

นั่นเป็นเพราะ นอกเหนือจากพลังต่อสู้สิบห้าดาวแล้ว มันยังมีพลังต่อสู้ยี่สิบดาวอยู่อีก แล้วคนที่จะมีพลังต่อสู้สิบหกดาว สิบเจ็ดดาว หรือแม้กระทั่งสิบเก้าดาวและยี่สิบดาวจะไม่มีได้อย่างไร?

ราชันขุนเขาเที่ยงธรรมส่งเสียงคำรามและแสงของสายฟ้าเจิดจ้าไปทั่ว และกระโจนเข้าใส่ฉัวชี่ฟงอีกครั้ง และแสงสีทองก็สาดส่องไปทั่วท้องฟ้า

ฉัวชี่ฟงเพียงแค่ขยับหลบเล็กน้อยและเดินอย่างอิสระในแสงสีทอง

อย่างไรก็ตาม ราชันขุนเขาเที่ยงธรรมใช้พลังแห่งกฎเกณฑ์ด้วย แสงของเขาเริ่มกลายเป็นเส้นและเป็นตาข่ายและจับกุมฉัวชี่ฟงอย่างช้าๆ

“ปิด!” ราชันขุนเขาเที่ยงธรรมตะโกนและตาข่ายที่สร้างขึ้นจากพลังแห่งกฎเกณฑ์ก็ปิด เช่นเดียวกับการตกปลา ฉัวชี่ฟงไม่มีที่ว่างให้หนีออกไป

ฉัวชี่ฟงยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะชี้นิ้วออกไปและพูดว่า “เปิด!”

นิ้วของเขามีแสงเจิดจ้าพุ่งออกมาและทำลายพลังแห่งกฎเกณฑ์ของราชันขุนเขาเที่ยงธรรมได้ทันที เขาเดินออกมาอย่างสบายและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แค่ของเด็กเล่น ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่าของจริงมันเป็นเช่นไร!”

เขาชี้นิ้วออกไปอีกครั้ง และทันใดนั้นนิ้วยักษ์สีเงินยาวหนึ่งพันฟุตก็ปรากฏบนท้องฟ้า และเมื่อฉัวชี่ฟงกระดิกนิ้ว นิ้วยักษ์สีเงินก็ตกลงมาจากท้องฟ้าทันทีและแผดเผาทุกอย่างในเส้นทางของมัน

“สิบแปดดาว!” ราชินีหยินและราชันอีกเจ็ดคนอุทานออกมาพร้อมกัน ใบหน้าของพวกเขาดูไม่อาจทำใจเชื่อได้

พลังของการโจมตีครั้งนี้คือสิบแปดดาว!

ตู้ม!

เมื่อนิ้วยักษ์ตกลงมา พื้นดินเบื้องเกิดการถล่ม ดวงอาทิตย์ก็กลายเป็นมืดมนและดาวนับไม่ถ้วนก็ตกลงมาจากท้องฟ้า

ทุกคนรู้สึกตกตะลึงจนหน้าศีรษะด้านช้า นี่เขาเป็นมนุษย์จริงๆอย่างนั้นหรือ? เขาไม่ใช่พลังของพระเจ้าใช่หรือไม่?

ถึงกระนั้นเนตรแห่งสวรรค์ก็ยังไม่ปรากฏออกมา นี่แสดงให้เห็นว่าระดับพลังของเขายังอยู่ในระดับของมนุษย์

จอมยุทธที่แข็งแกร่งหลายคนกวาดสายตามองบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยฝุ่น แต่ที่ที่ราชันขุนเขาเที่ยงธรรมยืนอยู่นั้นกลายเป็นว่างเปล่า และไม่มีร่องรอยหรือเศษซากของเขาเลย

“การต่อสู้ครั้งนี้ พวกข้าเป็นฝ่ายแพ้” หม่าตั๋วเป่ากล่าวขณะถือร่างของราชันขุนเขาเที่ยงธรรมอยู่ในมือ ถ้าเขาเข้าไปช่วยไม่ทัน ราชันขุนเขาเที่ยงธรรมจะต้องถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน

พลังต่อสู้สิบห้าดาวและสิบแปดดาวนั้นแตกต่างกันเกินไป

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ฉัวชี่ฟงมองไปที่หม่าตั๋วเป่าและพูดว่า “พลังต่อสู้ของเจ้าน่าจะอยู่ที่ระดับยี่สิบดาวใช่หรือไม่?”

ราชันทั้งแปดกลายเป็นโกรธเกรี้ยว นี่คือองค์จักรพรรดิของพวกเขา แต่อีกฝ่ายพูดอย่างกับเป็นเรื่องตลกและไม่ให้เกียรติเขาแม้แต่น้อย

หม่าตั๋วเป่าไม่ตอบและถามว่า “เจ้าน่าจะเป็นคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์? การโจมตีเมื่อครู่เจ้าก็ใช้พลังแห่งกฎเกณฑ์เช่นกัน แต่มันแตกต่างจากขีดจำกัดของโลกใบนี้มาก”

ว่าไงนะ!

ทุกคนประหลาดใจ เขามาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์? ถ้าเป็นเช่นนั้นมันก็จะสามารถอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติขั้นเก้าด้วยวัยแค่นี้ และมีพลังต่อสู้ถึงสิบแปดดาว

แต่คำถามคือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ส่งคนลงมาในเวลานี้ได้อย่างไร?

ฉัวชี่ฟงหัวเราะและพูดว่า “ใช่แล้วข้ามาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์และข้าอยากจะสู้กับเจ้า แต่ว่าพลังต่อสู้ของเจ้านั้นอยู่ที่ยี่สิบดาว แม้แต่ข้ายังไม่มั่นใจว่าจะสามารถหลบหนีได้หรือไม่”

เขายอมรับว่ามาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์!

หลิงฮันตระหนักได้ถึงบางอย่างว่าทำไมห้านิกายโบราณถึงต้องการเดิมพัน หากเป็นฝ่ายชนะห้าครั้งก็จะเป็นผู้ชนะ และตราบใดที่พวกเขาไม่ให้หม่าตั๋วเป่าร่วมสู้ การต่อสู้ที่เหลือพวกเขาจะต้องเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน

ใครจะคิดล่ะว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะส่งคนลงมา!

“มันใช้เวลามากทีเดียวถึงจะส่งคนลงมาเบื้องล่างได้ ดังนั้นจึงมีจอมยุทธระดับทลายมิติไม่กี่คนเท่านั้นที่ถูกส่งลงมา” ฉัวชี่ฟงกล่าวอธิบาย “แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วเพราะว่า…พวกข้าเป็นคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์!”

ราชันเปิดตะวันก้าวออกมาและพูดว่า “การต่อสู้รอบต่อไปใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้า?”

พรึบ หญิงสาวรุ่นเยาว์คนหนึ่งกระโจนออกมา นางยังเด็กมาก แต่ก็มีใบหน้าที่งดงาม รูปร่างผอมเพรียว และมีหน้าอกยื่นออกมาเล็กน้อยทำให้เกิดเป็นเส้นโค้งที่งดงาม

ระดับทลายมิติขั้นเก้า!

พวกเขาจะต้องเป็นอัจฉริยะจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอนที่ถูกห้านิกายโบราณบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์เลี้ยงดู!

ในทางตรงกันข้าม อัจฉริยะอย่างฉือชิวเหริน ราชันดาบน้อย ตงหลิงเอ๋อ กลายเป็นขยะไปเลย

แต่คำถามคือ พวกเขาทั้งสองคนเป็นรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดของห้านิกายโบราณบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือไม่?

“เซียวเมี่ยวเหยียน” หญิงสาวคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและใบหน้านิ่งเฉย และยังสามารถเห็นแววตาที่เหยียดยามได้ในดวงตาของนาง

นางกำลังดูถูกทุกคนในโลกเบื้องล่าง

โลกเบื้องล่างในสายตาของนางแล้วไม่มีค่าอะไร นอกจากสวนสมุนไพรที่จะกลายเป็นเม็ดยาให้กับพวกนาง

ราชันเปิดตะวันไม่กล้าที่จะประมาทแม้แต่น้อย เขาคิดจะโจมตีออกไปครั้งเดียวด้วยกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุด และเปลวเพลิงที่ลุกโชนอยู่ในมือของเขาและโจมตีไปที่เซียวเมี่ยวเหยียน

เปลวเพลิงของเขาร้อนแรงยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ และมีจอมยุทธระดับทลายมิติหลายคนที่ต้องถอยห่างจากมัน มิฉะนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจเป็นอันตรายกับพวกเขา

เซียวเมี่ยวเหยียนไม่แสดงความหวาดกลัวออกมาแม้แต่น้อย นางมีปีกสองข้างอยู่ด้านหลังที่ยาวกว่าหนึ่งร้อยฟุตและโอบล้อมตัวนาง และไม่เกรงที่จะถูกเปลวเพลิงกลืนกิน

นิกายวิหกอมตะ!

แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่ามันถูกเรียกว่าอะไรในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม

พลังต่อสู้ของเซียวเมี่ยวเหยียนนั้นน่าตกตะลึงมาก หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่กระบวนท่านางก็สามารถสยบราชันเปิดตะวันได้แล้ว

การต่อสู้รอบถัดไป ห้านิกายโบราณได้ส่งสองอัจฉริยะรุ่นเยาว์ออกมาคือ เฉินเหวินสือและกวนหยาง พวกเขาทั้งสองคนมีพลังต่อสู้สิบแปดดาวเช่นกัน และเก็บชัยชนะมาได้อย่างง่ายดาย ทำให้พวกเขาชนะสี่ครั้งติด

เหลือชัยชนะอีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

หากหม่าตั๋วเป่าเข้าร่วมการต่อสู้ได้ เขาจะต้องเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน แต่อีกฝ่ายได้ตั้งเงื่อนไขขึ้นมา เขาเลยไม่สามารถเข้าร่วมได้

“ข้าอู่เกาเหยียน ข้าไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนให้ความรู้แก่ข้า?” คนสุดท้ายของห้านิกายโบราณเป็นรุ่นเยาว์เหมือนเดิม เขากำลังสวมชุดสีขาวและมีใบหน้าที่หล่อเหลา

ช่วยไม่ได้ที่หม่าตั๋วเป่าและแปดราชันจะขมวดคิ้ว นี่พวกเขาจะต้องแพ้จริงๆหรือ? ความพ่ายแพ้ครั้งนี้จะผูกมัดเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี และไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงสักกี่ครั้ง ในตอนนั้น ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อาจเปิดช่องทางและส่งตัวตนระดับพลังเจ้าที่แท้จริงลงมาก็ได้ และพวกเขาจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างราบคาบ

ไม่มีทาง!

“ข้าเอง!” หลิงฮันกล่าว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด