Alchemy Emperor of the Divine Dao 1822 สมุนไพรนิรันดร์ปรากฏตัวอีกครั้ง

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1822 สมุนไพรนิรันดร์ปรากฏตัวอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ความเร็วของคลื่นแสงรวดเร็วเป็นอย่างมาก อย่าว่าแต่จอมยุทธระดับโลกียนิพพานเลย เกรงว่าต่อให้เป็นตัวตนระดับแบ่งแยกวิญญาณก็คงไม่อาจหลบพ้น คลื่นแสงที่พุ่งเข้ามาปะทะเข้าที่ขาของหลิงฮันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

เพียงแต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ ร่างของหลิงฮันยังยืนแน่นิ่งราวกับหินผา

อะไรกัน!

ใบหน้าของจื่อเหอปิงอวิ๋นแสดงออกถึงความตกตะลึงอย่างปิดไม่มิด ปากของนางอ้าค้างโดยไม่รู้ตัว

เป็นไปได้อย่างไร!

หลิงฮันเค้นเสียงและพุ่งทะยานร่างเข้าจู่โจมจื่อเหอปิงอวิ๋น “สตรีเดรัจฉาน ข้าจะตัดหัวของเจ้าไปสังเวยให้เผ่ากูลู!”

“ช่างไม่ประมานตน!” จื่อเหอปิงอวิ๋นกล่าวอย่างเหยียดหยามหลังจากตั้งสติกลับมาได้

เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงคิดจะนำช้าไปสังเวยให้คนตาย?

ตัวนางนั้นเป็นถึงผู้สืบทอดของขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ เจ้าไม่รู้รึไงว่าในอนาคตสถานะของข้าจะสูงส่งขนาดไหน?

แค่ต้านทานพลังของท่อนไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้ เจ้าคิดว่าตนเองจะมีคุณสมบัติเป็นคู่ต่อสู้ของข้าแล้ว?

จื่อเหอปิงอวิ๋นเข้าปะทะกับหลิงฮันอย่างดุเดือด ซึ่งนางมั่นใจในพลังของตัวเองเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ที่นางใช้ท่อนไม้ในการข่มขู่ก็เพราะหลิงฮันนั้นมีกายหยาบที่ทรงพลังเกินไป นางจึงไม่ต้องการสิ้นเปลืองพลังของตัวเอง

“เจ้าเป็นคนของขุมอำนาจราชานิรันดร์ขุมอำนาจใด?” นางเอ่ยถาม หากไม่ใช่เพราะมีตราประทับอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของราชานิรันดร์อยู่ภายในร่างกายล่ะก็ อีกฝ่ายจะสามารถต้านทานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของอำนาจต้นกำเนิดปฐพีได้อย่างไร?

คลื่นแสงที่เกิดจากท่อนไม้ท่อนนี้ มีพลังทำลายของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่เทียบได้กับของราชานิรันดร์ หากไม่ใช่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ในระดับเดียวกันล่ะก็ เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะต้านทานได้

“ฮึ่ม หากเป้าหมายไม่ใช่คนของขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ เจ้าก็จะสังหารใครก็ได้ตามใจชอบงั้นรึ?” หลิงฮันใช้ท่อนไม้ศักดิ์สิทธิ์โจมตีเช่นกัน คลื่นแสงแห่งความตายถูกปล่อยปล่อยพุ่งเข้าใส่ร่างของจื่อเหอปิงอวิ๋นอย่างไม่อาจหลบพ้น

เพียงแต่ร่างกายของจื่อเหอปิงอวิ๋นเองก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นกัน นางยังคงกระหน่ำปลดปล่อยการโจมตีอย่างเนื่อง พร้อมกับกล่าวเหยียดหยาม “คิดว่ามีแค่เจ้าคนเดียวรึไง ที่สลักตราประทับของราชานิรันดร์เอาไว้ในร่าง?”

หลิงฮันเข้าใจทันทีว่าทำไมอีกฝ่ายถึงคิดว่าเขาเป็นคนของขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์

ในเมื่อท่อนไม้ศักดิ์สิทธิ์ใช้ไม่ได้ผล เขาจึงเปลี่ยนมาโคจรพลังของเพลิงเก้าสวรรค์และวารีพลังหยินเร้นลับมาไว้ที่กำปั้น เพื่อต่อกรกับจื่อเหอปิงอวิ๋นแทน

ในด้านของพลังต่อสู้นั้น จริงอยู่ที่เขายังเทียบกับนางไม่ได้ เพียงแต่เมื่อโคจรแก่นกำเนิดพลังทั้งสองเข้ามาช่วยเหลือแล้ว การปะทะครั้งนี้เขาจึงไม่ได้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแม้แต่น้อย

จื่อเหอปิงอวิ๋นแสยะยิ้ม ต่อให้เจ้าจะมีตราประทับของราชานิรันดร์สลักเอาไว้ในร่าง แต่คิดรึว่าว่าพลังของตราประทับนั่นจะใช้ได้อย่างไรขีดจำกัด?

ลองดูอย่างนางเป็นตัวอย่าง จนถึงตอนนี้นางใช้พลังของตราประทับภายในร่างเพียงเพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น และไม่เคยใช้สำหรับการโจมตีเลยสักครั้ง เพราะไม่งั้นพลังของตราประทับจะค่อยๆถูกเผาผลาญจนไม่เหลือ

หากไม่มีพลังของตราประทับราชานิรันดร์คอยคุ้มครองร่างกายล่ะก็ นางจะไม่สามารถเก็บเกี่ยวหยกต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ได้

เพราะงั้นในความคิดของนาง การกระทำของหลิงฮันจึงบ้าบิ่นเป็นอย่างมาก หากนำพลังของตราประทับมาใช้ในการโจมตีเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง และพลังของตราประทับแห้งเหือดขึ้นมา เขาไม่คิดรึว่าตนเองจะหมดสิทธิครอบครองหยกต้นกำเนิดวิถีสวรรค์?

ทั้งสองปะทะกันอย่างดุเดือด แต่ยิ่งการต่อสู้ดำเนินไปเท่าไหร่ จื่อเหอปิงอวิ๋นก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้น ดูจากการอัตราการโจมตีอย่างต่อเนื่องของหลิงฮันแล้ว ตราประทับราชานิรันดร์ที่ประทับเอาไว้ภายในร่างกายสมควรจะถูกเผาผลาญไปจนหมดแล้วไม่ใช่รึไง? แต่เหตุใดอีกฝ่ายถึงยังสามารถโจมตีได้รุนแรงราวกับพลังไม่มีสิ้นสุดกัน?

เป็นไปได้อย่างไร?

ต้องรู้ก่อนว่าถึงแม้พลังของราชานิรันดร์จะไร้ขีดจำกัด แต่ทั้งหลิงฮันและนางก็ยังเป็นเพียงจอมยุทธระดับโลกียนิพพานเท่านั้น เพราะงั้นอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่สามารถรับมาไว้ในร่างได้จึงมีจำกัด หากสลักตราประทับแห่งกฎเกณฑ์ที่เกินระดับพลังบ่มเพาะเอาไว้มากเกินไป ร่างกายจะรับไม่ไหวจนถึงขั้นระเบิดและตายได้!

หรือจะเป็นเพราะว่ากายหยาบของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าจอมยุทธทั่วไป ถึงได้สามารถสลักตราประทับเอาไว้ได้จำนวนมาก?

แต่เรื่องแบบนั้นจะเป็นไปได้รึ?

การต่อสู้ดำเนินต่อไป โดยที่ความตกตะลึงของจื่อเหอปิงอวิ๋นค่อยๆเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากหลิงฮันยังคงปลดปล่อยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ระดับราชานิรันดร์ออกมาไม่หยุดหย่อน

นางไม่อาจทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และทำได้เพียงตกตะลึง

ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นเอง จนถึงตอนนี้ตราประทับราชานิรันดร์ที่สลักเอาไว้ในร่างกายของนาง ก็ถูกเผาผลาญไปแล้วมากกว่าครึ่งแล้ว

หากยังสู้ต่อไป เกรงว่านางอาจจะไม่เหลืออำนาจของตราประทับมากพอให้เอาไว้เก็บเกี่ยวหยกต้นกำเนิดวิถีสวรรค์

“ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ!” จื่อเหอปิงอวิ๋นกล่าวคำพูดทิ้งท้ายไว้และล่าถอยอย่างไม่ลังเล นางไม่ต้องการเผาผลาญอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อย่างเปล่าประโยชน์อีกต่อไป

หลิงฮันไม่ได้ไล่ตามนาง เนื่องจากต่อให้ไล่ตามไปเขาก็ยังไม่สามารถสังหารจื่อเหอปิงอวิ๋นได้อยู่ดี

ต้องรีบทะลวงผ่านระดับสามนิพพาน!

หลิงฮันกล่าวในใจ ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะมีความคิดนี้อยู่แล้ว แต่หลังจากที่รู้ว่าจื่อเหอปิงอวิ๋นสังหารหมู่เผ่ากูลู ความมุ่งหน้าในจิตใจของเขาก็ลุกโชนกว่าเดิมหลายเท่า

เขากลับไปยังหมู่บ้านเผ่าคนแคระพร้อมกับจักรพรรดินีและธิดาโร๋ว ภาพที่พวกเขาเห็นคือศพของคนแคระทุกคนที่นอนเกลื่อนกลาดไปทั่วบริเวณ โดยที่ไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว

“สตรีผู้นั้นช่างโหดเหี้ยมนัก!” หลิงฮันกวาดสายตามองด้วยร่างกายที่สั่นเครือ

ถึงแม้เขาจะคลุกคลีอยู่กับพวกคนแคระได้ไม่นาน แต่เขาก็ถูกชะตาในความใสซื่อของพวกเขาเป็นอย่างมาก และไม่เคยคิดว่าก่อนว่าวันหนึ่งจะมีเหตุการ์ณเช่นนี้เกิดขึ้น

“จื่อเหอปิงอวิ๋น หากข้าไม่สังหารเจ้า โทสะในจิตใจของข้าจะไม่มีวันสลายไป!” หลิงฮันกล่าวในขณะที่แหงนมองท้องฟ้า

‘พรึบ’ ในจังหวะนั้นเอง จู่ๆพื้นดินจุดหนึ่งก็แยกตัวและร่างของกระต่ายหัวหมาป่าก็พุ่งทะยานออกมา ปากของมันขยายกว้างหลายสิบฟุตกลายเป็นหลุมดำอันไร้ที่สิ้นสุดและงับเข้าใส่หลิงฮัน

เป็นเจ้าสมุนไพรกลายพันธุ์!

หมอนี่ช่างน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมากที่สามารถหลบซ่อนตัวจากสัมผัสสวรรค์ของเขาได้ แถมยังฉลาดถึงขนาดหาโอกาสโจมตีในจังหวะที่เขากำลังเกรี้ยวกราด และสภาพจิตใจอยู่สภาวะผันผวน

ถึงแม้หลิงฮันจะตกตะลึง แต่ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมา สิ่งที่เขาเป็นกังวลมาตลอดคือการที่เจ้าสมุนไพรตนนี้จะไม่ปรากฏตัวอีกครั้ง!

สมุนไพรตนนี้บังอาจกินก้นส่วนหนึ่งของเมฆาสวรรค์เจ็ดชีวิตเข้าไป ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องคิดบัญชีกับมันให้ได้

‘พรวบ’ สมุนไพรนิรันดร์ดูดกลืนร่างของหลิงฮันหายไปในพริบตา หัวหมาป่าของมันคืนสภาพกลับไปมีขนาดปกติก่อนจะเลียน้ำลายที่มุมปาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด