Alchemy Emperor of the Divine Dao 873

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 873 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ติงเฟยเหวินเนื้อตัวสั่น มันเป็นไปได้ยังไงกัน! เรื่องแบบนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้!

ติงผิงเป็นแค่คนไร้ค่า เขาจะได้รับความโปรดปรานจากท่านผู้นั้นได้อย่างไรที่แม้แต่เจ้าเมืองและผู้นำนิกายชื่อยื่อยังต้องคุกเข่าแสดงความเคารพต่อเขา!

—— แม้แต่ผู้นำนิกายชื่อยื่อยังคุกเข่าลงข้างหนึ่งเพื่อแสดงความเคารพต่อติงผิงแล้วสถานะศิษย์ของนิกายชื่อยื่อของเขาคืออะไร?

“หลิงฮัน? ทำไมข้าถึงคุ้นกับชื่อนี้เล็กน้อย!”  ใครบางคนพูดพึมพัม

“ใช่ ข้าเองก็เหมือนจะเคยได้ยินชื่อนั้น”

“หรือว่าท่านผู้นั้นที่พูดถึงจะเป็นเขา?”

“เหลวไหล เขาด่าบอดหรือไงกันถึงคิดรับติงผิงเป็นศิษย์?”

ทุกคนเริ่มส่งเสียงพูดคุยกัน เรื่องที่เกิดขึ้นมันน่าตกตะลึงมาก ซึ่งทำให้ทุกคนเกิดความรู้สึกสงสัยว่าหลิงฮันเป็นใครกันแน่

เจี่ยอู้ลุกขึ้นยืนและตะโกนว่า “สามห้าว เจ้ากล้าพูดจาแบบนั้นกับท่านผู้นั้นได้อย่างไร? นี่เจ้าคิดจะรนหาที่ตายรึ?”

ทุกคนปิดปากเงียบทันที

หรือว่าจะเป็นท่านผู้นั้น!

ใช่แล้ว เขาจะต้องเป็นจักรพรรดิหลิงฮันอย่างแน่นอน! เขาคือผู้ที่สามารถรวมภูมิภาคกลางและสี่ภูมิภาคให้กลายเป็นหนึ่งได้ แม้กระทั่งมหาสมุทรทั้งสี่ก็ยังเป็นอาณาเขตของเขา!

ติงผิง…ที่แท้เขาเป็นศิษย์ของจักรพรรดิหลิงฮัน!

นี่มันเรื่องอะไรกัน!

แววตาของเยว่หยวนเฉิดฉายทันที ถ้านางได้แต่งงานกับติงผิง แล้วนางจะสถานะสูงขึ้นแค่ไหน? ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องโค้งคำนับเพื่อแสดงความเคารพต่อนางหรอกหรือ?

ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย แม้กระทั่งตัวติงผิงเองก็ยังรู้สึกตกตะลึง เขาแค่คิดว่าหลิงฮันจะต้องเป็นคนที่มีสถานะไม่ธรรมดา และไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าหลิงเลยแม้แต่น้อย เพราะมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขา

– ตัวตนอย่างเขาจะมาที่เมืองเล็กๆแห่งนี้ได้อย่างไร?

“ท่านทั้งสองโปรดลุกขึ้นเถิด” ติงผิงสงบสติอารมณ์ลง

“ขอบคุณนายน้อย!” ทั้งเจี่ยอู้และเลี่ยวเจี้นพูดด้วยความเคารพ แม้พวกเขาจะไม่เห็นถึงความพิเศษของติงผิงก็ตาม แต่ในเมื่อเขาเป็นศิษย์ของท่านผู้นั้นพวกเขาก็ต้องแสดงความเคารพออกมาตามธรรมชาติ

สมาชิกทุกคนของตระกูลติงเริ่มตระหนักถึงอนาคตอันไร้ที่สิ้นสุดของติงผิง เขาจะต้องโปรยบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างแน่นอน!

และพวกเขาจะต้องแก้ไขเรื่องผิดพลาดที่ก่อไว้เมื่อครู่โดยเร็วที่สุด!

“ติงเฟยเหวิน เจ้ารู้ถึงบาปของตัวเองหรือไม่?” ผู้นำตระกูลติงหันไปมองและตะโกนใส่ติงเฟยเหวินทันที อีกฝ่ายกล้าออกคำสั่งแทนตัวเขาเองในฐานะผู้นำตระกูลติง แม้อีกฝ่ายจะได้เป็นศิษย์ของนิกายชื่อยื่อก็ตาม แล้วตอนนี้มันจะทำไม?

ติงเฟยเหวินล้มลงกับพื้น ทุกอย่างที่คิดไว้ทั้งหมดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด! ใครจะคิดว่าติงผิงเป็นศิษย์ของหลิงฮัน? ความเข้าใจผิดของทุกคนมันเป็นเหมือนดั่งคำพูดที่ว่ายิ่งบินขึ้นไปสูงเท่าไหร่ ตอนตกลงมาก็เจ็บมากขึ้นเท่านั้น! นั่นแหละสภาพของเขาในตอนนี้

“ข้า…ข้า…ข้าอยากร้องขอความเมตตาจากท่านผู้นำ!”  ติงเฟยเหวินเริ่มร้องห่มร้องไห้ออกมา คนที่เขามีเรื่องด้วยนั้นเป็นใคร? อีกฝ่ายเป็นถึงลูกศิษย์ของจักรพรรดิ ที่แม้แต่ผู้นำนิกายชื่อยื่อยังต้องคุกเข่าคำนับ!

“ติงผิง เจ้าคิดเห็นว่าไง?” ผู้นำตระกูลติงรีบหันไปถามติงผิงทันทีด้วยใบหน้าเบ่งบาน

นี่สินะที่เรียกว่าสุนัขระกาเยี่ยมวิมาน ในเมื่อติงผิงเป็นศิษย์ของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าหลิง เช่นนั้นพวกเขาจะได้รับผลพลอยได้อะไรบ้าง?

ติงผิงแสดงท่าทางเฉยเมยและพูดว่า “พวกเราจะจัดการติงเฟยเหวินตามกฎของตระกูล” ดวงตาของติงผิงมองไกลออกไป เขาไม่ได้สนใจติงเฟยเหวินแม้แต่น้อย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยอีกฝ่ายไป

“ตกลง” ผู้นำติงพยักหน้าและรีบออกคำสั่งทันที

“นำตัวติงเฟยเหวินไปขังที่คุกใต้ดินก่อนและข้าจะทำโทษเขาทีหลัง!”

“ขอรับท่านผู้นำ!”

ติงเฟยเหวินทำได้แค่ส่งเสียงกรีดร้องและรีบเข้าไปร้องขอความเมตตาจากติงผิง เขาพูดว่า “พี่ติงผิง โปรดยกโทษให้กับการกระทำในอดีตของข้าด้วย ถ้าพี่ติงผิงช่วยข้า ในอนาคตข้าสาบานว่าจะเป็นวัวเป็นม้าให้กับพี่!”

นี่หรือที่เรียกว่าการร้องขอความเมตตา? ช่างน่าอับอายยิ่งนัก!

ติงผิงไม่สนใจ เขาเห็นธาตุแท้ของอีกฝ่ายมานับครั้งไม่ถ้วน แล้วเขาจะสนใจอีกฝ่ายไปทำไม?

เมื่อติงเฟยเหวินกรีดร้องขอความเมตตาไม่สำเร็จ เขาก็ถูกลากตัวออกไปและเสียงของเขาก็เริ่มห่างไกลออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลับหายไป

“พี่ติงผิง!” เยว่หยวนรีบเดินเข้ามาหาเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยหลงใหล

ติงผิงหันไปมองเยว่หยวน แต่สายตาของกับไม่มีเยื่อใยอะไรกับนางเลยแม้แต่น้อย

ในอดีต เมื่อใดที่เขาเห็นนาง หัวใจของเขาจะเต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้น แต่ในตอนที่เขาเห็นธาตุแท้ของนาง ความรักแรกพบของเขามันเลยจบลงตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว และหลงเหลือเพียงแค่ความทรงจำอันขมขื่นเท่านั้น

ในวันนั้น ชีวิตของเขาตกต่ำจนถึงขีดสุด แต่นั่นก็ทำให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว

เขาไม่สนใจนางอีกต่อไป แต่หันไปพูดกับเจี่ยอู้และเลี่ยวเจิ้นว่า “ข้าขอบคุณท่านทั้งสองมาที่มาเพื่อแสดงความยินดีกับข้า ถ้าพวกท่านไม่มา ข้าคงจะถูกเฆี่ยนตีสามร้อยครั้งไปแล้ว”

“มันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วที่พวกข้าจะต้องมาแสดงความยินดีกับนายน้อย!” พวกเขาทั้งสองคนยังคงทำตัวอ่อมน้อม แม้ว่าอีกฝ่ายจะอ่อนแอ แต่เขาก็ได้รับการยอมรับในฐานะศิษย์ของหลิงฮัน อนาคตของเขาจะต้องไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน

เยว่หยวนไม่ยอมที่จะสูญเสียติงผิงไป นางยังคงพูดกับติงผิงไม่หยุด และพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อทำให้อีกฝ่ายนึกถึงความทรงจำที่เคยสร้างขึ้นมาด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม ติงผิงไม่แยแสนางเลยแม้แต่น้อย ในท้ายที่สุด เขาก็อารมณ์เสียและขับไล่คนของตระกูลเยว่ทั้งสามคนออกไป อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเยว่หยวนยังคงไม่ยอมแพ้ และนางจะต้องกลับมาหาเขาอีกแน่นอน

หลังจากนั้นไม่นาน หลังจากพูดคุยกันเสร็จทั้งเจี่ยอู้และเลี่ยวเจิ้นก็กล่าวลาติงผิง และบอกกับติงผิงว่าเขาสามารถมาพบพวกเขาได้ทุกเมื่อ

ถัดไป แน่นอนว่าตระกูลติงจะต้องเสนอให้ติงผิงเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปอย่างเป็นทางการ

ในเวลาเดียวกัน หลิงฮันไม่สนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เขายังคงมองหาที่อยู่ของซากศพที่ยิ่งใหญ่อยู่ ซึ่งบางทีอาจมีพวกนิกายพันศพที่เหลือรอดอยู่ด้วยก็เป็นได้

ในวันต่อมา ติงผิงกลับมาหาเขา ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความเคารพมากยิ่งขึ้น โชคชะตาของเขาเปลี่ยนแปลงไปเพราะหลิงฮัน ถ้าไม่มีหลิงฮัน เขาคงจะเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีคนเห็นค่าอยู่เหมือนเดิมและเป็นได้แค่คนไร้ค่าต่อไป

หลิงฮันไม่พูดอะไรมากนัก เขาเพียงแค่ชี้แนะการฝึกฝนเทคนิคเก้ามังกรทรราชให้กับติงผิงเท่านั้น

ในพริบตาก็ผ่านไปสามวัน ในขณะที่หลิงฮันกำลังนั่งสมาธิอยู่ เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลังและลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน แม้ว่าอีกฝ่ายจะปกปิดกลิ่นอายเอาไว้ แต่มันจะรอดพ้นสายตาของเขาไปได้อย่างไร

ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัวออกมา ซากศพที่ยิ่งใหญ่!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด