Alchemy Emperor of the Divine Dao 1798 ความบังเอิญ

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1798 ความบังเอิญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์!

ในดินแดนแห่งเซียน ราชานิรันดร์คือขุมอำนาจที่ทรงพลังที่สุด

ฟู่เสินปิงและปรมาจารย์อีกแปดคนหวาดกลัวจนเกือบเยี่ยวราด

ถึงว่าทำไมสตรีชุดเกราะถึงได้ทรงพลังนัก ที่แท้นางก็มาจากขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ที่ทรงพลังนี่เอง!

ต่อให้เป็นนิรันดร์ห้ารากฐานเหมือนกัน แต่ฝ่ายที่บ่มเพาะทักษะระดับราชานิรันดร์ ย่อมต้องมีพลังต่อสู้แข็งแกร่งกว่าอยู่แล้ว

รุ่นเยาว์ที่ชื่อหลิงฮันเป็นใครกันแน่? เหตุใดเขาถึงได้มีความเกี่ยวข้องกับขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ได้! หากจะบอกว่าหลิงฮันไปทำการล่วงเกินตำหนักมัจฉาวายุภักษ์ไว้นั้น พวกเขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด เนื่องจากดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกถูกแบ่งแยกกับดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออกเอาไว้ด้วยเขตมหาสมุนไร้พรมแดน เป็นไปได้อย่างไรที่นิรันดร์ระดับโลกียนิพพานตัวจ้อยจะข้ามไปล่วงเกินอีกฝ่ายได้?

“เขตแดนลี้ลับเฉียนหลงอยู่ที่ไหน?” สตรีชุดเกราะกล่าวด้วยน้ำเสียงหมดความอดทน

ฟู่เสินปิงรีบกล่าวและชี้ไปยังตำแหน่งของเขตแดนลี้ลับเฉียนหลงอย่างรวดเร็ว ต่อหน้าขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ เขาไม่มีความกล้าที่จะแสดงท่าทางหยิ่งยโสออกมาแม้แต่น้อย

สตรีชุดเกราะคร้านจะสนใจคำพูดยกยอของฟู่เสินปิงและตบแผ่นหลังของมังกรอินทรีหนึ่งครั้ง มังกรอินทรีทำการหันหลังและเหาะเหินจากไปอย่างรวดเร็ว

ที่ด้านหลังของนาง สตรีที่ขึ้นขี่มังกรอินทรีอีกสิบตัวก็รีบหันหลังเหาะเหินตามไป

เมื่อเห็นร่างของกองกำลังมังกรอินทรีจากไป ฟู่เสินปิงก็ถอนหายใจโล่งอกออกมาด้วยใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ฟู่เสินปิงครุ่นคิดก่อนจะกล่าว “ตงเสวี่ย เจ้าจงมุ่งหน้าไปยังตระกูลหานและอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง”

“ท่านประมุข คือว่า…” ฟู่ตงเสวี่ยขยับเข้ามาและกระซิบ “เมื่อครู่ข้าได้ทำการสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับหลิงฮันมาแล้ว รุ่นเยาว์ผู้นี้คือตัวสร้างปัญหาที่แท้จริง ก่อนหน้านี้ที่เขายังอยู่ในเมืองธุลีจันทรา เขาได้ทำลายตระกูลระดับโลกียนิพพานตระกูลหนึ่งจนสิ้นซาก และในตอนที่อยู่เมืองจันทราหม่นแสง เขาก็ได้สร้างความเป็นปฏิปักษ์กับขุมอำนาจสองดาวอย่างตระกูลเซียว ยิ่งกว่านั้นในไม่นานมานี้เขาก็ได้มีความบาดหมางกับเป่ยเสวียนหมิง หนึ่งในผู้สืบทอดของนิกายอาญาสิ้นแสง”

ฟู่เสินปิงขมวดคิ้ว “ส่งคนไปยังนิกายอาญาสิ้นแสงและบอกสถานการณ์ไปตามตรง เดี๋ยวนะ… ไม่ดีแล้ว เขตแดนลี้ลับเฉียนหลง!”

ณ เวลานี้เขตแดนลี้ลับเฉียนหลงสมควรเปิดออกแล้ว ถ้าหากหลิงฮันถูกคนของนิกายอาญาสิ้นแสงสังหารล่ะก็ ตำหนักมัจฉาวายุภักษ์จะต้องมีโทสะอย่างแน่นอน

ยิ่งกว่านั้นหลิงฮันกับฟู่เกาหยุนก็ยังสนิทสนมกันอีกด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ผู้สืบทอดอีกสามคน จะแทบลอบสังหารหลิงฮันอย่างลับๆในเขตแดนลี้ลับเฉียนหลง

แย่แล้ว… ถ้าหากหลิงฮันถูกคนของตระกูลฟู่สังหารล่ะก็ ตระกูลฟู่จะต้องถึงคราวพินาศเป็นแน่

“รีบส่งคนไปเขตแดนลี้ลับเฉียนหลงและแพร่กระจ่ายข่าวเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ต้องคุ้มครองหลิงฮันให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ครบสามสิบสอง”

“ขอรับ!” ฟู่ตงเสวี่ยพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

หากฟู่เสินปิงรู้ว่าหลิงฮันได้ทำการล่วงเกินขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์อย่างตระกูลจื่อเหอไปแล้วล่ะก็ ไม่รู้ว่าเขาจะทำสีหน้าอย่างไรและยังจะคุ้มครองหลิงฮันอยู่รึเปล่า

……

ณ เขตแดนลี้ลับเฉียนหลง

สิ่งแรกที่พบเห็นเมื่อเข้ามาด้านในคือหมอกสีขาวที่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ หมอกเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายอะไร แต่จะลดทอนการมองเห็นและระยะของสัมผัสสวรรค์ เพียงแต่ว่าหลังจากที่เดินเข้ามาด้านในได้หนึ่งก้านธูป หมอกโดยรอบก็ค่อยๆหายไป จนสามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบตัวได้

บริเวณแห่งนี้คือพื้นที่ราบที่มีพืชพรรณสูงราวๆครึ่งตัวคนขึ้นอยู่เป็นหย่อมๆ อากาศที่สัมผัสได้นั้นอัดแน่นไปด้วยความร้อนระอุและกลิ่นกำมะถัน

ในระยะที่ห่างออกไป ทุกคนสามารถมองเห็นภูเขาใหญ่ยักษ์ที่สูงตระหง่านทะลุก้อนเมฆ บนปลายยอดของภูเขาปลดปล่อยหมอกหนาออกมา ภูเขาลูกนั้นคือภูเขาไฟที่เพิ่งปะทุ แรงปะทุได้ทำให้ออร่าอันทรงพลังภายในเขตแดนถูกสลายไป เหล่าจอมยุทธจึงเข้ามาที่นี่ได้

“หืม?” หลิงฮันประหลาดใจ นั่นเพราะสัมผัสได้ว่าแก่นกำเนิดพลังเปลวเพลิงภายในร่างกำลังลุกโชน ยิ่งกว่านั้นคือเขารู้สึกว่าออร่าความร้อนภายในเขตแดนลี้ลับแห่งนี้เป็นมิตรต่อเขาอย่างมาก

“ข้ามีความรู้สึกว่าความร้อนภายในนี้ไม่สามารถทำอันตรายข้าได้” เขากล่าวพร้อมกับคิดจะถอดเกราะโลหิตมังกร

“ระวังด้วย!” จักรพรรดินีกล่าวเตือน

หลิงฮันพยักหน้า “ไม่ต้องกังวล ข้าพอมีความมั่นใจอยู่”

เขาค่อยๆถอดเกราะโลหิตมังกรออกอย่างช้าๆ พริบตาหลังจากนั้นคลื่นความร้อนรอบด้านก็ได้พุ่งทะยานเข้ามาหาเขาอย่างบ้าคลั่ง คลื่นความร้อนได้แปรสภาพกลายเป็นอสรพิษเพลิงจำนวนมากและพยายามจะกลืนกินเขา แต่ทันใดนั้นร่างกายของหลิงฮันก็ปลดปล่อยออร่าอันน่าเกรงขามออกมา ออร่าที่ว่าทำให้ตัวเขาในตอนนี้ดูราวกับเป็นจักรพรรดิที่อยู่เหนือสรรพสิ่ง

ออร่าที่ว่ามาจากเพลิงเก้าสวรรค์ จู่ๆเหล่าอสรพิษเพลิงก็ไร้สิ้นความเป็นปฏิปักษ์ พวกมันค่อยๆเคลื่อนไหวมาหมุนวนรอบตัวเขาและก้มหัวอย่างช้าๆ ราวกับเขาเป็นราชาของพวกมัน

“นี่คงไม่ใช่ความบังเอิญหรอกนะ?” หลิงฮันตกตะลึง

จักรพรรดินีเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน “หรือราชานิรันดร์ที่เคยครอบครองเพลิงเก้าสวรรค์ ราชานิรันดร์คิดค้นทักษะควบคุมเพลิง และราชานิรันดร์ที่เป็นคนสร้างเขตแดนลี้ลับแห่งนี้ขึ้นมาจะเป็นคนคนเดียวกัน?”

“ต้องเป็นแบบนั้นแน่ ไม่งั้นก็คงไม่มีเหตุผลใดมาอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ได้” หลิงฮันพยักหน้า ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ครอบครองเพลิงบรรพบุรุษ แต่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์เปลวเพลิงของระดับพลังที่สูงกว่าก็ยังสามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้อยู่ดี

คลื่นความร้อนในเขตแดนลี้ลับแห่งนี้รุนแรงและมีระดับที่สูงมาก เพราะงั้นเหตุผลที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บจึงมีอยู่เหตุผลเดียว

“ความบังเอิญขนาดนี้ ราวกับว่าเป็นความประสงค์ของสวรรค์” หลิงฮันกล่าว “ข้าได้เพลิงเก้าสวรรค์มาเป็นอันดับแรก ต่อมาก็ได้รับทักษะควบคุมเพลิงจากธิดาโร๋ว และคราวนี้ก็ยังมาพบเจอเขตแดนลี้ลับของราชานิรันดร์คนเดียวกันอีก”

จักรพรรดินีพยักหน้าเห็นด้วย ความบังเอิญขนาดนี้ราวกับว่าเป็นการชี้นำจากสวรรค์จริงๆ

“แต่ยังไงก็ลืมเรื่องนั้นไปก่อน ตอนนี้ข้าต้องการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด” หลิงฮันโหยหาอยากบรรลุเป็นนิรันดร์สามนิพพานให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้สังหารจื่อเหอปิงอวิ๋น

ตอนนี้ถึงแม้หลิงฮันจะไม่ใช้เกราะโลหิตมังกรแล้ว แต่สตรีนกอมตะก็ไม่สามารถออกมาได้อยู่ดี เนื่องจากพลังบ่มเพาะของนางยังอ่อนแอเกินไป ต่อให้มีเกราะโลหิตมังกรนางก็ไม่สามารถต้านทานความร้อนภายในเขตแดนลี้ลับได้

หลิงฮันและจักรพรรดินีเดินเคียงคู่กันตามหาศิลาโลหิตมังกร เนื่องจากมันคือทรัพยากรสำคัญที่สามารถช่วยให้พลังบ่มเพาะยกระดับขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทว่าศิลาโลหิตมังกรนั้นไม่ใช่ว่าแค่มีความมุ่งมั่นก็จะหาพบ แต่ต้องพึ่งพาโชคด้วย

ซึ่งโชคของหลิงฮันนั้นมักจะดีอยู่เสมอ หลังจากเดินไปได้ไม่นาน พวกเขาก็พบเจอเศษหินที่ส่องประกายสีแดงวางอยู่เบื้องหน้า เมื่อลองหยิบขึ้นมาตรวจสอบดูก็พบว่ามันคือศิลาโลหิตมังกร

“หืม?” หลิงฮันอุทานออกมาเพราะพบว่าเพลิงเก้าสวรรค์ในร่างกายเกิดการเคลื่อนไหว หลังจากนั้นเพียงแค่ชั่วพริบตา ศิลาโลหิตมังกรที่อยู่ในมือของเขาถูกดูดแก่นพลังไปจนหมดสิ้นและแหลกสลายกลายเป็นเศษฝุ่น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด