Alchemy Emperor of the Divine Dao 1634 สองทักษะใหม่

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1634 สองทักษะใหม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากผ่านไปครึ่งวัน อำนาจของสายฟ้าก็สลายไป ระยะเวลาออกฤทธิ์ของคล้ายคลึงกับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์

ร่างของหลิงฮันเปียกชุ่มไปด้วยโลหิต นอกจากเขาที่บ่มเพาะทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์คงไม่มีใครอื่นในโลกนี้แล้วที่สามารถดื่มหยดสายฟ้าสวรรค์เข้าร่างกายโดยตรงได้

เต๋าแห่งอัสนีปรากฏขึ้นในห้วงจิตวิญญาณของหลิงฮัน เพียงแต่ว่าอำนาจของมันยังไม่สมบูรณ์ เต๋าแห่งอัสนีแตกแยกออกเป็นเศษเสี้ยวนับชิ้นไม่ถ้วน บางชิ้นมีขนาดใหญ่ บางชิ้นขนาดเล็กจนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า

ไม่น่าแปลกใจที่แห่งอัสนีจะไม่สมบูรณ์ หยดสายฟ้าสวรรค์ที่เขาได้รับมาคือจากเมฆสายฟ้าของโลกบรรพกาล แน่นอนว่าอำนาจของมันย่อมีจำกัด

ความจริง สำหรับหลิงฮันในตอนนี้แค่นี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

เวลามีจำกัดก่อนที่เต๋าแห่งอัสนีจะหายไป หลิงฮันเลือกทำความเข้าใจ ‘เศษเต๋าแห่งอัสนี’ ชิ้นที่ใหญ่ที่สุด

อำนาจแห่งกฎเกณฑ์เป็นสิ่งที่ฝึกฝนได้ยากที่สุด ยิ่งฝึกฝนจากเต๋าที่ไม่สมบูรณ์ด้วยแล้วยิ่งยากขึ้นไปอีก เพราะงั้นเขาจึงเลือกที่จะทำความเข้าใจจากเศษเต๋าแห่งสายฟ้าชิ้นใหญ่ที่สุด

หนึ่งวันของโลกภายนอกผ่านพ้นไปในขณะที่ใต้ต้นสังสารวัฏ หลิงฮันใช้เวลาไปถึงร้อยปีเต็ม!

เขาลืมตาขึ้นโดยที่ไม่ลุกขึ้นยืนและนำหยดสายฟ้าสวรรค์ออกมาจิบต่อ ควสามเจ็บปวดทรมานถาโถมเข้ามาอีกครั้งแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ทนไหว

อีกหนึ่งวันต่อมา หลิงฮันก็จิบเต๋าแห่งอัสนีต่ออีกหยด

เขาแบ่งหยดสายฟ้าสวรรค์ที่ได้มาออกเป็นร้อยหยด หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งปีเขาก็ดื่มหยดสายฟ้าสวรรค์จนหมด ความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อัสนีของเขาเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก

“อัสนีบาตชำระล้างโลกา”

“แสงอัสนี”

หลิงฮันได้รับทักษะทั้งสองนี้มาจากการฝึกฝนอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อัสนี ทั้งสองทั้งสองกล่าวได้ว่าเป็นทักษะระดับนิรันดร์เนื่องจากเขารู้สึกได้ว่ายิ่งระดับพลังของเขาสูงขึ้น ทักษะทั้งสองนี้จะสามารถขัดเกลาให้ทรงพลังขึ้นตามระดับพลังได้

อัสนีบาตชำระล้างโลกาเป็นทักษะที่เหมือนกับอำนาจสายฟ้าที่เขาเคยฝึกฝนจากการมองดูทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ อำนาจสายฟ้าที่เขาฝึกฝนเองเป็นเพียงการเลียนแบบ แต่ว่าทักษะนี้คือพลังที่ได้รับมาจากทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์โดยตรง

เขาสามารถใช้ทักษะนี้โจมตีโดยตรง หรือสามารถนำไปผสานรวมกับทักษะดาบฟ้าคำรามเหมือนเดิมโดยแทนที่อำนาจสายฟ้าเก่า

ส่วนทักษะแสงอัสนีนั้นคือทักษะที่จะทำให้เขาเคลื่อนที่ได้รวดเร็วดุจทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์!

นี่หมายความว่าอย่างไร?

ความเร็วของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์คือความเร็วที่ไม่มีใครสามารถหลบหลีกได้และทำได้เพียงต้านทาน ด้วยทักษะนี้เขาจะสามารถไล่ตามหรือหลบหลีกการโจมตีของศัตรูได้อย่างง่ายดาย

“ความเร็วจากทักษะน่าจะไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้นาน” หลิงฮันพึมพำ “แต่ระยะเวลาสั้นๆก็เพียงพอที่จะใช้ไล่ตามเป้าหมายหรือหลบหนีออกมาจากวงล้อมศัตรูได้”

“อันที่จริงทักษะที่คล้ายคลึงกับทักษะอัสนีบาตเก้าทิวาไม่น้อย เพียงแต่อำนาจของมันนั้นทรงพลังยิ่งกว่าไม่รู้กี่เท่าตัว”

“อืม ได้เวลาไปสนามรบสองดินแดนเสียที!”

“หากราชาไค่หยุนปรากฏตัว ข้าจะสังหารเขาซะ! แต่ตั้งแต่ที่ข้าสังหารฉงปาตู้ไปข้าก็รับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์มาแล้วสองครั้ง บางทีบ่วงอาฆาตอาจจะไม่หลงเหลืออยู่แล้ว”

บ่วงอาฆาตที่ติดอยู่กับเขาอาจหายไป แต่ไม่ใช่กับจักรพรรดินี นางเพิ่งรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เพียงครั้งเดียวหลังจากสังหารฉงเยี่ย

“เหอๆ ราชาไค่หยุน เจ้าจะกล้าปรากฏตัวรึไม่?”

หลิงฮันออกจากหอคอยทมิฬและเคลื่อนที่ด้วยคลื่นเต๋าสีทองไปยังพิกัดดาวหยุนติง

ไม่นานเขาก็มาถึงจุดหมายและได้รับข่าวดี จักรพรรดิพิรุณกำลังจะทะลวงผ่านระดับเซียน!

จักรพรรดิพิรุณออกมายืนกลางห้วงอวกาศเพื่อรับทัณสายฟ้าสวรรค์

เขาก็เหมือนกับหลิงฮันและจักรพรรดินีที่ผสานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ทั้งสองได้สำเร็จ แม้จะทะลวงผ่านเป็นเซียนระดับต้นแต่ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ที่ได้รับรุนแรงเทียบเท่าของเซียนระดับสูง จักรพรรดิพิรุณนั้นไม่ได้ฝึกฝนทักษะบ่มเพาะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ทักษะบ่มเพาะเก้าสวรรค์ดับสูญหรือทักษะนิรันดร์ใดๆ ทัณฑ์สวรรค์ที่รุนแรงเทียบเท่าเซียนระดับสูงนี้ก็จำได้เขาบาดเจ็บปางตาย

แต่ด้วยแรงใจที่ไม่ย่อท้อ ไม่ว่าจะตกอยู่ในสภาพใกล้ตายเพียงใดพลังชีวิตของเขาก็ไม่ดับสูญและผ่านทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้สำเร็จในครึ่งวันต่อมา

นอกจากพวกเขาทั้งสามคนแล้ว หลิงฮันก็ตั้งความหวังเอาไว้กับศิษย์ทั้งสองอย่างติงผิงและจิ่วเยาเช่นกัน เพียงแต่ดูเหมือนพรสวรรค์ของทั้งสองจะยังไม่เพียงพอ พวกเขาขัดเกลาดวงดาวได้ราวๆห้าล้านดวงก็พบคอขวดที่ยากจะข้ามผ่าน

หลิงฮัน จักรพรรดินีและจักรพรรดิพิรุณเข้าสู่สนามรบสองดินแดนพร้อมกัน การผสานดินแดนทั้งสองให้กลับเป็นหนึ่งเดียวนั้นไม่เคยมีใครทำมาก่อนพวกเขาจึงต้องคลำทางหาวิธีด้วยตัวเอง

หลังจากปรึกษากันและทดลองอยู่หลายวิธี พวกเขาก็ค่อยๆเริ่มสัมผัสได้ว่าดินแดนทั้งสองกำลังส่งเสียงเรียกพวกเขาราวกับกำลังปรารถต้องการให้พวกเขาทำอะไรบางอย่าง

ทั้งสามคนใช้ร่างของตนเองเป็นแก่นกลางเพื่อสร้างสะพานเชื่อมต่อทั้งสองดินแดน พริบตานั้นเอง ณ สนามรบสองดินแดนก็ได้มีหอคอยแสงสามแท่งปรากฏออกมาเชื่อมต่อดินแดนทั้งสองเข้าด้วยกัน ตอนนี้ฝั่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์และดินแดนใต้พิภพสามารถมองเห็นกันและกันได้อย่างชัดเจน สวรรค์และปฐพีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

พวกหลิงฮันทั้งสามคนมองหน้ากันด้วยสีหน้าตกตะลึง ในขณะพวกเขาใช้ร่างของตนเองเป็นสะพานเชื่อต่อสองดินแดน อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของทั้งสองดินแดนได้ไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายของพวกเขาอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้รากฐานพลังบ่มเพาะและพลังปราณในร่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกๆหนึ่งลมหายใจดวงดาวหนึ่งดวงจะถูกควบแน่นขึ้นในวงวิถีโคจรดาราจักร

ต่อให้หลังจากผสานดินแดนทั้งสองสำเร็จจะไม่ได้รับวาสนาใดๆ แค่ผลประโยชน์ในตอนนี้ก็ถือว่ามหาศาลแล้ว!

‘ฉึบ’ แต่ในตอนนั้น ร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวจากการฉีกชั้นมิติ อำนาจอันไร้สิ้นสุดที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างนั้นทรงพลังเกินพรรณนา

ใบหน้าของพวกหลิงฮันแข็งข้าง ร่างที่ปรากฏตัวนี้ทรงพลังเกินไปจนทำให้พวกเขารู้สึกราวกับตนเองเป็นเพียงหนอนแมลง หลิงฮันรีบคว้าร่างของจักรพรรดินีกับจักรพรรดิพิรุณและโคจรทักษะแสงอัสนีอย่างรีรอ พริบตาเดียวทั้งสามคนก็มาถึงพิกัดห้วงอวกาศอันไกลโพ้น

เพียงแต่ว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้หายใจ หลิงฮันก็พบเห็นร่างนั้นไล่ตามเขามาด้วยความเร็วที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน ดูจากท่าทางที่ผ่อนคลายของอีกฝ่ายแล้วเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่เหมือนกับหลิงฮันที่สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่านี้ได้เพียงในช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น

“ไม่ต้องเป็นกังวล ข้ามาที่นี่เพราะได้รับคำสั่งจากประมุกหญิงน้อย” ร่างนั้นกล่าวก่อนที่ออร่าปั่นป่วนบนร่างจะสลายหายไปเผยให้เห็นโฉมหน้าแท้จริง

นางคือสตรีที่ดูมีรูปลักษณ์อยู่ในช่วงอายุสามสิบปี ใบหน้าของนางไม่นับว่างดงามอันใดหรืออาจจะห่างไกลจากความงามของสตรีทั่วไปด้วยซ้ำ กล่าวคือนางค่อนข้างอัปลักษณ์เล็กน้อย

หลิงฮันชะงักและเผลอกล่าวออกไปโดยไม่รู้ตัว “ฮูหนิวส่งเจ้ามา?”

“ประมุกหญิงน้อยมีนามว่า เทียนหยิน!” สตรีผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขัง เมื่อกล่าวชื่อของฮูหนิวใบหน้าของนางแสดงออกถึงความเคารพราวกับตัวตนอันยิ่งใหญ่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้า

สีหน้าของหลิงฮันแสดงออกถึงความรู้สึกแปลกประหลาดและเชื่อว่าสตรีผู้นี้ถูกฮูหนิวส่งมาแน่นอน เหตุผลที่เชื่อนั้นไม่มีอะไรซับซ้อนเลย… เพราะสตรีผู้นี้อัปลักษณ์!

เด็กสาวที่ขี้หวงเช่นนางไม่มีทางส่งสตรีงดงามมาหาเขาแน่!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด