Alchemy Emperor of the Divine Dao 1909 เอี๋ยนเซียนลู่ปรากฏตัว

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1909 เอี๋ยนเซียนลู่ปรากฏตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1909 เอี๋ยนเซียนลู่ปรากฏตัว

 

หลิงฮันเผยรอยยิ้ม ตอนนี้เขาบรรลุระดับสี่นิพพานขั้นสูงสุดแล้ว เมื่อรวมกับไพ่ลับมากมายที่มีอย่าง อํานาจแก่นกําเนิดสวรรค์ทั้งสองที่แม้แต่ราชานิรันดร์ก็ยังอิจฉาแล้ว หากในระดับพลังเดียวกัน เขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ ก็ดูจะแปลกประหลาดเกินไป

 

หลิงฮันกวาดสายตามองอัจฉริยะรอบด้านแต่ละคน ถึงแม้กลิ่นอายของพวกเขาจะดูหยิ่งทะนง แต่ออร่าพลังก็ถูกสะกดเอาไว้ ทําให้ไม่สามารถตรวจสอบพลังต่อสู้ได้

 

“ข้าตงเหมินหง เห็นการต่อสู้ตรงหน้าแล้วชักจะรู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมา มีใครต้องการประมือกับข้าบ้างรึไม่?” ชายร่างสูงผู้หนึ่งกระโดดออกมาด้วยท่าที่น่าเกรงขาม และใช้กระบี่สีม่วงในมือกวัดแกว่งท้าทายทุกคน

 

“ข้าเอง!” รุ่นเยาว์ชุดเหลืองอีกคนกระโดดตามออกมา เขาไม่พูดพล่ามไร้สาระอะไร และเข้าปะทะกับตงเหมินหงอย่างดุดันในทันที

 

อัจฉริยะเช่นพวกเขา ไม่ว่าใครต่างก็เป็นพวกบ้าคลั่งศาสตร์วรยุทธ เมื่อเห็นคู่สองคู่ทําการปะทะกับอย่างพวกเดือด จิตวิญญาณสู้รบของพวกเขาก็ฮึกเหิมตามไปด้วย

 

อัจฉริยะมากมายเริ่มทําการต่อสู้กัน ในตอนแรกแม้ทุกคนจะแยกกันสู้เป็นคู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน รูปแบบการต่อสู้ก็กลายมาเป็นตะลุมบอน เมื่อเห็นหน้ากันทุกคนจะทําการจู่โจมทันทีโดยไม่สนว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใคร

 

มีเพียงอัจฉริยะอีกไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่ร่วมวงต่อสู้ด้วย พวกเขายืนกอดอกอยู่ในระยะที่ห่างออกไปเล็กน้อย

 

“พี่ชายเหลา เจ้าว่าถ้าหากเอี๋ยนเซียนลู่มาถึงและเห็นภาพตรงหน้านี้ เขาจะเกรี้ยวกราดรึไม่?” ชายผู้หนึ่งที่ยืนดูอยู่หัวเราะ และกวาดมองเหล่าอัจฉริยะที่กําลังตะลุมบอนกันด้วยสายตาเหยียดหยาม

 

ที่ด้านข้างของเขามีชายชุดม่วงอีกคนยืนอยู่ รูปลักษณ์ของชายผู้นี้งดงามเป็นอย่างมาก ผิวของเขาเรียบเนียนและขาวกระจ่างราวกับสตรี

 

ถ้าไม่ใช่เพราะมีลูกกระเดือกล่ะก็ ผู้คนคงคิดว่าเขาเป็นสตรีที่แต่งตัวเป็นบุรุษเป็นแน่

 

ชายชุดม่วงยิ้มเผยฟันสีขาว “ถ้าเจ้าลงมือ เพียงแค่หนึ่งกระบวนท่าก็กําราบพวกนั้นได้ไม่ใช่รึไง” เสียงของเขาแหลมเล็กราวกับขันที

 

โดยปกติแล้ว ต่อให้เขาเป็นขันที่จริงๆ ด้วยพลังบ่มเพาะระดับนิรันดร์ อวัยวะส่วนใดที่ถูกตัดไปก็ย่อมฟื้นสภาพกลับมาใหม่ได้ ไม่มีทางเด็ดขาดที่ตัวตนระดับนิรันดร์จะพิการ

 

“ฮ่าๆ นั่นเป็นเรื่องของเอี๋ยนเซียนลู่ ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า!” ชายคนก่อนกล่าว เขาคือรุ่นเยาว์ที่สวมชุดขาว และมีท่าที่เป็นกันเอง

 

รุ่นเยาว์ชุดม่วงยิ้ม “แล้วเจ้าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทําไม?”

 

“ข้าแค่ได้ยินมาว่าเจ้ามีความสนใจในตัวเอี๋ยนเซียนลู่ ไม่ใช่ว่านี่เป็นโอกาสดีที่เจ้าจะได้ใกล้ชิดกับเขาหรอกรึ?” รุ่นเยาว์ชุดขาวหัวเราะ

 

ตูม!

 

รุ่นเยาว์ชุดม่วงลงมือทันที มือขวาของเขาเคลื่อนไหวอย่างอ่อนนุ่มราวกับไร้กระดูก และแปรเปลี่ยนกลายเป็นอสรพิษสีทอง อสรพิษอ้าปากกว้างเผยให้เห็นเขี้ยวยาวของซี่ และเขมือบเข้าใส่รุ่นเยาว์ชุดขาว

 

คลื่นพลังผันผวนอันน่าสะพรึงระเบิดออกมา “ตูม” เมื่อการโจมตีนี้ถูกปล่อยออกไป เหล่าอัจฉริยะที่กําลังตะลุมบอนกันอยู่ ก็หยุดชะงักและหันมามองทันที

 

รุ่นเยาว์ชุดขาวลงมือตอบโต้ “พรึบ” ที่เบื้องหน้าเขามีม่านแสงสีขาวปรากฏออกมา ตราประทับอํานาจแห่งเต๋ที่พัวพันอยู่ พรุ่งพรูไปด้วยอํานาจที่ราวกับจะบดขยี้สวรรค์ให้พังทลาย

 

“ตูม” อสรพิษทองคําที่พุ่งเขมือบ ไม่สามารถทะลวงผ่านชั้นม่านแสงได้

 

“ซานจื้ถง เจ้ารนหาที่ตายรึ?” รุ่นเยาว์ชุดม่วงคํารามด้วยเสียงโทนต่ำอย่างน่าประหลาด

 

“นั่นก็อยู่ที่ว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งพอรึเปล่านะ เหลาซง!” รุ่นเยาว์ชุดขาวหัวเราะอย่างไร้ความหวาดกลัว

 

รุ่นเยาว์ทั้งสองคนทะยานร่างเข้าปะทะกัน จนคลื่นพลังอันไร้ที่สิ้นสุดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ

 

“ห้านิพาน!” หลิงฮันและจักรพรรดินีมองหน้ากัน พร้อมกับอุทานออกมา

 

นิรันดร์สี่นิพพานไม่มีทางแข็งแกร่งขนาดนี้แน่ มีเพียงนิรันดร์ห้านิพพานเท่านั้น ที่แค่คลื่นพลังผันผวนก็สามารถทําให้จอมยุทธระดับโลกียนิพพานตัวสันได้

 

ดูเหมือนว่าในหมู่อัจฉริยะที่มารวมตัวกันที่นี่ นอกจากอู๋เซียนลู่แล้ว จะยังมีนิรันดร์ห้านิพพานคนอื่นอยู่อีก

 

“นั่นมัน…. อํานาจอสรพิษต้นกําเนิดสวรรค์และปฐพี!” ธิดาโร๋วอุทานออกมา ใบหน้าอันงดงามของนางแสดงออกถึงความรู้สึกหวาดผวาที่เกินกว่าจะพรรณนา

 

“อํานาจอสรพิษต้นกําเนิด?”

 

หลิงฮันเคยรู้จักอํานาจแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี อย่างเพลิงเก้าสวรรค์ และวารีพลังหยินเร้นลับ หรือรู้จักแม้แต่ศิลาต้นกําเนิดความวุ่นวาย ที่เป็นศิลาแรกเริ่มที่เกิดขึ้นพร้อมกับสวรรค์และปฐพี แต่อํานาจอสรพิษต้นกําเนิดล่ะมันคืออะไร?

 

“เมื่อสวรรค์และปฐพี่ถือกําเนิดจากความว่างเปล่า สิ่งมีชีวิตแรกเริ่มที่เกิดขึ้นมา ถูกรู้จักกันไปนามของบรรพบุรุษต้นกําเนิด” จู่ๆ หอคอยน้อยก็เอ่ยขึ้น

 

“มังกรตนแรก ถูกเรียกว่าอํานาจต้นกําเนิดมังกร วิหคเพลิงตนแรก ถูกเรียกว่าวิหคต้นกําเนิด ส่วนอสรพิษตนแรกเองก็ถูกเรียกว่า อสรพิษต้นกําเนิด!”

 

“มันถือสิ่งมีชีวิตระดับใด?” หลิงฮันถาม

 

“เป็นถึงบรรพบุรุษต้นกําเนิดของสิ่งมีชีวิต แน่นอนว่าพวกมันต้องเป็นตัวตนระดับราชานิรันดร์ แต่ด้วยเผ่าพันธุ์ที่แตกต่าง ขั้นพลังของพวกมันก็ย่อมต่างชั้นกันไป” หอคอยน้อยกล่าว “บรรพบุรุษต้นกําเนิดที่ทรงพลังที่สุดคือมังกรบรรพบุรุษ วิหคเพลิงต้นกําเนิด และต่อๆ ไปตามลําดับ อสรพิษต้นกําเนิดนั้นค่อนข้างอ่อนแอ ระดับพลังของมันคือราชานิรันดร์ขั้นเจ็ดหรือแปดเท่านั้น”

 

“หากไม่มีวาสนาพิเศษ ไม่มีทางที่มันจะบรรลุเป็นราชานิรันดร์ระดับเก้าได้”

 

หลิงฮันพยักหน้า เหลาซงผู้นี้จะต้องเป็นผู้สืบทอดของอสรพิษต้นกําเนิดไม่ผิดแน่ แต่ไม่รู้ว่า ร่างเดิมที่แท้จริงของอีกฝ่ายนั้นเป็นอสรพิษ หรือมนุษย์กันแน่

 

หลิงฮันโลหิตเดือดพล่าน ที่นี่มีนิรันดร์ห้านิพพานอยู่มากกว่าหนึ่งคน บางทีหากได้วิเคราะห์การต่อสู้ของพวกเขา ประตูสู่ระดับห้านิพพานของเขาอาจจะเปิดออกก็เป็นได้

 

เขาและจักรพรรดินีจ้องมองอย่างไม่ละสายตา นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้พบเห็นการต่อสู้ของตัวตนระดับห้านิพพาน

 

“เหอๆ พี่ชายเหลา พี่ชายซาน เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ต่อให้ข้าต้อนรับได้ไม่ดี พวกท่านก็ไม่เห็นจะต้องหัวเสียจนทะเลาะกันเลยไม่ใช่รึไงกัน?” เสียงหัวเราะดังขึ้น พร้อมกับร่างของรุ่นเยาว์สวมชุดผ้าไหมทองผู้หนึ่ง พุ่งทะยานเข้ามาด้วยความเร็วสูง

 

ที่เบื้องหลังของรุ่นเยาว์ผู้นี้ มีรุ่นเยาว์อีกสามคนตามมาติดๆ สองคนเป็นบุรุษ หนึ่งคนเป็นสตรี ทั้งสามคนนี้ไม่ว่าใครก็มีกลิ่นอายราวกับเป็น มังกรและวิหคเพลิงในหมู่มนุษย์

 

“เอี๋ยนเซียนลู่!” ทั้งเหลาซงและซานจี้ถงหยุดการปะทะกันกลางคัน และหันไปมองรุ่นเยาว์ชุดผ้าไหมทองด้วยสีหน้ายําเกรง

 

สําหรับนิรันดร์สี่นิพพานอาจจะจินตนาการถึงพลังของเอี๋ยนเซียนลู่ไม่ออก มีเพียงอัจฉริยะที่บรรลุห้านิพพานอย่างพวกเขาสองคนเท่านั้น ที่รับรู้ว่าเอี๋ยนเซียนลู่นั้นทรงพลังขนาดไหน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 1909 เอี๋ยนเซียนลู่ปรากฏตัว

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1909 เอี๋ยนเซียนลู่ปรากฏตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1909 เอี๋ยนเซียนลู่ปรากฏตัว

 

หลิงฮันเผยรอยยิ้ม ตอนนี้เขาบรรลุระดับสี่นิพพานขั้นสูงสุดแล้ว เมื่อรวมกับไพ่ลับมากมายที่มีอย่าง อํานาจแก่นกําเนิดสวรรค์ทั้งสองที่แม้แต่ราชานิรันดร์ก็ยังอิจฉาแล้ว หากในระดับพลังเดียวกัน เขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ ก็ดูจะแปลกประหลาดเกินไป

 

หลิงฮันกวาดสายตามองอัจฉริยะรอบด้านแต่ละคน ถึงแม้กลิ่นอายของพวกเขาจะดูหยิ่งทะนง แต่ออร่าพลังก็ถูกสะกดเอาไว้ ทําให้ไม่สามารถตรวจสอบพลังต่อสู้ได้

 

“ข้าตงเหมินหง เห็นการต่อสู้ตรงหน้าแล้วชักจะรู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมา มีใครต้องการประมือกับข้าบ้างรึไม่?” ชายร่างสูงผู้หนึ่งกระโดดออกมาด้วยท่าที่น่าเกรงขาม และใช้กระบี่สีม่วงในมือกวัดแกว่งท้าทายทุกคน

 

“ข้าเอง!” รุ่นเยาว์ชุดเหลืองอีกคนกระโดดตามออกมา เขาไม่พูดพล่ามไร้สาระอะไร และเข้าปะทะกับตงเหมินหงอย่างดุดันในทันที

 

อัจฉริยะเช่นพวกเขา ไม่ว่าใครต่างก็เป็นพวกบ้าคลั่งศาสตร์วรยุทธ เมื่อเห็นคู่สองคู่ทําการปะทะกับอย่างพวกเดือด จิตวิญญาณสู้รบของพวกเขาก็ฮึกเหิมตามไปด้วย

 

อัจฉริยะมากมายเริ่มทําการต่อสู้กัน ในตอนแรกแม้ทุกคนจะแยกกันสู้เป็นคู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน รูปแบบการต่อสู้ก็กลายมาเป็นตะลุมบอน เมื่อเห็นหน้ากันทุกคนจะทําการจู่โจมทันทีโดยไม่สนว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใคร

 

มีเพียงอัจฉริยะอีกไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่ร่วมวงต่อสู้ด้วย พวกเขายืนกอดอกอยู่ในระยะที่ห่างออกไปเล็กน้อย

 

“พี่ชายเหลา เจ้าว่าถ้าหากเอี๋ยนเซียนลู่มาถึงและเห็นภาพตรงหน้านี้ เขาจะเกรี้ยวกราดรึไม่?” ชายผู้หนึ่งที่ยืนดูอยู่หัวเราะ และกวาดมองเหล่าอัจฉริยะที่กําลังตะลุมบอนกันด้วยสายตาเหยียดหยาม

 

ที่ด้านข้างของเขามีชายชุดม่วงอีกคนยืนอยู่ รูปลักษณ์ของชายผู้นี้งดงามเป็นอย่างมาก ผิวของเขาเรียบเนียนและขาวกระจ่างราวกับสตรี

 

ถ้าไม่ใช่เพราะมีลูกกระเดือกล่ะก็ ผู้คนคงคิดว่าเขาเป็นสตรีที่แต่งตัวเป็นบุรุษเป็นแน่

 

ชายชุดม่วงยิ้มเผยฟันสีขาว “ถ้าเจ้าลงมือ เพียงแค่หนึ่งกระบวนท่าก็กําราบพวกนั้นได้ไม่ใช่รึไง” เสียงของเขาแหลมเล็กราวกับขันที

 

โดยปกติแล้ว ต่อให้เขาเป็นขันที่จริงๆ ด้วยพลังบ่มเพาะระดับนิรันดร์ อวัยวะส่วนใดที่ถูกตัดไปก็ย่อมฟื้นสภาพกลับมาใหม่ได้ ไม่มีทางเด็ดขาดที่ตัวตนระดับนิรันดร์จะพิการ

 

“ฮ่าๆ นั่นเป็นเรื่องของเอี๋ยนเซียนลู่ ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า!” ชายคนก่อนกล่าว เขาคือรุ่นเยาว์ที่สวมชุดขาว และมีท่าที่เป็นกันเอง

 

รุ่นเยาว์ชุดม่วงยิ้ม “แล้วเจ้าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทําไม?”

 

“ข้าแค่ได้ยินมาว่าเจ้ามีความสนใจในตัวเอี๋ยนเซียนลู่ ไม่ใช่ว่านี่เป็นโอกาสดีที่เจ้าจะได้ใกล้ชิดกับเขาหรอกรึ?” รุ่นเยาว์ชุดขาวหัวเราะ

 

ตูม!

 

รุ่นเยาว์ชุดม่วงลงมือทันที มือขวาของเขาเคลื่อนไหวอย่างอ่อนนุ่มราวกับไร้กระดูก และแปรเปลี่ยนกลายเป็นอสรพิษสีทอง อสรพิษอ้าปากกว้างเผยให้เห็นเขี้ยวยาวของซี่ และเขมือบเข้าใส่รุ่นเยาว์ชุดขาว

 

คลื่นพลังผันผวนอันน่าสะพรึงระเบิดออกมา “ตูม” เมื่อการโจมตีนี้ถูกปล่อยออกไป เหล่าอัจฉริยะที่กําลังตะลุมบอนกันอยู่ ก็หยุดชะงักและหันมามองทันที

 

รุ่นเยาว์ชุดขาวลงมือตอบโต้ “พรึบ” ที่เบื้องหน้าเขามีม่านแสงสีขาวปรากฏออกมา ตราประทับอํานาจแห่งเต๋ที่พัวพันอยู่ พรุ่งพรูไปด้วยอํานาจที่ราวกับจะบดขยี้สวรรค์ให้พังทลาย

 

“ตูม” อสรพิษทองคําที่พุ่งเขมือบ ไม่สามารถทะลวงผ่านชั้นม่านแสงได้

 

“ซานจื้ถง เจ้ารนหาที่ตายรึ?” รุ่นเยาว์ชุดม่วงคํารามด้วยเสียงโทนต่ำอย่างน่าประหลาด

 

“นั่นก็อยู่ที่ว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งพอรึเปล่านะ เหลาซง!” รุ่นเยาว์ชุดขาวหัวเราะอย่างไร้ความหวาดกลัว

 

รุ่นเยาว์ทั้งสองคนทะยานร่างเข้าปะทะกัน จนคลื่นพลังอันไร้ที่สิ้นสุดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ

 

“ห้านิพาน!” หลิงฮันและจักรพรรดินีมองหน้ากัน พร้อมกับอุทานออกมา

 

นิรันดร์สี่นิพพานไม่มีทางแข็งแกร่งขนาดนี้แน่ มีเพียงนิรันดร์ห้านิพพานเท่านั้น ที่แค่คลื่นพลังผันผวนก็สามารถทําให้จอมยุทธระดับโลกียนิพพานตัวสันได้

 

ดูเหมือนว่าในหมู่อัจฉริยะที่มารวมตัวกันที่นี่ นอกจากอู๋เซียนลู่แล้ว จะยังมีนิรันดร์ห้านิพพานคนอื่นอยู่อีก

 

“นั่นมัน…. อํานาจอสรพิษต้นกําเนิดสวรรค์และปฐพี!” ธิดาโร๋วอุทานออกมา ใบหน้าอันงดงามของนางแสดงออกถึงความรู้สึกหวาดผวาที่เกินกว่าจะพรรณนา

 

“อํานาจอสรพิษต้นกําเนิด?”

 

หลิงฮันเคยรู้จักอํานาจแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี อย่างเพลิงเก้าสวรรค์ และวารีพลังหยินเร้นลับ หรือรู้จักแม้แต่ศิลาต้นกําเนิดความวุ่นวาย ที่เป็นศิลาแรกเริ่มที่เกิดขึ้นพร้อมกับสวรรค์และปฐพี แต่อํานาจอสรพิษต้นกําเนิดล่ะมันคืออะไร?

 

“เมื่อสวรรค์และปฐพี่ถือกําเนิดจากความว่างเปล่า สิ่งมีชีวิตแรกเริ่มที่เกิดขึ้นมา ถูกรู้จักกันไปนามของบรรพบุรุษต้นกําเนิด” จู่ๆ หอคอยน้อยก็เอ่ยขึ้น

 

“มังกรตนแรก ถูกเรียกว่าอํานาจต้นกําเนิดมังกร วิหคเพลิงตนแรก ถูกเรียกว่าวิหคต้นกําเนิด ส่วนอสรพิษตนแรกเองก็ถูกเรียกว่า อสรพิษต้นกําเนิด!”

 

“มันถือสิ่งมีชีวิตระดับใด?” หลิงฮันถาม

 

“เป็นถึงบรรพบุรุษต้นกําเนิดของสิ่งมีชีวิต แน่นอนว่าพวกมันต้องเป็นตัวตนระดับราชานิรันดร์ แต่ด้วยเผ่าพันธุ์ที่แตกต่าง ขั้นพลังของพวกมันก็ย่อมต่างชั้นกันไป” หอคอยน้อยกล่าว “บรรพบุรุษต้นกําเนิดที่ทรงพลังที่สุดคือมังกรบรรพบุรุษ วิหคเพลิงต้นกําเนิด และต่อๆ ไปตามลําดับ อสรพิษต้นกําเนิดนั้นค่อนข้างอ่อนแอ ระดับพลังของมันคือราชานิรันดร์ขั้นเจ็ดหรือแปดเท่านั้น”

 

“หากไม่มีวาสนาพิเศษ ไม่มีทางที่มันจะบรรลุเป็นราชานิรันดร์ระดับเก้าได้”

 

หลิงฮันพยักหน้า เหลาซงผู้นี้จะต้องเป็นผู้สืบทอดของอสรพิษต้นกําเนิดไม่ผิดแน่ แต่ไม่รู้ว่า ร่างเดิมที่แท้จริงของอีกฝ่ายนั้นเป็นอสรพิษ หรือมนุษย์กันแน่

 

หลิงฮันโลหิตเดือดพล่าน ที่นี่มีนิรันดร์ห้านิพพานอยู่มากกว่าหนึ่งคน บางทีหากได้วิเคราะห์การต่อสู้ของพวกเขา ประตูสู่ระดับห้านิพพานของเขาอาจจะเปิดออกก็เป็นได้

 

เขาและจักรพรรดินีจ้องมองอย่างไม่ละสายตา นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้พบเห็นการต่อสู้ของตัวตนระดับห้านิพพาน

 

“เหอๆ พี่ชายเหลา พี่ชายซาน เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ต่อให้ข้าต้อนรับได้ไม่ดี พวกท่านก็ไม่เห็นจะต้องหัวเสียจนทะเลาะกันเลยไม่ใช่รึไงกัน?” เสียงหัวเราะดังขึ้น พร้อมกับร่างของรุ่นเยาว์สวมชุดผ้าไหมทองผู้หนึ่ง พุ่งทะยานเข้ามาด้วยความเร็วสูง

 

ที่เบื้องหลังของรุ่นเยาว์ผู้นี้ มีรุ่นเยาว์อีกสามคนตามมาติดๆ สองคนเป็นบุรุษ หนึ่งคนเป็นสตรี ทั้งสามคนนี้ไม่ว่าใครก็มีกลิ่นอายราวกับเป็น มังกรและวิหคเพลิงในหมู่มนุษย์

 

“เอี๋ยนเซียนลู่!” ทั้งเหลาซงและซานจี้ถงหยุดการปะทะกันกลางคัน และหันไปมองรุ่นเยาว์ชุดผ้าไหมทองด้วยสีหน้ายําเกรง

 

สําหรับนิรันดร์สี่นิพพานอาจจะจินตนาการถึงพลังของเอี๋ยนเซียนลู่ไม่ออก มีเพียงอัจฉริยะที่บรรลุห้านิพพานอย่างพวกเขาสองคนเท่านั้น ที่รับรู้ว่าเอี๋ยนเซียนลู่นั้นทรงพลังขนาดไหน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+