Alchemy Emperor of the Divine Dao 1090

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1090 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่ใช่!”

สุ่ยเยี่ยนยวี่ส่ายหน้า “ในตำแหน่งนั้นไม่ควรมีดวงดาว!”

หลิงฮันถามด้วยความสงสัยว่า “เจ้ามั่นใจแค่ไหน?”

“มั่นใจมาก!” สุ่ยเยี่ยนยวี่พยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง ความสามารถด้านวรยุทธของนางห่างชั้นจากหลิงฮันมาก แต่นางเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือหาความรู้ ดังนั้นถ้าพูดถึงความรู้รอบตัวบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว นางมีความรู้มากกว่าหลิงฮัน

“แปลกมาก ถ้างั้นมันคืออะไร?”

ทั้งสองคนจ้องมองท้องฟ้า ดาวดวงใหญ่ยังคงส่องแสงไปทั่วทุกซอกทุกมุมบนดาวเหอหนิง แสงสว่างของมันเพียงพอที่จะทำให้คนที่อยู่ในเอกภพใกล้เคียงมองเห็น

วันต่อมา ทุกคนต่างพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ดาวดางใหญ่ที่ปรากฏเมื่อคืนมันคืออะไร?

นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก โดยปกติแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นดาวในเวลากลางวัน เพราะแสงของดวงอาทิตย์สว่างเกินไป แต่ตอนนี้ทุกคนต่างก็มองเห็นดาวดวงใหญ่ นี่แสดงให้เห็นว่าแสงของมันเจิดจ้ามากกว่าดวงอาทิตย์

ทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัยว่าดาวดวงใหญ่นั่นมาจากไหน เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นดาวปรากฏในตำแหน่งดังกล่าวมาก่อน ราวกับว่าปรากฏออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่า

ดาวขนาดใหญ่จะปรากฏออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าได้อย่างไร?

มันน่าเหลือเชื่อเกินไป!

ทันใดนั้นเองก็มีกองกำลังส่งเรือเหินดาราไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันกว้างใหญ่เพื่อสำรวจดาวดวงนั้นในระยะใกล้

เรือเหินดาราแตกต่างจากเรือบินมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้สร้างหรือพลังงานที่ต้องใช้ขับเคลื่อนมากกว่าเรือบิน นั่นเป็นเพราะพวกเขาต้องสร้างให้มันบินได้นานที่สุด

แล้วเรือเหินดารานั้นมีเพียงแค่ขุมพลังใหญ่อย่างแท้จริงเท่านั้นที่จะมีครอบครอง เพราะค่าใช้จ่ายในการซื้อจนถึงการบำรุงรักษานั้นมากเกินไป

นอกจากนี้ ใครจะบินออกไปนอกดาวดวงนี้กัน?

การเดินทางจากดาวหนึ่งไปสู่อีกดาวหนึ่งใช้เวลาเป็นปีหรือแม้กระทั่งหลายแสนปี ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะเต็มใจเดินทางยาวนานขนาดนั้น

เพียงไม่กี่วันต่อมา เรือเหินดาราก็เดินทางกลับพร้อมกับข่าวใหญ่ ถ้าจะพูดให้ถูกคือข่าวที่ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง

ดาวดวงใหญ่บนท้องฟ้าที่จริงแล้วคือสุสาน!

อะไรนะ!

หลิงฮันรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินว่ามันเป็นสุสาน นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ในเมื่อดาวที่พวกเขาเห็นอยู่ไกลขนาดนั้น แล้วสุสานจะมีขนาดใหญ่แค่ไหน?

หลิงฮันอดที่จะอยากรู้อยากเห็นไม่ได้และต้องการไปดูด้วยตาตัวเอง

ยิ่งไปกว่านั้น นิกายสวรรค์เยือกแข็งยังออกประกาศพิเศษและเลื่อนการทดสอบเข้าสู่นิกายอย่างไม่มีกำหนด ดังนั้นหลิงฮันจึงมีโอกาสที่ไปสำรวจสุสาน

สุสานขนาดใหญ่บนท้องฟ้า แค่ได้ยินก็เหมือนมีสมบัติมหาศาลรออยู่แล้ว!

แต่มีเพียงแค่ไม่กี่ขุมพลังเท่านั้นที่มีเรือเหินดารา หลินฮันจะมีคุณสมบัติที่ได้ครอบครองมันได้อย่างไร?

แน่นอนว่าไม่!

แต่ไม่ใช่กองกำลังของจอมยุทธระดับดาราเท่านั้นที่เป็นเจ้าของเรือเหินดารา แต่ยังรวมถึงกองคาราวานด้วย

กองคาราวานบางแห่งทำธุรกิจข้ามดวงดาว พวกเขาเดินทางไปมาระหว่างดาวดวงใหญ่ต่างๆ โดยทำหน้าที่ส่งมอบวัสดุและขายผลิตภัณฑ์พิเศษที่มีเฉพาะในดาวดวงนั้นเท่านั้น แต่ว่าการเดินทางข้ามดวงดาวนั้นต้องใช้เวลาและอาจเจอพายุในอวกาศที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งอาจทำให้พวกเขาต้องตายในจักรวาลที่มืดมน

แน่นอนว่ากองคาราวานจะต้องรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้ พวกเขาเปิดเส้นทางใหม่สู่สุสานทันที แต่ราคาตั๋วเดินทางนั้น หึหึ หนึ่งคนต่อหนึ่งหมื่นผลึกก่อเกิด ราคาดังกล่าวเพียงพอที่จะทำให้คนส่วนใหญ่สะดุ้ง

ถึงจะเป็นเช่นนั้น ตั๋วก็ยังขาดตลาดและถูกขายหมดในเวลาอันสั้น

– ต้องทราบก่อนว่าแม้กระทั่งจักรพรรดินี แม่ทัพทั้งเจ็ด ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวายังเตรียมตัวที่จะเดินทางสู่สุสาน นี่แสดงให้เห็นว่าโอกาสครั้งนี้น่าอัศจรรย์เพียงใด

หลิงฮันได้รับตั๋วมาสองใบ ใบหนึ่งสำหรับเขาและอีกใบหนึ่งสำหรับสุ่ยเยี่ยนยวี่

แน่นอนว่าเขาจะพาจักรพรรดิพิรุณและคนอื่นๆไปด้วย แต่พวกเขาจะต้องอยู่ในหอคอยทมิฬก่อน และค่อยพาออกมาเมื่อไปถึงสุสาน

แต่การสำรวมสุสานนั้นไม่ได้มีแค่จักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจักรวรรดิราชวงศ์อีกสองแห่งอีกด้วย แล้วแต่ละจักรวรรดิราชวงศ์ก็จะปล่อยให้คนที่แข็งแกร่งรักษาการณ์แทน อย่างเช่นจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะที่ให้ราชินีที่เก้าคอยดูแล

เรือของหลิงฮันจะเดินทางในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไปเยี่ยนเฒ่าหม่าก่อน ซึ่งเขาวางแผนว่าจะไปเยี่ยมอีกฝ่ายนานแล้ว แต่มักจะมีอะไรหลายอย่างที่เข้ามาขัดจังหวะ

ในตอนที่เขากลับมาถึงหอตำรา ที่นี่ไม่วุ่นวายเหมือนกับเมื่อก่อน เหมือนกับว่าคนส่วนใหญ่กำลังพยายามหาวิธีที่จะได้รับตั๋วมา

“คารวะผู้อาวุโส!” หลิงฮันเดินเข้าไปและคารวะเฒ่าหม่า

เขาติดหนี้ชายชราผู้นี้ไว้มาก ไม่ว่าจะเป็นทักษะจิตเจ็ดสังหาร เทคนิคบ่มเพาะพลังหกธาตุ

เฒ่าหม่ากำลังงีบหลับ เมื่อเขาได้ยินเสียงหลิงฮัน เขาก็ลืมตาตื่นขึ้นทันทีและหันไปมอง แล้วพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ความก้าวหน้าของเจ้า ทำไมถึงรวดเร็วปานนี้?”

ถึงแม้หลิงฮันจะไม่รู้ว่าเฒ่าหม่านั้นแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาเชื่อว่าระดับบ่มเพาะพลังของอีกฝ่ายจะต้องสูงมากอย่างแน่นอน นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เฒ่าหม่าจะสามารถมองเห็นความก้าวหน้าได้เพียงแค่เหลือบมอง

หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ข้ามีโชคนิดหน่อย”

เฒ่าหม่าไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขากลับพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “เจ้าหนู เจ้าอย่าได้เร่งรีบจนเกินไป ถ้าเจ้าต้องการสร้างหอคอย เจ้าก็ต้องสร้างรากฐานให้แน่นทีละขั้นตอน และไม่ควรโลภมากจนเกินไป มิฉะนั้นมันจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของเจ้า!”

“ขอบคุณผู้อาวุโส ข้าจะจดจำคำเตือนของท่านเอาไว้!” หลิงฮันตอบกลับอย่างเชื่อฟัง

เฒ่าหม่าพยักหน้าและยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดว่า “มันแปลกมาก ถึงแม้เจ้าจะมีความก้าวหน้าที่รวดเร็ว แต่รากฐานของเจ้ากลับมั่นคงมากจนชายชราอย่างข้าคาดไม่ถึง”

นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหลิงฮันมีต้นสังสารวัฎ แล้วรากฐานของเขาจะไม่มั่นคงได้อย่างไร ในเมื่อฝึกฝนหนึ่งวันเท่ากับหนึ่งปี

หลิงฮันเพียงแค่ยิ้ม ถึงแม้เขาจะติดหนี้เฒ่าหม่าไว้มาก แต่เรื่องที่เขารู้เกี่ยวกับเฒ่าหม่าแทบจะเป็นศูนย์ แล้วเขาจะเปิดเผยการมีอยู่ของหอคอยทมิฬและต้นสังสารวัฎได้อย่างไร!

“ในเมื่อเจ้ามีความก้าวหน้าที่รวดเร็วมาก แต่ยังไงข้าก็ต้องตักเตือนเจ้าเอาไว้ก่อนเพื่อที่เจ้าจะได้ไม่ทำพลาด” เฒ่าหม่ากล่าวอีกครั้ง

“เตือน?” หลิงฮันถาม

เฒ่าหม่าไม่ตอบ แต่ถามหลิงฮันว่า “เจ้าคิดว่าจอมยุทธสามารถมีพลังต่อสู้ได้กี่ดาว?”

เอ่อ

เรื่องนั้นมันเป็นปัญหาด้วยหรือ?

อัจฉริยะระดับสี่ดาวนั้นหาตัวจับได้ยาก อัจฉริยะระดับห้าดาวมีเพียงแค่ในตำนาน นี่คือเรื่องทั่วไปที่ทุกคนทราบกันดี

อย่างไรก็ตาม หลิงฮันรู้ว่าเขามีพลังต่อสู้มากกว่าห้าดาว ถ้าเขาใช้ตัวช่วยทุกอย่าง การที่เขาจะมีพลังต่อสู้เจ็ดดาวก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด