Alchemy Emperor of the Divine Dao 715

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 715 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การทดสอบนั้นง่ายมาก มันไม่ใช่การต่อสู้ เพียงแค่วางฝ่ามือลงบนแผ่นหิน ถ้าเกิดหินส่องแสงก็จะมีสิทธิ์เข้าไปด้านใน

มันฟังดูง่ายมาก แต่ผู้คนที่สามารถทำให้แผ่นหินส่องแสงได้นั้นมีน้อยจนน่าสงสาร นอกจากคนรุ่นก่อนแล้ว คนรุ่นเยาว์ปัจจุบันคงจะมีไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทำได้อย่างเช่น เย่าหุยเย่ว ฉือชิ่วเหริน และตงหลิงเอ๋อ

“แค่วางมือบนแผ่นหินอย่างนั้นหรือ?” คนที่เพิ่งมาถึงถามด้วยความสงสัย

“แน่นอนว่าไม่ใช่แค่นั้น เจ้าต้องตั้งสมาธิรวบรวมพลังทั้งหมดไปที่มัน แล้วแผ่นหินจะประเมินความสามารถของเจ้า” ชายชรากล่าว

“นี่คือหินประเมินยุทธ ซึ่งเป็นสมบัติในตำนาน”

“แม้ว่าเจ้าจะเป็นเพียงแค่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน แต่ก็อาจมีสิทธิ์เข้าไปเหนือกว่าจอมยุทธระดับทลายมิติ เพราะมันจะประเมินความแข็งแกร่งทั้งหมดของเจ้า หรือให้พูดอีกนัยหนึ่งคือระดับพลังของทุกคนจะอยู่ในระดับเดียวกันและเทียบแค่ความแข็งแกร่ง”

“การประเมินดังกล่าวคือการประเมินศักยภาพที่เป็นไปในอนาคต และเป็นไปได้ว่าศักยภาพของตัวบุคคลจะเหนือกว่าที่ประเมิน”

ชายชราพูดว่า “ถ้าเจ้ามองให้ดีจะเห็นรายชื่อนับร้อยอยู่บนแผ่นหิน ถ้าความแข็งแกร่งของเจ้าเหนือกว่าพวกเขา เจ้าก็จะมีชื่ออยู่เหนือกว่าพวกเขา ยิ่งความแข็งแกร่งในอนาคตมากเท่าใด อันดับก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น”

“อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขตแดนลี้ลับแห่งนี้จะเปิดเป็นครั้งแรกในรอบหลายร้อยหลายพันปี แต่ก็มีแนวโน้มว่าแผ่นหินนี่จะบันทึกรายชื่อของอัจฉริยะทั้งหมดในช่วงเวลาหนึ่งหมื่นปีหรือแม้กระทั่งหนึ่งล้านปี”

“แต่การที่จะทิ้งชื่อไว้บนแผ่นหินได้นั้น แม้จะเป็นรายชื่อสุดท้ายก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากในรอบหนึ่งหมื่นปี”

เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ถ้าพวกเขาสามารถทิ้งชื่อไว้บนแผ่นหินได้ มันจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน? แต่มันก็เป็นเรื่องที่ยากเกินไป มีหลายคนที่ลองดูแล้ว แต่ก็ไม่มีพวกเขาคนใดที่สามารถทิ้งชื่อไว้บนแผ่นหินได้

หลิงฮันจ้องมองไปที่แผ่นหิน ชื่อที่อยู่บนสุดบนแผ่นหินเขาเขียนชื่อของตัวเองว่า “อันดับหนึ่ง” และไม่รู้ว่าเขาเอาความกล้าหาญมาจากไหน นี่เขาไม่คิดเลยหรือว่าจะมีคนรุ่นหลังแย่งอันดับของเขาไป?

อันดับสองดูสุภาพขึ้นมากกว่า เขาสลักชื่อของตัวเองไปว่า “หยวนสื่อ”

อันดับสาม “ซื่อฟาง ” อันดับสี่ “โหยวหยิง” อันดับห้า “เย่ว” อันดับหก “กู่” อันดับเจ็ด “โม่ว” อันดับแปด “หมิงเต้า” อันดับเก้า “ฉีหลีเหล่าเหริน” และอันดับสิบ “จิ่วเต้า”

หลิงฮันมองดูที่รายชื่อ แต่ก็ไม่มีชื่อไหนที่เขาคุ้นเคย แต่เมื่อเขาอ่านชื่อที่เก้าสิบเก้า ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ในที่สุดเขาก็เห็นชื่อที่คุ้นเคย – ราชินีหยิน!

หัวใจของเขาเริ่มสั่นไหว นี่คือชื่อที่ราชินีหยินเพิ่งจะทิ้งไว้หรือ…ทิ้งไว้เมื่อหลายหมื่นปีก่อน?”

ถ้าเป็นอย่างหลัง จักรวรรดิม่วงจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับจักรวรรดิที่ปกครองยุคสมัยโบราณแห่งนี้หรือไม่?

หลิงฮันตกอยู่ในห้วงความคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง จนกระทั่งถูกจูเสวี่ยนเอ๋อเรียกอยู่สองสามครั้งก่อนที่สติของเขาจะกลับมา

“พวกเรามาลองดูกันเถอะ”

พวกเขาต่อแถวเพื่อทดสอบ มีหลายคนพูดดีแม้จะไม่ผ่านการทดสอบก็ตาม แต่ก็มีบางคนที่ไม่ผ่านการทดสอบพูดจาด้วยอารมณ์ ราวกับว่าถ้าพวกเขาเข้าไปไม่ได้ พวกเขาก็ไม่ต้องการให้คนอื่นเข้าไปเหมือนกัน

แน่นอนว่าไม่มีใครอยากจะเป็นมิตรกับคนแบบนั้น เมื่อใกล้ถึงตาของหลิงฮัน เขาเดินตรงเข้าไป แต่ก็ถูกหุ่นเชิดที่อยู่ด้านหน้าโบกมือให้หยุดเหมือนเป็นหุ่นไล่กา

พรึบ แผ่นหินส่องแสง ซึ่งหมายความว่ามีคนผ่านการทดสอบและสามารถเข้าไปในตำหนักได้

“นางคือเหวินเหรินเซียนเซียน!”

“มันต้องแน่นอนอยู่แล้ว ว่ากันว่าความแข็งแกร่งของนางเป็นรองแค่ตงหลิงเอ๋อเท่านั้นและดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริง!”

“เดี๋ยวก่อน แล้วเจ้ารู้หรือไม่แสงที่เกิดขึ้นเป็นสีอะไร เมื่อตงหลิงเอ๋อผ่าน?”

“ข้าไม่รู้”

“ข้าจะบอกให้ หินประเมินยุทธจะเปล่งแสงแค่สามสีเท่านั้น นั่นคือ สีแดง สีเขียว และสีม่วง ในสีพวกนั้น สีม่วงจะหมายถึงอ่อนแอที่สุด ส่วนสีแดงหมายถึงแข็งแกร่งที่สุด!”

“เมื่อครู่ข้าได้ยินว่าเหวินเหรินเซียนเซียนทำให้แผ่นหินเปล่งแสงสีม่วงออกมา”

“แต่คนที่ทำให้แผ่นหินเปล่งแสงสีแดงออกมาได้คือตงหลิงเอ๋อ!”

ด้วยเหตุนี้ ทุกคนต่างพยักหน้าอยู่ในใจ แม้เหวินเหรินเซียนเซียนจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังห่างชั้นจากตงหลิงเอ๋อมาก

“พี่ชายหลิง!” เมื่อเหวินเหรินเซียนเซียนเห็นหลิงฮัน ช่วยไม่ได้ที่นางจะไม่เข้าไปในตำหนักทันที นั่นเป็นเพราะมันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ที่จะรออยู่ชั่วครู่ ยิ่งไปกว่านั้นนางต้องการเห็นความแข็งแกร่งของหลิงฮัน

แม้ว่านี่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของหลิงฮันในอนาคต แต่ก็สามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้

หลิงฮันพยักหน้าและกล่าวทักทาย

“นั่นมันเจี่ยหมิง เขามาถึงแล้ว!” ทุกคนรีบแยกย้ายทันที ต่อหน้าชายที่มีจิตสังหารรุนแรงและฆ่าคนเป็นว่าเล่น แต่เขาก็ยังคงเป็นทายาทรุ่นต่อไปของนิกายมังกรปฐพี แล้วใครจะกล้าทำให้เขาไม่พึงพอใจกัน?”

เจี่ยหมิงก้าวเดินไปข้างหน้าและปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกมาราวกับว่าเขาเป็นอสรพิษยักษ์

ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะขมวดคิ้ว ระดับพลังของเจี่ยหมิงก้าวกระโดดอย่างน่าทึ่ง เขาทะลวงผ่านระดับก้าวสู่เทวาแล้ว! ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดว่ามีโอกาสอันยิ่งใหญ่อยู่ในทะเล ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เรื่องโกหก เพียงแค่ไม่กี่วัน เขาก็ทะลวงผ่านระดับก้าวสู่เทวาแล้ว

ในหมู่รุ่นเยาว์ ตอนนี้คงมีแค่ฉือชิ่วเหรินเท่นั้นที่สามารถเทียบเขาได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่ามังกรปฐพีก็คือหนอนดินหรอกหรือ? เหตุใดผู้คนส่วนใหญ่ของนิกายมังกรปฐพีมักจะแสดงภาพลวงตาของอสรพิษยักษ์? แม้ว่ามันจะมีลำตัวยาว แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันมากระหว่างอสรพิษและหนอนดินถูกไหม?

เจี่ยหมิงทำตัวเหมือนเสือซ่อนเล็บ ราวกับว่าภายในร่างกายของเขาซ่อนสัตว์อสูรโบราณเอาไว้

เมื่อเขาก้าวเดินไปที่แผ่นหิน เขาเหลือบมองหลิงฮันด้วยจิตสังหารก่อนแวบหนึ่ง แล้ววางมือลงไปที่แผ่นหิน

พรึบ แผ่นหินเปล่งแสงออกมาทันที

แสงสีม่วง

อย่างไรก็ตาม เจี่ยหมิงยังไม่ดึงมือกลับมา เขายังคงวางมือไว้บนแผ่นหิน และแสงที่เปล่งออกมาจากแผ่นหินเริ่มเปลี่ยนสีและกลายเป็นสีเขียว

นี่แสดงให้เห็นว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้แสดงพลังทั้งหมดออกมา และตอนนี้เขาได้แสดงพลังทั้งหมดออกมาแล้ว

ดังนั้น นั่นหมายความว่าเขาสามารถซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเองได้

“ยังไม่พอ!” เจี่ยหมิงตะโกนและปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวออกมา ทำให้ผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงถูกกดดันอย่างหนัก และผู้ที่ไม่สามารถรับแรงกดดันไหวก็ล้มลงกับพื้น

หลิงฮันดูไม่ไหวติ่ง เดิมทีความแข็งแกร่งของเขากับเจี่ยหมิงนั้นใกล้เคียงกัน แม้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายทะลวงผ่านระดับก้าวสู่เทวาแล้ว แต่ก็ทำให้หลิงฮันรู้สึกกดดันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

ถ้าอีกฝ่ายทะลวงผ่านระดับสวรรค์แล้วล่ะก็ หลิงฮันคงจะมีปัญหาแล้วจริงๆ

“มันกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดง!”

“พระเจ้า!”

ทุกคนอุทานออกมา สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์ ถ้าเขาสามารถทำให้แผ่นหินเปล่งแสงสีแดงออกมาได้ นั่นหมายความว่าเขาแข็งแกร่งเทียบเท่ากับตงหลิงเอ๋อและฉือชิ่วเหริน

“ย๊าก!” เจี่ยหมิงคำรามออกมาอีกครั้ง หน้าผากของเขาปรากฏเส้นสายโลหิตสีฟ้าปูดออกมา และเบื้องหลังเขาเกิดภาพมายาของอสรพิษยักษ์ตัวหนึ่งพร้อมกับเปล่งเสียงกรีดร้อง

พรึบ หินประเมินยุทธเริ่มเปลี่ยนเป็นแสงสีดำ!

รายชื่อทั้งหมดบนแผ่นหินจางหายไป และบนแผ่นหินปรากฏคำสองคำขึ้นมาว่า “ทิ้งชื่อ!”

เจี่ยหมิงแข็งแกร่งมาก เขาแข็งแกร่งกว่าอัจฉริยะรุ่นก่อน อย่างน้อยเขาก็ติดอันดับหนึ่งในร้อย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด