Alchemy Emperor of the Divine Dao 1954 อาณาเขตสวรรค์ไท่อัน

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1954 อาณาเขตสวรรค์ไท่อัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจที่เหลือต่างก็พากันพยักหน้ายิ้มน้อยๆ ให้หลิ่วหมิงด้วย

อย่างไรพลังที่หลิ่วหมิงแสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ก็เพียงพอให้ปีศาจเหล่านี้ชื่นชมแล้ว

เมื่อผู้ฝึกฝนแซ่ซุนเริ่มจัดคนขึ้นประลองรอบต่อไป ความสนใจของทุกคนก็ย้ายไปที่อื่นอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้เองคิ้วของหลิ่วหมิงพลันขมวดเล็กน้อย แขนเสื้อมือขวาสะบัดเบาๆ มุกกลมเม็ดหนึ่งกลิ้งลงมากลางฝ่ามืออย่างเงียบเชียบ มุกผลึกมารนั่นเอง

เวลานี้ผิวของมุกผลึกมารมีสีดำสนิท

หลิ่วหมิงก้มศีรษะกวาดตามอง รูม่านตาหดเล็กลงเล็กน้อย ฝ่ามือสะบัดครั้งหนึ่งมุกผลึกมารก็กลับเข้าไปในแขนเสื้อ ทว่าบนใบหน้ากลับแสร้งทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

เผ่าปีศาจฝั่งตรงข้ามชนะติดกันสองรอบย่อมฮึกเหิม สายตาที่พวกเขามองมาทางเผ่ามนุษย์ล้วนเต็มไปด้วยความดูแคลนและท้าทาย ตรงกันข้ามกับเผ่ามนุษย์ฝั่งนี้ที่บรรยากาศอึมครึมไปชั่วขณะ

“งานไม่สมควรชักช้า เริ่มประลองรอบที่สามเดี๋ยวนี้เลยเถอะ!”

หลังจากที่บุรุษกำยำผิวดำของเผ่าหมีเถื่อนตะโกนเสียงดัง ผู้ฝึกฝนเผ่าอินทรีทะลวงรูปร่างสูงใหญ่ที่สวมชุดสีเทาตนหนึ่งก็ขยับร่างหายตัวมาปรากฏกายบนท้องฟ้า สายตาแฝงแววเย้ยหยันและดูถูกอย่างเห็นได้ชัดกวาดมองผู้คนเผ่ามนุษย์

แม้ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจตนนี้จะพลังเพียงระดับแก่นเสมือน แต่กลิ่นอายของพลังปีศาจที่แผ่ออกมาจากร่างเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าปีศาจหมีผู้มีรอยแผลดาบที่ออกศึกตนแรกสุดอยู่หลายส่วน

ผู้คนของเผ่ามนุษย์มองหน้ากันพักหนึ่ง แม้ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนจะบอกแล้วว่าการประลองครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องสู้แลกชีวิต เพียงต้านไว้ให้ได้จนสัญลักษณ์เคลื่อนย้ายประทับเสร็จสมบูรณ์ก็พอ แต่หากขึ้นประลองแพ้ก็เสียหน้าเกินจะรับไหวอยู่บ้าง

“รอบนี้ ข้าออกศึกเองแล้วกัน” เสียงหญิงสาวดังขึ้นทำลายความเงียบ อู่หงหญิงสาวผิวดำก้าวออกมาก้าวหนึ่ง

“สหายอู่พยายามให้เต็มที่แต่ต้องระวังให้มาก” ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนเห็นเช่นนี้ก็ไม่คัดค้าน เพียงกำชับเสียงเบาหนึ่งประโยค

อู่หงพยักหน้า แสงสีเขียวหยกดวงหนึ่งหุ้มร่างนางแล้วบินพุ่งออกไป มันส่องสว่างวูบหนึ่งก่อนจะร่อนลงเบื้องหน้าผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทา

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทามองอู่หงที่อยู่ไม่ไกลด้านหน้า แล้วกวาดสายตามองพวกผู้ฝึกฝนแซ่ซุนที่อยู่ไกลออกไป จากนั้นเอ่ยขึ้นด้วยเสียงประหลาด

“ถึงกับส่งสตรีนางหนึ่งออกมาสู้ พวกเจ้าผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์เหล่านี้คงจะหมดลูกเล่นแล้วสินะ!”

คำนี้เอ่ยออกมา ปีศาจทั้งหลายด้านหลังหัวเราะดังครืน

“ในเมื่อท่านเอ่ยวาจาโอหัง ข้าก็อยากดูซิว่าพลังของท่านจะร้ายกาจเหมือนวาจาหรือไม่!” ดวงตาของอู่หงทอประกายเย็นเยียบ จากนั้นปากพลันท่องมนตร์แล้วอ้าปากพ่นเส้นไหมสีฟ้าเรียวเล็กเส้นหนึ่งออกมากลายเป็นคางคกน้ำแข็งสีฟ้าขนาดเท่าตึกตัวหนึ่งในพริบตา มันกระทืบสองเท้ากับพื้นกระโดดเข้าใส่ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเบื้องหน้า

ความเร็วของคางคกน้ำแข็งไม่เร็วนัก แต่จุดที่พุ่งผ่านจับตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็งแวววาวเล็กละเอียดไม่น้อย ทิ้งรอยสีขาวไว้เป็นทางกลางอากาศ

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเห็นเช่นนี้ ในดวงตาจึงฉายแววเย้ยหยันจางๆ ร่างกายขยับวูบเดียวกลายเป็นเงาเลือนรางสายหนึ่งหายไปจากที่เดิม

คางคกน้ำแข็งสีฟ้าตะครุบพลาดเป้าก็มึนงงเล็กน้อย

เงาคนขยับวูบไหว ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาฉับพลันปรากฏตัวด้านหลังอู่หง ฝ่ามือขยับวูบเดียวกลายเป็นกรงเล็บอินทรีอันดุร้ายข้างหนึ่งตวัดผ่านตำแหน่งทะเลจิตวิญญาณบริเวณเอวของอู่หงดุจสายฟ้าแลบ

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเป็นผู้ฝึกฝนของเผ่าอินทรีทะลวง ไม่เพียงกระบวนท่าเร็วไม่ธรรมดา รูปแบบการต่อสู้ก็คล้ายคลึงกับบุรุษจมูกอินทรีอยู่บ้าง ทันทีที่ลงมือก็เล่นงานจุดสำคัญของผู้อื่น อู่หงกลับไม่ได้หันหลังไปมอง สองแขนนางสะบัดครั้งหนึ่ง กำไลสีเขียวหยกสองวงที่สวมอยู่บนข้อมือก็ลอยหลุดออกจากมือ จากนั้นแยกกันลอยอยู่ด้านบนกับด้านล่าง เหนือศีรษะกับใต้เท้าของนาง แสงสีเขียวสว่างจ้า เพียงครู่เดียวก็ก่อตัวเป็นเกราะป้องกันสีเขียวรูปไข่ไก่อันหนึ่งปกป้องทั้งร่างของนางไว้ด้านใน

“ปัง!”

กรงเล็บอินทรีของผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาขยุ้มลงบนเกราะป้องกันอย่างรุนแรง จุดที่ถูกตะปบยุบเข้าไป แต่ไม่อาจโจมตีทะลุได้สักนิด

อึดใจต่อมาพลังอ่อนนุ่มยืดหยุ่นสายหนึ่งพลันเด้งกลับมาตามรอยยุบบนเกราะป้องกันที่คืนสภาพ ดีดผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาที่ยังไม่ทันตอบสนองปลิวออกไป

ในตอนนี้เองอู่หงพลันหมุนตัวดุจสายฟ้าแลบ สองมือใช้เคล็ดวิชาอย่างต่อเนื่องแล้วจี้ดัชนีบนอากาศด้านบนและด้านล่าง

“วิ้ง!”

กำไลกลมสองวงเหนือศีรษะกับใต้เท้าหญิงสาวผู้นี้หมุนวนอย่างเร็วไวในทันใด เส้นไหมเรียวเล็กสีเขียวสายแล้วสายเล่าบินพุ่งออกมาจากด้านในกลายเป็นตาข่ายเส้นไหมสีเขียวขนาดมหึมาผืนหนึ่งในพริบตา จากนั้นฉวยโอกาสตอนที่ผู้ฝีกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาร่างกายไม่มั่นคงครอบลงมาบนหัวอย่างรวดเร็ว

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาสีหน้าเปลี่ยนไปในทันใด ทว่าเวลานี้จะหลบก็สายไปสักหน่อยแล้ว

เขาส่งเสียงท่องมนตร์ดังเบาไม่เท่ากันออกมาหลายประโยค แสงสีเงินสว่างวูบบนร่าง หอกตะขอสีเงินที่มีลวดลายจิตวิญญาณแปลกประหลาดแผ่อยู่ทั่วสองเล่มบินออกมา มันโต้ลมพริบตาเดียวก็ขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า หลังจากพาดไขว้กันขวางอยู่เหนือศีรษะพลันเกิดเสียงดัง “เปรี้ยง” ค้ำตาข่ายไหมสีเขียวที่ร่วงลงมาเอาไว้

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาฉวยโอกาสกลายเป็นแสงสีเทาสายหนึ่งบินหนีออกไป

อู่หงเห็นเช่นนี้พลันตวาดเสียงหวาน สองมือพร่าเลือนพักหนึ่ง ประสานท่ามือประหลาดนานาชนิดส่งยันต์สีเขียวตัวแล้วตัวเล่าพุ่งลงบนกำไลกลมสีเขียวหยกด้านบนกับด้านล่างอย่างรวดเร็ว

“ฟึบ!”

พริบตาเดียวตาข่ายไหมสีเขียวด้านหน้าพลันรวบเข้าหากันหุ้มหอกตะขอสีเงินไว้ด้านใน

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเพิ่งตั้งหลักได้ห่างไปสิบกว่าจั้ง ทันทีที่หันกลับมาหน้าก็ถอดสีในทันใด

กำไลกลมที่แยกอยู่ด้านบนกับด้านล่างของอู่หงบินวนแผ่เส้นไหมสีเขียวเส้นแล้วเส้นเล่าออกมารัดหอกตะขอสีเงินสองเล่มทบแล้วทบเล่าจนกลายเป็นรังไหมที่ทอแสงสีเขียวเรืองรองก้อนหนึ่งอย่างรวดเร็ว

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทารีบใช้เคล็ดวิชา คิดจะบังคับหอกตะขอให้สลัดหลุดจากพันธนาการ

หอกตะขอทั้งสองเล่มในรังไหมเปล่งแสงสีเงินเจิดจ้า ทว่าเส้นไหมเรียวเล็กที่รัดพันอยู่กลับทนทานอย่างยิ่ง ไม่ว่าหอกตะขอจะสั่นไหวรุนแรงเท่าใดก็สลัดไม่หลุดแม้แต่น้อย

“พี่อิง ปีศาจในเผ่าของท่านตนนั้นสภาพดูไม่ค่อยดีนะ” บุรุษกำยำผิวดำหัวหน้าของเผ่าหมีหัวเราะฮ่าๆ เอ่ยขึ้นแฝงความเย้ยหยันอยู่บ้าง

“เหอะ อิงเจินดูถูกศัตรูเกินไป ผู้ฝึกฝนหญิงเผ่ามนุษย์คนนั้นเห็นชัดว่าแค่หลอกให้เขาเข้าใกล้ แต่เวลานี้เขาก็เพียงตกเป็นรองเล็กน้อยเท่านั้น แพ้ชนะสุดท้ายยังตัดสินไม่ได้หรอก” บุรุษจมูกอินทรีใบหน้าถมึงทึง เอ่ยอย่างเย็นชา

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเวลานี้ในใจกลับลอบร้องโอดครวญไม่หยุด!

หอกตะขอสีเงินสองเล่มนั้นคืออาวุธถนัดของเขา วิชาก้นหีบหลายอย่างต้องใช้มันถึงจะสำแดงออกมาได้ ไม่เคยคิดเลยว่าความประมาทเพียงชั่วครู่จะทำให้มันถูกยึดไป

ในตอนนี้เองขาหลังของคางคกน้ำแข็งสีฟ้าอีกฝั่งหนึ่งก็กระทืบพื้นโจนเข้าใส่เขาอีกครั้ง

ดวงตาของผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาฉายแววดุร้าย แสงสีดำสว่างขึ้นบนสองฝ่ามือ กรงเล็บคมสองข้างเปล่งแสง กรงเล็บสีดำสนิทยาวหนึ่งจั้งกว่าตะปบคางคกน้ำแข็งสีฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่า

“เปรี๊ยะๆ !”

คางคกน้ำแข็งแตกสลายราวกับก้อนน้ำแข็งในทันใด มันกลายเป็นเศษน้ำแข็งกองหนึ่ง ไอสีฟ้าอ่อนสายหนึ่งลอยออกมาจากด้านใน

“แย่แล้ว!”

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเห็นเช่นนั้น สีหน้าพลันพรั่นพรึงอย่างห้ามไม่ได้ เขาปล่อยปราณปีศาจบนร่างทะลักออกมากลายเป็นพายหมุนสีเทาเข้มที่หมุนอย่างบ้าคลั่งลูกหนึ่ง เป่าไอสีฟ้าอ่อนรอบด้านออกไปไม่น้อย

หลังจากไอสีดำกระจายออกไปพร้อมเสียงดังกึกก้อง อินทรียักษ์สีเทาเข้มตัวหนึ่งก็ปรากฏตัว

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเผยร่างปีศาจที่แท้จริงออกมาแล้ว เห็นชัดว่าเขาเตรียมจะสู้สุดกำลัง

อู่หงเห็นเช่นนี้ก็สีหน้าเคร่งขรึม นางไม่กล้าชักช้า เปลี่ยนท่ามือแล้วยิงเคล็ดวิชาสายแล้วสายเล่าเข้าไปในกำไลสีเขียวที่หมุนอยู่ด้านบนกับด้านล่างทันที

กำไลเปล่งแสงสีเขียวสว่างจ้าออกมาในทันใด เสียงแหวกอากาศดังลั่น เส้นไหมสีเขียวมากมายถี่ยิบพุ่งเร็วรี่เข้าใส่อินทรียักษ์ หมายจะทะลวงร่างมันเป็นรูนับร้อยนับพัน

อินทรียักษ์สีเทาเห็นเช่นนี้พลันอ้าปากกรีดร้อง ดวงตาเปล่งแสงสีฟ้าวูบหนึ่ง ทันใดนั้นปีกทั้งสองข้างก็โบกกระพือ ร่างกายกลายเป็นเงาสีเทาดวงหนึ่งพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วแล้วเลือนหายไประหว่างทาง หายไปกับอากาศอย่างไร้ร่องรอย

ครู่ต่อมาคลื่นสั่นสะเทือนพลันก่อตัวเหนือร่างอู่หง อินทรียักษ์โผล่ปุบปับออกมาจากสายลมกรรโชก กรงเล็บยักษ์สองข้างยกตั้ง แสงสีดำยาวหนึ่งฉื่อกว่าที่ยืดหดไม่หยุดงอกออกมา จากนั้นมันก็ดิ่งลงมา

เสียงเปรี้ยงดังขึ้นครั้งหนึ่ง กรงเล็บดุร้ายสองข้างของนกอินทรีที่ได้รับแรงเสริมจากการดิ่งลงมาตะปบลงบนเกราะแสงสีเขียวหยกรอบร่างอู่หงอย่างรุนแรง ทำให้มันยุบลงไปในทันใด บนผิวเกิดรอยแตกเส้นแล้วเส้นเล่าในทันที

อินทรียักษ์สีเทากางปีกสองข้างออก ปราณปีศาจบนร่างฉับพลันรวมตัวกันแล้วระเบิด แสงสีดำบนกรงเล็บอินทรีงอกยาวออกมาในทันใด

“แกรก!”

เกราะป้องกันสีเขียวหยกไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป มันปริแตกพร้อมกับเสียงดังสนั่นกลายเป็นฝนแสงสีเขียว

ในดวงตาของอินทรียักษ์สีเทาเผยแววตายินดีเจียนคลั่งออกมา กรงเล็บอินทรีมหึมาตะปบเข้าใส่แผ่นหลังของอู่หงด้วยกำลังที่ไม่ลดลง

สถานการณ์พลิกผันดุจอสนีบาตฟาด แทบจะเกิดขึ้นในชั่วหนึ่งลมหายใจ ร่างกายของเผ่ามนุษย์อันบอบบาง ไม่มีทางทนรับการโจมตีอันดุดันเช่นนี้ได้เป็นอันขาด

อินทรียักษ์สีเทาราวกับมองเห็นจุดจบการตายอนาถของผู้ฝึกฝนหญิงเผ่ามนุษย์คนนั้นแล้ว

ทว่าในเวลานี้เองอู่หงพลันแหงนหน้าขึ้น บนใบหน้าไม่มีสีหน้าลนลานหวาดกลัวแม้แต่น้อย

อินทรียักษ์สีเทาตกตะลึง หัวใจเต้นผิดจังหวะไปชั่ววูบ

ไม่รอให้เขาตอบสนอง “วิ้ง!” ใกล้ๆ กับกรงเล็บทั้งสองข้างเกิดคลื่นสั่นไหว กำไลยักษ์สีเขียวหยกวงหนึ่งปรากฏออกมาแล้วครอบลงบนร่างมันจากนั้นบีบรัดในพริบตา

อินทรียักษ์สีเทากระพือปีกทั้งสองข้างอย่างบ้าคลั่งด้วยความตกตะลึงและโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง กรงเล็บกระหน่ำสะบัดแสงสีดำออกมา ดิ้นรนสลัดให้หลุดไม่หยุด

ในตอนนี้เองกำไลกลมสีเขียวหยกอีกวงหนึ่งพลันร่วงลงจากฟ้า ครอบลงบนคอของมันอย่างแม่นยำแล้วรัดแน่นจนฝังเข้าไปลึกท่ามกลางเส้นขน

อินทรียักษ์สีเทากรีดร้องโหยหวน เพียงพริบตามันก็ถูกพันธนาการอยู่กลางท้องฟ้า ปีกสองข้างสะบัดสะเปะสะปะ ดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด

อู่หงตั้งหน้าตั้งตายิงเคล็ดวิชาสายแล้วสายเล่า เพียงพริบตาไอหมอกสีฟ้าอ่อนที่แผ่ไปทั่วพลันรวมตัวเข้ามาเป็นก้อนล้อมอินทรียักษ์สีเทาไว้ด้านใน

ทันใดนั้นปราณเย็นยะเยือกและดุดันสายแล้วสายเล่าก็ม้วนตัวออกไปทั่วทุกสารทิศ เสียงเย็นเยือกดังเปรี๊ยะออกมาจากกลางไอหมอกเป็นระยะ

ครู่เดียวหลังจากนั้นไอหมอกสีฟ้าอ่อนก็สลายตัวไปเผยให้เห็นภาพด้านใน

อินทรียักษ์สีเทาถูกแช่แข็งจนเป็นผลึกน้ำแข็งสีฟ้าไปทั้งร่าง กลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งที่ดูราวกับมีชีวิตชิ้นหนึ่ง ทั้งที่ยังอยู่ในท่าดิ้นรนสุดชีวิตเช่นก่อนหน้านี้

ผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์ทั้งหลายเห็นเช่นนี้พลันดีใจยิ่ง แววตาประหลาดใจแล่นผ่านดวงตาของหลิ่วหมิงไป

เวลานี้อู่หงลดสองแขนลงแล้ว สีหน้านางซีดเผือด หอบหายใจไม่หยุด

การใช้วิชาเพียงครู่เดียวนี้กินพลังเวทของนางไปเกินกว่าครึ่ง หากไม่ได้วางแผนไว้อย่างดี คงไม่อาจแช่แข็งผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจอินทรีที่ความเร็วและพลังไม่เป็นรองนางตนนี้ได้อย่างแน่นอน

“อิงเจิน!”

เสียงตวาดดุดันดังขึ้น แสงสีน้ำเงินสว่างวูบหนึ่งบนลานประลองเผยร่างของบุรุษจมูกอินทรีออกมา

อู่หงหน้าถอดสีในทันใด ปลายเท้าสะกิดเพียงนิด ร่างกายพลันพุ่งถอยออกมา

ในเวลานี้เองแสงสีขาวพลันส่องสว่าง ร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏตัวเบื้องหน้านาง ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนนั่นเอง

“สหายอิง คนในเผ่าของท่านเพียงถูกแช่แข็งไว้ชั่วคราวเท่านั้น หาได้อันตรายถึงชีวิตไม่ ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกเกินไป” ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนเอ่ยอย่างนิ่งสงบ บนร่างเปล่งแสงสีขาวอยู่เรืองๆ อยู่ในสภาพตั้งท่าเตรียมพร้อม

บุรุษจมูกอินทรีฟังแล้วดวงตาพลันเปล่งประกายขึ้นวูบหนึ่ง เขาสังเกตด้านในผลึกน้ำแข็งสีฟ้าทันที ดวงตาของอินทรียักษ์สีเทากลอกไปมาเล็กน้อย ยังไม่เสียพลังชีวิตไป เขาจึงแค่นเสียงออกมาคำหนึ่งยกมือส่งแสงสีน้ำเงินสายหนึ่งลงบนรูปสลักน้ำแข็งอินทรียักษ์

ผลึกน้ำแข็งแตกดังเกรียวกราว บนร่างของอินทรียักษ์สีเทายังมีกำไลกลมสีเขียวหยกสองวงคล้องรัดอยู่จึงไม่อาจขยับได้แม้แต่น้อย

“การประลองรอบนี้พวกเราแพ้แล้ว ปล่อยคนเถอะ” บุรุษจมูกอินทรีสีหน้าไม่น่าดูยิ่งกว่าเดิม เอ่ยกับผู้ฝึกฝนแซ่ซุนด้วยน้ำเสียงเย็นชา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 1954 อาณาเขตสวรรค์ไท่อัน

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1954 อาณาเขตสวรรค์ไท่อัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจที่เหลือต่างก็พากันพยักหน้ายิ้มน้อยๆ ให้หลิ่วหมิงด้วย

อย่างไรพลังที่หลิ่วหมิงแสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ก็เพียงพอให้ปีศาจเหล่านี้ชื่นชมแล้ว

เมื่อผู้ฝึกฝนแซ่ซุนเริ่มจัดคนขึ้นประลองรอบต่อไป ความสนใจของทุกคนก็ย้ายไปที่อื่นอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้เองคิ้วของหลิ่วหมิงพลันขมวดเล็กน้อย แขนเสื้อมือขวาสะบัดเบาๆ มุกกลมเม็ดหนึ่งกลิ้งลงมากลางฝ่ามืออย่างเงียบเชียบ มุกผลึกมารนั่นเอง

เวลานี้ผิวของมุกผลึกมารมีสีดำสนิท

หลิ่วหมิงก้มศีรษะกวาดตามอง รูม่านตาหดเล็กลงเล็กน้อย ฝ่ามือสะบัดครั้งหนึ่งมุกผลึกมารก็กลับเข้าไปในแขนเสื้อ ทว่าบนใบหน้ากลับแสร้งทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

เผ่าปีศาจฝั่งตรงข้ามชนะติดกันสองรอบย่อมฮึกเหิม สายตาที่พวกเขามองมาทางเผ่ามนุษย์ล้วนเต็มไปด้วยความดูแคลนและท้าทาย ตรงกันข้ามกับเผ่ามนุษย์ฝั่งนี้ที่บรรยากาศอึมครึมไปชั่วขณะ

“งานไม่สมควรชักช้า เริ่มประลองรอบที่สามเดี๋ยวนี้เลยเถอะ!”

หลังจากที่บุรุษกำยำผิวดำของเผ่าหมีเถื่อนตะโกนเสียงดัง ผู้ฝึกฝนเผ่าอินทรีทะลวงรูปร่างสูงใหญ่ที่สวมชุดสีเทาตนหนึ่งก็ขยับร่างหายตัวมาปรากฏกายบนท้องฟ้า สายตาแฝงแววเย้ยหยันและดูถูกอย่างเห็นได้ชัดกวาดมองผู้คนเผ่ามนุษย์

แม้ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจตนนี้จะพลังเพียงระดับแก่นเสมือน แต่กลิ่นอายของพลังปีศาจที่แผ่ออกมาจากร่างเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าปีศาจหมีผู้มีรอยแผลดาบที่ออกศึกตนแรกสุดอยู่หลายส่วน

ผู้คนของเผ่ามนุษย์มองหน้ากันพักหนึ่ง แม้ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนจะบอกแล้วว่าการประลองครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องสู้แลกชีวิต เพียงต้านไว้ให้ได้จนสัญลักษณ์เคลื่อนย้ายประทับเสร็จสมบูรณ์ก็พอ แต่หากขึ้นประลองแพ้ก็เสียหน้าเกินจะรับไหวอยู่บ้าง

“รอบนี้ ข้าออกศึกเองแล้วกัน” เสียงหญิงสาวดังขึ้นทำลายความเงียบ อู่หงหญิงสาวผิวดำก้าวออกมาก้าวหนึ่ง

“สหายอู่พยายามให้เต็มที่แต่ต้องระวังให้มาก” ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนเห็นเช่นนี้ก็ไม่คัดค้าน เพียงกำชับเสียงเบาหนึ่งประโยค

อู่หงพยักหน้า แสงสีเขียวหยกดวงหนึ่งหุ้มร่างนางแล้วบินพุ่งออกไป มันส่องสว่างวูบหนึ่งก่อนจะร่อนลงเบื้องหน้าผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทา

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทามองอู่หงที่อยู่ไม่ไกลด้านหน้า แล้วกวาดสายตามองพวกผู้ฝึกฝนแซ่ซุนที่อยู่ไกลออกไป จากนั้นเอ่ยขึ้นด้วยเสียงประหลาด

“ถึงกับส่งสตรีนางหนึ่งออกมาสู้ พวกเจ้าผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์เหล่านี้คงจะหมดลูกเล่นแล้วสินะ!”

คำนี้เอ่ยออกมา ปีศาจทั้งหลายด้านหลังหัวเราะดังครืน

“ในเมื่อท่านเอ่ยวาจาโอหัง ข้าก็อยากดูซิว่าพลังของท่านจะร้ายกาจเหมือนวาจาหรือไม่!” ดวงตาของอู่หงทอประกายเย็นเยียบ จากนั้นปากพลันท่องมนตร์แล้วอ้าปากพ่นเส้นไหมสีฟ้าเรียวเล็กเส้นหนึ่งออกมากลายเป็นคางคกน้ำแข็งสีฟ้าขนาดเท่าตึกตัวหนึ่งในพริบตา มันกระทืบสองเท้ากับพื้นกระโดดเข้าใส่ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเบื้องหน้า

ความเร็วของคางคกน้ำแข็งไม่เร็วนัก แต่จุดที่พุ่งผ่านจับตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็งแวววาวเล็กละเอียดไม่น้อย ทิ้งรอยสีขาวไว้เป็นทางกลางอากาศ

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเห็นเช่นนี้ ในดวงตาจึงฉายแววเย้ยหยันจางๆ ร่างกายขยับวูบเดียวกลายเป็นเงาเลือนรางสายหนึ่งหายไปจากที่เดิม

คางคกน้ำแข็งสีฟ้าตะครุบพลาดเป้าก็มึนงงเล็กน้อย

เงาคนขยับวูบไหว ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาฉับพลันปรากฏตัวด้านหลังอู่หง ฝ่ามือขยับวูบเดียวกลายเป็นกรงเล็บอินทรีอันดุร้ายข้างหนึ่งตวัดผ่านตำแหน่งทะเลจิตวิญญาณบริเวณเอวของอู่หงดุจสายฟ้าแลบ

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเป็นผู้ฝึกฝนของเผ่าอินทรีทะลวง ไม่เพียงกระบวนท่าเร็วไม่ธรรมดา รูปแบบการต่อสู้ก็คล้ายคลึงกับบุรุษจมูกอินทรีอยู่บ้าง ทันทีที่ลงมือก็เล่นงานจุดสำคัญของผู้อื่น อู่หงกลับไม่ได้หันหลังไปมอง สองแขนนางสะบัดครั้งหนึ่ง กำไลสีเขียวหยกสองวงที่สวมอยู่บนข้อมือก็ลอยหลุดออกจากมือ จากนั้นแยกกันลอยอยู่ด้านบนกับด้านล่าง เหนือศีรษะกับใต้เท้าของนาง แสงสีเขียวสว่างจ้า เพียงครู่เดียวก็ก่อตัวเป็นเกราะป้องกันสีเขียวรูปไข่ไก่อันหนึ่งปกป้องทั้งร่างของนางไว้ด้านใน

“ปัง!”

กรงเล็บอินทรีของผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาขยุ้มลงบนเกราะป้องกันอย่างรุนแรง จุดที่ถูกตะปบยุบเข้าไป แต่ไม่อาจโจมตีทะลุได้สักนิด

อึดใจต่อมาพลังอ่อนนุ่มยืดหยุ่นสายหนึ่งพลันเด้งกลับมาตามรอยยุบบนเกราะป้องกันที่คืนสภาพ ดีดผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาที่ยังไม่ทันตอบสนองปลิวออกไป

ในตอนนี้เองอู่หงพลันหมุนตัวดุจสายฟ้าแลบ สองมือใช้เคล็ดวิชาอย่างต่อเนื่องแล้วจี้ดัชนีบนอากาศด้านบนและด้านล่าง

“วิ้ง!”

กำไลกลมสองวงเหนือศีรษะกับใต้เท้าหญิงสาวผู้นี้หมุนวนอย่างเร็วไวในทันใด เส้นไหมเรียวเล็กสีเขียวสายแล้วสายเล่าบินพุ่งออกมาจากด้านในกลายเป็นตาข่ายเส้นไหมสีเขียวขนาดมหึมาผืนหนึ่งในพริบตา จากนั้นฉวยโอกาสตอนที่ผู้ฝีกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาร่างกายไม่มั่นคงครอบลงมาบนหัวอย่างรวดเร็ว

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาสีหน้าเปลี่ยนไปในทันใด ทว่าเวลานี้จะหลบก็สายไปสักหน่อยแล้ว

เขาส่งเสียงท่องมนตร์ดังเบาไม่เท่ากันออกมาหลายประโยค แสงสีเงินสว่างวูบบนร่าง หอกตะขอสีเงินที่มีลวดลายจิตวิญญาณแปลกประหลาดแผ่อยู่ทั่วสองเล่มบินออกมา มันโต้ลมพริบตาเดียวก็ขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า หลังจากพาดไขว้กันขวางอยู่เหนือศีรษะพลันเกิดเสียงดัง “เปรี้ยง” ค้ำตาข่ายไหมสีเขียวที่ร่วงลงมาเอาไว้

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาฉวยโอกาสกลายเป็นแสงสีเทาสายหนึ่งบินหนีออกไป

อู่หงเห็นเช่นนี้พลันตวาดเสียงหวาน สองมือพร่าเลือนพักหนึ่ง ประสานท่ามือประหลาดนานาชนิดส่งยันต์สีเขียวตัวแล้วตัวเล่าพุ่งลงบนกำไลกลมสีเขียวหยกด้านบนกับด้านล่างอย่างรวดเร็ว

“ฟึบ!”

พริบตาเดียวตาข่ายไหมสีเขียวด้านหน้าพลันรวบเข้าหากันหุ้มหอกตะขอสีเงินไว้ด้านใน

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเพิ่งตั้งหลักได้ห่างไปสิบกว่าจั้ง ทันทีที่หันกลับมาหน้าก็ถอดสีในทันใด

กำไลกลมที่แยกอยู่ด้านบนกับด้านล่างของอู่หงบินวนแผ่เส้นไหมสีเขียวเส้นแล้วเส้นเล่าออกมารัดหอกตะขอสีเงินสองเล่มทบแล้วทบเล่าจนกลายเป็นรังไหมที่ทอแสงสีเขียวเรืองรองก้อนหนึ่งอย่างรวดเร็ว

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทารีบใช้เคล็ดวิชา คิดจะบังคับหอกตะขอให้สลัดหลุดจากพันธนาการ

หอกตะขอทั้งสองเล่มในรังไหมเปล่งแสงสีเงินเจิดจ้า ทว่าเส้นไหมเรียวเล็กที่รัดพันอยู่กลับทนทานอย่างยิ่ง ไม่ว่าหอกตะขอจะสั่นไหวรุนแรงเท่าใดก็สลัดไม่หลุดแม้แต่น้อย

“พี่อิง ปีศาจในเผ่าของท่านตนนั้นสภาพดูไม่ค่อยดีนะ” บุรุษกำยำผิวดำหัวหน้าของเผ่าหมีหัวเราะฮ่าๆ เอ่ยขึ้นแฝงความเย้ยหยันอยู่บ้าง

“เหอะ อิงเจินดูถูกศัตรูเกินไป ผู้ฝึกฝนหญิงเผ่ามนุษย์คนนั้นเห็นชัดว่าแค่หลอกให้เขาเข้าใกล้ แต่เวลานี้เขาก็เพียงตกเป็นรองเล็กน้อยเท่านั้น แพ้ชนะสุดท้ายยังตัดสินไม่ได้หรอก” บุรุษจมูกอินทรีใบหน้าถมึงทึง เอ่ยอย่างเย็นชา

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเวลานี้ในใจกลับลอบร้องโอดครวญไม่หยุด!

หอกตะขอสีเงินสองเล่มนั้นคืออาวุธถนัดของเขา วิชาก้นหีบหลายอย่างต้องใช้มันถึงจะสำแดงออกมาได้ ไม่เคยคิดเลยว่าความประมาทเพียงชั่วครู่จะทำให้มันถูกยึดไป

ในตอนนี้เองขาหลังของคางคกน้ำแข็งสีฟ้าอีกฝั่งหนึ่งก็กระทืบพื้นโจนเข้าใส่เขาอีกครั้ง

ดวงตาของผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาฉายแววดุร้าย แสงสีดำสว่างขึ้นบนสองฝ่ามือ กรงเล็บคมสองข้างเปล่งแสง กรงเล็บสีดำสนิทยาวหนึ่งจั้งกว่าตะปบคางคกน้ำแข็งสีฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่า

“เปรี๊ยะๆ !”

คางคกน้ำแข็งแตกสลายราวกับก้อนน้ำแข็งในทันใด มันกลายเป็นเศษน้ำแข็งกองหนึ่ง ไอสีฟ้าอ่อนสายหนึ่งลอยออกมาจากด้านใน

“แย่แล้ว!”

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเห็นเช่นนั้น สีหน้าพลันพรั่นพรึงอย่างห้ามไม่ได้ เขาปล่อยปราณปีศาจบนร่างทะลักออกมากลายเป็นพายหมุนสีเทาเข้มที่หมุนอย่างบ้าคลั่งลูกหนึ่ง เป่าไอสีฟ้าอ่อนรอบด้านออกไปไม่น้อย

หลังจากไอสีดำกระจายออกไปพร้อมเสียงดังกึกก้อง อินทรียักษ์สีเทาเข้มตัวหนึ่งก็ปรากฏตัว

ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชุดเทาเผยร่างปีศาจที่แท้จริงออกมาแล้ว เห็นชัดว่าเขาเตรียมจะสู้สุดกำลัง

อู่หงเห็นเช่นนี้ก็สีหน้าเคร่งขรึม นางไม่กล้าชักช้า เปลี่ยนท่ามือแล้วยิงเคล็ดวิชาสายแล้วสายเล่าเข้าไปในกำไลสีเขียวที่หมุนอยู่ด้านบนกับด้านล่างทันที

กำไลเปล่งแสงสีเขียวสว่างจ้าออกมาในทันใด เสียงแหวกอากาศดังลั่น เส้นไหมสีเขียวมากมายถี่ยิบพุ่งเร็วรี่เข้าใส่อินทรียักษ์ หมายจะทะลวงร่างมันเป็นรูนับร้อยนับพัน

อินทรียักษ์สีเทาเห็นเช่นนี้พลันอ้าปากกรีดร้อง ดวงตาเปล่งแสงสีฟ้าวูบหนึ่ง ทันใดนั้นปีกทั้งสองข้างก็โบกกระพือ ร่างกายกลายเป็นเงาสีเทาดวงหนึ่งพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วแล้วเลือนหายไประหว่างทาง หายไปกับอากาศอย่างไร้ร่องรอย

ครู่ต่อมาคลื่นสั่นสะเทือนพลันก่อตัวเหนือร่างอู่หง อินทรียักษ์โผล่ปุบปับออกมาจากสายลมกรรโชก กรงเล็บยักษ์สองข้างยกตั้ง แสงสีดำยาวหนึ่งฉื่อกว่าที่ยืดหดไม่หยุดงอกออกมา จากนั้นมันก็ดิ่งลงมา

เสียงเปรี้ยงดังขึ้นครั้งหนึ่ง กรงเล็บดุร้ายสองข้างของนกอินทรีที่ได้รับแรงเสริมจากการดิ่งลงมาตะปบลงบนเกราะแสงสีเขียวหยกรอบร่างอู่หงอย่างรุนแรง ทำให้มันยุบลงไปในทันใด บนผิวเกิดรอยแตกเส้นแล้วเส้นเล่าในทันที

อินทรียักษ์สีเทากางปีกสองข้างออก ปราณปีศาจบนร่างฉับพลันรวมตัวกันแล้วระเบิด แสงสีดำบนกรงเล็บอินทรีงอกยาวออกมาในทันใด

“แกรก!”

เกราะป้องกันสีเขียวหยกไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป มันปริแตกพร้อมกับเสียงดังสนั่นกลายเป็นฝนแสงสีเขียว

ในดวงตาของอินทรียักษ์สีเทาเผยแววตายินดีเจียนคลั่งออกมา กรงเล็บอินทรีมหึมาตะปบเข้าใส่แผ่นหลังของอู่หงด้วยกำลังที่ไม่ลดลง

สถานการณ์พลิกผันดุจอสนีบาตฟาด แทบจะเกิดขึ้นในชั่วหนึ่งลมหายใจ ร่างกายของเผ่ามนุษย์อันบอบบาง ไม่มีทางทนรับการโจมตีอันดุดันเช่นนี้ได้เป็นอันขาด

อินทรียักษ์สีเทาราวกับมองเห็นจุดจบการตายอนาถของผู้ฝึกฝนหญิงเผ่ามนุษย์คนนั้นแล้ว

ทว่าในเวลานี้เองอู่หงพลันแหงนหน้าขึ้น บนใบหน้าไม่มีสีหน้าลนลานหวาดกลัวแม้แต่น้อย

อินทรียักษ์สีเทาตกตะลึง หัวใจเต้นผิดจังหวะไปชั่ววูบ

ไม่รอให้เขาตอบสนอง “วิ้ง!” ใกล้ๆ กับกรงเล็บทั้งสองข้างเกิดคลื่นสั่นไหว กำไลยักษ์สีเขียวหยกวงหนึ่งปรากฏออกมาแล้วครอบลงบนร่างมันจากนั้นบีบรัดในพริบตา

อินทรียักษ์สีเทากระพือปีกทั้งสองข้างอย่างบ้าคลั่งด้วยความตกตะลึงและโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง กรงเล็บกระหน่ำสะบัดแสงสีดำออกมา ดิ้นรนสลัดให้หลุดไม่หยุด

ในตอนนี้เองกำไลกลมสีเขียวหยกอีกวงหนึ่งพลันร่วงลงจากฟ้า ครอบลงบนคอของมันอย่างแม่นยำแล้วรัดแน่นจนฝังเข้าไปลึกท่ามกลางเส้นขน

อินทรียักษ์สีเทากรีดร้องโหยหวน เพียงพริบตามันก็ถูกพันธนาการอยู่กลางท้องฟ้า ปีกสองข้างสะบัดสะเปะสะปะ ดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด

อู่หงตั้งหน้าตั้งตายิงเคล็ดวิชาสายแล้วสายเล่า เพียงพริบตาไอหมอกสีฟ้าอ่อนที่แผ่ไปทั่วพลันรวมตัวเข้ามาเป็นก้อนล้อมอินทรียักษ์สีเทาไว้ด้านใน

ทันใดนั้นปราณเย็นยะเยือกและดุดันสายแล้วสายเล่าก็ม้วนตัวออกไปทั่วทุกสารทิศ เสียงเย็นเยือกดังเปรี๊ยะออกมาจากกลางไอหมอกเป็นระยะ

ครู่เดียวหลังจากนั้นไอหมอกสีฟ้าอ่อนก็สลายตัวไปเผยให้เห็นภาพด้านใน

อินทรียักษ์สีเทาถูกแช่แข็งจนเป็นผลึกน้ำแข็งสีฟ้าไปทั้งร่าง กลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งที่ดูราวกับมีชีวิตชิ้นหนึ่ง ทั้งที่ยังอยู่ในท่าดิ้นรนสุดชีวิตเช่นก่อนหน้านี้

ผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์ทั้งหลายเห็นเช่นนี้พลันดีใจยิ่ง แววตาประหลาดใจแล่นผ่านดวงตาของหลิ่วหมิงไป

เวลานี้อู่หงลดสองแขนลงแล้ว สีหน้านางซีดเผือด หอบหายใจไม่หยุด

การใช้วิชาเพียงครู่เดียวนี้กินพลังเวทของนางไปเกินกว่าครึ่ง หากไม่ได้วางแผนไว้อย่างดี คงไม่อาจแช่แข็งผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจอินทรีที่ความเร็วและพลังไม่เป็นรองนางตนนี้ได้อย่างแน่นอน

“อิงเจิน!”

เสียงตวาดดุดันดังขึ้น แสงสีน้ำเงินสว่างวูบหนึ่งบนลานประลองเผยร่างของบุรุษจมูกอินทรีออกมา

อู่หงหน้าถอดสีในทันใด ปลายเท้าสะกิดเพียงนิด ร่างกายพลันพุ่งถอยออกมา

ในเวลานี้เองแสงสีขาวพลันส่องสว่าง ร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏตัวเบื้องหน้านาง ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนนั่นเอง

“สหายอิง คนในเผ่าของท่านเพียงถูกแช่แข็งไว้ชั่วคราวเท่านั้น หาได้อันตรายถึงชีวิตไม่ ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกเกินไป” ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนเอ่ยอย่างนิ่งสงบ บนร่างเปล่งแสงสีขาวอยู่เรืองๆ อยู่ในสภาพตั้งท่าเตรียมพร้อม

บุรุษจมูกอินทรีฟังแล้วดวงตาพลันเปล่งประกายขึ้นวูบหนึ่ง เขาสังเกตด้านในผลึกน้ำแข็งสีฟ้าทันที ดวงตาของอินทรียักษ์สีเทากลอกไปมาเล็กน้อย ยังไม่เสียพลังชีวิตไป เขาจึงแค่นเสียงออกมาคำหนึ่งยกมือส่งแสงสีน้ำเงินสายหนึ่งลงบนรูปสลักน้ำแข็งอินทรียักษ์

ผลึกน้ำแข็งแตกดังเกรียวกราว บนร่างของอินทรียักษ์สีเทายังมีกำไลกลมสีเขียวหยกสองวงคล้องรัดอยู่จึงไม่อาจขยับได้แม้แต่น้อย

“การประลองรอบนี้พวกเราแพ้แล้ว ปล่อยคนเถอะ” บุรุษจมูกอินทรีสีหน้าไม่น่าดูยิ่งกว่าเดิม เอ่ยกับผู้ฝึกฝนแซ่ซุนด้วยน้ำเสียงเย็นชา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+