Alchemy Emperor of the Divine Dao 1686 แม่ทัพสูงสุดเม่าไต้

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1686 แม่ทัพสูงสุดเม่าไต้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงฮันมุ่งหน้าไปหาเม่าซูอวี่ทันที

คนที่จะมีอำนาจในการโยกย้ายรองแม่ทัพเช่นนี้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นในกองกำลัง

แม่ทัพสูงสุด

“ถูกแล้ว ข้าเป็นคนบอกบิดาของข้าเอง” เม่าซูอวี่พยักหน้า “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า ข้าแค่ไม่ชอบหน้าหมอนั่นเท่านั้น ฮึ่ม เป็นถึงตัวตนระดับโลกียนิพพานแต่กลับทำตัวไร้ยางอายรังแกคนอื่น”

นางกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

หลิงฮัยหัวเราะก่อนจจะกล่าว “แต่ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้าอยู่ดี เจ้าช่วยข้าไว้มาก”

“จริงสิ บิดาของข้าบอกว่าหากเจ้ามีเวลาก็อยากให้เจ้าไปพบเขาหน่อย” เม่าซูอวี่กล่าว

หลิงฮันแน่นิ่ง ก่อนหน้านี้เนื่องจากเขาถูกติงหู่ทำร้าย ทำให้ไม่มีใครอยากจะใกล้ชิดกับเขา หากไม่ใช่เพราะมีกฎว่าทุกกลุ่มจะต้องมีสมาชิกหนึ่งร้อยคน กลุ่มของพวกเขาคงมีเพียงหลิงฮันกับจักรพรรดินีสองคน

นอกจากนั้นที่ติงหู่กล่าวว่าผู้ทดสอบที่ได้ตำแหน่งผู้นำจะได้รับศิลาดวงดาวสิบก้อนนั้น ผู้นำกลุ่มคนอื่นๆได้รับไปแล้วมีเพียงเขาที่ยังไม่ได้

จะให้เขาไปทวงติงหู่? แน่นอนว่าผลลัพธ์คงหนีไม่พ้นถูกอีกฝ่ายทำให้อัปยศ!

แม้หลิงฮันจะเผยพลังต่อสู้อันแข็งแกร่งให้คนในกลุ่มรับรู้และได้รับความเคารพจากทุกคน แต่เมื่อกลับมายังค่ายกองกำลัง ทุกคนในกลุ่มก็แยกตัวไม่เข้าใกล้เข้าเลยแม้แต่คนเดียว

ใครจะกล้าสร้างความไม่พอใจให้กับตัวตนระดับนิรันดร์อย่างติงหู่?

หลิงฮันอาจจะมีอนาคตอันรุ่งโรจน์ แต่จากระดับสร้างสรรพสิ่งไปยังระดับโลกียนิพพานนั้น แม้จะเป็นอัจริยะขนาดไหนก็ต้องใช้เวลาขัดเกลาพลังหลายสิบล้านปี หลิงฮันจะมีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนั้นหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้

แต่ตอนนี้เม่าไต้กลับบอกให้หลิงฮันเข้าพบ

การให้ไปพบไม่ต่างอะไรจากการประกาศให้ทุกคนรู้ว่า เม่าไต้รู้สึกสนใจในตัวหลิงฮัน!

ใคคือเม่าไต้?

ปรมาจารย์สามนิพพานผู้ทรงพลังที่มีโอกาสทะลวงผ่านโลกียนิพพานสี่นิพพาน

หากเม่าไต้สนับสนุนหลิงฮัน ติงหู่จะนับเป็นอันใด?

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “วันคืนไม่คอยท่า กาลเวลาไม่เคยคอยใคร ข้าจะไปพบผู้อาวุโสวันนี้เลย”

“อืม!” เม่าซูอวี่พยักหน้า “มากับข้า ท่านพ่อสนใจในตัวเจ้ามาก ขนาดข้าที่คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งแล้ว ก็ไม่อาจเทียบกับเจ้าได้”

ทั้งสองออกจากค่ายกองกำลัง ความจริงระหว่างการทดสอบเข้ากองทัพ พวกเขาไม่สามารถเข้าออกได้ตามใจชอบ แต่ด้วยสถานะของเม่าซูอวี่ ผู้ฝึกสอนหลายคนจึงไม่สามารถทำอะไรได้และยอมให้ทั้งสองออกไป

เรื่องที่ติงหู่ถูกย้ายกะทันหัน ไม่ว่าใครก็รู้ว่าต้องเป็นฝีมือของเม่าไต้

เม่าไต้เป็นถึงนิรันดร์ระดับสามนิพพานที่ทรงพลังและมีอนาคตจะบรรลุเป็นนิรันดร์สี่นิพพาน วันหนึ่งเขาจะกลายเป็นตัวตนที่ยืนอยู่ในสภานะจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองธุลีจันรทราเทียบประมุขของสามตระกูลใหญ่

เม่าไต้พำนักอยู่ในกองกำลังธุลีจันรทราหลัก ไม่ใช่กองกำลังสำรองเล็กๆเช่นพวกผู้ทดสอบ

ทั่วทั้งกองกำลังธุลีจันรทรามีคนอยู่เก้าพันคน ทุกๆสามพันคนแบ่งออกเป็นคนของกองกำลังย่อยพยัคฆ์ขาว กองกำลังย่อยมังกรคราม กองกำลังย่อยหงส์เพลิง

เม่าไต้นั้นมีศิษย์เพียงคนเดียวคือจางชง เขาคือจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งสูงสุดที่กำลังรอโอกาสทะลวงผ่านเป็นระดับโลกียะนิพพาน

คนที่นี่รู้จักนางเป็นอย่างดีอยู่แล้ว พวกเขาพยักหน้าให้แก่นางโดยไม่เอ่ยถามอะไรแม้แต่คำเดียว

เม่าซูอวี่พาหลิงฮันเข้ามาในลานที่พักแห่งหนึ่งในค่ายกองกำลัง แม้ภายนอกของลานที่พักจะดูเล็กกระทัดรัดแต่ภายในอาจจะกว้างใหญ่ราวกับสรวงสวรรค์ ด้านในเป็นไปได้ว่าจะมีทะเลสาปอันกว้างใหญ่และภูเขามากมายหลายลูก ที่พักแห่งนี้แท้จริงเป็นอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างให้มีขนาดใหญ่และมีรูปร่างเหมือนที่พัก

“ศิษย์น้อง!” ร่างหนึ่งนั่งอยู่บริเวณประตูทางเข้า ทันทีที่เห็นเม่าซูอวี่เขาก็รีบลุกขึ้นมาทักทายและกวาดสายตามองหลิงฮันด้วยแววตาขึงขังราวกับบอกเป็นนัยๆว่า สตรีผู้นี้เป็นของเขาอย่าได้คิดแตะต้อง

คนผู้นี้คือจางชง ศิษย์เพียงคนเดียวของเม่าไต้

“ศิษย์พี่!” เม่าซูอวี่กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นางนับถือศิษย์พี่ผู้นี้เป็นเหมือนพี่ชายเนื่องจากบิดาของนางมักใช้เวลาทั้งหมดไปกับการบ่มเพาะพลัง กล่าวได้ว่าจางชงผู้นี้ใช้เวลาร่วมกับนางเยอะกว่าเม่าไต้ผู้เป็นบิดาเสียอีก

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ยินดีที่ได้พบพี่ชายจาง”

สีหน้าของจางชงเผยให้เห็นถึงความรู้สึกไม่สบอารมณ์ เจ้าเป็นเพียงเซียนระดับสูง ส่วนข้าเป็นราชาเซียน ต่อให้เจ้าไม่ต้องเรียกข้าว่าผู้อาวุโสจาง แต่เหตุใดเจ้าไม่เรียกข้าว่านายท่านจาง?

“ท่านพ่อกำลังบ่มเพาะพลังอยู่?” เม่าซูอวี่เอ่ยถาม

“ท่านเพิ่งบ่มเพาะพลังเสร็จและกำลังจิบชาพักผ่อน” จางชงหันไปมองเม่าซูอวี่ ร่องรอยไม่สบอารมร์บนใบหน้าหายไปทันทีพร้อมกับแทนที่ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

“เจ้าโชคดีที่มาถูกจังหวะ เข้าไปได้เลย” เม่าซูอวี่กล่าวกับหลิงฮันก่อนจะหันไปคุยกับจางชง “ศิษย์พี่ ข้าพบปัญหาในระหว่างบ่มเพาะพลัง ท่านช่วยชี้แนะข้าหน่อย”

เมื่อได้คุยกับเม่าซูอวี่ความรู้สึกไม่พึงพอใจต่างๆของจางชงก็สลายหายไปทันที “ปัญหาอันใด?”

หลิงฮันยิ้ม เขามองออกว่าไม่เพียงแค่จางชงที่หลงรักเม่าซูอวี่ แต่ทางเม่าซูอวี่เองก็มีความรู้สึกดีๆให้กับศิษย์พี่ของนางเช่นกัน เพียงแต่ว่านางเป็นคนที่ไม่ประสีประสาในเรื่องนี้จึงยังไม่ตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเอง

เมื่อเขาผ่านประตูลานที่พักเข้าไป สิ่งที่เห็นเบื้องหน้าเป็นอย่างแรกคือเส้นทางน้ำที่คดเคี้ยวสิบแปดสาย ในระยะที่ห่างออกไปเล็กน้อยมีทะเลสาบและเนินเขาสีเขียวปรากฏอยู่ ร่างของชายคนหนึ่งกำลังนั่งนั่งตกปลาอย่างสบายใจ หลิงฮันเดินเข้าไปยืนที่ด้านหลังของชายคนนั้นและผสานมือคารวะ “หลิงฮันคารวะผู้อาวุโส”

ชายผู้นี้คือเม่าไต้

แม่จะเห็นเพียงแผ่นหลัง แต่หลิงฮันรู้สึกราวกับกำลังยืนเผชิญหน้ากับขุนเขา ต่อหน้าปรมาจารย์สมนิพพานที่ทรงพลัง หลิงฮันทำได้เพียงแหงนมอง

เม่าไต้ไม่กล่าวตอบ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งจู่ๆเขาก็ยกคันเบ็ดขึ้น อสรพิษวารีขนาดมหึมาถูกดึงขึ้นมาจากทะเลสาป หลิงฮันตกตะลึงทันทีที่เห็นว่าอสรพิษตัวนี้มีเขาและเท้า!

มันไม่ใช่อสรพิษแต่เป็นมังกร!

ในโลกบรรพกาล มังกรแท้จริงอาจจะเป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังที่สุด แต่ต่อหน้านิรันดร์ที่แข็งแกร่งแล้วมังกรแท้จริงไม่ต่างอะไรจากอสรพิษทั่วไป เม่าไต้ยกร่างของมันขึ้นมาและโยนกลับทะเลสาปไปอย่างไม่แยแส เขาเผยรอยยิ้มและกล่าว “เจ้างูน้อยเจ้าเล่ห์ เพราะรู้ว่าข้าไม่คิดจะทำร้ายมัน มันถึงได้กินเหยื่อจากเบ็ดของข้าไปแล้วมากมาย”

เม่าไต้หันหลังกลับมา พริบตานั้นหลิงฮันรู้สึกว่าคนที่อยู่เบื้องหน้าเขาไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นเต๋าแห่งสวรรค์และปฐพี!

แต่ผ่านไปชั่วครู่ความรู้สึกนั้นก็หายไป เม่าไต้ยืนพาดมือไว้ด้านหลังในขณะที่ชุดสีฟ้าครามกระพือไปตามสายลม เขาไม่ใช่คนร่างสูงหรือเตี้ย บรรยากาศรอบตัวเขาทำให้ใครที่อยูใครรู้สึกอบอุ่น

“หนุ่มน้อย เจ้าไม่ธรรมดาจริงๆ” เม่าไต้กล่าว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด