Alchemy Emperor of the Divine Dao 850

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 850 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงฮันและเฮ่อเหลียนเทียนหยุนเผ่นหนีอย่างรวดเร็ว ตราบใดที่พวกเขารักษาชีวิตเอาไว้ได้ พวกเขาค่อยมาสะสางปัญหานี้ในอนาคต

“คิดจะหนี?” อ้าวเจี้ยนไล่ตามทันที ในที่แห่งนี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่สามารถไล่ตามทั้งสองคน เพราะหากให้คนอื่นไล่ตามไป แม้คนเหล่านั้นจะเป็นตระกูลจักรพรรดิพวกเขาก็ต้องถูกสยบด้วยออร่ามังกรของเฮ่อเหลียนเทียนอยู่ดี

ในขณะที่ตัวเขานั้นเป็นอัจฉริยะจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์และมีสายเลือดมังกรที่แท้จริงไหลเวียนอยู่ในร่างกาย

“ยอมจำนนซะ!” อ้าวเจี้ยนควงมือควบคุมคลื่นน้ำโจมตีใส่หลิงฮันกับเฮ่อเหลียนเทียนหยุน

เขาเป็นทายาทของมังกรที่แท้จริง การจะควบคุมน้ำย่อมไม่ใช่เรื่องยาก

คลื่นน้ำที่ถูกควบคุมแฝงไปด้วยอำนาจของพลังระดับทลายมิติ หลิงฮันกับเฮ่อเหลียนเทียนหยุนที่มีพลังบ่มเพาะเพียงระดับสวรรค์จะสามารถต้านทานได้อย่างไร? ‘ตูม’ พวกเขาถูกคลื่นน้ำกระแทกใส่จนร่างสั่นไหว

แต่เนื่องจากทั้งคู่มีกายหยาบที่เทียบได้กับแร่เหล็กระดับสิบพวกเขาจึงไม่บาดเจ็บ ไม่เช่นนั้นหากเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์คนอื่นพวกเขาคงถูกคลื่นน้ำฉีกกระชากเป็นชิ้นๆแล้ว

อ้าวเจี้ยนใช้โอกาสนี้ในการไล่ตามพวกเขา

“บัดซบ ครั้งนี้ช่างเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่จริงๆ!” หลิงฮันนำยันต์เคลื่อนย้ายในพริบตาออกมา ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว แม้เขาจะไม่เต็มใจจะใช้มันแต่หากไม่ใช่พวกเขาก็หลบหนีออกจากใต้สมุทรนี้ไม่ได้

“ยันต์เคลื่อนย้ายในพริบตา?” อ้าวเจี้ยนชะงักและมีท่าทีร้อนรน เขาต้องรีบหยุดหลิงฮันเดี๋ยวนี้

“เมื่อเจอกันครั้งหน้า เด็กบัดซบเช่นเจ้าข้าจะสังหารทิ้งไม่ให้เหลือ!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม การที่เกือบจะถูกมังกรคนอื่นสังหารเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างยิ่ง

‘ฟึบ’ อ้าวเจี้ยนเหวี่ยงแขนขว้างหอกยาวออกไป แต่หอกที่ขว้างออกไปสัมผัสโดนเพียงน้ำทะเลที่ว่างเปล่าเท่านั้น ทั้งหลิงฮันและเฮ่อเหลียนเทียนหยุนต่างหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“บัดซบ!” สีหน้าของอ้าวเจี้ยนเปลี่ยนเป็นเย็นชาและมืดมน

เขาจะไม่มีทางไล่ตามขึ้นไปบนพื้นดินเด็ดขาด นั่นเพราะเขาได้ยินมาว่าที่นั่นมีเผ่ามนุษย์ที่ทรงพลังปกครองอยู่ พลังต่อสู้ของมนุษย์ที่นั้นหากผสานกับอำนาจแห่งจักรภพแล้วจะเกินกว่าระดับทลายมิติยี่สิบดาว!

เขากลัวว่าจะต้องไปจบชีวิตลงที่นั่น

ล้อเล่นรึเปล่า เขาเป็นถึงทายาทของมังกรที่แท้จริง อนาคตของเขานั้นมีแต่ความรุ่งโรจน์ แล้วทำไมเขาจะต้องไปเสี่ยงชีวิตในโลกเล็กๆใบนี้ด้วย?

แต่มนุษย์ที่น่ารังเกียจเมื่อครู่สามารถครอบครองยันต์เคลื่อนย้ายในพริบตาได้อย่างไร? สมบัติเช่นนั้นแม้แต่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็นับว่าหาได้ยากยิ่ง

‘พรึบ’ ร่างของหลิงฮันกับเฮ่อเหลียนเทียนหยุนปรากฏขึ้นที่พื้นผิวของน้ำทะเล

“ที่นี่คือที่ไหน?” หลิงฮันหันมองรอบๆ

“เท่าที่ดู พวกเราน่าจะอยู่ที่มหาสมุทรทางตะวันตก” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนใช้จมูกดมกลิ่นก่อนจะกล่าว

หลิงฮันแสดงท่าทีประหลาดใจและกล่าว “เจ้าสามารถรับรู้ได้จากการดมกลิ่นงั้นรึ?”

“เหอะ น้ำทะเลของทะเลทั้งสี่ทิศแตกต่างกัน ข้าจะแยกไม่ออกได้อย่างไร!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนเค้นเสียงกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ว่าแต่เจ้ามียันต์เคลื่อนที่ในพริบตาได้อย่างไร สมบัติเช่นนั้นล้ำค่าอย่างมาก แม้แต่ข้าก็ยังไม่เคยได้ครอบครอง!”

หลิงฮันทำท่าทีครุ่นคิด โดยนึกถึงข่าวใหญ่ที่ได้ยินมาจากจักรพรรดิจอมอสูร

ถ้าทวีปฮงเทียนนั้นแต่เดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ การที่จะมีสมบัติศักดิ์สิทธิ์บางอย่างอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร บางทีหม่าตั้วเปาอาจจะค้นพบมันจากโบราณสถานบางแห่ง

เจ้าอ้วนนั่นช่างเป็นคนดียิ่งนัก แม้แต่สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ก็ยังมอบให้กับเขา

“มีคนให้ข้ามา” หลิงฮันตอบอย่างไม่คิดเยอะ

“สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ยังมอบให้กับคนอื่นได้?” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนตกตะลึง “คนคนนั้นเป็นใคร รีบแนะนำให้ข้ารู้จักเดี๋ยวนี้ ข้าไม่รังเกียจที่จะเป็นสหายกับเขาหรอกนะ”

หลิงฮันยิ้ม “เจ้าก็มีหลายส่วนที่เหมือนกับเขา”

เขาเล่าเรื่องหม่าตั้วเปาให้เฮ่อเหลียนเทียนหยุนฟังและกลับขึ้นพื้นดิน เนื่องจากตอนนี้พวกเขาอยู่ในอาณาเขตของมหาสมุทรทางตะวันตก เขาจึงต้องมุ่งหน้าไปภูมิภาคตะวันตกก่อนถึงค่อยเดินทางต่อไปยังภูมิภาคเหนือและกลับเมืองจักรพรรดิ

ด้วยความเร็วฝีเท้าของพวกเขา หลังจากผ่านไปเจ็ดวันพวกเขาก็ออกจากพื้นที่มหาสมุทรได้และขึ้นพื้นดิน

เนื่องจากหลิงฮันเร่งรีบ นอกจากฮูหนิวแล้วคนอื่นๆก็ยังคงอยู่ในหอคอยทมิฬ แต่ก็มีบางครั้งที่เขานำลูกของเขาออกมาเล่นด้วย

ภูมิภาคตะวันตกในตอนนี้เป็นอาณาเขตของจักรวรรดิต้าหลิงแล้วและมีธงหอคอยทมิฬปักอยู่ ดังนั้นเขาจึงสามารถติดต่อและรับข่าวสารจากทุกที่ในอาณาเขตของจักรวรรดิต้าหลิงได้ และหลังจากเขาได้รับรู้บางอย่าง เขาก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาทันที

‘บางสิ่ง’ ที่แต่เดิมถูกฝังอยู่ใต้เหมืองโบราณของแคว้นเพลิง… ในที่สุดมันก็ปรากฏออกมาแล้ว!

หลิงฮันมองเห็นภาพเงาอันคลุมเครือผ่านธงหอคอยทมิฬ บางสิ่งที่ว่านั้นเป็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์ที่รอบกายถูกปกคลุมไปด้วยปราณสีดำ พวกมันมีพลังที่แข็งแกร่งและกำลังโจมตีเมืองและสิ่งมีชีวิต พวกมันกำลังทำการเปลี่ยนเมืองให้กลายเป็นดินแดนแห่งความตายที่จะถูกรอบล้อมไปด้วยปราณหมอกสีดำทมิฬ

โชคดีที่การทำเปลี่ยนเมืองให้เป็นแดนแห่งความตายนั้นไม่สามารถทำได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ตอนนี้พวกมันยังไม่ยึดครองดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยวได้อย่างสมบูรณ์ ยังต้องใช้เวลาอีกสักพักก่อนที่พวกมันจะบุกมาถึงภูมิภาคเหนือผ่านเส้นทางของหุบเขาจันทราร่วงหล่น

“เกิดอะไรขึ้น?” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนเอ่ยถาม

หลิงฮันบอกเล่าสถานการณ์ เมื่อได้ฟังเฮ่อเหลียนเทียนหยุนก็ขมวดคิ้ว

ทำไมต้องเป็นเวลานี้ด้วย!

ตราบใดที่ให้เวลาพวกเขาสองคนอีกหน่อย ในอนาคตพวกเขาจะกลายเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติที่พลังต่อสู้ยี่สิบดาวได้อย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนว่าสวรรค์จะจงใจสร้างความลำบากให้กับพวกเขา

หลิงฮันตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เขาให้อสูรศิลานำข่าวไปบอกกับจักรวรรดิจันทราม่วง ในขณะที่เขามุ่งหน้าไปหยุดสิ่งมีชีวิตจากเหมืองโบราณทันที

หลิงฮันเรียกใช้งานอำนาจจักรภพ พลังต่อสู้ของเขาทะยานขึ้นเป็นระดับทลายมิติเก้าดาวในพริบตา เนื่องจากดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยวจะมีพื้นที่เล็กทำให้พลังของอำนาจจักรภพลดลงมา ไม่เช่นนั้นหากเป็นอาณาเขตอื่นหลิงฮันคงมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติสิบดาวไปแล้ว

เขาใช้ออกทักษะย่างก้าวเทพธิดาปีศาจและอัสนีบาตเก้าทิวาพร้อมกัน เขาบินด้วยความเร็วสูงไปยังทิศทางของหุบเขาจันทราร่วงหล่น เขาออกคำสั่งผ่านสัญลักษณ์บนธงให้จอมยุทธระดับสูงมารวมตัวกันที่หุบเขาจันทราร่วงหล่นเพื่อต่อต้านสิ่งมีชีวิตจากใต้พิภพ

ผ่านไปสามวันเขาก็มาถึงหุบเขาจันทราร่วงหล่น ณ เวลานี้จักรพรรดิพิรุณและมู่หลงชิงเองก็มาถึงแล้วพร้อมกับกองทัพจอมยุทธจำนวนมาก อี้ชวงชวงเองก็มาเช่นกัน นางนั่งพักอยู่อย่างสบายใจห่างจากทุกๆคน

“คารวะองค์จักรพรรดิ!” เมื่อเห็นหลิงฮัน ทุกคนก็ก้มหัวเคารพ

หลิงฮันสะบัดมือให้ทุกคนเงยหน้าขึ้นและกล่าว “พี่ชาย สถานการณ์เป็นเช่นไรบ้าง?”

ดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยวล่มสลายแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่อาจสอดส่องสถานการณ์ผ่านธงได้อีกต่อไป

“จากที่ข้าเข้าไปตรวจสอบหลายครั้ง เป็นไปได้ว่าพวกมันจะรวมตัวกันและจะบุกมาถึงหุบเขาภายในไม่ช้า” จักรพรรดิพิรุณขมวดคิ้ว เขาเห็นความเสียหายที่ถูกทำลายโดย ‘สิ่งนั้น’ แล้ว ดังนั้นในฐานะของจักรพรรดิของแคว้นพิรุณ เขาจึงรู้สึกเกลียดชังเป็นอย่างยิ่ง

“ขอรายงาน!” หน่วยสอดแนมปรากฏตัวและคุกเข่าก่อนจะกล่าว “พวกมันเคลื่อนที่มายังภายในหุบเขาแล้ว!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด