Alchemy Emperor of the Divine Dao 2072 วางกับดัก

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2072 วางกับดัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2072 วางกับดัก

 

หลิงฮันเองก็ก้าวเดินขึ้นหน้าเคียงข้างคู่หมิง

 

“วันนี้จะเป็นวันตายของพวกเจ้าทั้งสอง!” สู่ยหยินกล่าว พร้อมกับปล่อยหมัดเข้าใส่ร่างมนุษย์ทมิฬที่อยู่รอบข้างกลายเป็นเศษซาก

 

ถึงแม้ร่างมนุษย์ทมิฬจะฆ่าไม่ตาย แต่ยิ่งบดขยี้พวกมันซ้ําไปซ้ํามา ระยะเวลาการฟื้นตัวของพวกมันก็จะยาวนานขึ้น แม้ระยะเวลาที่ยาวนานขึ้นที่ว่าจะแค่หนึ่งลมหายใจก็ตามที

 

ร่างมนุษย์ทมิฬฟื้นฟูร่างอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พวกหลิงฮันเข้าใกล้จุสู่ยหยิน

 

“พรึบ พรบ แต่ทว่าทันใดนั้นเองจู่ๆ ร่างของจอมยุทธสองร่างก็พุ่งออกมาจากหลังโขดหิน และเล็งการโจมตีไปที่จอหมิงพร้อมกัน จฮุยหยินเองก็กระโดดลงจากโขดหินและใช้ดาบทะลวงเข้าใส่จีอู่หมิง

 

ร่างทั้งสองร่างที่พุ่งโจมตีออกมาจากหลังโขดหินคือยหวานิ่งและเทียนชิงเย่

 

นี่เป็นกับดักจริงๆด้วย สุดยอดจักรพรรดิทั้งสองไม่รู้ว่าใช้วิธีการใดในการปกปิดกลิ่นอายของตัวเอง ทําให้สัมผัสสวรรค์ตรวจสอบไม่พบราวกับไม่มีตัวตนอยู่

 

เป้าหมายของพวกเขาคือจอหมิงที่มีการป้องกันอ่อนแอ

 

แผนการนี้นับว่าทําถูกต้องแล้ว เพราะตราบใดที่สังหารหมิงได้ หลิงฮันก็จะทําได้แค่ป้องกันเพียงอย่างเดียว

 

หลิงฮันเค้นเสียงและใช้ร่างกายขัดขวาง

“ข้ารอเจ้ามานานแล้ว!” เทียนชิงเย่แสยะยิ้มและสะบัดมือขวาโยนขวดหยกออกไป ขวดหยกที่ลอยอยู่ขยายขนาดใหญ่กว่าเดิมสิบเท่าและพุ่งครอบร่างของหลิงฮันเอาไว้

 

ปัง!

 

เมื่อขวดหยดตกกระทบกับพื้น จู่ๆร่างของหลิงฮันก็หายไป

 

“จัดการ!” พวกเทียนชิงเย่กับสามคนลงมือจู่โจมจี่อู๋หมิงพร้อมกัน โดยที่แต่ละคนต่างระเบิดพลังต่อสู้ที่ทรงพลังที่สุดของตนออกมา

 

“โอ้ ขวดทรัพย์สงครามของซวีหลันงั้นรึ?” จี่อู๋หมิงชําเลืองมองไปยังขวดยกและกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา พร้อมกับขยับเท้าเคลื่อนไหวหลบหลีกไม่เผชิญหน้ากับทั้งสามคนตรงๆ

 

…แผนการที่พวกเทียนชิงเยู่ทั้งสามคนวางเอาไว้นั้น ถึงแม้ว่าเป้าหมายแรกจะเป็นคู่หมิง แต่พวกเขาก็ต้องจัดการหลิงฮันเสียก่อน เพราะงั้นพวกเขาจึงตัดสินใจน่าขวดสมบัติออกมาใช้กักขังหลิงฮันชั่วคราว

 

“ไม่ส์ ไม่ใช่ขวดทรัพย์สงครามของจริง แต่เป็นของเลียนแบบที่สามารถใช้ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น” จีอู่หมิงพยักหน้า ถึงแม้จะกําลังถูกล้อมโจมตีโดยสุดยอดจักรพรรดิทั้งสามเขาก็ไม่หวาดกลัว

 

เขาเคยพบเจอสถานการณ์นี้มานับไม่ถ้วนแล้ว โดยเฉพาะตอนนี้ต้องรับมือกับพายุมืด เขาเคยถูกล้อมโจมตี โดยตัวตนที่เทียบเท่าราชานิรันดร์ระดับเก้าหลายสิบคน แต่สุดท้ายตัวตนเหล่านั้นก็ถูกเขาสังหารอย่างโหดเหี้ยม

 

เพียงแค่มองการโจมตีแวบเดียว เขาก็เคลื่อนไหวหลบหลีกวงล้อมของสุดยอดจักรพรรดิทั้งสามได้อย่างง่ายดาย

 

พวกเทียนชิงเต่ทั้งสามตกตะลึง ไม่ใช่เพราะจี่อู๋หมิงรู้จักขวดทรัพย์สงครามเลียนแบบ แต่เป็นเพราะอิหมิงเรียกชื่อของราชานิรันดร์ชวีหลันออกมาห้วนๆ

 

ชื่ออันสูงส่งของราชานิรันดร์ เป็นสิ่งที่จอมยุทธระดับแบ่งแยกวิญญาณสามารถเรียกออกมาตรงๆได้งันรี?

 

ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะที่หยิ่งทะนงเพียงใด ก็ต้องแสดงความสุภาพออกมาเมื่อเอ่ยถึงชื่อของราชานิรันดร์

 

“ช่างกล้านักที่เรียกชื่อของราชานิรันดร์ออกมาห้วนๆ!” เทียนชิงเต่กล่าวด้วยน้ําเสียงโหดเหี้ยม

 

จี่อู๋หมิงไม่แยแส ในความเป็นจริงราชานิรันดร์แทบทั้งหมดคือรุ่นเยาว์ของเขาด้วยซ้ํา หากรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา ไม่ว่าเป็นราชานิรันดร์คนใดก็ต้องโค้งตัวค่านับเขา

 

ราชานิรันดร์ชวีหลันเป็นเพียงราชานิรันดร์ระดับแปดเท่านั้น ซึ่งไม่นับเป็นอันใดได้ในสายตาของเขา

 

“เลิกพูดเรื่องไร้สาระกันได้แล้ว หมอนั่นแค่พยายามจะถ่วงเวลา!” ยี่หวานิ่งกล่าวอย่างเย็นชา

 

“ถูกแล้ว รีบลงมือสังหารเขาซะ!”

 

ทั้งสามคนปลดปล่อยทักษะที่ทรงพลังที่สุดออกมาเพื่อจํากัดจีอู่หญิงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้

 

เพราะอย่างไรขวดทรัพย์สงครามก็เป็นเพียงของเลียนแบบเท่านั้น ระยะเวลาที่สามารถกักขังหลิงฮันได้จึงไม่ยาวนานมาก

 

จี่อู๋หมิงยังคงสงบนิ่ง ทั่วร่างของเขาราวกับไม่ยึดติดอยู่กับห้วงมิติแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีแบบไหนก็จะทะลุผ่านร่างของเขาไป โดยไม่สร้างความเสียหายเลยแม้แต่นิดเดียว

 

“อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติ!” สุดยอดจักรพรรดิทั้งสามอุทานออกมา และดวงตาของพวกเขาแสดงออกถึงความตกตะลึง

 

อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติเป็นอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ที่อยู่เหนืออํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้าธาตุ ซึ่งการจะฝึกฝนนั้นทําได้ยากลําบากมาก เพราะการจะฝึกฝนได้จําเป็นต้องรู้แจ้งจากสมุนไพรนิรันดร์ห้วงมิติ

 

แต่ดูจากการเคลื่อนไหวของจอหมิงแล้ว เห็นได้ชัดว่าความเชี่ยวชาญในอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติของอีกฝ่ายอยู่ในระดับที่สูงมาก

 

อีกฝ่ายฝึกฝนได้อย่างไรกัน?

 

แต่สุดยอดจักรพรรดิทั้งสามก็ไม่ท้อถอย และกระหน่าโจมตีให้มากขึ้น

 

ถึงแม้อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติจะอยู่เหนืออ่านาจแห่งกฎเกณฑ์ห้าธาตุ แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งในอ่านาจแห่งกฎเกณฑ์ของทั้งสองฝ่ายด้วย

 

เมื่อสุดยอดจักรพรรดิทั้งสามกระหน่าโจมตีจนถึงจุดหนึ่ง ห้วงมิติของจอหมิงก็เกิดการบิดเบี้ยวและถูกทําลาย

 

จีอู่หมิงไม่ได้แยแสและแผ่มือทั้งสองออก มือข้างหนึ่งได้เชื่อมโยงกลับไปยังอดีต และมืออีกข้างหนึ่งได้ควบคุมอนาคต

 

“อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงเวลา!”

 

พวกเทียนชิงเต่ตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าเจ้าเชี่ยวชาญในอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติหรอกรี?

 

ไม่ว่าจะเป็นอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติหรือห้วงเวลา ก็ล้วนแต่ไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธจะสามารถฝึกฝนได้ เพียงเพราะอยากฝึกฝน การจะฝึกฝนจําเป็นต้องใช้สมุนไพรนิรันดร์ที่สอดคล้องกัน และเพื่อที่จะฝึกฝนให้เชี่ยวชาญเหมือนกับจีอู่หมิงแล้ว จํานวนสมุนไพรนิรันดร์ที่ต้องใช้เกรงว่าคงมีจํานวนมหาศาล จนแม้แต่ราชานิรันดร์ ส่วนใหญ่ก็ต้องสูดหายใจลึก

 

คนผู้ที่มีต้นกําเนิดอย่างไรกันแน่…?

 

ปัง!

 

ในช่วงนั้นเอง จู่ๆ รอยฝ่ามือก็ปรากฏขึ้นที่ผิวขวดทรัพย์สงคราม ปัง ปัง ปัง รอยฝ่ามือค่อยๆ ปรากฏมากขึ้น และลึกขึ้นเรื่อยๆ

 

“เร็วเข้า หมอนั่นใกล้จะทําลายสมบัติออกมาแล้ว”

 

“อย่างมากก็ภายในสิบกระบวนท่า พวกเราต้องสังหารหมอนให้ได้ก่อน!”

 

“ใช้ทักษะทั้งหมดที่มีออกมา!”

 

พวกเทียนชิงเยู่ทั้งสามคนร้อนรน หลิงฮันใกล้จะออกมาได้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ต้องรีบกําจัดลี่หมิงให้เร็วที่สุด เพราะหากทําไม่ได้สถานการณ์ก็จะกลับตาลปัตรทันที และพวกเขาก็จะไม่มีโอกาสชนะเหลืออยู่อีกต่อไป

“จันทรากระจ่างโคจรนิจนิรันดร์!” เทียนชิงเยู่ปลดปล่อยทักษะเป็นคนแรก เบื้องหลังของเขาปรากฏดวงจันทร์ที่เย็นยะเยือกราวกับวารี โดยที่บนผิวดวงจันทร์ได้มีอักขระโบราณที่แตกร้าวสลักเอาไว้

 

เมื่อแสงของดวงจันทร์สาดส่องเข้าใส่จี่อู๋หมิง ร่างของเขาก็หยุดชะงักและไม่สามารถขยับได้ทันที

 

“ดาบนิรันดร์สันคมม่วง!” ฮุยหยินเองก็ปลดปล่อยทักษะที่ทรงพลังที่สุด นางดึงดาบเล่มสีม่วงออกมาจากบริเวณหน้าผาก ซึ่งนี่ไม่ใช่อาวุธของจริงแต่เป็นดาบที่ถูกควบแน่นจากดวงวิญญาณของนาง

 

…การแบ่งแยกร่างวิญญาณไม่จําเป็นว่าต้องให้อยู่ในสภาพของร่างมนุษย์เสมอไป ดวงวิญญาณสามารถแปรสภาพให้อยู่ในรูปแบบศาสตราวุธต่างๆได้ แต่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก

 

และสุดท้าย ทางด้านของยหวานิ่งเขาได้ใช้กําปั้นทุบหน้าอก “พรึบ ปีกสองข้างสยายออกมาจากแผ่นหลังของเขา ตราประทับมากมายพรั่งพรูออกมาและพลังต่อสู้ของเขาได้ทะยานสูงขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

 

จี่อู๋หมิงยิ้มและกล่าว “มหากัสสปะ จูปั้ว…” เขาท่องนามของพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งออกมา พร้อมกับอักขระ “F” ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าผาก คลื่นอันสีทองอันไร้ที่สิ้นสุดส่องสว่างลงมาจากท้องฟ้า และชโลมไปทั่วร่างกายของเขา

 

“ปัง ปัง ปัง การโจมตีของสุดยอดจักรพรรดิทั้งสามที่พุ่งเข้ามาถูกคลื่นแสงสีทองป้องกันเอาไว้ได้ จี่อู๋หมิงในตอนนี้ราวกับพระพุทธเจ้าร่างทองคําที่ไม่มีวันดับสูญ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 2072 วางกับดัก

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2072 วางกับดัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2072 วางกับดัก

 

หลิงฮันเองก็ก้าวเดินขึ้นหน้าเคียงข้างคู่หมิง

 

“วันนี้จะเป็นวันตายของพวกเจ้าทั้งสอง!” สู่ยหยินกล่าว พร้อมกับปล่อยหมัดเข้าใส่ร่างมนุษย์ทมิฬที่อยู่รอบข้างกลายเป็นเศษซาก

 

ถึงแม้ร่างมนุษย์ทมิฬจะฆ่าไม่ตาย แต่ยิ่งบดขยี้พวกมันซ้ําไปซ้ํามา ระยะเวลาการฟื้นตัวของพวกมันก็จะยาวนานขึ้น แม้ระยะเวลาที่ยาวนานขึ้นที่ว่าจะแค่หนึ่งลมหายใจก็ตามที

 

ร่างมนุษย์ทมิฬฟื้นฟูร่างอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พวกหลิงฮันเข้าใกล้จุสู่ยหยิน

 

“พรึบ พรบ แต่ทว่าทันใดนั้นเองจู่ๆ ร่างของจอมยุทธสองร่างก็พุ่งออกมาจากหลังโขดหิน และเล็งการโจมตีไปที่จอหมิงพร้อมกัน จฮุยหยินเองก็กระโดดลงจากโขดหินและใช้ดาบทะลวงเข้าใส่จีอู่หมิง

 

ร่างทั้งสองร่างที่พุ่งโจมตีออกมาจากหลังโขดหินคือยหวานิ่งและเทียนชิงเย่

 

นี่เป็นกับดักจริงๆด้วย สุดยอดจักรพรรดิทั้งสองไม่รู้ว่าใช้วิธีการใดในการปกปิดกลิ่นอายของตัวเอง ทําให้สัมผัสสวรรค์ตรวจสอบไม่พบราวกับไม่มีตัวตนอยู่

 

เป้าหมายของพวกเขาคือจอหมิงที่มีการป้องกันอ่อนแอ

 

แผนการนี้นับว่าทําถูกต้องแล้ว เพราะตราบใดที่สังหารหมิงได้ หลิงฮันก็จะทําได้แค่ป้องกันเพียงอย่างเดียว

 

หลิงฮันเค้นเสียงและใช้ร่างกายขัดขวาง

“ข้ารอเจ้ามานานแล้ว!” เทียนชิงเย่แสยะยิ้มและสะบัดมือขวาโยนขวดหยกออกไป ขวดหยกที่ลอยอยู่ขยายขนาดใหญ่กว่าเดิมสิบเท่าและพุ่งครอบร่างของหลิงฮันเอาไว้

 

ปัง!

 

เมื่อขวดหยดตกกระทบกับพื้น จู่ๆร่างของหลิงฮันก็หายไป

 

“จัดการ!” พวกเทียนชิงเย่กับสามคนลงมือจู่โจมจี่อู๋หมิงพร้อมกัน โดยที่แต่ละคนต่างระเบิดพลังต่อสู้ที่ทรงพลังที่สุดของตนออกมา

 

“โอ้ ขวดทรัพย์สงครามของซวีหลันงั้นรึ?” จี่อู๋หมิงชําเลืองมองไปยังขวดยกและกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา พร้อมกับขยับเท้าเคลื่อนไหวหลบหลีกไม่เผชิญหน้ากับทั้งสามคนตรงๆ

 

…แผนการที่พวกเทียนชิงเยู่ทั้งสามคนวางเอาไว้นั้น ถึงแม้ว่าเป้าหมายแรกจะเป็นคู่หมิง แต่พวกเขาก็ต้องจัดการหลิงฮันเสียก่อน เพราะงั้นพวกเขาจึงตัดสินใจน่าขวดสมบัติออกมาใช้กักขังหลิงฮันชั่วคราว

 

“ไม่ส์ ไม่ใช่ขวดทรัพย์สงครามของจริง แต่เป็นของเลียนแบบที่สามารถใช้ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น” จีอู่หมิงพยักหน้า ถึงแม้จะกําลังถูกล้อมโจมตีโดยสุดยอดจักรพรรดิทั้งสามเขาก็ไม่หวาดกลัว

 

เขาเคยพบเจอสถานการณ์นี้มานับไม่ถ้วนแล้ว โดยเฉพาะตอนนี้ต้องรับมือกับพายุมืด เขาเคยถูกล้อมโจมตี โดยตัวตนที่เทียบเท่าราชานิรันดร์ระดับเก้าหลายสิบคน แต่สุดท้ายตัวตนเหล่านั้นก็ถูกเขาสังหารอย่างโหดเหี้ยม

 

เพียงแค่มองการโจมตีแวบเดียว เขาก็เคลื่อนไหวหลบหลีกวงล้อมของสุดยอดจักรพรรดิทั้งสามได้อย่างง่ายดาย

 

พวกเทียนชิงเต่ทั้งสามตกตะลึง ไม่ใช่เพราะจี่อู๋หมิงรู้จักขวดทรัพย์สงครามเลียนแบบ แต่เป็นเพราะอิหมิงเรียกชื่อของราชานิรันดร์ชวีหลันออกมาห้วนๆ

 

ชื่ออันสูงส่งของราชานิรันดร์ เป็นสิ่งที่จอมยุทธระดับแบ่งแยกวิญญาณสามารถเรียกออกมาตรงๆได้งันรี?

 

ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะที่หยิ่งทะนงเพียงใด ก็ต้องแสดงความสุภาพออกมาเมื่อเอ่ยถึงชื่อของราชานิรันดร์

 

“ช่างกล้านักที่เรียกชื่อของราชานิรันดร์ออกมาห้วนๆ!” เทียนชิงเต่กล่าวด้วยน้ําเสียงโหดเหี้ยม

 

จี่อู๋หมิงไม่แยแส ในความเป็นจริงราชานิรันดร์แทบทั้งหมดคือรุ่นเยาว์ของเขาด้วยซ้ํา หากรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา ไม่ว่าเป็นราชานิรันดร์คนใดก็ต้องโค้งตัวค่านับเขา

 

ราชานิรันดร์ชวีหลันเป็นเพียงราชานิรันดร์ระดับแปดเท่านั้น ซึ่งไม่นับเป็นอันใดได้ในสายตาของเขา

 

“เลิกพูดเรื่องไร้สาระกันได้แล้ว หมอนั่นแค่พยายามจะถ่วงเวลา!” ยี่หวานิ่งกล่าวอย่างเย็นชา

 

“ถูกแล้ว รีบลงมือสังหารเขาซะ!”

 

ทั้งสามคนปลดปล่อยทักษะที่ทรงพลังที่สุดออกมาเพื่อจํากัดจีอู่หญิงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้

 

เพราะอย่างไรขวดทรัพย์สงครามก็เป็นเพียงของเลียนแบบเท่านั้น ระยะเวลาที่สามารถกักขังหลิงฮันได้จึงไม่ยาวนานมาก

 

จี่อู๋หมิงยังคงสงบนิ่ง ทั่วร่างของเขาราวกับไม่ยึดติดอยู่กับห้วงมิติแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีแบบไหนก็จะทะลุผ่านร่างของเขาไป โดยไม่สร้างความเสียหายเลยแม้แต่นิดเดียว

 

“อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติ!” สุดยอดจักรพรรดิทั้งสามอุทานออกมา และดวงตาของพวกเขาแสดงออกถึงความตกตะลึง

 

อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติเป็นอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ที่อยู่เหนืออํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้าธาตุ ซึ่งการจะฝึกฝนนั้นทําได้ยากลําบากมาก เพราะการจะฝึกฝนได้จําเป็นต้องรู้แจ้งจากสมุนไพรนิรันดร์ห้วงมิติ

 

แต่ดูจากการเคลื่อนไหวของจอหมิงแล้ว เห็นได้ชัดว่าความเชี่ยวชาญในอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติของอีกฝ่ายอยู่ในระดับที่สูงมาก

 

อีกฝ่ายฝึกฝนได้อย่างไรกัน?

 

แต่สุดยอดจักรพรรดิทั้งสามก็ไม่ท้อถอย และกระหน่าโจมตีให้มากขึ้น

 

ถึงแม้อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติจะอยู่เหนืออ่านาจแห่งกฎเกณฑ์ห้าธาตุ แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งในอ่านาจแห่งกฎเกณฑ์ของทั้งสองฝ่ายด้วย

 

เมื่อสุดยอดจักรพรรดิทั้งสามกระหน่าโจมตีจนถึงจุดหนึ่ง ห้วงมิติของจอหมิงก็เกิดการบิดเบี้ยวและถูกทําลาย

 

จีอู่หมิงไม่ได้แยแสและแผ่มือทั้งสองออก มือข้างหนึ่งได้เชื่อมโยงกลับไปยังอดีต และมืออีกข้างหนึ่งได้ควบคุมอนาคต

 

“อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงเวลา!”

 

พวกเทียนชิงเต่ตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าเจ้าเชี่ยวชาญในอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติหรอกรี?

 

ไม่ว่าจะเป็นอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติหรือห้วงเวลา ก็ล้วนแต่ไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธจะสามารถฝึกฝนได้ เพียงเพราะอยากฝึกฝน การจะฝึกฝนจําเป็นต้องใช้สมุนไพรนิรันดร์ที่สอดคล้องกัน และเพื่อที่จะฝึกฝนให้เชี่ยวชาญเหมือนกับจีอู่หมิงแล้ว จํานวนสมุนไพรนิรันดร์ที่ต้องใช้เกรงว่าคงมีจํานวนมหาศาล จนแม้แต่ราชานิรันดร์ ส่วนใหญ่ก็ต้องสูดหายใจลึก

 

คนผู้ที่มีต้นกําเนิดอย่างไรกันแน่…?

 

ปัง!

 

ในช่วงนั้นเอง จู่ๆ รอยฝ่ามือก็ปรากฏขึ้นที่ผิวขวดทรัพย์สงคราม ปัง ปัง ปัง รอยฝ่ามือค่อยๆ ปรากฏมากขึ้น และลึกขึ้นเรื่อยๆ

 

“เร็วเข้า หมอนั่นใกล้จะทําลายสมบัติออกมาแล้ว”

 

“อย่างมากก็ภายในสิบกระบวนท่า พวกเราต้องสังหารหมอนให้ได้ก่อน!”

 

“ใช้ทักษะทั้งหมดที่มีออกมา!”

 

พวกเทียนชิงเยู่ทั้งสามคนร้อนรน หลิงฮันใกล้จะออกมาได้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ต้องรีบกําจัดลี่หมิงให้เร็วที่สุด เพราะหากทําไม่ได้สถานการณ์ก็จะกลับตาลปัตรทันที และพวกเขาก็จะไม่มีโอกาสชนะเหลืออยู่อีกต่อไป

“จันทรากระจ่างโคจรนิจนิรันดร์!” เทียนชิงเยู่ปลดปล่อยทักษะเป็นคนแรก เบื้องหลังของเขาปรากฏดวงจันทร์ที่เย็นยะเยือกราวกับวารี โดยที่บนผิวดวงจันทร์ได้มีอักขระโบราณที่แตกร้าวสลักเอาไว้

 

เมื่อแสงของดวงจันทร์สาดส่องเข้าใส่จี่อู๋หมิง ร่างของเขาก็หยุดชะงักและไม่สามารถขยับได้ทันที

 

“ดาบนิรันดร์สันคมม่วง!” ฮุยหยินเองก็ปลดปล่อยทักษะที่ทรงพลังที่สุด นางดึงดาบเล่มสีม่วงออกมาจากบริเวณหน้าผาก ซึ่งนี่ไม่ใช่อาวุธของจริงแต่เป็นดาบที่ถูกควบแน่นจากดวงวิญญาณของนาง

 

…การแบ่งแยกร่างวิญญาณไม่จําเป็นว่าต้องให้อยู่ในสภาพของร่างมนุษย์เสมอไป ดวงวิญญาณสามารถแปรสภาพให้อยู่ในรูปแบบศาสตราวุธต่างๆได้ แต่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก

 

และสุดท้าย ทางด้านของยหวานิ่งเขาได้ใช้กําปั้นทุบหน้าอก “พรึบ ปีกสองข้างสยายออกมาจากแผ่นหลังของเขา ตราประทับมากมายพรั่งพรูออกมาและพลังต่อสู้ของเขาได้ทะยานสูงขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

 

จี่อู๋หมิงยิ้มและกล่าว “มหากัสสปะ จูปั้ว…” เขาท่องนามของพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งออกมา พร้อมกับอักขระ “F” ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าผาก คลื่นอันสีทองอันไร้ที่สิ้นสุดส่องสว่างลงมาจากท้องฟ้า และชโลมไปทั่วร่างกายของเขา

 

“ปัง ปัง ปัง การโจมตีของสุดยอดจักรพรรดิทั้งสามที่พุ่งเข้ามาถูกคลื่นแสงสีทองป้องกันเอาไว้ได้ จี่อู๋หมิงในตอนนี้ราวกับพระพุทธเจ้าร่างทองคําที่ไม่มีวันดับสูญ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+