Alchemy Emperor of the Divine Dao 2065 การปะทะของสุดยอดจักรพรรดิ

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2065 การปะทะของสุดยอดจักรพรรดิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2065 การปะทะของสุดยอดจักรพรรดิ   อย่าก้าวก่ายเป้าหมายของกันและกัน   ความหมายของคํานี้ไม่มีอะไรซับซ้อน จ์สู่ยหยินกับเทียนชิงเย่จะร่วมมือช่วยกันกําราบหลิงฮันต่อไปแบบเดิมในขณะที่เซียโหวถงกับยี่หวานิ่งก็จะไล่ล่าจีคู่หมิงต่อไป   “ตกลง!” สุดยอดจักรพรรดิทั้งสี่พยักหน้า   จีอู่หมิงสีหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมน ราชานิรันดร์ระดับเก้ที่ถูกสังหารด้วยเงื้อมมือของเขานั้นไม่ได้มีจํานวนน้อยๆ เพราะงั้นเพียงแค่จอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ตัวจ้อยจะอยู่ในสายตาของเขาได้อย่างไร? ต่อให้พวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนจะถูกเรียกว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานอะไรก็ช่าง แต่ในความคิดของเขาทั้งสี่ก็เป็นแค่อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์เล็กน้อยเท่านั้น   ถามก่อนดีกว่าว่าพวกเทียนชิงเย่จะบรรลุระดับราชานิรันดร์ได้สูงขนาดไหน?   อย่างมากความสําเร็จสูงสุดของทั้งสี่คนก็คงอยู่ที่ราชานิรันดร์ระดับแปดเท่านั้น ซึ่งตัวตนระดับนี้จธุ์หมิงไม่คิดจะเก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย   “ตอนแรกข้าคิดว่าจะไม่ลดตัวลงไปต่อกรกับขยะสองคนเช่นพวกเจ้า แต่พวกเจ้าก็ยังรนหาที่ตายไม่หยุดสินะ?” จ่อหมินกล่าวยอย่างมืดมน และจิตสังหารได้พรั่งพรูอยู่ภายในดวงตา   “เล็กพล่ามไร้สาระเสียที ตาย!” เซียโหวองคํารามอย่างไม่อดทนรอ พวกเขาไม่ได้แยแสจ่อหมิงมากนักแต่สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวก็คือจอหมิงจะถูกคนอื่นแย่งชิงตัวไป เพราะงั้นพวกเขาจึงไล่ตามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อช่วงชิงอุปกรณ์มิติของอีกฝ่ายมา   “ช่างโง่งม!” จ่อหมิงแสยะยิ้ม ร่างของเขาพุ่งทะยานราวกับคลื่นแสงจู่โจมเข้าใส่พวกเซี่ยโหวถง   ปัง! ปัง! ปัง!   การปะทะน้ํานั่นอุบัติขึ้นโดยที่จ่อหมิงนั้นดุดันเป็นอย่างมาก ที่เป็นฝ่ายเปิดการโจมตีเข้าใส่ศัตรูทั้งสองก่อนเขาปลดปล่อยทักษะนิรันดร์มากมายออกมา ทําให้พลังต่อสู้ของเขาพุ่งทะยานสูงเสียดฟ้าและไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ   เมื่อได้เห็นเช่นนี้แน่นอนว่าเซียโหวถงกับยี่หวานิ่งย่อมรู้สึกหวาดผวาจนหน้าซีดเผือด เหมือนกับตอนที่เทียนซึ่งเย่ตกตะลึงในพลังต่อสู้ของหลิงฮัน ทั้งสองไม่มีใครคาดฝันมาก่อนว่าจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยางจะสามารถแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้   เพียงแต่หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนไปได้สักพัก พวกเขาก็เข้าใจว่าทําไมจ่อหมิงถึงแข็งแกร่ง   ความเชี่ยวชาญในอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ของคนผู้นี้สูงส่งจนเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เพราะงั้นทักษะนิรันดร์ที่ปลดปล่อยออกมาจากมือของเขาจึงแข็งแกร่งยิ่งกว่าใคร แถมยังทําให้ทักษะนิรันดร์ของคนอื่นอ่อนพลังลงไปพร้อมๆกันจึงทดแทนความแตกต่างของระดับพลังที่มากถึงสามระดับย่อยได้   ไม่สิ หากจะพูดกันตรงๆ การร่วมมือกันระหว่างเซียโหวถึงกับยี่หวานิ่งย่อมแข็งแกร่งกว่าแต่พวกเขาทั้งสองไม่สามารถกําราบขี่อู่หมิงในระยะเวลาสั้นๆได้ การต่อสู้จึงดูเหมือนว่าดุเดือดและยากจะรู้ผลลัพธ์   ในอีกด้านหนึ่ง เทียนชิงเต่กับจ์ขี่ยหยินก็ได้เข้าปะทะกับหลิงฮัน   ทางฝั่งนี้เองก็ยากที่จะเห็นความแตกต่างว่าใครที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะเมื่อหล็งฮันใช้แก่นพลังมหาพินาศโจมตีออกมา ตราบใดที่พวกเทียนชิงเย่อยู่ในระยะ ทั้งสองคนก็จะถูกแรงปะทะซัดเข้าใส่พร้อมกันซึ่งตราบใดที่พลังของหลิงฮันไม่แห้งเหือด เทียนชิงเต่กับฮุยหยินก็สร้างแรงกดดันให้เขาไม่ได้   ทั้งสองคู่เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด คลื่นพลังผันผวนที่เกิดจากการโจมตีของทั้งสองนั้นรุนแรงจนรับประกันได้เลยว่าหากจอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ทั่วไปมาสัมผัสเข้าจะต้องถูกบดขยี้เป็นเศษเนื้ออย่างแน่นอน   ผู้ติดตามคนมองดูอยู่เผยสีหน้าตกตกลงอย่างปิดไม่มิด โดยเฉพาะผู้ติดตามของยหวานิ่งกับผู้ติดตามของเซี่ยโหวถงที่มาชําเล็กน้อย เมื่อพวกเขามาถึงและเห็นการต่อสู้อันดุเดือดของทั้งหกคนสองคู่ใบหน้าของพวกเขาก็แสดงออกอย่างโง่งมทันที   สีอัจฉริยะที่ทรงพลังที่สุดในหมูรุ่นเยาว์ของอาณาเขตสวรรค์ผ่อน ก่าลังร่วมมือกันสองคนสองคู่เพื่อกําราบศัตรู   พระเจ้า… เรื่องแบบนี้พูดไปใครจะเชื่อกัน?   “หลิงฮัน สนใจมาร่วมมือกับข้ารึเปล่า?” จู่ๆ จ่อหมิงก็เอ่ยขึ้นมา   เขาไม่ได้พูดปากเปล่า เพราะยังไม่ทันที่คําพูดจะสิ้นสุดจ่อหมิงก็ผลักฝ่ามือออกไป คลื่นพลังจากฝ่ามือแปรเปลี่ยนกลายเป็นคมมีดสวรรค์สองเล่มพุ่งเข้าใส่เทียนชิงเย่และจ์ขี่ยหยิน   หลิงฮันคิดว่าหูของตนเองผิดปกติ แต่เมื่อเห็นว่าจ่อหมิงลงมือจริงๆ เขาก็คิดต่อไปอีกว่าหรือว่าแม้แต่ตาของเขาเองก็ผิดปกติไปด้วย   จ่อหมิงต้องการร่วมมือจริงๆ!   หลิงฮันประหลาดใจแต่ก็ไม่หยุดมือ หมัดทั้งสองของเขายังคงกวัดแกว่งเพื่อปลดปล่อยแก่นพลังมหาพินาศเข้าใส่เทียนชิงเยู่กับจ์ขี่ยหยืนและในตอนที่พวกเซียโหวถงไล่ตามจีอู่หมิงมาเขาก็ขยับใช้ร่างของตนเองเป็นโล่รับการโจมตีจอมทั้งสองเอาไว้ ปัง ปังการโจมตีของสองสุดยอดจักรพรรดิซัดเข้าใส่ร่างของหลิงฮันพร้อมกันจ นร่างลอยกระเด็นแต่เขาก็ไม่กระอักโลหิตออกมาแม้แต่หยดเดียว   เรื่องนี้ทําให้ร่างของเซียโหวถงกับยี่หวานิ่งชะงักแข็งค้าง การโจมตีของพวกเขากระแทกใส่ร่างของหลิงฮันเต็มๆเลยแท้ๆแต่อีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะกระอักโลหิตเลยงั้นรี?   นี่มันเรื่องบ้าบอชัดๆ!   แต่ถึงแม้จะตกตะลึงทั้งสองก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็วและหันไปจู่โจมจีอู่หมิงต่อ เนื่องจากพวกเขาคนตกลงกันเอาไว้แล้วว่าจะไม่ก้าวก่ายเป้าหมายของกันและกัน   เทียนชิงเยู่กับจัยหยินเองก็ทําแบบเดียวกัน ทั้งสองจดจ้องไปที่หลิงฮันและโจมตี   แต่เมื่อสถานการณ์กลายมาเป็นเช่นนี้ หลิงฮันกับคู่หมิงก็ดึงความได้เปรียบกลับมาได้ เพราะในหมู่ศัตรูสี่คนสองคนจะไม่โจมตีพวกเขา และด้วยการที่พวกเขาทั้งสองร่วมมือกันจึงเท่ากับว่าการปะทะได้กลายเป็นสองต่อสองพวกเขาจึงไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอีกต่อไป   “ไม่ต้องละเว้นอีกต่อไป!” ฮุยหยินตะโกนขึ้นมา “พวกเราสี่คนมาร่วมมือกันก่าจัดทั้งสองคนนั้นด้วยกัน”   “ตกลง!” พวกเทียนชิงเผ่ทั้งสามคนพยักหน้า   เมื่อทั้งสีคนหันมาร่วมมือกัน พลังต่อสู้ก็พุ่งทะยานกลายเป็นอีกระดับในทันที   หลิงฮันเค้นเสียงอย่างแผ่นเบาและกล่าว “ข้าจะรับหน้าที่เป็นโล่คุ้มกันให้ ส่วนเจ้าก็ทําหน้าที่เป็นคนลงมือจู่โจม”   “ตกลง!” จ่อหมิงตอบรับในทันใด   หลิงฮันเรียกร่างวิญญาณออกมา เขาไม่ใช้แก่นพลังมหาพินาศโจมตีอีกต่อไป แต่ทําหน้าที่เป็นโล่มนุษย์คอยป้องกันการโจมตีจากพวกเทียนชิงเต่แทน   แน่นอนว่าเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้ทั้งหมด แต่ตราบใดที่ป้องกันการโจมตีส่วนใหญ่ได้จีอู่หมิงก็สามารถสลายการโจมตีที่เหลือได้อย่างง่ายดาย แถมยังปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังสวนกลับไปได้อย่างอิสระ   จ่อหมิงที่ไม่ต้องคอยระแวงป้องกันตัวเองจะแข็งแกร่งขนาดไหน?   เกรงว่าคงกล่าวออกมาเป็นคําพูดไม่ได้!   ประสบการณ์การต่อสู้ของเขาเหนือกว่าประสบการณ์ของพวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนกับหลิงฮันรวมกันหลายล้านเท่าหลังจากไม่ต้องทําการป้องกันจ่อหมิงก็ราวกับกลายเป็นแท่งหอกที่แหลมคมที่สุดในยุทธภพ   การต่อสู้ดําเนินต่อไปไม่นาน พวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนก็ส่งเสียงคํารามออกมาหลายต่อหลายครั้งและสัมผัสถึงแรงกดดัน   “กําจัดหมอนั่นก่อน!” ทั้งสี่คนจดจ้องไปที่อู่หมิง   แต่น่าเสียดายที่อยู่ที่นี่คือหลิงฮัน เขาปลดปล่อยอานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติ และห้วงเวลาอย่างต่อเนื่องเพื่อทําหน้าที่เป็นโล่มนุษย์คอยรับการโจมตีทั้งหมดเอาไว้ ทําให้ทั้งสี่คนไม่สามารถโจมตีใส่จ่อหมิงได้   “ฮ่าๆๆๆ!” จ่อหมิงหัวเราะลั่น พร้อมกับจดจ่ออยู่กับการกระหน่โจมตีเพียงอย่างเดียว   ช่างเป็นคนที่แปลกมาก เพียงแค่กล่าวว่าจะร่วมมือกับหลิงฮัน เขาก็เชื่อหลิงฮันไปเสียหมดใจและตั้งสมาธิทั้งหมดไปกับการโจมตี   สถานการณ์ในตอนนี้ทําให้หลิงฮันเหงื่อตกเล็กน้อย แต่การมีคู่หูเช่นนี้ก็ทําให้เขารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก  

ตอนที่ 2065 การปะทะของสุดยอดจักรพรรดิ

 

อย่าก้าวก่ายเป้าหมายของกันและกัน

 

ความหมายของคํานี้ไม่มีอะไรซับซ้อน จ์สู่ยหยินกับเทียนชิงเย่จะร่วมมือช่วยกันกําราบหลิงฮันต่อไปแบบเดิมในขณะที่เซียโหวถงกับยี่หวานิ่งก็จะไล่ล่าจีคู่หมิงต่อไป

 

“ตกลง!” สุดยอดจักรพรรดิทั้งสี่พยักหน้า

 

จีอู่หมิงสีหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมน ราชานิรันดร์ระดับเก้ที่ถูกสังหารด้วยเงื้อมมือของเขานั้นไม่ได้มีจํานวนน้อยๆ เพราะงั้นเพียงแค่จอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ตัวจ้อยจะอยู่ในสายตาของเขาได้อย่างไร? ต่อให้พวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนจะถูกเรียกว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานอะไรก็ช่าง แต่ในความคิดของเขาทั้งสี่ก็เป็นแค่อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์เล็กน้อยเท่านั้น

 

ถามก่อนดีกว่าว่าพวกเทียนชิงเย่จะบรรลุระดับราชานิรันดร์ได้สูงขนาดไหน?

 

อย่างมากความสําเร็จสูงสุดของทั้งสี่คนก็คงอยู่ที่ราชานิรันดร์ระดับแปดเท่านั้น ซึ่งตัวตนระดับนี้จธุ์หมิงไม่คิดจะเก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย

 

“ตอนแรกข้าคิดว่าจะไม่ลดตัวลงไปต่อกรกับขยะสองคนเช่นพวกเจ้า แต่พวกเจ้าก็ยังรนหาที่ตายไม่หยุดสินะ?” จ่อหมินกล่าวยอย่างมืดมน และจิตสังหารได้พรั่งพรูอยู่ภายในดวงตา

 

“เล็กพล่ามไร้สาระเสียที ตาย!” เซียโหวองคํารามอย่างไม่อดทนรอ พวกเขาไม่ได้แยแสจ่อหมิงมากนักแต่สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวก็คือจอหมิงจะถูกคนอื่นแย่งชิงตัวไป เพราะงั้นพวกเขาจึงไล่ตามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อช่วงชิงอุปกรณ์มิติของอีกฝ่ายมา

 

“ช่างโง่งม!” จ่อหมิงแสยะยิ้ม ร่างของเขาพุ่งทะยานราวกับคลื่นแสงจู่โจมเข้าใส่พวกเซี่ยโหวถง

 

ปัง! ปัง! ปัง!

 

การปะทะน้ํานั่นอุบัติขึ้นโดยที่จ่อหมิงนั้นดุดันเป็นอย่างมาก ที่เป็นฝ่ายเปิดการโจมตีเข้าใส่ศัตรูทั้งสองก่อนเขาปลดปล่อยทักษะนิรันดร์มากมายออกมา ทําให้พลังต่อสู้ของเขาพุ่งทะยานสูงเสียดฟ้าและไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

 

เมื่อได้เห็นเช่นนี้แน่นอนว่าเซียโหวถงกับยี่หวานิ่งย่อมรู้สึกหวาดผวาจนหน้าซีดเผือด เหมือนกับตอนที่เทียนซึ่งเย่ตกตะลึงในพลังต่อสู้ของหลิงฮัน ทั้งสองไม่มีใครคาดฝันมาก่อนว่าจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยางจะสามารถแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้

 

เพียงแต่หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนไปได้สักพัก พวกเขาก็เข้าใจว่าทําไมจ่อหมิงถึงแข็งแกร่ง

 

ความเชี่ยวชาญในอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ของคนผู้นี้สูงส่งจนเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เพราะงั้นทักษะนิรันดร์ที่ปลดปล่อยออกมาจากมือของเขาจึงแข็งแกร่งยิ่งกว่าใคร แถมยังทําให้ทักษะนิรันดร์ของคนอื่นอ่อนพลังลงไปพร้อมๆกันจึงทดแทนความแตกต่างของระดับพลังที่มากถึงสามระดับย่อยได้

 

ไม่สิ หากจะพูดกันตรงๆ การร่วมมือกันระหว่างเซียโหวถึงกับยี่หวานิ่งย่อมแข็งแกร่งกว่าแต่พวกเขาทั้งสองไม่สามารถกําราบขี่อู่หมิงในระยะเวลาสั้นๆได้ การต่อสู้จึงดูเหมือนว่าดุเดือดและยากจะรู้ผลลัพธ์

 

ในอีกด้านหนึ่ง เทียนชิงเต่กับจ์ขี่ยหยินก็ได้เข้าปะทะกับหลิงฮัน

 

ทางฝั่งนี้เองก็ยากที่จะเห็นความแตกต่างว่าใครที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะเมื่อหล็งฮันใช้แก่นพลังมหาพินาศโจมตีออกมา ตราบใดที่พวกเทียนชิงเย่อยู่ในระยะ ทั้งสองคนก็จะถูกแรงปะทะซัดเข้าใส่พร้อมกันซึ่งตราบใดที่พลังของหลิงฮันไม่แห้งเหือด เทียนชิงเต่กับฮุยหยินก็สร้างแรงกดดันให้เขาไม่ได้

 

ทั้งสองคู่เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด คลื่นพลังผันผวนที่เกิดจากการโจมตีของทั้งสองนั้นรุนแรงจนรับประกันได้เลยว่าหากจอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ทั่วไปมาสัมผัสเข้าจะต้องถูกบดขยี้เป็นเศษเนื้ออย่างแน่นอน

 

ผู้ติดตามคนมองดูอยู่เผยสีหน้าตกตกลงอย่างปิดไม่มิด โดยเฉพาะผู้ติดตามของยหวานิ่งกับผู้ติดตามของเซี่ยโหวถงที่มาชําเล็กน้อย เมื่อพวกเขามาถึงและเห็นการต่อสู้อันดุเดือดของทั้งหกคนสองคู่ใบหน้าของพวกเขาก็แสดงออกอย่างโง่งมทันที

 

สีอัจฉริยะที่ทรงพลังที่สุดในหมูรุ่นเยาว์ของอาณาเขตสวรรค์ผ่อน ก่าลังร่วมมือกันสองคนสองคู่เพื่อกําราบศัตรู

 

พระเจ้า… เรื่องแบบนี้พูดไปใครจะเชื่อกัน?

 

“หลิงฮัน สนใจมาร่วมมือกับข้ารึเปล่า?” จู่ๆ จ่อหมิงก็เอ่ยขึ้นมา

 

เขาไม่ได้พูดปากเปล่า เพราะยังไม่ทันที่คําพูดจะสิ้นสุดจ่อหมิงก็ผลักฝ่ามือออกไป คลื่นพลังจากฝ่ามือแปรเปลี่ยนกลายเป็นคมมีดสวรรค์สองเล่มพุ่งเข้าใส่เทียนชิงเย่และจ์ขี่ยหยิน

 

หลิงฮันคิดว่าหูของตนเองผิดปกติ แต่เมื่อเห็นว่าจ่อหมิงลงมือจริงๆ เขาก็คิดต่อไปอีกว่าหรือว่าแม้แต่ตาของเขาเองก็ผิดปกติไปด้วย

 

จ่อหมิงต้องการร่วมมือจริงๆ!

 

หลิงฮันประหลาดใจแต่ก็ไม่หยุดมือ หมัดทั้งสองของเขายังคงกวัดแกว่งเพื่อปลดปล่อยแก่นพลังมหาพินาศเข้าใส่เทียนชิงเยู่กับจ์ขี่ยหยืนและในตอนที่พวกเซียโหวถงไล่ตามจีอู่หมิงมาเขาก็ขยับใช้ร่างของตนเองเป็นโล่รับการโจมตีจอมทั้งสองเอาไว้ ปัง ปังการโจมตีของสองสุดยอดจักรพรรดิซัดเข้าใส่ร่างของหลิงฮันพร้อมกันจ นร่างลอยกระเด็นแต่เขาก็ไม่กระอักโลหิตออกมาแม้แต่หยดเดียว

 

เรื่องนี้ทําให้ร่างของเซียโหวถงกับยี่หวานิ่งชะงักแข็งค้าง การโจมตีของพวกเขากระแทกใส่ร่างของหลิงฮันเต็มๆเลยแท้ๆแต่อีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะกระอักโลหิตเลยงั้นรี?

 

นี่มันเรื่องบ้าบอชัดๆ!

 

แต่ถึงแม้จะตกตะลึงทั้งสองก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็วและหันไปจู่โจมจีอู่หมิงต่อ เนื่องจากพวกเขาคนตกลงกันเอาไว้แล้วว่าจะไม่ก้าวก่ายเป้าหมายของกันและกัน

 

เทียนชิงเยู่กับจัยหยินเองก็ทําแบบเดียวกัน ทั้งสองจดจ้องไปที่หลิงฮันและโจมตี

 

แต่เมื่อสถานการณ์กลายมาเป็นเช่นนี้ หลิงฮันกับคู่หมิงก็ดึงความได้เปรียบกลับมาได้ เพราะในหมู่ศัตรูสี่คนสองคนจะไม่โจมตีพวกเขา และด้วยการที่พวกเขาทั้งสองร่วมมือกันจึงเท่ากับว่าการปะทะได้กลายเป็นสองต่อสองพวกเขาจึงไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอีกต่อไป

 

“ไม่ต้องละเว้นอีกต่อไป!” ฮุยหยินตะโกนขึ้นมา “พวกเราสี่คนมาร่วมมือกันก่าจัดทั้งสองคนนั้นด้วยกัน”

 

“ตกลง!” พวกเทียนชิงเผ่ทั้งสามคนพยักหน้า

 

เมื่อทั้งสีคนหันมาร่วมมือกัน พลังต่อสู้ก็พุ่งทะยานกลายเป็นอีกระดับในทันที

 

หลิงฮันเค้นเสียงอย่างแผ่นเบาและกล่าว “ข้าจะรับหน้าที่เป็นโล่คุ้มกันให้ ส่วนเจ้าก็ทําหน้าที่เป็นคนลงมือจู่โจม”

 

“ตกลง!” จ่อหมิงตอบรับในทันใด

 

หลิงฮันเรียกร่างวิญญาณออกมา เขาไม่ใช้แก่นพลังมหาพินาศโจมตีอีกต่อไป แต่ทําหน้าที่เป็นโล่มนุษย์คอยป้องกันการโจมตีจากพวกเทียนชิงเต่แทน

 

แน่นอนว่าเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้ทั้งหมด แต่ตราบใดที่ป้องกันการโจมตีส่วนใหญ่ได้จีอู่หมิงก็สามารถสลายการโจมตีที่เหลือได้อย่างง่ายดาย แถมยังปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังสวนกลับไปได้อย่างอิสระ

 

จ่อหมิงที่ไม่ต้องคอยระแวงป้องกันตัวเองจะแข็งแกร่งขนาดไหน?

 

เกรงว่าคงกล่าวออกมาเป็นคําพูดไม่ได้!

 

ประสบการณ์การต่อสู้ของเขาเหนือกว่าประสบการณ์ของพวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนกับหลิงฮันรวมกันหลายล้านเท่าหลังจากไม่ต้องทําการป้องกันจ่อหมิงก็ราวกับกลายเป็นแท่งหอกที่แหลมคมที่สุดในยุทธภพ

 

การต่อสู้ดําเนินต่อไปไม่นาน พวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนก็ส่งเสียงคํารามออกมาหลายต่อหลายครั้งและสัมผัสถึงแรงกดดัน

 

“กําจัดหมอนั่นก่อน!” ทั้งสี่คนจดจ้องไปที่อู่หมิง

 

แต่น่าเสียดายที่อยู่ที่นี่คือหลิงฮัน เขาปลดปล่อยอานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติ และห้วงเวลาอย่างต่อเนื่องเพื่อทําหน้าที่เป็นโล่มนุษย์คอยรับการโจมตีทั้งหมดเอาไว้ ทําให้ทั้งสี่คนไม่สามารถโจมตีใส่จ่อหมิงได้

 

“ฮ่าๆๆๆ!” จ่อหมิงหัวเราะลั่น พร้อมกับจดจ่ออยู่กับการกระหน่โจมตีเพียงอย่างเดียว

 

ช่างเป็นคนที่แปลกมาก เพียงแค่กล่าวว่าจะร่วมมือกับหลิงฮัน เขาก็เชื่อหลิงฮันไปเสียหมดใจและตั้งสมาธิทั้งหมดไปกับการโจมตี

 

สถานการณ์ในตอนนี้ทําให้หลิงฮันเหงื่อตกเล็กน้อย แต่การมีคู่หูเช่นนี้ก็ทําให้เขารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 2065 การปะทะของสุดยอดจักรพรรดิ

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2065 การปะทะของสุดยอดจักรพรรดิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2065 การปะทะของสุดยอดจักรพรรดิ   อย่าก้าวก่ายเป้าหมายของกันและกัน   ความหมายของคํานี้ไม่มีอะไรซับซ้อน จ์สู่ยหยินกับเทียนชิงเย่จะร่วมมือช่วยกันกําราบหลิงฮันต่อไปแบบเดิมในขณะที่เซียโหวถงกับยี่หวานิ่งก็จะไล่ล่าจีคู่หมิงต่อไป   “ตกลง!” สุดยอดจักรพรรดิทั้งสี่พยักหน้า   จีอู่หมิงสีหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมน ราชานิรันดร์ระดับเก้ที่ถูกสังหารด้วยเงื้อมมือของเขานั้นไม่ได้มีจํานวนน้อยๆ เพราะงั้นเพียงแค่จอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ตัวจ้อยจะอยู่ในสายตาของเขาได้อย่างไร? ต่อให้พวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนจะถูกเรียกว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานอะไรก็ช่าง แต่ในความคิดของเขาทั้งสี่ก็เป็นแค่อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์เล็กน้อยเท่านั้น   ถามก่อนดีกว่าว่าพวกเทียนชิงเย่จะบรรลุระดับราชานิรันดร์ได้สูงขนาดไหน?   อย่างมากความสําเร็จสูงสุดของทั้งสี่คนก็คงอยู่ที่ราชานิรันดร์ระดับแปดเท่านั้น ซึ่งตัวตนระดับนี้จธุ์หมิงไม่คิดจะเก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย   “ตอนแรกข้าคิดว่าจะไม่ลดตัวลงไปต่อกรกับขยะสองคนเช่นพวกเจ้า แต่พวกเจ้าก็ยังรนหาที่ตายไม่หยุดสินะ?” จ่อหมินกล่าวยอย่างมืดมน และจิตสังหารได้พรั่งพรูอยู่ภายในดวงตา   “เล็กพล่ามไร้สาระเสียที ตาย!” เซียโหวองคํารามอย่างไม่อดทนรอ พวกเขาไม่ได้แยแสจ่อหมิงมากนักแต่สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวก็คือจอหมิงจะถูกคนอื่นแย่งชิงตัวไป เพราะงั้นพวกเขาจึงไล่ตามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อช่วงชิงอุปกรณ์มิติของอีกฝ่ายมา   “ช่างโง่งม!” จ่อหมิงแสยะยิ้ม ร่างของเขาพุ่งทะยานราวกับคลื่นแสงจู่โจมเข้าใส่พวกเซี่ยโหวถง   ปัง! ปัง! ปัง!   การปะทะน้ํานั่นอุบัติขึ้นโดยที่จ่อหมิงนั้นดุดันเป็นอย่างมาก ที่เป็นฝ่ายเปิดการโจมตีเข้าใส่ศัตรูทั้งสองก่อนเขาปลดปล่อยทักษะนิรันดร์มากมายออกมา ทําให้พลังต่อสู้ของเขาพุ่งทะยานสูงเสียดฟ้าและไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ   เมื่อได้เห็นเช่นนี้แน่นอนว่าเซียโหวถงกับยี่หวานิ่งย่อมรู้สึกหวาดผวาจนหน้าซีดเผือด เหมือนกับตอนที่เทียนซึ่งเย่ตกตะลึงในพลังต่อสู้ของหลิงฮัน ทั้งสองไม่มีใครคาดฝันมาก่อนว่าจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยางจะสามารถแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้   เพียงแต่หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนไปได้สักพัก พวกเขาก็เข้าใจว่าทําไมจ่อหมิงถึงแข็งแกร่ง   ความเชี่ยวชาญในอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ของคนผู้นี้สูงส่งจนเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เพราะงั้นทักษะนิรันดร์ที่ปลดปล่อยออกมาจากมือของเขาจึงแข็งแกร่งยิ่งกว่าใคร แถมยังทําให้ทักษะนิรันดร์ของคนอื่นอ่อนพลังลงไปพร้อมๆกันจึงทดแทนความแตกต่างของระดับพลังที่มากถึงสามระดับย่อยได้   ไม่สิ หากจะพูดกันตรงๆ การร่วมมือกันระหว่างเซียโหวถึงกับยี่หวานิ่งย่อมแข็งแกร่งกว่าแต่พวกเขาทั้งสองไม่สามารถกําราบขี่อู่หมิงในระยะเวลาสั้นๆได้ การต่อสู้จึงดูเหมือนว่าดุเดือดและยากจะรู้ผลลัพธ์   ในอีกด้านหนึ่ง เทียนชิงเต่กับจ์ขี่ยหยินก็ได้เข้าปะทะกับหลิงฮัน   ทางฝั่งนี้เองก็ยากที่จะเห็นความแตกต่างว่าใครที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะเมื่อหล็งฮันใช้แก่นพลังมหาพินาศโจมตีออกมา ตราบใดที่พวกเทียนชิงเย่อยู่ในระยะ ทั้งสองคนก็จะถูกแรงปะทะซัดเข้าใส่พร้อมกันซึ่งตราบใดที่พลังของหลิงฮันไม่แห้งเหือด เทียนชิงเต่กับฮุยหยินก็สร้างแรงกดดันให้เขาไม่ได้   ทั้งสองคู่เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด คลื่นพลังผันผวนที่เกิดจากการโจมตีของทั้งสองนั้นรุนแรงจนรับประกันได้เลยว่าหากจอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ทั่วไปมาสัมผัสเข้าจะต้องถูกบดขยี้เป็นเศษเนื้ออย่างแน่นอน   ผู้ติดตามคนมองดูอยู่เผยสีหน้าตกตกลงอย่างปิดไม่มิด โดยเฉพาะผู้ติดตามของยหวานิ่งกับผู้ติดตามของเซี่ยโหวถงที่มาชําเล็กน้อย เมื่อพวกเขามาถึงและเห็นการต่อสู้อันดุเดือดของทั้งหกคนสองคู่ใบหน้าของพวกเขาก็แสดงออกอย่างโง่งมทันที   สีอัจฉริยะที่ทรงพลังที่สุดในหมูรุ่นเยาว์ของอาณาเขตสวรรค์ผ่อน ก่าลังร่วมมือกันสองคนสองคู่เพื่อกําราบศัตรู   พระเจ้า… เรื่องแบบนี้พูดไปใครจะเชื่อกัน?   “หลิงฮัน สนใจมาร่วมมือกับข้ารึเปล่า?” จู่ๆ จ่อหมิงก็เอ่ยขึ้นมา   เขาไม่ได้พูดปากเปล่า เพราะยังไม่ทันที่คําพูดจะสิ้นสุดจ่อหมิงก็ผลักฝ่ามือออกไป คลื่นพลังจากฝ่ามือแปรเปลี่ยนกลายเป็นคมมีดสวรรค์สองเล่มพุ่งเข้าใส่เทียนชิงเย่และจ์ขี่ยหยิน   หลิงฮันคิดว่าหูของตนเองผิดปกติ แต่เมื่อเห็นว่าจ่อหมิงลงมือจริงๆ เขาก็คิดต่อไปอีกว่าหรือว่าแม้แต่ตาของเขาเองก็ผิดปกติไปด้วย   จ่อหมิงต้องการร่วมมือจริงๆ!   หลิงฮันประหลาดใจแต่ก็ไม่หยุดมือ หมัดทั้งสองของเขายังคงกวัดแกว่งเพื่อปลดปล่อยแก่นพลังมหาพินาศเข้าใส่เทียนชิงเยู่กับจ์ขี่ยหยืนและในตอนที่พวกเซียโหวถงไล่ตามจีอู่หมิงมาเขาก็ขยับใช้ร่างของตนเองเป็นโล่รับการโจมตีจอมทั้งสองเอาไว้ ปัง ปังการโจมตีของสองสุดยอดจักรพรรดิซัดเข้าใส่ร่างของหลิงฮันพร้อมกันจ นร่างลอยกระเด็นแต่เขาก็ไม่กระอักโลหิตออกมาแม้แต่หยดเดียว   เรื่องนี้ทําให้ร่างของเซียโหวถงกับยี่หวานิ่งชะงักแข็งค้าง การโจมตีของพวกเขากระแทกใส่ร่างของหลิงฮันเต็มๆเลยแท้ๆแต่อีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะกระอักโลหิตเลยงั้นรี?   นี่มันเรื่องบ้าบอชัดๆ!   แต่ถึงแม้จะตกตะลึงทั้งสองก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็วและหันไปจู่โจมจีอู่หมิงต่อ เนื่องจากพวกเขาคนตกลงกันเอาไว้แล้วว่าจะไม่ก้าวก่ายเป้าหมายของกันและกัน   เทียนชิงเยู่กับจัยหยินเองก็ทําแบบเดียวกัน ทั้งสองจดจ้องไปที่หลิงฮันและโจมตี   แต่เมื่อสถานการณ์กลายมาเป็นเช่นนี้ หลิงฮันกับคู่หมิงก็ดึงความได้เปรียบกลับมาได้ เพราะในหมู่ศัตรูสี่คนสองคนจะไม่โจมตีพวกเขา และด้วยการที่พวกเขาทั้งสองร่วมมือกันจึงเท่ากับว่าการปะทะได้กลายเป็นสองต่อสองพวกเขาจึงไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอีกต่อไป   “ไม่ต้องละเว้นอีกต่อไป!” ฮุยหยินตะโกนขึ้นมา “พวกเราสี่คนมาร่วมมือกันก่าจัดทั้งสองคนนั้นด้วยกัน”   “ตกลง!” พวกเทียนชิงเผ่ทั้งสามคนพยักหน้า   เมื่อทั้งสีคนหันมาร่วมมือกัน พลังต่อสู้ก็พุ่งทะยานกลายเป็นอีกระดับในทันที   หลิงฮันเค้นเสียงอย่างแผ่นเบาและกล่าว “ข้าจะรับหน้าที่เป็นโล่คุ้มกันให้ ส่วนเจ้าก็ทําหน้าที่เป็นคนลงมือจู่โจม”   “ตกลง!” จ่อหมิงตอบรับในทันใด   หลิงฮันเรียกร่างวิญญาณออกมา เขาไม่ใช้แก่นพลังมหาพินาศโจมตีอีกต่อไป แต่ทําหน้าที่เป็นโล่มนุษย์คอยป้องกันการโจมตีจากพวกเทียนชิงเต่แทน   แน่นอนว่าเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้ทั้งหมด แต่ตราบใดที่ป้องกันการโจมตีส่วนใหญ่ได้จีอู่หมิงก็สามารถสลายการโจมตีที่เหลือได้อย่างง่ายดาย แถมยังปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังสวนกลับไปได้อย่างอิสระ   จ่อหมิงที่ไม่ต้องคอยระแวงป้องกันตัวเองจะแข็งแกร่งขนาดไหน?   เกรงว่าคงกล่าวออกมาเป็นคําพูดไม่ได้!   ประสบการณ์การต่อสู้ของเขาเหนือกว่าประสบการณ์ของพวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนกับหลิงฮันรวมกันหลายล้านเท่าหลังจากไม่ต้องทําการป้องกันจ่อหมิงก็ราวกับกลายเป็นแท่งหอกที่แหลมคมที่สุดในยุทธภพ   การต่อสู้ดําเนินต่อไปไม่นาน พวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนก็ส่งเสียงคํารามออกมาหลายต่อหลายครั้งและสัมผัสถึงแรงกดดัน   “กําจัดหมอนั่นก่อน!” ทั้งสี่คนจดจ้องไปที่อู่หมิง   แต่น่าเสียดายที่อยู่ที่นี่คือหลิงฮัน เขาปลดปล่อยอานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติ และห้วงเวลาอย่างต่อเนื่องเพื่อทําหน้าที่เป็นโล่มนุษย์คอยรับการโจมตีทั้งหมดเอาไว้ ทําให้ทั้งสี่คนไม่สามารถโจมตีใส่จ่อหมิงได้   “ฮ่าๆๆๆ!” จ่อหมิงหัวเราะลั่น พร้อมกับจดจ่ออยู่กับการกระหน่โจมตีเพียงอย่างเดียว   ช่างเป็นคนที่แปลกมาก เพียงแค่กล่าวว่าจะร่วมมือกับหลิงฮัน เขาก็เชื่อหลิงฮันไปเสียหมดใจและตั้งสมาธิทั้งหมดไปกับการโจมตี   สถานการณ์ในตอนนี้ทําให้หลิงฮันเหงื่อตกเล็กน้อย แต่การมีคู่หูเช่นนี้ก็ทําให้เขารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก  

ตอนที่ 2065 การปะทะของสุดยอดจักรพรรดิ

 

อย่าก้าวก่ายเป้าหมายของกันและกัน

 

ความหมายของคํานี้ไม่มีอะไรซับซ้อน จ์สู่ยหยินกับเทียนชิงเย่จะร่วมมือช่วยกันกําราบหลิงฮันต่อไปแบบเดิมในขณะที่เซียโหวถงกับยี่หวานิ่งก็จะไล่ล่าจีคู่หมิงต่อไป

 

“ตกลง!” สุดยอดจักรพรรดิทั้งสี่พยักหน้า

 

จีอู่หมิงสีหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมน ราชานิรันดร์ระดับเก้ที่ถูกสังหารด้วยเงื้อมมือของเขานั้นไม่ได้มีจํานวนน้อยๆ เพราะงั้นเพียงแค่จอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ตัวจ้อยจะอยู่ในสายตาของเขาได้อย่างไร? ต่อให้พวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนจะถูกเรียกว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานอะไรก็ช่าง แต่ในความคิดของเขาทั้งสี่ก็เป็นแค่อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์เล็กน้อยเท่านั้น

 

ถามก่อนดีกว่าว่าพวกเทียนชิงเย่จะบรรลุระดับราชานิรันดร์ได้สูงขนาดไหน?

 

อย่างมากความสําเร็จสูงสุดของทั้งสี่คนก็คงอยู่ที่ราชานิรันดร์ระดับแปดเท่านั้น ซึ่งตัวตนระดับนี้จธุ์หมิงไม่คิดจะเก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย

 

“ตอนแรกข้าคิดว่าจะไม่ลดตัวลงไปต่อกรกับขยะสองคนเช่นพวกเจ้า แต่พวกเจ้าก็ยังรนหาที่ตายไม่หยุดสินะ?” จ่อหมินกล่าวยอย่างมืดมน และจิตสังหารได้พรั่งพรูอยู่ภายในดวงตา

 

“เล็กพล่ามไร้สาระเสียที ตาย!” เซียโหวองคํารามอย่างไม่อดทนรอ พวกเขาไม่ได้แยแสจ่อหมิงมากนักแต่สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวก็คือจอหมิงจะถูกคนอื่นแย่งชิงตัวไป เพราะงั้นพวกเขาจึงไล่ตามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อช่วงชิงอุปกรณ์มิติของอีกฝ่ายมา

 

“ช่างโง่งม!” จ่อหมิงแสยะยิ้ม ร่างของเขาพุ่งทะยานราวกับคลื่นแสงจู่โจมเข้าใส่พวกเซี่ยโหวถง

 

ปัง! ปัง! ปัง!

 

การปะทะน้ํานั่นอุบัติขึ้นโดยที่จ่อหมิงนั้นดุดันเป็นอย่างมาก ที่เป็นฝ่ายเปิดการโจมตีเข้าใส่ศัตรูทั้งสองก่อนเขาปลดปล่อยทักษะนิรันดร์มากมายออกมา ทําให้พลังต่อสู้ของเขาพุ่งทะยานสูงเสียดฟ้าและไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

 

เมื่อได้เห็นเช่นนี้แน่นอนว่าเซียโหวถงกับยี่หวานิ่งย่อมรู้สึกหวาดผวาจนหน้าซีดเผือด เหมือนกับตอนที่เทียนซึ่งเย่ตกตะลึงในพลังต่อสู้ของหลิงฮัน ทั้งสองไม่มีใครคาดฝันมาก่อนว่าจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยางจะสามารถแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้

 

เพียงแต่หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนไปได้สักพัก พวกเขาก็เข้าใจว่าทําไมจ่อหมิงถึงแข็งแกร่ง

 

ความเชี่ยวชาญในอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ของคนผู้นี้สูงส่งจนเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เพราะงั้นทักษะนิรันดร์ที่ปลดปล่อยออกมาจากมือของเขาจึงแข็งแกร่งยิ่งกว่าใคร แถมยังทําให้ทักษะนิรันดร์ของคนอื่นอ่อนพลังลงไปพร้อมๆกันจึงทดแทนความแตกต่างของระดับพลังที่มากถึงสามระดับย่อยได้

 

ไม่สิ หากจะพูดกันตรงๆ การร่วมมือกันระหว่างเซียโหวถึงกับยี่หวานิ่งย่อมแข็งแกร่งกว่าแต่พวกเขาทั้งสองไม่สามารถกําราบขี่อู่หมิงในระยะเวลาสั้นๆได้ การต่อสู้จึงดูเหมือนว่าดุเดือดและยากจะรู้ผลลัพธ์

 

ในอีกด้านหนึ่ง เทียนชิงเต่กับจ์ขี่ยหยินก็ได้เข้าปะทะกับหลิงฮัน

 

ทางฝั่งนี้เองก็ยากที่จะเห็นความแตกต่างว่าใครที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะเมื่อหล็งฮันใช้แก่นพลังมหาพินาศโจมตีออกมา ตราบใดที่พวกเทียนชิงเย่อยู่ในระยะ ทั้งสองคนก็จะถูกแรงปะทะซัดเข้าใส่พร้อมกันซึ่งตราบใดที่พลังของหลิงฮันไม่แห้งเหือด เทียนชิงเต่กับฮุยหยินก็สร้างแรงกดดันให้เขาไม่ได้

 

ทั้งสองคู่เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด คลื่นพลังผันผวนที่เกิดจากการโจมตีของทั้งสองนั้นรุนแรงจนรับประกันได้เลยว่าหากจอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ทั่วไปมาสัมผัสเข้าจะต้องถูกบดขยี้เป็นเศษเนื้ออย่างแน่นอน

 

ผู้ติดตามคนมองดูอยู่เผยสีหน้าตกตกลงอย่างปิดไม่มิด โดยเฉพาะผู้ติดตามของยหวานิ่งกับผู้ติดตามของเซี่ยโหวถงที่มาชําเล็กน้อย เมื่อพวกเขามาถึงและเห็นการต่อสู้อันดุเดือดของทั้งหกคนสองคู่ใบหน้าของพวกเขาก็แสดงออกอย่างโง่งมทันที

 

สีอัจฉริยะที่ทรงพลังที่สุดในหมูรุ่นเยาว์ของอาณาเขตสวรรค์ผ่อน ก่าลังร่วมมือกันสองคนสองคู่เพื่อกําราบศัตรู

 

พระเจ้า… เรื่องแบบนี้พูดไปใครจะเชื่อกัน?

 

“หลิงฮัน สนใจมาร่วมมือกับข้ารึเปล่า?” จู่ๆ จ่อหมิงก็เอ่ยขึ้นมา

 

เขาไม่ได้พูดปากเปล่า เพราะยังไม่ทันที่คําพูดจะสิ้นสุดจ่อหมิงก็ผลักฝ่ามือออกไป คลื่นพลังจากฝ่ามือแปรเปลี่ยนกลายเป็นคมมีดสวรรค์สองเล่มพุ่งเข้าใส่เทียนชิงเย่และจ์ขี่ยหยิน

 

หลิงฮันคิดว่าหูของตนเองผิดปกติ แต่เมื่อเห็นว่าจ่อหมิงลงมือจริงๆ เขาก็คิดต่อไปอีกว่าหรือว่าแม้แต่ตาของเขาเองก็ผิดปกติไปด้วย

 

จ่อหมิงต้องการร่วมมือจริงๆ!

 

หลิงฮันประหลาดใจแต่ก็ไม่หยุดมือ หมัดทั้งสองของเขายังคงกวัดแกว่งเพื่อปลดปล่อยแก่นพลังมหาพินาศเข้าใส่เทียนชิงเยู่กับจ์ขี่ยหยืนและในตอนที่พวกเซียโหวถงไล่ตามจีอู่หมิงมาเขาก็ขยับใช้ร่างของตนเองเป็นโล่รับการโจมตีจอมทั้งสองเอาไว้ ปัง ปังการโจมตีของสองสุดยอดจักรพรรดิซัดเข้าใส่ร่างของหลิงฮันพร้อมกันจ นร่างลอยกระเด็นแต่เขาก็ไม่กระอักโลหิตออกมาแม้แต่หยดเดียว

 

เรื่องนี้ทําให้ร่างของเซียโหวถงกับยี่หวานิ่งชะงักแข็งค้าง การโจมตีของพวกเขากระแทกใส่ร่างของหลิงฮันเต็มๆเลยแท้ๆแต่อีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะกระอักโลหิตเลยงั้นรี?

 

นี่มันเรื่องบ้าบอชัดๆ!

 

แต่ถึงแม้จะตกตะลึงทั้งสองก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็วและหันไปจู่โจมจีอู่หมิงต่อ เนื่องจากพวกเขาคนตกลงกันเอาไว้แล้วว่าจะไม่ก้าวก่ายเป้าหมายของกันและกัน

 

เทียนชิงเยู่กับจัยหยินเองก็ทําแบบเดียวกัน ทั้งสองจดจ้องไปที่หลิงฮันและโจมตี

 

แต่เมื่อสถานการณ์กลายมาเป็นเช่นนี้ หลิงฮันกับคู่หมิงก็ดึงความได้เปรียบกลับมาได้ เพราะในหมู่ศัตรูสี่คนสองคนจะไม่โจมตีพวกเขา และด้วยการที่พวกเขาทั้งสองร่วมมือกันจึงเท่ากับว่าการปะทะได้กลายเป็นสองต่อสองพวกเขาจึงไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอีกต่อไป

 

“ไม่ต้องละเว้นอีกต่อไป!” ฮุยหยินตะโกนขึ้นมา “พวกเราสี่คนมาร่วมมือกันก่าจัดทั้งสองคนนั้นด้วยกัน”

 

“ตกลง!” พวกเทียนชิงเผ่ทั้งสามคนพยักหน้า

 

เมื่อทั้งสีคนหันมาร่วมมือกัน พลังต่อสู้ก็พุ่งทะยานกลายเป็นอีกระดับในทันที

 

หลิงฮันเค้นเสียงอย่างแผ่นเบาและกล่าว “ข้าจะรับหน้าที่เป็นโล่คุ้มกันให้ ส่วนเจ้าก็ทําหน้าที่เป็นคนลงมือจู่โจม”

 

“ตกลง!” จ่อหมิงตอบรับในทันใด

 

หลิงฮันเรียกร่างวิญญาณออกมา เขาไม่ใช้แก่นพลังมหาพินาศโจมตีอีกต่อไป แต่ทําหน้าที่เป็นโล่มนุษย์คอยป้องกันการโจมตีจากพวกเทียนชิงเต่แทน

 

แน่นอนว่าเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้ทั้งหมด แต่ตราบใดที่ป้องกันการโจมตีส่วนใหญ่ได้จีอู่หมิงก็สามารถสลายการโจมตีที่เหลือได้อย่างง่ายดาย แถมยังปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังสวนกลับไปได้อย่างอิสระ

 

จ่อหมิงที่ไม่ต้องคอยระแวงป้องกันตัวเองจะแข็งแกร่งขนาดไหน?

 

เกรงว่าคงกล่าวออกมาเป็นคําพูดไม่ได้!

 

ประสบการณ์การต่อสู้ของเขาเหนือกว่าประสบการณ์ของพวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนกับหลิงฮันรวมกันหลายล้านเท่าหลังจากไม่ต้องทําการป้องกันจ่อหมิงก็ราวกับกลายเป็นแท่งหอกที่แหลมคมที่สุดในยุทธภพ

 

การต่อสู้ดําเนินต่อไปไม่นาน พวกเทียนชิงเต่ทั้งสี่คนก็ส่งเสียงคํารามออกมาหลายต่อหลายครั้งและสัมผัสถึงแรงกดดัน

 

“กําจัดหมอนั่นก่อน!” ทั้งสี่คนจดจ้องไปที่อู่หมิง

 

แต่น่าเสียดายที่อยู่ที่นี่คือหลิงฮัน เขาปลดปล่อยอานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติ และห้วงเวลาอย่างต่อเนื่องเพื่อทําหน้าที่เป็นโล่มนุษย์คอยรับการโจมตีทั้งหมดเอาไว้ ทําให้ทั้งสี่คนไม่สามารถโจมตีใส่จ่อหมิงได้

 

“ฮ่าๆๆๆ!” จ่อหมิงหัวเราะลั่น พร้อมกับจดจ่ออยู่กับการกระหน่โจมตีเพียงอย่างเดียว

 

ช่างเป็นคนที่แปลกมาก เพียงแค่กล่าวว่าจะร่วมมือกับหลิงฮัน เขาก็เชื่อหลิงฮันไปเสียหมดใจและตั้งสมาธิทั้งหมดไปกับการโจมตี

 

สถานการณ์ในตอนนี้ทําให้หลิงฮันเหงื่อตกเล็กน้อย แต่การมีคู่หูเช่นนี้ก็ทําให้เขารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+