Alchemy Emperor of the Divine Dao 1998 พลังที่เกินกว่าระดับห้านิพพาน

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1998 พลังที่เกินกว่าระดับห้านิพพาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1998 พลังที่เกินกว่าระดับห้านิพพาน

 

ใช่ว่าหลิงฮันจะไม่เคยพบเจอปรมาจารย์ยุทธที่ทรงพลังมาก่อน มีจอมยุทธหลายคนที่สามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย เพราะมีพลังบ่มเพาะที่สูงกว่า แต่หากเป็นในระดับพลังเดียวกัน หรือ ใกล้เคียงล่ะก็ เขาไม่เคยพ่ายแพ้ใครมาก่อน

 

จี่อู๋หมิงผู้นี้คือคนแรก

 

หลิงฮันมั่นใจว่าตนเองขัดเกลาทุกระดับพลังจนถึงขีดกําจัดสูงสุด จนไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้แล้ว

 

เพราะงั้นไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่สมควรอ่อนแอกว่าจี่อู๋หมิง

 

เพียงแต่ว่าความนั้นช่างโหดร้าย พลังต่อสู้ของเขาไม่สามารถเทียบกับจี่อู๋หมิงได้ หากไม่ใช่ เพราะเขาบ่มเพาะทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรัน สังหารไปหลายครั้งแล้ว

 

หลิงฮันพยุงร่างให้มั่นคง และจับไปที่ท้ายทอยศีรษะ การโจมตีเมื่อครู่ของจีอูหมิงแทนจะบดขยกะโหลกของเขาได้

 

หลิงฮันคาดเดาว่า เหตุผลที่อีกฝ่ายแข็งแกร่งขนาดนี้ ย่อมเป็นเพราะสามารถใช้พลังที่อยู่เหนือระดับห้านิพพานได้

 

เขารีบโคจรอํานาจของอสนีบาตชําระล้างโลกา ทําให้รอยยุบบนกะโหลกศีรษะถูกฟื้น ฟูสภาพในทันที

 

“คนที่ครอบครองวาสนาเช่นเจ้า ช่างจัดการได้ยากเย็นเสียจริง!” จี่อู๋หมิงขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพุ่งทะยานร่างเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ฮูหนิว

 

“ตัวอัปลักษณ์ หนิวจะทุบตีเจ้าให้ตาย!” ฮูหนิวตะโกนเสียงดัง เจ้าดูถูกหนิวงั้นรึ ถึงได้เลือกจู่โจมหนิวหลังคนอื่น?

 

ฮูหนิวคําราม ร่างเงาของมัจฉาวายุภักษ์ปรากฏออกมาจากด้านหลังของนาง

 

“หากเจ้าเป็นร่างกําเนิดใหม่ของอ่อน ข้าก็จะยอมไว้ชีวิต แต่น่าเสียดายได้ภายในร่างของเจ้ามีเพียงเจตจํานงยุทธของนางประทับเอาไว้เท่านั้น” จี่อู๋หมิงกล่าว “จงถูกข้ากลืนกินเสียเถอะ!”

 

เขาผลักฝ่ามือใส่ฮูหนิว

 

“เจ้าทําให้หนิวโกรธแล้ว!” ฮูหนิวกวัดแกว่งหมัดทั้งสองตอบโต้ ร่างเงามัจฉาวายุภักษ์มีตราประทับที่ส่องประกายพรั่งพรูออกมาทีละอัน และปลดปล่อยกลิ่นอายที่ราวกับจะบดขยี้สวรรค์เก้าชั้นฟ้าออกมา

 

จี่อู๋หมิงไม่แยแสแม้แต่น้อย สองมือของเขาทั้งผลักฝ่ามือ ปล่อยกําปั้น และจู่โจมในรูปแบบต่างๆ มากมายอย่างสมบูรณ์แบบ ทําให้ร่างเงาของมัจฉาวายุภักษ์ถูกกําราบอย่างง่ายดาย ฮูหนิวจึงต้องรับมือการโจมตีด้วยพลังของนางเพียงอย่างเดียว

 

ไร้เทียมทานสมกับเป็นร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ระดับเก้า!

 

หลิงฮันและยี่คําราม ทั้งสองคนพุ่งโจมตีใส่จี่อู๋จากทั้งด้านซ้ายขวา

 

จี่อู๋หมิงแสยะยิ้ม ก่อนที่ร่างของเขาจะสั่นไหวเล็กน้อย และมีร่างอีกสองร่างแยกออกมาจาก ร่างกายของเขา และร่างแยกทั้งสองนี้ ได้เคลื่อนไหวตอบโต้การโจมตีของหลิงฮันและยี่

 

ความสามารถเหมือนกันการแยกร่างของจักรพรรดินี่งั้นรึ?

 

หลิงฮันปะทะกับร่างแยก และพบว่าร่างแยกนี้คือจี่อู๋หมิงจริงๆ

 

ไม่ว่าจะเป็นออร่า หรือพลังต่อสู้ร่างแยกนี้เหมือนกับจี่อู๋หมิงไม่มีผิดเพี้ยน

 

ร่างตรงหน้าเขาไม่ใช่ร่างแยก

 

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเขาในทันที… ดวงวิญญาณ!

 

หลังจากบรรลุระดับแบ่งแยกวิญญาณแล้ว ดวงวิญญาณของจอมยุทธจะแบ่งออกเป็นสี่ดวง คือดวงวิญญาณหยิน ดวงวิญญาณหยาง ดวงวิญญาณปฐพี และดวงวิญญาณสวรรค์ ดวงวิญญาณทั้งสี่คือสิ่งที่ถอดออกมาจากร่างหลัก เพราะงั้นแก่นแท้ของพวกมันจึงไม่มีความแตกต่างใดๆ กับร่างหลัก

 

เพียงแต่จี่อู๋หมิงยังมีพลังอยู่ในระดับโลกียนิพพานแท้ๆ!

 

ตามหลักทฤษฎีแล้ว การถอดดวงวิญญาณเช่นนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ เพียงแต่ช่วงชีวิตที่แล้วของจี่อู๋หมิงนั้นเคยเป็นราชานิรันดร์ แถมยังเป็นตัวตนที่สูงสุดถึงราชานิรันดร์ระดับเก้าด้วย จึงไม่น่าแปลกใจอะไร ที่อีกฝ่ายจะสามารถทําลายกฎเหล็กของระดับพลัง และมีความสามารถพิเศษเหนือใคร

 

ตูม!

 

หลิงฮันแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับดวงวิญญาณของจี่อู๋หมิง โดยที่ดวงวิญญาณสามารถคงสภาพอยู่ได้ไม่นานเท่านั้น ก็สลายหายไปเอง

 

หลิงฮันเข้าใจทันทีว่า ถึงแม้จี่อู๋หมิงจะใช้ความสามารถของระดับแบ่งแยกวิญญาณได้ แต่ชีวิตที่แล้วของเขาก็ยังเป็นราชานิรันดร์ระดับเก้า ที่อยู่ภายใต้กฏของสวรรค์และปฐพี ทําให้ความสามารถที่ใช้ได้มีขีดจํากัด

 

ในอีกด้าน ยี่เองก็เข้าปะทะกับดวงวิญญาณของจี่อู๋หมิงเช่นกัน

 

จี่อู๋หมิงใช้โอกาสนี้ลงมือกําราบฮูหนิว

 

ซึ่งผ่านไปเพียงไม่กี่กระบวนท่า ฮูหนิวก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หลิงฮันพยายามเข้าใกล้จี่อู๋หมิง แต่ดวงวิญญาณที่สลายไปแล้วของจี่อู๋หมิง ก็กลับปรากฏออกมาอีกครั้ง และถ่วงเวลาเขาเอาไว้ไม่รู้

 

เมื่อเห็นว่าฮูหนิวใกล้จะรับมือไม่ไหว หลิงฮันก็ใช้พลังของหอคอยทมิฬอีกครั้ง เพื่อสับเปลี่ยนตําแหน่งกับนาง

 

จี่อู๋หมิงไม่รู้สึกประหลาดใจ แต่กลับเผยสีหน้าแสยะยิ้ม “ข้ากําลังรอเจ้าอยู่เลย!” เขาปล่อยหมัดเขาเข้าใส่ห้วงจิตวิญญาณหลิงฮัน ครืนน” คลื่นแสงนิรันดร์เก้าแสง พรั่งพรูออกมาพร้อมกับแปรเปลี่ยนกลายเป็นดาบและพุ่งโจมตี

 

หลิงฮันรู้สึกเย็นวาบไปทั่วร่าง และรับรู้ได้ว่าดาบตรงหน้านี้มีอํานาจมากพอจะสังหารเขาได้

 

เขารีบโคจรพลังของแก่นกําเนิดนิรันดร์ “ตูม” ร่างของเขาระเบิดกลุ่มก้อนเปลวเพลิงที่อัดแน่นไปด้วยตราประทับแห่งบรรพกาลออกมา จนเกิดเป็นทะเลเพลิงที่แผดเผาไปถึงเก้าชั้นสวรรค์

 

“ฉัวะ” ดาบของจี่อู๋หมิงทะลวงเข้าใส่ทะเลเพลิง

 

หลิงฮันใช้โอกาสนี้สะบัดตัวหลบหนีออกมาหลายร้อยไมล์ ก่อนที่เปลวเพลิงบนร่างของเขาค่อยๆ สลายหายไป ที่มุมซ้ายของศีรษะของเขาปรากฏรอยเว้าถูกเฉือนขาด และมีโลหิตไหลออกมา

 

เพียงแค่ดาบหนึ่งกระบวนท่า ก็เกือบจะทําให้เขาสิ้นชีพ!

 

การผสานอํานาจนิรันดร์ทั้งเก้าเข้าด้วยกันช่างน่าสะพรึงกลัวนัก พลังทําลายของมันรุนแรงเกินพรรณนา จนแม้แต่กายหยาบของเขาก็ต้านทานไม่ไหว

 

นี่ขนาดหลิงฮันโคจรอํานาจของแก่นกําเนิดนิรันดร์ออกมาต้านแล้ว ก็ยังหลบออกมาได้อย่างฉิวเฉียดเท่านั้น หากหลบไม่ทันล่ะก็ เขามีแต่ต้องใช้ทักษะกําเนิดใหม่จากเถ้าถ่านสถานเดียว

 

จี่อู๋หมิงประหลาดใจเล็กน้อย “อํานาจแห่งเต๋ของราชาเพลิงสวรรค์งั้นรึ? วาสนาของเจ้าช่างไม่ธรรมดาเลยจริงๆ! “การไล่ต้อนฮูหนิวเป็นเพียงการหลอกล่อเท่านั้น ซึ่งเป้าหมายหลักของเขา คือ การบังคับให้หลิงอันใช้การสับเปลี่ยนห้วงมิติ

 

หลิงฮันโคจรแก่นพลังเพื่อฟื้นฟูบาดแผลบนศีรษะ แต่อํานาจของคลื่นแสงนิรันดร์เก้าสีเมื่อครู่ได้ขัดขวางการฟื้นฟูของเขา ความเร็วในการฟื้นสภาพจึงลดลงไปหลายเท่าตัว

 

เขาโคจรอํานาจของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เข้ามาเสริมทักษะนี้คือทักษะบ่มเพาะระดับมหาปราชญ์สวรรค์ มันจึงช่วยให้ความเร็วในความฟื้นสภาพเร็วขึ้นมาเล็กน้อย

 

“พวกเจ้าอย่าได้สู้กับหมอนั่น ตัวต่อตัวเด็ดขาด” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ําเสียงจริงจัง ในด้านประสบการณ์ในการต่อสู้นั้น ยังเร็วเกินไปร้อยล้านปีที่พวกเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของจี่อู๋หมิง

 

เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่อาจลงมือสุ่มสี่สุ่มห้าได้อีกต่อไป

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 1998 พลังที่เกินกว่าระดับห้านิพพาน

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1998 พลังที่เกินกว่าระดับห้านิพพาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1998 พลังที่เกินกว่าระดับห้านิพพาน

 

ใช่ว่าหลิงฮันจะไม่เคยพบเจอปรมาจารย์ยุทธที่ทรงพลังมาก่อน มีจอมยุทธหลายคนที่สามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย เพราะมีพลังบ่มเพาะที่สูงกว่า แต่หากเป็นในระดับพลังเดียวกัน หรือ ใกล้เคียงล่ะก็ เขาไม่เคยพ่ายแพ้ใครมาก่อน

 

จี่อู๋หมิงผู้นี้คือคนแรก

 

หลิงฮันมั่นใจว่าตนเองขัดเกลาทุกระดับพลังจนถึงขีดกําจัดสูงสุด จนไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้แล้ว

 

เพราะงั้นไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่สมควรอ่อนแอกว่าจี่อู๋หมิง

 

เพียงแต่ว่าความนั้นช่างโหดร้าย พลังต่อสู้ของเขาไม่สามารถเทียบกับจี่อู๋หมิงได้ หากไม่ใช่ เพราะเขาบ่มเพาะทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรัน สังหารไปหลายครั้งแล้ว

 

หลิงฮันพยุงร่างให้มั่นคง และจับไปที่ท้ายทอยศีรษะ การโจมตีเมื่อครู่ของจีอูหมิงแทนจะบดขยกะโหลกของเขาได้

 

หลิงฮันคาดเดาว่า เหตุผลที่อีกฝ่ายแข็งแกร่งขนาดนี้ ย่อมเป็นเพราะสามารถใช้พลังที่อยู่เหนือระดับห้านิพพานได้

 

เขารีบโคจรอํานาจของอสนีบาตชําระล้างโลกา ทําให้รอยยุบบนกะโหลกศีรษะถูกฟื้น ฟูสภาพในทันที

 

“คนที่ครอบครองวาสนาเช่นเจ้า ช่างจัดการได้ยากเย็นเสียจริง!” จี่อู๋หมิงขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพุ่งทะยานร่างเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ฮูหนิว

 

“ตัวอัปลักษณ์ หนิวจะทุบตีเจ้าให้ตาย!” ฮูหนิวตะโกนเสียงดัง เจ้าดูถูกหนิวงั้นรึ ถึงได้เลือกจู่โจมหนิวหลังคนอื่น?

 

ฮูหนิวคําราม ร่างเงาของมัจฉาวายุภักษ์ปรากฏออกมาจากด้านหลังของนาง

 

“หากเจ้าเป็นร่างกําเนิดใหม่ของอ่อน ข้าก็จะยอมไว้ชีวิต แต่น่าเสียดายได้ภายในร่างของเจ้ามีเพียงเจตจํานงยุทธของนางประทับเอาไว้เท่านั้น” จี่อู๋หมิงกล่าว “จงถูกข้ากลืนกินเสียเถอะ!”

 

เขาผลักฝ่ามือใส่ฮูหนิว

 

“เจ้าทําให้หนิวโกรธแล้ว!” ฮูหนิวกวัดแกว่งหมัดทั้งสองตอบโต้ ร่างเงามัจฉาวายุภักษ์มีตราประทับที่ส่องประกายพรั่งพรูออกมาทีละอัน และปลดปล่อยกลิ่นอายที่ราวกับจะบดขยี้สวรรค์เก้าชั้นฟ้าออกมา

 

จี่อู๋หมิงไม่แยแสแม้แต่น้อย สองมือของเขาทั้งผลักฝ่ามือ ปล่อยกําปั้น และจู่โจมในรูปแบบต่างๆ มากมายอย่างสมบูรณ์แบบ ทําให้ร่างเงาของมัจฉาวายุภักษ์ถูกกําราบอย่างง่ายดาย ฮูหนิวจึงต้องรับมือการโจมตีด้วยพลังของนางเพียงอย่างเดียว

 

ไร้เทียมทานสมกับเป็นร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ระดับเก้า!

 

หลิงฮันและยี่คําราม ทั้งสองคนพุ่งโจมตีใส่จี่อู๋จากทั้งด้านซ้ายขวา

 

จี่อู๋หมิงแสยะยิ้ม ก่อนที่ร่างของเขาจะสั่นไหวเล็กน้อย และมีร่างอีกสองร่างแยกออกมาจาก ร่างกายของเขา และร่างแยกทั้งสองนี้ ได้เคลื่อนไหวตอบโต้การโจมตีของหลิงฮันและยี่

 

ความสามารถเหมือนกันการแยกร่างของจักรพรรดินี่งั้นรึ?

 

หลิงฮันปะทะกับร่างแยก และพบว่าร่างแยกนี้คือจี่อู๋หมิงจริงๆ

 

ไม่ว่าจะเป็นออร่า หรือพลังต่อสู้ร่างแยกนี้เหมือนกับจี่อู๋หมิงไม่มีผิดเพี้ยน

 

ร่างตรงหน้าเขาไม่ใช่ร่างแยก

 

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเขาในทันที… ดวงวิญญาณ!

 

หลังจากบรรลุระดับแบ่งแยกวิญญาณแล้ว ดวงวิญญาณของจอมยุทธจะแบ่งออกเป็นสี่ดวง คือดวงวิญญาณหยิน ดวงวิญญาณหยาง ดวงวิญญาณปฐพี และดวงวิญญาณสวรรค์ ดวงวิญญาณทั้งสี่คือสิ่งที่ถอดออกมาจากร่างหลัก เพราะงั้นแก่นแท้ของพวกมันจึงไม่มีความแตกต่างใดๆ กับร่างหลัก

 

เพียงแต่จี่อู๋หมิงยังมีพลังอยู่ในระดับโลกียนิพพานแท้ๆ!

 

ตามหลักทฤษฎีแล้ว การถอดดวงวิญญาณเช่นนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ เพียงแต่ช่วงชีวิตที่แล้วของจี่อู๋หมิงนั้นเคยเป็นราชานิรันดร์ แถมยังเป็นตัวตนที่สูงสุดถึงราชานิรันดร์ระดับเก้าด้วย จึงไม่น่าแปลกใจอะไร ที่อีกฝ่ายจะสามารถทําลายกฎเหล็กของระดับพลัง และมีความสามารถพิเศษเหนือใคร

 

ตูม!

 

หลิงฮันแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับดวงวิญญาณของจี่อู๋หมิง โดยที่ดวงวิญญาณสามารถคงสภาพอยู่ได้ไม่นานเท่านั้น ก็สลายหายไปเอง

 

หลิงฮันเข้าใจทันทีว่า ถึงแม้จี่อู๋หมิงจะใช้ความสามารถของระดับแบ่งแยกวิญญาณได้ แต่ชีวิตที่แล้วของเขาก็ยังเป็นราชานิรันดร์ระดับเก้า ที่อยู่ภายใต้กฏของสวรรค์และปฐพี ทําให้ความสามารถที่ใช้ได้มีขีดจํากัด

 

ในอีกด้าน ยี่เองก็เข้าปะทะกับดวงวิญญาณของจี่อู๋หมิงเช่นกัน

 

จี่อู๋หมิงใช้โอกาสนี้ลงมือกําราบฮูหนิว

 

ซึ่งผ่านไปเพียงไม่กี่กระบวนท่า ฮูหนิวก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หลิงฮันพยายามเข้าใกล้จี่อู๋หมิง แต่ดวงวิญญาณที่สลายไปแล้วของจี่อู๋หมิง ก็กลับปรากฏออกมาอีกครั้ง และถ่วงเวลาเขาเอาไว้ไม่รู้

 

เมื่อเห็นว่าฮูหนิวใกล้จะรับมือไม่ไหว หลิงฮันก็ใช้พลังของหอคอยทมิฬอีกครั้ง เพื่อสับเปลี่ยนตําแหน่งกับนาง

 

จี่อู๋หมิงไม่รู้สึกประหลาดใจ แต่กลับเผยสีหน้าแสยะยิ้ม “ข้ากําลังรอเจ้าอยู่เลย!” เขาปล่อยหมัดเขาเข้าใส่ห้วงจิตวิญญาณหลิงฮัน ครืนน” คลื่นแสงนิรันดร์เก้าแสง พรั่งพรูออกมาพร้อมกับแปรเปลี่ยนกลายเป็นดาบและพุ่งโจมตี

 

หลิงฮันรู้สึกเย็นวาบไปทั่วร่าง และรับรู้ได้ว่าดาบตรงหน้านี้มีอํานาจมากพอจะสังหารเขาได้

 

เขารีบโคจรพลังของแก่นกําเนิดนิรันดร์ “ตูม” ร่างของเขาระเบิดกลุ่มก้อนเปลวเพลิงที่อัดแน่นไปด้วยตราประทับแห่งบรรพกาลออกมา จนเกิดเป็นทะเลเพลิงที่แผดเผาไปถึงเก้าชั้นสวรรค์

 

“ฉัวะ” ดาบของจี่อู๋หมิงทะลวงเข้าใส่ทะเลเพลิง

 

หลิงฮันใช้โอกาสนี้สะบัดตัวหลบหนีออกมาหลายร้อยไมล์ ก่อนที่เปลวเพลิงบนร่างของเขาค่อยๆ สลายหายไป ที่มุมซ้ายของศีรษะของเขาปรากฏรอยเว้าถูกเฉือนขาด และมีโลหิตไหลออกมา

 

เพียงแค่ดาบหนึ่งกระบวนท่า ก็เกือบจะทําให้เขาสิ้นชีพ!

 

การผสานอํานาจนิรันดร์ทั้งเก้าเข้าด้วยกันช่างน่าสะพรึงกลัวนัก พลังทําลายของมันรุนแรงเกินพรรณนา จนแม้แต่กายหยาบของเขาก็ต้านทานไม่ไหว

 

นี่ขนาดหลิงฮันโคจรอํานาจของแก่นกําเนิดนิรันดร์ออกมาต้านแล้ว ก็ยังหลบออกมาได้อย่างฉิวเฉียดเท่านั้น หากหลบไม่ทันล่ะก็ เขามีแต่ต้องใช้ทักษะกําเนิดใหม่จากเถ้าถ่านสถานเดียว

 

จี่อู๋หมิงประหลาดใจเล็กน้อย “อํานาจแห่งเต๋ของราชาเพลิงสวรรค์งั้นรึ? วาสนาของเจ้าช่างไม่ธรรมดาเลยจริงๆ! “การไล่ต้อนฮูหนิวเป็นเพียงการหลอกล่อเท่านั้น ซึ่งเป้าหมายหลักของเขา คือ การบังคับให้หลิงอันใช้การสับเปลี่ยนห้วงมิติ

 

หลิงฮันโคจรแก่นพลังเพื่อฟื้นฟูบาดแผลบนศีรษะ แต่อํานาจของคลื่นแสงนิรันดร์เก้าสีเมื่อครู่ได้ขัดขวางการฟื้นฟูของเขา ความเร็วในการฟื้นสภาพจึงลดลงไปหลายเท่าตัว

 

เขาโคจรอํานาจของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เข้ามาเสริมทักษะนี้คือทักษะบ่มเพาะระดับมหาปราชญ์สวรรค์ มันจึงช่วยให้ความเร็วในความฟื้นสภาพเร็วขึ้นมาเล็กน้อย

 

“พวกเจ้าอย่าได้สู้กับหมอนั่น ตัวต่อตัวเด็ดขาด” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ําเสียงจริงจัง ในด้านประสบการณ์ในการต่อสู้นั้น ยังเร็วเกินไปร้อยล้านปีที่พวกเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของจี่อู๋หมิง

 

เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่อาจลงมือสุ่มสี่สุ่มห้าได้อีกต่อไป

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+