Alchemy Emperor of the Divine Dao 1744 หลอกล่อสตรีด้วยวิธีนี้ก็ได้ด้วย

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1744 หลอกล่อสตรีด้วยวิธีนี้ก็ได้ด้วย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงฮันหันหน้าและพบกับรุ่นเยาว์ชุดดำผู้หนึ่ง เขากล่าวกับอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม “แล้ว้ข้าควรทำอย่างไรพวกนางถึงจะสนใจข้า?”

“อันที่จริงหน้าตาของเจ้าก็ไม่ได้แย่หรอกนะ แต่เจ้าคิดรึว่าจะหลอกล่อสตรีงดงามทั้งสองด้วยอาหารจำนวนมากได้?” รุ่นเยาว์ชุดดำกล่าว

หลิงฮันเอ่ยถาม “สหาย เจ้ามีชื่อว่าอะไร?”

“คู่อิง” รุ่นเยาว์ชุดดำกล่าว

หลิงฮันพยักหน้า “ถ้างั้นพวกเรามาเดิมพันกันเป็นไง?”

“เดิมพันแบบไหน?” คู่อิงชะงักก่อนจะเอ่ยถาม

“ข้าจะเข้าหาสตรีทั้งสองด้วยอาหารในมือเหล่านี้ หากพวกนางยอมรับข้า เจ้าจะต้องเรียกข้าว่าพี่ใหญ่” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม

คู่อิงเค้นเสียงกล่าวอย่างหนักแน่น “ไม่มีปัญหา แต่หากทำไม่สำเร็จ เจ้าจะต้องเรียกข้าว่านายท่านคู่!”

แขกคนอื่นๆที่อยู่ด้านข้าง เมื่อได้ยินการเดิมพันของพวกหลิงฮันก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันทีและกล่าวแทรก “งั้นข้าขอเดิมพันด้วย”

รุ่นเยาว์เหล่านี้รู้สึกว่าเรื่องราวตรงหน้าน่าสนุก แถมการเดิมพันนี้หลิงฮันก็ไม่มีทางเป็นฝ่ายชนะแน่นอน สตรีทั้งสองคือสตรีที่งดงาม โดยเฉพาะสตรีคนที่สวมหน้ากาก กลิ่นอายที่นางปลดปล่อยออกมานั้นสูงส่งจนพวกเขาหลายคนไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่สตรีอย่างนางจะถูกหลอกล่อด้วยอาหาร

เหนือสิ่งอื่นใดคือทุกคนที่นี่สามารถหยิบกินอาหารได้ตามใจชอบอยู่แล้ว จึงไม่มีทางเลยที่จะใช้อาหารดึงดูดความสนใจของพวกนางได้

เป็นความบังเอิญอย่างมากที่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่า หลิงฮันกับสตรีทั้งสองนั้นเข้าร่วมงานเลี้ยงมาด้วยกัน เพราะไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่กล้าร่วมเดิมพันโดยไม่คิดหน้าคิดหลังเช่นนี้

“แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่า เจ้าต้องทำให้พวกนางยอมรับครบทั้งสองคน” ใครบางคนกล่าวเสริม

สตรีทั้งสองคนนั้นมีหนึ่งคนที่มีพลังบ่มเพาะระดับสร้างสรรพสิ่ง หากนางถูกบุรุษที่เป็นนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานเข้าหา นางอาจจะเป็นฝ่ายเสนอตัวเข้าสู่อ้อมกอดด้วยตัวเองเลยก็เป็นได้

“ใช่แล้ว เจ้าต้องทำให้สตรีสวมหน้ากากผู้นั้นยอมรับด้วย” เหล่าฝูงชนเห็นพ้อง

หลิงฮันแสร้งทำเป็นขมวดคิ้วและกล่าว “ยากขนาดนั้นข้าจะทำได้รึ? ข้ายังเป็นมือใหม่ในด้านนี้อยู่เลยนะ”

“ถ้าอยากชนะเจ้าก็ต้องทำ!” ทุกคนโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากว่างานเลี้ยงที่มีแต่การดื่มกินนั้นน่าเบื่อจนไม่มีอะไรให้ทำ

“ก็ได้” หลิงฮันพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ

เขาก้าวเดินไปหาภรรยาทั้งสองและกล่าว “แม่นางทั้งสอง พวกเจ้าต้องการกินซุปเนื้อสมุนไพรนิรันดร์รึไม่?”

“อืม” สตรีนกอมตะและจักรพรรดินีกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

ฝูงชนตกตะลึง สตรีที่งดงามทั้งสองนี้แท้จริงแล้วเป็นพวกชื่นชอบการกินงั้นรึ? ต้องรู้ก่อนว่าก่อนหน้านี้ ไม่ว่าพวกเขาจะชวนพวกนางพูดคุยยังไง สตรีทั้งสองก็ไม่สนใจและแสดงสีหน้าเย็นชาอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้เพียงแค่เอ่ยว่าจะแบ่งอาหารให้ ท่าทีของพวกนางก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน!

“ถ้าพวกเจ้าทั้งสองต้องการ ก็เชิญกินได้ตามใจชอบ” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย

“มีข้อแลกเปลี่ยนอันใด?” สตรีนกอมตะและจักรพรรดินีเอ่ยถามอย่างให้ความร่วมมือ

“แค่จูบข้าก็พอ”

“ตกลง!”

ทั้งสองคนก้าวเดินเข้ามาและจูบแก้มของหลิงฮันคนละข้าง

แขกคนอื่นๆที่มองดูอยู่ไร้คำพูดใดๆจะกล่าวอย่างสิ้นเชิง… ที่แท้การหลอกล่อสตรีก็ทำได้ง่ายเพียงนี้!

หลิงฮันเปิดฝาหม้อและตักซุปให้ภรรยาทั้งสอง ทางด้านของสตรีนกอมตะนั้นสามารถกินซุปได้เพียงเล็กน้อยเนื่องจากยังไม่บรรลุระดับโลกียนิพพาน หากกินซุปเนื้อสมุนไพรนิรันดร์เข้าไปโดยตรงมากเกินไปนางอาจตายได้

แต่ทางด้านของจักรพรรดินีนั้น ซุปเนื้อสมุนไพรนิรันดร์มีความจำเป็นต่อนางมาก เนื่องจากนางสูญเสียร่างแยกไปมากมายในตอนที่พยายามตัดขาดสวรรค์และปฐพี

หลิงฮันหันหลังกลับไปมองฝูงชนและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ยังไม่รีบเรียกข้าว่าพี่ใหญ่อีก?”

“พี่ใหญ่!” ฝูงชนกล่าวด้วยความเลื่อมใสก่อนจะหันหลังวิ่งไปยังโต๊ะอาหาร เพื่อหาซุประดับนิรันดร์มาดึงดูดความสนใจของสตรีงดงามทั้งสอง

หลิงฮันหัวเราะสนุกสนานแต่สตรีนกอมตะกลับส่ายหัว บางครั้งนางก็คิดหลิงฮันทำตัวเหมือนเด็กเกินไป ในด้านของจักรพรรดินีนั้นนางไม่คิดอะไรมาก หากหลิงฮันชอบนางก็ยินดีจะสนับสนุน

แต่เนื่องจากว่าหลิงฮันนั้นนำซุปทั้งหม้อมาครอบครองไว้คนเดียวแล้ว แขกคนอื่นๆจึงรีบร้องเรียนไปยังฟู่เสี่ยวอวิ๋นให้นำซุปมาเพิ่ม ซึ่งผลเมื่อถูกเหล่าแขกกดดันฟู่เสี่ยวอวิ๋นจึงไม่มีทางเลือกนอกจากขอให้คนรับใช้นำซุปหม้อใหม่มาวาง

ทันทีที่ซุปหม้อที่สองถูกนำมาวาง ฝูงชนก็รุมแย่งชิงซุปกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะต้องการจะนำซุปที่ได้ไปสร้างความประทับใจต่อสตรีที่งดงามอย่างจักรพรรดินี

“ภรรยาข้า รออยู่นี่สักครู่” หลิงฮันทำการปกปิดใบหน้าของตัวเองและลอบเข้าไปแย่งชิงซุป ร่างของเขาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วก่อนจะกลับออกมาพร้อมหม้อซุปโดยไม่มีใครรู้ตัว

เขากับจักรพรรดินีกินซุปที่ได้มาใหม่อย่างมีความสุข ในขณะที่สตรีนกอมตะกินต่อไม่ไหว

หลังจากการแย่งชิงอันชุลมุนดำเนินไปได้สักพัก ใครบางคนก็รู้สึกตัวในที่สุดว่าหม้อซุปนั้นหายไปและอุทานออกมาทันที “หม้อซุปหายไปแล้ว!”

เมื่อเหล่าฝูงชนรู้สึกตัว ทุกคนก็ตกอยู่ในความสับสน จู่ๆหม้อซุปจะหายไปราวกับอากาศที่ว่างเปล่าได้อย่างไร?

หลิงฮันเมินเฉยต่อความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เขากินซุปอย่างมีความสุขโดยไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย

“ดูเหมือนว่าเวลาเจ้าไปที่ไหนก็จะมีแต่เรื่องนะ” สตรีนกอมตะเอ่ยกล่าว

หลิงฮันครุ่นคิดก่อนจะพบว่าที่นางกล่าวมานั้นถูกต้อง

อย่างตอนที่เข้าไปยังเขตแดนลี้ลับ นอกจากเขาจะพบเจอศพของราชานิรันดร์แล้ว เขายังได้ครอบครองวารีพลังหยินเร้นลับอย่างไม่คาดฝัน ส่วนในตอนที่เขาอยู่ในเมืองธุลีจันทรา วิหารบรรพบุรุษของตระกูลติงก็ถูกทำลาย และตอนที่ออกเดินทางไปประลองยุทธในเมืองจันทราหม่นแสง ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องบาดหมางกับตระกูลเซียว

น่าแปลก… ทั้งๆที่เขาไม่เคยคิดจะสร้างปัญหาเลยแท้ๆ ทำไมเรื่องเล็กที่เขาทำกลับกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาได้

นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องของเป่ยเสวียนหมิงอีกคน เขาอยู่ของเขาเฉยๆแท้ๆแต่อีกฝ่ายกลับมาล่วงเกินเขา ในขณะที่หลิงฮันกำลังครุ่นคิดเรื่อยเปื่อย จู่ๆฟู่เสี่ยวอวิ๋นก็ก้าวเดินไปยืนด้านหน้าทุกคนและกล่าว “แขกทุกๆคน หลังจากนี้ทางเราจะขอจัดการทดสอบเล็กๆน้อยๆขึ้น สำหรับใครที่ผ่านการทดสอบได้ คนคนนั้นจะได้รับการยินยอมให้เข้าร่วมกับตระกูลฟู่! และยิ่งกว่านั้นคือ ทางตระกูลฟู่ได้ทำข้อตกลงกับตำหนักวิหารพลิกผันชะตาเอาไว้แล้ว ใครที่มีพรสวรรค์โดดเด่น ทางเราจะมอบโอกาสให้คนผู้นั้นได้เข้าร่วมกับตำหนักวิหารพลิกผันชะตา ซึ่งเป็นขุมอำนาระดับสี่ดาว!”

นางหยุดกล่าวชั่วขณะและกวาดสายตามองแขกทุกคน ที่ตอนนี้ดวงตากำลังส่องประกายตื่นเต้น ก่อนจะกล่าวต่อ “ข้าหวังว่าทุกคนจะคว้าโอกาสนี้เอาไว้ได้”

เหล่าฝูงชนเอะอะขึ้นมาทันที ต่อให้ไม่มีโอกาสเข้าร่วมกับตำหนักวิหารพลิกผันชะตา แต่แค่ได้เข้าร่วมกับตระกูลฟู่ก็นับว่าเป็นความสำเร็จเหนือสิ่งอื่นใดแล้ว!

“ข้าขอถามแม่นางฟู่ได้รึไม่ว่า การทดสอบที่จัดขึ้นคือการทดสอบแบบใด?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด