Alchemy Emperor of the Divine Dao 1789 ราชาที่แท้จริง

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1789 ราชาที่แท้จริง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ที่นี่มีผู้ครอบครองแก่นกำเนิดนิรันดร์อยู่ถึงสี่คน!

น่าอัศจรรย์…

“ลั่วจ่างเฟิง!” ใครบางคนจู่ๆก็อุทานออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ราชาเช่นพวกเขาสมควรไม่หวั่นเกรงใครแท้ๆ แต่เหตุใดเสียงของผู้นั้นถึงได้สั่นเครือนด้วยความตกตะลึงกัน?

“จ่างเฟิง? ลั่วจ่างเฟิง? หรือว่า!” หลังจากที่คนอื่นๆครุ่นคิดอยู่สักพัก พวกเขาเองก็เผยท่าทางตกตะลึงออกมาตามๆกัน

ลั่วจ่างเฟิง ผู้สืบทอดแห่งตำหนักเมฆาอัสนี… ขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์!

ไม่คาคคิดว่าเขตแดนลี้ลับเฉียนหลง จะสามารถดึงดูดตัวตนอย่างผู้สืบทอดขุมอำนาจ ระดับราชานิรันดร์ได้!

“จื่อเหอปิงอวิ๋น!” ใครอีกคนมองไปยังสตรีงดงามชุดแดงและกล่าวด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น

ตระกูลจื่อเหอคือขุมอำนาจที่คงอยู่มานานไม่รู้กี่ล้านปี โดยที่ผู้ก่อตั้งตระกูลยังคงมีชีวิตอยู่ และผู้ก่อตั้งคนนั้นคือตัวตนระดับราชานิรันดร์!

ถูกแล้ว ตระกูลจื่อเหอก็เป็นขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์

เหลือเชื่อ เป็นเพราะผู้สืบทอดจากขุมอำนาระดับราชานิรันดร์มาที่นี่ถึงสองคนพร้อมกันนี่เอง เรือรบระดับสี่ดาวถึงได้ถูกส่งออกมา

ในดินแดนแห่งเซียนนั้น ไม่มีเรือรบระดับห้าดาวเนื่องจากไม่มีใครสามารถสร้างมันขึ้นมาได้

ลั่วจ่างเฟิงกวาดสายตามองฝูงชนและยิ้ม “ทุกๆคน แม่นางปิงอวิ๋นและข้าคงไม่ได้มารบกวนพวกเจ้าหรอกนะ?”

“มะ… ไม่เลย!” ทุกคนรีบส่ายหัว

ต่อให้การปรากฏตัวของทั้งสองจะเป็นการรบกวนจริง แต่ใครกันจะกล้าพูดออกไป?

“ข้าได้ยินมาว่าเขตแดนลี้ลับกำลังจะเปิดออกที่นี่ ซึ่งข้ากับแม่นางปิงอวิ๋นบังเอิญผ่านมาแถวนี้พอดี พวกข้าก็เลยคิดว่าอยากเข้าไปหาประสบการณ์ที่ด้านในเขตแดนลี้ลับดู” ลั่วจ่างเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อเห็นท่าทางเป็นกันเองของลั่วจ่างเฟิง ความรู้สึกตึงเครียดของทุกคนก็ค่อยๆหายไป

ลั่วจ่างเฟิงดูแล้วเหมือนจะเป็นคนที่เข้าหาง่าย ในขณะที่จื่อเหอปิงอวิ๋นนั้นตรงกันข้าม นางเผยสีหน้าเย็นชาที่ทำให้ทุกคนไม่อยากเข้าใกล้

“นั่นรึธิดาโร๋ว?” ลั่วจ่างเฟิงมองไปยังธิดาโร๋ว แม่แต่คนที่เป็นถึงผู้สืบทอดขุมอำนาระดับราชานิรันดร์เช่นเขาก็ยังเผยสีหน้าตกตะลึง

“ธิดาโร๋วช่างงดงามอย่างแท้จริง ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของแม่นางมาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งการได้มาเห็นด้วยตาของตัวเองในวันนี้ ทำให้รู้เลยว่าธิดาโร๋วงดงามดั่งคำร่ำลือจริงๆ”

ธิดาโร๋วยิ้มตอบกลับพอเป็นพิธี นางไม่ใช่คนที่เมื่อมีใครยกยอปอปั้นแล้วจะวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของคนผู้นั้น

ลั่วจ่างเฟิงดูสนใจในตัวธิดาโร๋วเป็นอย่างมาก คำพูดที่เขาเอ่ยกับฝูงชนนั้น อย่างน้อยสามในสิบประโยคล้วนแต่เอ่ยถึงธิดาโร๋ว

ลั่วจ่างเฟิงยิ้มและเอ่ยกล่าว “ในเมื่อเขตแดนลี้ลับก็ยังไม่เปิดออก พวกเราไม่มาประลองแลกเปลี่ยนวรยุทธกันหน่อยรึ?”

เจ้าก็เอากับเขาด้วยรึ?

เหล่าฝูงชนนึกถึงหลิงฮันขึ้นมาทันที เนื่องจากที่พวกเขามาท้าประลองหลิงฮันในตอนนี้ก็เป็นเพราะธิดาโร๋วเป็นสาเหตุ การที่ลั่วจ่างเฟิงกล่าวว่าต้องการประลองนั้น เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายต้องการแสดงพลังให้ธิดาโร๋วเห็น

หากพูดถึงขุมอำนาจเบื้องหลัง ไม่มีใครในที่นี้ที่เทียบชั้นกับลั่วจ่างเฟิงได้ แต่หากเป็นพลังล่ะก็พวกเขาสามารถเทียบได้!

ในฐานะราชาแห่งยุค ในหมู่พวกเขาใครกันจะคิดว่าตนเองอ่อนแอกว่าคนอื่น?

ลั่วจ่างเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าเพิ่งทะลวงผ่านระดับสามนิพพานมาได้ไม่นาน เพราะงั้นคนที่จะท้าประลองข้าได้จึงต้องเป็นนิรันดร์สามนิพพานและสี่นิพพาน”

เหล่าฝูงชนหลายคนรู้สึกหึกเหิมและอยากท้าประลอง

“ข้ามีชื่อว่าเชียนจ้าวเถี้ยน ระดับพลังบ่มเพาะคือนิรันดร์สามนิพพานขั้นสูงสุด นายน้อยจ่างเฟิงโปรดชี้แนะข้าด้วย!” เชียนจ้าวเถี้ยนเป็นคนแรกที่ท้าประลอง ก่อนหน้านี้เขาถูกจักรพรรดินีทำให้อัปยศเป็นอย่างมาก จึงอยากกู้หน้าคืนให้เร็วที่สุด

ลั่วจ่างเฟิงพาดมือไว้ด้านหลังและกล่าว “ลงมือได้”

เชียนจ้าวเถี้ยนไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เพราะว่าถึงแม้เขากับลั่วจ่างเฟิงจะมีพลังระดับสามนิพพานเหมือนกัน แต่อีกฝ่ายเป็นเพียงนิรันดร์สามนิพพานขั้นต้น ในขณะที่เขาเป็นนิรันดร์สามนิพพานขั้นสูงสุด การที่อีกฝ่ายทำท่าทางไม่แยแสเช่นนั้น จะไม่หยิ่งทะนงตนเกินไปหน่อยรึ?

เชียนจ้าวเถี้ยนคำรามเสียงเบาพร้อมกับโคจรทักษะ เขาอ้าปากกว้างปลดปล่อยห้วงดาราจักรออกมาจากปาก ดวงดาวนับไม่ถ้วนแปรเปลี่ยนกลายเป็นคมดาบพุ่งทะยานเข้าใส่ลั่วจ่างเฟิง

ร่างของลั่วจ่างเฟิงสั่นไหวเล็กน้อยและปล่อยหมัดเข้าใส่ห้วงดาราจักร ‘ตูม’ ห้วงดาราจักรถูกบดขยี้ในพริบตา และคลื่นหมัดที่ยังไม่สลายไปได้พุ่งกระแทกใส่หน้าของเชียนจ้าวเถี้ยนจนลอยกระเด็นขึ้นฟ้า

ลั่วจ่างเฟิงเก็บหมัดและกล่าวอย่างไม่แยแส “ต่อไปเป็นใคร?”

ขะ… แข็งแกร่ง!

ทุกคนตกตะลึงอย่างมากเมื่อได้เห็นหมัดเมื่อครู่ อย่างที่รู้กันว่าเชียนจ้าวเถี้ยนนั้นคือราชาแห่งยุค ในระดับพลังเดียวกันเขาสมควรไร้เทียมทานแท้ๆ ซึ่งต่อให้พบเจอศัตรูที่เป็นราชาเหมือนกัน ก็ต้องแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันก่อนอย่างน้อยหลายหมื่นกระบวนท่า ถึงจะเห็นความแตกต่างว่าใครแข็งแกร่งกว่า

แต่ทว่า ลั่วจ่างเฟิงที่ดูโจมตีลวกๆกลับสามารถโค่นเชียนจ้าวเถี้ยนนั้นได้ในหนึ่งกระบวนท่า

ความต่างของพลังขนาดนี้มันอะไรกัน?

เหตุใดลั่วจ่างเฟิงถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?

จักรพรรดินีขมวดคิ้ว เพลิงสู้รบของนางลุกโชน

ลั่วจ่างเฟิงบรรลุนิรันดร์ด้วยการตัดขาดสวรรค์และปฐพี เพราะงั้นพลังต่อสู้ของเขาจึงแข็งแกร่งจนสามารถสู้ข้ามระดับได้ ยิ่งอีกฝ่ายเป็นผู้ครอบครองแก่นกำเนิดนิรันดร์ด้วยแล้ว หากกระตุ้นใช้งานอำนาจของแก่นกำเนิดนิรันดร์ พลังต่อสู้ของเขายังจะสามารถแข็งแกร่งขึ้นไปกว่านี้ได้อีก

ณ เวลานี้ ไม่มีใครผลีผลามเสนอตัวขอท้าประลองอีกต่อไป

ถึงแม้ลั่วจ่างเฟิงกับพวกเขาจะเป็นราชาแห่งยุคเหมือนกัน แต่พลังต่อสู้กับห่างชั้นราวกับสวรรค์และปฐพี

นี่น่ะรึจอมยุทธที่ถูกบ่มเพาะโดยขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์!

ดวงตาของสตรีมากมายส่องประกาย ต่อให้เป็นในดินแดนแห่งเซียน ไม่ว่าใครก็ล้วนแต่ต้องหลงไหลและเคารพผู้แข็งแกร่ง

ทางด้านของธิดาโร๋วเผยแววตาที่แสดงถึงความเลื่อมใส

ความเป็นจริงนั้นหากจะมีใครเอาชนะใจนางได้ล่ะก็ คนผู้นั้นจะต้องสามารถเอาชนะนางได้ในระดับเดียวกันเป็นอย่างน้อย

แต่นางที่เป็นราชาแห่งยุคและยังมีแก่นกำเนิดนิรันดร์ด้วยแล้ว ต่อให้เป็นฟู่เกาหยุนหรือราชาแห่งยุคคนอื่นๆก็ทำได้เพียงศิโรราบต่อหน้าหน้า

จากที่เห็นเมื่อครู่นี้ พลังต่อสู้ในระดับเดียวกันของลั่วจ่างเฟิงจะต้องแข็งแกร่งกว่านางมากแน่นอน ซึ่งนั่นเพียงพอที่จะทำให้จิตใจของนางเริ่มหวั่นไหว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด