Alchemy Emperor of the Divine Dao 2043 พลังทําลายที่น่าอัศจรรย์

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2043 พลังทําลายที่น่าอัศจรรย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2043 พลังทําลายที่น่าอัศจรรย์

 

สําเร็จ!

 

แต่ยังไม่ทันที่หลิงฮันจะมีเวลาให้ดีใจ ตราประทับทั้งสีบนกระดูกทั้งสี่แท่งของเขาก็เชื่อมโยงเข้าหากัน และส่องประกายแสงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

 

ไม่ดีแล้ว!

 

หลิงฮันอุทานในใจ เขาสัมผัสได้ถึงพลังอํานาจที่น่าสะพรึงกลัวกําลังถาโถมอยู่ในร่างกาย และ พริบตานั้นเองกระดูกทั่วร่างของเขาก็แหลกสลายเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับห้วงจิตวิญญาณถูกทําลาย

 

‘พรึบ’ กลุ่มก้อนเปลวเพลิงถูกจุดขึ้นอย่างร้อนระอุ และร่างของหลิงฮันก็ก้าวเดินออกมาจากเปลวเพลิง

 

“เจ้าหนู เจ้าเกือบจะฆ่าตัวตายแล้ว” หอคอยน้อยปรากฏตัวและตําหนิติเตือน “ถ้าไม่ใช่เพราะทักษะกําเนิดใหม่จากเถ้าถ่านใช้ได้อีกครั้งเมื่อสามวันก่อน เจ้าคงจะตายไปจริงๆ แล้ว”

 

หลังจากใช้ทักษะกําเนิดใหม่จากเถ้าถ่านไปหนึ่งครั้ง จําเป็นต้องรอไปอีกนานกว่าจะใช้ทักษะครั้งต่อไปได้ ก่อนหน้านี้หลิงฮันตายไปแล้วครั้งหนึ่งในตอนที่เก็บเกี่ยว ทองหยกกําเนิดดารา ซึ่งระยะเวลาในตอนนั้นถึงตอนนี้ยังผ่านมาไม่นานเท่าไหร่เลย

 

หลิงฮันรู้สึกหวาดกลัวไปชั่วขณะ ใครจะไปคาดคิดว่าเมื่อแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีทั้งสี่เชื่อมโยงกัน มันจะระเบิดพลังทําลายที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนั้นออกมา จนแม้แต่กายหยาบของเขาก็ไม่อาจต้านทานไหว

 

“เจ้าโงรึเปล่า? แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่เป็นสิ่งที่มีพลังเทียบเท่ากับราชานิรันดร์ ซึ่งเป็นเพราะระดับพลังของเจ้า พวกมันถึงได้ถูกจํากัดพลังเอาไว้ การที่เจ้าผืนเปิดผนึกขีดจํากัดพลังของพวกมัน หากไม่ใช่การรนหาที่ตายแล้วจะเป็นอื่นใดไปได้?” หอคอยน้อยตําหนิต่ออย่างดุดัน

 

หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “ครั้งนี้ข้าทําพลาดไปแล้ว แต่ต่อให้มีโอกาสอีกครั้ง ข้าก็เลือกที่จะทําเหมือนเดิมอยู่ดี”

 

“เพราะหากไม่ทําขนาดนี้ ก็ไม่มีทางเอาชนะจี่อู๋หมิงได้!”

 

ตอนนี้หลิงฮันมองเห็นความหวังที่จะเอาชนะจี่อู๋หมิงแล้ว อย่างน้อยภายในหนึ่งกระบวนท่า จี่อู๋หมิงก็ไม่สามารถสังหารเขาได้ เพราะงั้นหากเขาปลดปล่อยพลังทําลายของแก่นกําเนิดสวรรค์ และปฐพีออกไปได้ จี่อู๋หมิงจะต้องต้านทานไม่ไหวแน่นอน

 

“แต่ข้าก็ต้องคิดให้ดีกว่านี้ ไม่เช่นนั้นกระบวนท่านี้จะไม่ใช่การโจมตีศัตรู แต่เป็นการฆ่าตัวตาย”

 

เขาพึมพําและเริ่มฝึกฝนอีกครั้ง

 

“บ้า! เจ้ามันบ้าไปแล้ว!” หอคอยน้อยพึมพํา มันไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าทําไมหลิงฮันจําต้องเสี่ยงชีวิตตนเองถึงขนาดนี้ เพียงเพื่อการกระทําโง่ๆ

 

หลิงฮันกระตุ้นแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ก่อนที่พลังของพวกมันจะปะทุออกมาอย่างสมบูรณ์ เขาก็ทําการปลดปล่อยอํานาจออกมาก่อน

 

‘ตูมมม’ ทันใดนั้นพื้นที่รอบด้านของเขาในรัศมีพันไมล์ก็กลายเป็นว่างเปล่า

 

“รุนแรงมาก!”

 

หลิงฮันชะงักเล็กน้อย “พลังทําลายของมันเหนือกว่าทักษะนิรันดร์ใดๆ ที่ข้าฝึกฝนอยู่ แต่ข้อเสียก็คือนี่เป็นเพียงการชี้นําพลังออกไปลวกๆ เท่านั้น หากศัตรูเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่มากพอ ก็สามารถหลบคลื่นพลังได้”

 

“ถ้าแบบนั้นข้าก็ต้องหาวิธีทําให้การโจมตีนี้ระเบิดรวดเร็วยิ่งขึ้น และมีรัศมีที่กว้างกว่าเดิม”

 

“นอกจากนั้น ถ้าหากปลดปล่อยพลังออกมาช้ากว่านี้อีกสักหน่อย การเชื่อมโยงของ แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่ทั้งสี่ก็จะยาวนานยิ่งขึ้น”

 

“ไม่สิ จะเรียกว่าเชื่อมโยงก็ไม่ถูก นี่คือการใช้การขัดแย้งกันของแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี ในการเปิดผลึกขีดจํากัดของพวกมัน และระเบิดพลังทําลายล้างที่เกินกว่าระดับพลังบ่มเพาะของข้าออกมา”

 

“ยิ่งระยะเวลาที่พวกมันขัดแย้งกันนานขึ้นเท่านั้น ผลึกก็จะเปิดออกมากเท่านั้น และพลังทําลายก็จะรุนแรงตามๆ ไป”

 

หลิงฮันลองทดลองต่อ ครั้งนี้เขาหน่วงการขัดแย้งของแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีทั้งสี่ให้นานขึ้นเล็กน้อย ‘ตูมมมม’ คลื่นทําลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวถูกปลดปล่อยออกมา ส่งผลให้พื้นที่รอบด้านหลงเหลือเพียงความว่างเปล่า

 

“อั่ก!” เขาอ้าปากและกระอักโลหิตออกมาคําใหญ่

 

“เกือบจะได้ตายอีกครั้งแล้ว!”

 

หลิงฮันปาดเหงื่อ เมื่อครู่ทําหน่วงระยะเวลาการขัดแย้งกันของแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีทั้งสี่ให้นานขึ้นเล็กน้อย ทําให้พลังทําลายยกระดับขึ้นหลายเท่าตัว แต่ในขณะเดียวกันการทําแบบนี้ก็ส่งผลให้ตัวเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส จนกระดูกภายในร่างแตกร้าว

 

หากหน่วงเวลานานกว่านี้อีกนิด เขาคงตายไปแล้ว

 

“เป็นการฝึกฝนที่ตื่นเต้นดีเหลือเกิน!” หลิงฮันหัวเราะคนเดียว พร้อมกับใช้หยดวารีอมตะฟื้นฟูบาดแผล

 

บาดแผลที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่เขาทําเอง เพราะงั้นเจตจํานงยุทธที่ถูกทิ้งไว้จึงไม่ขัดแย้งกับการฟื้นฟู ทําให้กระดูกภายในร่างฟื้นสภาพกลับมาทันทีเมื่อใช้หยดวาอมตะ

 

หอคอยน้อยคร้านจะตําหนิ จึงไม่เลิกกล่าวอะไรออกมา

 

หลิงฮันยังคงครุ่นคิดถึงการควบคุมพลังให้สมดุลและปลอดภัยต่อตัวเขาเองต่อไป

 

หลังจากโลกภายนอกผ่านไปอีกสามวัน หลิงฮันก็หยุดคิด

 

“สําเร็จ!” เขาเผยรอยยิ้ม “แต่พูดก็พูดเถอะ การใช้การขัดแย้งกันของแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีทั้งสีมาโจมตีเช่นนี้ สามารถเรียกได้ว่าเป็นพลังของตัวข้ารึเปล่านะ?”

 

“ช่างเถอะ ระดับพลังของข้าในตอนนี้ยังต่ําเกินไป จึงต้องหยิบยืมพลังนอกกายมาใช้ เมื่อใดที่ข้าบรรลุจุดสูงสุด เมื่อนั้นข้าจะต้องเป็นตัวตนที่ทรงพลังเหนือใคร”

 

หลิงฮันออกจากหอคอยทมิฬ และตามเหล่าสตรีว่าในไม่กี่วันมานี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

 

“อัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วนมารวมตัวกัน เพื่อรอคอยการเปิดม่านของการประลองร้อยมหามังกร”

 

หลิงฮันยิ้ม “แล้วการประลองร้อยมหามังกรจะเริ่มเมื่อไหร่งั้นรึ?”

 

“อีกราวๆ สิบวัน” จักรพรรดิตอบ

 

“เป็นการต่อสู้บนลานประลองรึเปล่า?” หลิงฮันถามต่อ

 

“ไม่ใช่” จักรพรรดินีส่ายหัว “เห็นว่าผู้เข้าร่วมจะต้องเข้าไปยังเขตแดนลี้ลับแห่งสวรรค์และปฐพี ที่จะมีการแข่งขันบางอย่างอยู่ภายในนั้น ซึ่งคนที่ได้อันดับแรกจะได้รับอํานาจร้อยมังกรจากเขตแดนลี้ลับ รวมถึงวาสนาอันไร้ที่สิ้นสุด”

 

เมื่อได้ยินที่นางกล่าว หลิงฮันก็รู้ว่าจักรพรรดินีเองก็ไม่รู้รายละเอียดของการประลองร้อยมหามังกรเท่าไหร่เหมือนกัน

 

เขามุ่งหน้าไปหาฟู่เยว่เพื่อถาม

 

“หลังจากที่เข้าไปยังเขตแดนลี้ลับร้อยมังกรแล้ว พวกเราจะต้องเลือกเส้นทางแห่งเต๋ งสามพันเส้นทาง ซึ่งหลังจากที่ผ่านเส้นทางทั้งสามพันไปได้แล้ว การประลองที่แท้จริงถึงจะเริ่มขึ้น แต่การประลองที่ว่าเป็นในรูปแบบใดนั้น ข้าเองก็ไม่รู้แน่ชัด” ฟู่เยว่กล่าวน่าสนใจ…

 

“แล้วการแข่งขันศาสตร์ปรุงยา จะเริ่มขึ้นหลังการประลองร้อยมหามังกรเปล่า?” หลิงฮันถาม

 

“ถูกแล้ว” ฟู่เยว่พยักหน้า “ในทุกครั้งไม่ว่าการประลองร้อยมหามังกรจะใช้เวลานานเท่าไหร่ การแข่งขันศาสตร์ปรุงยาก็จะจัดตามหลังตลอด เพราะงั้นไม่ต้องเป็นกังวลไป”

 

เงื่อนไขในการเข้าเขตแดนลี้ลับร้อยมังกรคือต้องมีอายุต่ํากว่าสิบล้านปี และระยะเวลาที่เขตแดนลี้ลับจะเปิดออกในแต่ละครั้งคือหนึ่งร้อยล้านปี นั่นหมายความว่าใครก็เคยเข้าไปแล้วจะไม่สามารถเข้าไปได้อีกเป็นครั้งที่สอง

 

ในช่วงวันต่อๆ มา หลิงฮันก็ยังคงฝึกฝนการประยุกต์ใช้แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีทั้งสี่ต่อไป โดยที่เขาเรียกมันว่าแก่นพลังมหาพินาศ ตอนนี้เขายังมีแก่นกําเนิดสวรรค์อยู่แค่สี แต่ในอนาคตมันจะเพิ่มเป็นห้า เจ็ด และเก้า!

 

ฟู่เยว่และปู่เส่าจวิ้นนั้นตัวติดกันเป็นกาว เนื่องจากทั้งคู่เป็นนายน้อยเหมือนกันทั้งคู่ พวกเขาจึงมีนิสัยคล้ายคลึงกัน

 

ไม่นานเวลาก็ผ่านไปสิบสามวัน

 

“ครืนนน” ที่เหนือน่านฟ้าของเมืองได้มีเสียงสนั่นหวั่นไหวดังขึ้น ไม่ว่าใครจะอยู่ซอกมุมไหนของเมือง ก็ต้องได้ยินเสียงนี้อย่างชัดเจน และเมื่อทุกคนเดินออกมาและแหงนมองขึ้นดูภาพที่ทุกคนเห็นก็คือเงามังกรหนึ่งร้อยตัวกําลังโบยบินและพัวพันกันอยู่บนท้องฟ้า

 

จนในที่สุดเงาของมังกรเหล่านั้นก็ผสานรวมกันกลายเป็นประตูทางเข้า

 

เขตแดนลี้ลับร้อยมังกร เปิดออกแล้ว

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Alchemy Emperor of the Divine Dao 2043 พลังทําลายที่น่าอัศจรรย์

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 2043 พลังทําลายที่น่าอัศจรรย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2043 พลังทําลายที่น่าอัศจรรย์

 

สําเร็จ!

 

แต่ยังไม่ทันที่หลิงฮันจะมีเวลาให้ดีใจ ตราประทับทั้งสีบนกระดูกทั้งสี่แท่งของเขาก็เชื่อมโยงเข้าหากัน และส่องประกายแสงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

 

ไม่ดีแล้ว!

 

หลิงฮันอุทานในใจ เขาสัมผัสได้ถึงพลังอํานาจที่น่าสะพรึงกลัวกําลังถาโถมอยู่ในร่างกาย และ พริบตานั้นเองกระดูกทั่วร่างของเขาก็แหลกสลายเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับห้วงจิตวิญญาณถูกทําลาย

 

‘พรึบ’ กลุ่มก้อนเปลวเพลิงถูกจุดขึ้นอย่างร้อนระอุ และร่างของหลิงฮันก็ก้าวเดินออกมาจากเปลวเพลิง

 

“เจ้าหนู เจ้าเกือบจะฆ่าตัวตายแล้ว” หอคอยน้อยปรากฏตัวและตําหนิติเตือน “ถ้าไม่ใช่เพราะทักษะกําเนิดใหม่จากเถ้าถ่านใช้ได้อีกครั้งเมื่อสามวันก่อน เจ้าคงจะตายไปจริงๆ แล้ว”

 

หลังจากใช้ทักษะกําเนิดใหม่จากเถ้าถ่านไปหนึ่งครั้ง จําเป็นต้องรอไปอีกนานกว่าจะใช้ทักษะครั้งต่อไปได้ ก่อนหน้านี้หลิงฮันตายไปแล้วครั้งหนึ่งในตอนที่เก็บเกี่ยว ทองหยกกําเนิดดารา ซึ่งระยะเวลาในตอนนั้นถึงตอนนี้ยังผ่านมาไม่นานเท่าไหร่เลย

 

หลิงฮันรู้สึกหวาดกลัวไปชั่วขณะ ใครจะไปคาดคิดว่าเมื่อแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีทั้งสี่เชื่อมโยงกัน มันจะระเบิดพลังทําลายที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนั้นออกมา จนแม้แต่กายหยาบของเขาก็ไม่อาจต้านทานไหว

 

“เจ้าโงรึเปล่า? แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่เป็นสิ่งที่มีพลังเทียบเท่ากับราชานิรันดร์ ซึ่งเป็นเพราะระดับพลังของเจ้า พวกมันถึงได้ถูกจํากัดพลังเอาไว้ การที่เจ้าผืนเปิดผนึกขีดจํากัดพลังของพวกมัน หากไม่ใช่การรนหาที่ตายแล้วจะเป็นอื่นใดไปได้?” หอคอยน้อยตําหนิต่ออย่างดุดัน

 

หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “ครั้งนี้ข้าทําพลาดไปแล้ว แต่ต่อให้มีโอกาสอีกครั้ง ข้าก็เลือกที่จะทําเหมือนเดิมอยู่ดี”

 

“เพราะหากไม่ทําขนาดนี้ ก็ไม่มีทางเอาชนะจี่อู๋หมิงได้!”

 

ตอนนี้หลิงฮันมองเห็นความหวังที่จะเอาชนะจี่อู๋หมิงแล้ว อย่างน้อยภายในหนึ่งกระบวนท่า จี่อู๋หมิงก็ไม่สามารถสังหารเขาได้ เพราะงั้นหากเขาปลดปล่อยพลังทําลายของแก่นกําเนิดสวรรค์ และปฐพีออกไปได้ จี่อู๋หมิงจะต้องต้านทานไม่ไหวแน่นอน

 

“แต่ข้าก็ต้องคิดให้ดีกว่านี้ ไม่เช่นนั้นกระบวนท่านี้จะไม่ใช่การโจมตีศัตรู แต่เป็นการฆ่าตัวตาย”

 

เขาพึมพําและเริ่มฝึกฝนอีกครั้ง

 

“บ้า! เจ้ามันบ้าไปแล้ว!” หอคอยน้อยพึมพํา มันไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าทําไมหลิงฮันจําต้องเสี่ยงชีวิตตนเองถึงขนาดนี้ เพียงเพื่อการกระทําโง่ๆ

 

หลิงฮันกระตุ้นแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ก่อนที่พลังของพวกมันจะปะทุออกมาอย่างสมบูรณ์ เขาก็ทําการปลดปล่อยอํานาจออกมาก่อน

 

‘ตูมมม’ ทันใดนั้นพื้นที่รอบด้านของเขาในรัศมีพันไมล์ก็กลายเป็นว่างเปล่า

 

“รุนแรงมาก!”

 

หลิงฮันชะงักเล็กน้อย “พลังทําลายของมันเหนือกว่าทักษะนิรันดร์ใดๆ ที่ข้าฝึกฝนอยู่ แต่ข้อเสียก็คือนี่เป็นเพียงการชี้นําพลังออกไปลวกๆ เท่านั้น หากศัตรูเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่มากพอ ก็สามารถหลบคลื่นพลังได้”

 

“ถ้าแบบนั้นข้าก็ต้องหาวิธีทําให้การโจมตีนี้ระเบิดรวดเร็วยิ่งขึ้น และมีรัศมีที่กว้างกว่าเดิม”

 

“นอกจากนั้น ถ้าหากปลดปล่อยพลังออกมาช้ากว่านี้อีกสักหน่อย การเชื่อมโยงของ แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่ทั้งสี่ก็จะยาวนานยิ่งขึ้น”

 

“ไม่สิ จะเรียกว่าเชื่อมโยงก็ไม่ถูก นี่คือการใช้การขัดแย้งกันของแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี ในการเปิดผลึกขีดจํากัดของพวกมัน และระเบิดพลังทําลายล้างที่เกินกว่าระดับพลังบ่มเพาะของข้าออกมา”

 

“ยิ่งระยะเวลาที่พวกมันขัดแย้งกันนานขึ้นเท่านั้น ผลึกก็จะเปิดออกมากเท่านั้น และพลังทําลายก็จะรุนแรงตามๆ ไป”

 

หลิงฮันลองทดลองต่อ ครั้งนี้เขาหน่วงการขัดแย้งของแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีทั้งสี่ให้นานขึ้นเล็กน้อย ‘ตูมมมม’ คลื่นทําลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวถูกปลดปล่อยออกมา ส่งผลให้พื้นที่รอบด้านหลงเหลือเพียงความว่างเปล่า

 

“อั่ก!” เขาอ้าปากและกระอักโลหิตออกมาคําใหญ่

 

“เกือบจะได้ตายอีกครั้งแล้ว!”

 

หลิงฮันปาดเหงื่อ เมื่อครู่ทําหน่วงระยะเวลาการขัดแย้งกันของแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีทั้งสี่ให้นานขึ้นเล็กน้อย ทําให้พลังทําลายยกระดับขึ้นหลายเท่าตัว แต่ในขณะเดียวกันการทําแบบนี้ก็ส่งผลให้ตัวเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส จนกระดูกภายในร่างแตกร้าว

 

หากหน่วงเวลานานกว่านี้อีกนิด เขาคงตายไปแล้ว

 

“เป็นการฝึกฝนที่ตื่นเต้นดีเหลือเกิน!” หลิงฮันหัวเราะคนเดียว พร้อมกับใช้หยดวารีอมตะฟื้นฟูบาดแผล

 

บาดแผลที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่เขาทําเอง เพราะงั้นเจตจํานงยุทธที่ถูกทิ้งไว้จึงไม่ขัดแย้งกับการฟื้นฟู ทําให้กระดูกภายในร่างฟื้นสภาพกลับมาทันทีเมื่อใช้หยดวาอมตะ

 

หอคอยน้อยคร้านจะตําหนิ จึงไม่เลิกกล่าวอะไรออกมา

 

หลิงฮันยังคงครุ่นคิดถึงการควบคุมพลังให้สมดุลและปลอดภัยต่อตัวเขาเองต่อไป

 

หลังจากโลกภายนอกผ่านไปอีกสามวัน หลิงฮันก็หยุดคิด

 

“สําเร็จ!” เขาเผยรอยยิ้ม “แต่พูดก็พูดเถอะ การใช้การขัดแย้งกันของแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีทั้งสีมาโจมตีเช่นนี้ สามารถเรียกได้ว่าเป็นพลังของตัวข้ารึเปล่านะ?”

 

“ช่างเถอะ ระดับพลังของข้าในตอนนี้ยังต่ําเกินไป จึงต้องหยิบยืมพลังนอกกายมาใช้ เมื่อใดที่ข้าบรรลุจุดสูงสุด เมื่อนั้นข้าจะต้องเป็นตัวตนที่ทรงพลังเหนือใคร”

 

หลิงฮันออกจากหอคอยทมิฬ และตามเหล่าสตรีว่าในไม่กี่วันมานี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

 

“อัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วนมารวมตัวกัน เพื่อรอคอยการเปิดม่านของการประลองร้อยมหามังกร”

 

หลิงฮันยิ้ม “แล้วการประลองร้อยมหามังกรจะเริ่มเมื่อไหร่งั้นรึ?”

 

“อีกราวๆ สิบวัน” จักรพรรดิตอบ

 

“เป็นการต่อสู้บนลานประลองรึเปล่า?” หลิงฮันถามต่อ

 

“ไม่ใช่” จักรพรรดินีส่ายหัว “เห็นว่าผู้เข้าร่วมจะต้องเข้าไปยังเขตแดนลี้ลับแห่งสวรรค์และปฐพี ที่จะมีการแข่งขันบางอย่างอยู่ภายในนั้น ซึ่งคนที่ได้อันดับแรกจะได้รับอํานาจร้อยมังกรจากเขตแดนลี้ลับ รวมถึงวาสนาอันไร้ที่สิ้นสุด”

 

เมื่อได้ยินที่นางกล่าว หลิงฮันก็รู้ว่าจักรพรรดินีเองก็ไม่รู้รายละเอียดของการประลองร้อยมหามังกรเท่าไหร่เหมือนกัน

 

เขามุ่งหน้าไปหาฟู่เยว่เพื่อถาม

 

“หลังจากที่เข้าไปยังเขตแดนลี้ลับร้อยมังกรแล้ว พวกเราจะต้องเลือกเส้นทางแห่งเต๋ งสามพันเส้นทาง ซึ่งหลังจากที่ผ่านเส้นทางทั้งสามพันไปได้แล้ว การประลองที่แท้จริงถึงจะเริ่มขึ้น แต่การประลองที่ว่าเป็นในรูปแบบใดนั้น ข้าเองก็ไม่รู้แน่ชัด” ฟู่เยว่กล่าวน่าสนใจ…

 

“แล้วการแข่งขันศาสตร์ปรุงยา จะเริ่มขึ้นหลังการประลองร้อยมหามังกรเปล่า?” หลิงฮันถาม

 

“ถูกแล้ว” ฟู่เยว่พยักหน้า “ในทุกครั้งไม่ว่าการประลองร้อยมหามังกรจะใช้เวลานานเท่าไหร่ การแข่งขันศาสตร์ปรุงยาก็จะจัดตามหลังตลอด เพราะงั้นไม่ต้องเป็นกังวลไป”

 

เงื่อนไขในการเข้าเขตแดนลี้ลับร้อยมังกรคือต้องมีอายุต่ํากว่าสิบล้านปี และระยะเวลาที่เขตแดนลี้ลับจะเปิดออกในแต่ละครั้งคือหนึ่งร้อยล้านปี นั่นหมายความว่าใครก็เคยเข้าไปแล้วจะไม่สามารถเข้าไปได้อีกเป็นครั้งที่สอง

 

ในช่วงวันต่อๆ มา หลิงฮันก็ยังคงฝึกฝนการประยุกต์ใช้แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีทั้งสี่ต่อไป โดยที่เขาเรียกมันว่าแก่นพลังมหาพินาศ ตอนนี้เขายังมีแก่นกําเนิดสวรรค์อยู่แค่สี แต่ในอนาคตมันจะเพิ่มเป็นห้า เจ็ด และเก้า!

 

ฟู่เยว่และปู่เส่าจวิ้นนั้นตัวติดกันเป็นกาว เนื่องจากทั้งคู่เป็นนายน้อยเหมือนกันทั้งคู่ พวกเขาจึงมีนิสัยคล้ายคลึงกัน

 

ไม่นานเวลาก็ผ่านไปสิบสามวัน

 

“ครืนนน” ที่เหนือน่านฟ้าของเมืองได้มีเสียงสนั่นหวั่นไหวดังขึ้น ไม่ว่าใครจะอยู่ซอกมุมไหนของเมือง ก็ต้องได้ยินเสียงนี้อย่างชัดเจน และเมื่อทุกคนเดินออกมาและแหงนมองขึ้นดูภาพที่ทุกคนเห็นก็คือเงามังกรหนึ่งร้อยตัวกําลังโบยบินและพัวพันกันอยู่บนท้องฟ้า

 

จนในที่สุดเงาของมังกรเหล่านั้นก็ผสานรวมกันกลายเป็นประตูทางเข้า

 

เขตแดนลี้ลับร้อยมังกร เปิดออกแล้ว

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+