ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ 943 ตัวอ่อน

Now you are reading ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ Chapter 943 ตัวอ่อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“นี่มันหนอนประหลาดอะไร?” หลิ่วหมิงใช้เท้าเตะศพของหนอนประหลาดเบาๆ เพื่อพลิกร่างมันขึ้นมา มันแน่นิ่ง เห็นชัดว่าตายสนิทแล้ว

หลิ่วหมิงมองศพของหนอนประหลาดสองสามหน เมื่อสังเกตใกล้ๆ เวลานี้จึงพบว่าส่วนหัวที่เหมือนกิ้งก่าของหนอนปรสิตประหลาดตัวนี้ไม่มีดวงตาและจมูก นอกจากปากก็ไม่มีช่องอื่นอีก

เขาหันไปมองกำแพงเนื้อในอุโมงค์ จากนั้นสีหน้าก็ค่อยๆ เคร่งขรึม

ร่างกายของหนอนประหลาดเป็นสีเดียวกับกำแพงเนื้อทุกประการ อีกทั้งกลิ่นอายก็แทบจะเหมือนกัน มิน่าก่อนเกิดเรื่องเขาถึงไม่รู้สึกตัวสักนิด

“หรือหนอนประหลาดตัวนี้จะเป็นปรสิตในร่างอสูรยักษ์?” เขาครุ่นคิดจนถึงตรงนี้ในใจก็พรั่นพรึง

พลังของหนอนประหลาดตัวนี้ไม่ได้แข็งแกร่งนัก แต่ยามโจมตีไม่มีคลื่นพลังเวทแม้แต่น้อยทำให้คนไม่ทันป้องกัน!

ไม่รู้ว่ายิ่งเข้าไปลึกจะยิ่งมีหนอนปรสิตตัวอื่นโผล่ออกมาอีกหรือไม่

หลิ่วหมิงประเมินสถานการณ์อยู่ครู่หนึ่งในที่สุดก็รั้งสายตากลับมา ปราณดำหุ้มรอบร่างกายอีกครั้งแล้วมุ่งหน้าลึกเข้าไปในอุโมงค์กำแพงอย่างรวดเร็ว

นับตั้งแต่เข้ามาในทางแยก เขาก็พบเนื้อเยื่อเหนียวรูปร่างเหมือนใยแมงมุมนั่นขวางอยู่ในอุโมงค์กำแพงเนื้อเป็นระยะ ทำให้ความเร็วที่หลิ่วหมิงมุ่งไปข้างหน้าช้าลงไปมากอย่างเลี่ยงไม่ได้

อุโมงค์กำแพงเนื้อในร่างอสูรยักษ์เชื่อมต่อกันไปหมดคล้ายเขาวงกต ยิ่งเข้าไปลึก ลมกัดกร่อนสีม่วงรอบด้านก็ยิ่งหนาทึบ นอกจากนี้หนอนปรสิตประหลาดสีแดงคล้ำพวกนั้นก็เริ่มปรากฏตัวบ่อยขึ้นกว่าเดิม

หนอนปรสิตเหล่านี้แรกเริ่มพลังระดับศิษย์จิตวิญญาณเท่านั้น แต่เมื่อเข้าไปลึกขึ้น พลังก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาถึงระดับของเหลวจิตวิญญาณ หลังจากนั้นหนอนปรสิตระดับของเหลวจิตวิญญาณขั้นปลายก็เริ่มพบได้บ่อยครั้ง

แต่หนอนพวกนี้สำหรับหลิ่วหมิงในตอนนี้เป็นแค่เรื่องที่จัดการได้อย่างรวดเร็ว

ครึ่งชั่วยามผ่านไป หลิ่วหมิงเลี้ยวไปมาอยู่พักหนึ่งก็ยังคงตามหาร่องรอยของเตาหล่อหลอมจิตวิญญาณไม่พบแม้แต่นิด พลังจิตวิญญาณของชุดเกราะจักรกลบนร่างไหลรั่วออกไปแล้วราวหนึ่งในสี่ส่วน นี่ทำให้เขาร้อนรนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ปัง”

เสียงหนักๆ ดังขึ้น หนอนปรสิตยาวหนึ่งจั้งกว่าตัวหนึ่งปลิวออกไปหลังจากหลิ่วหมิงออกหมัด จากนั้นกระแทกบนกำแพงเนื้ออย่างหนักหน่วง

เวลานี้หลิ่วหมิงอยู่ในพื้นที่กว้างอย่างยิ่งแห่งหนึ่ง แม้รอบด้านยังคงเป็นกำแพงเนื้อที่ขยับขยุกขยิกไม่หยุดเช่นเดิม แต่ที่นี่มองดูแล้วเหมือนถ้ำกว้างขวางแห่งหนึ่ง มีก้อนเนื้อหนาก้อนแล้วก้อนเล่าห้อยลงมาเหมือนหินงอกหินย้อย ไม่ไกลนักมีอุโมงค์กำแพงเนื้อเส้นหนึ่ง เนื้อเยื่อคล้ายใยแมงมุมตรงปากทางมีรูขนาดใหญ่ที่เห็นชัดเจนรูหนึ่ง นี่เป็นทางที่เขาเข้ามานั่นเอง

หลังจากเสียง “ชี่” ดังขึ้นพักหนึ่ง หนอนปรสิตที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเจอมาจนถึงตอนนี้ซึ่งอยู่บนพื้นก็กลิ้งขลุกขลักแล้วผงกหัวขึ้นมาอีกครั้งคล้ายกับว่าไม่เป็นอะไรมาก

หลิ่วหมิงสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที

การโจมตีเมื่อครู่อย่างน้อยก็มีแรงหมื่นชั่ง แม้แต่ปีศาจอสูรระดับผลึกทั่วไป รับหนึ่งหมัดนี้ของเขาเข้าไปก็ต้องบาดเจ็บหนักไม่เบาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดูท่าอสูรปรสิตตัวนี้หากขนาดร่างเติบโตมาถึงระดับหนึ่ง พลังชีวิตทนทายาดจะเริ่มสำแดงออกมา

“ฟ่อๆ!”

หนอนปรสิตประหลาดสีเลือดพลิกตัวครั้งหนึ่ง ทันใดนั้นผิวหนังรอบร่างก็กลายเป็นสีแดงก่ำขึ้นอีกแล้วส่งเสียงกรีดร้องออกมา มันเคลื่อนไหวคล้ายอสรพิษ กลายเป็นเงาสีแดงเส้นหนึ่งกระโจนเข้าใส่หลิ่วหมิงอีกครั้ง

หลิ่วหมิงสีหน้าเย็นชา เขาพลิกมือข้างหนึ่งขึ้น มุกพลังวารีลูกหนึ่งไหลเข้ามาอยู่ตรงกลางฝ่ามือในพริบตา หมอกน้ำสีดำสายหนึ่งพวยพุ่งออกมาหุ้มหมัดไว้แล้วต่อยหนึ่งหมัดใส่อากาศดุจสายฟ้าแลบ

เสียงหนักหน่วงดังขึ้นครั้งหนึ่งกลางอากาศ!

พร้อมกับที่เสียงปริแยกดังขึ้น ร่างกายของหนอนปรสิตประหลาดก็ถูกโจมตีปลิวไปอีกครั้ง ครั้งนี้ปลิวออกไปสิบกว่าจั้งกระแทกบนกำแพงเนื้อจุดหนึ่งแล้วกลิ้งตกลงมา

บริเวณลำคอของหนอนปรสิตประหลาดยุบลงไปก้อนหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด ปากพ่นเลือดและเศษกระดูกกับเศษเนื้อออกมาพร้อมกัน ร่างกายที่เหมือนอสรพิษบิดดิ้นอยู่สองสามหน แต่ครู่เดียวหลังจากนั้นก็ไม่กระดิกอีกต่อไป

เวลานี้บนใบหน้าหลิ่วหมิงไม่มีความยินดีแม้แต่น้อย เขาได้ยินเสียงแสกสากดังขึ้นไปมารอบด้านไม่หยุด บนกำแพงเนื้อใกล้ๆ ขยับขยุกขยิกอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็นูนออกมา ทันใดนั้นหนอนปรสิตประหลาดขนาดเท่าครึ่งตัวคนเจ็ดแปดตัวก็ดีดตัวออกมาจากกำแพงเนื้อดังฟุบๆ พุ่งเข้าใส่หลิ่วหมิง

หลิ่วหมิงขมวดคิ้วแน่น สองแขนสะบัดโจมตีหนึ่งหมัดที่เหมือนช้าแต่ความจริงรวดเร็วออกมา

เกิดคลื่นสั่นสะเทือนขึ้นกลางอากาศ เงาหมัดสีดำขมุกขมัวขนาดหนึ่งจั้งกว่าหมัดหนึ่งก่อตัวขึ้นจากความว่างเปล่าล้อมหนอนปรสิตประหลาดที่พุ่งเข้ามาทั้งหมดไว้ตรงกลาง

เสียงดังติดกันเป็นพรวน!

หลังจากหนอนปรสิตประหลาดเจ็ดถึงแปดตัวสัมผัสถูกเงาหมัดเพียงเล็กน้อย ร่างกายของพวกมันก็สั่นสะท้านเหมือนฝัดข้าว เลือดสายแล้วสายเล่าซึมออกมาจากปากและจมูก จากนั้นก็ถูกกระแทกปลิวออกไปอย่างแรง

ยังไม่ทันที่เขาจะโล่งใจ ด้านหลังร่างก็มีเสียงฟึบๆ ดังขึ้นมาอีก หนอนปรสิตประหลาดอีกหลายตัวกระโจนเข้าใส่แผ่นหลังของเขา

“ไม่หมดไม่สิ้นจริงๆ!”

หลิ่วหมิงขมวดคิ้ว ปราณดำบนร่างพวยพุ่ง จากนั้นเท้าก็กระทืบหนักหน่วง ร่างกายเลือนหายไร้ร่องรอยในทันที

หนอนปรสิตประหลาดทั้งหลายกระโจนจับได้แต่ความว่างเปล่า ร่างกายของพวกมันนิ่งงันไปในทันที หัวที่เหมือนกิ้งก่าผงกขึ้นมา ‘มอง’ ไปรอบด้านเหมือนกำลังค้นหาร่างของหลิ่วหมิง

ในเวลาเดียวกันนี้บนกำแพงเนื้อสี่ด้านแปดทิศก็มีหนอนปรสิตประหลาดยี่สิบถึงสามสิบตัวโผล่มาอย่างต่อเนื่องแล้วมารวมตัวกันประหนึ่งฝูงอสรพิษชูคอส่งเสียงดังฟ่อๆ

ครู่หนึ่งหลังจากนั้นเมื่อหนอนปรสิตประหลาดเหล่านี้ค้นหาไม่ประสบผล ร่างกายก็ค่อยๆ เลื้อย แยกย้ายกันไปมุดลงไปในกำแพงเนื้อเหมือนไส้เดือนใหม่อีกครั้ง

เวลานี้ตรงมุมหนึ่งด้านบนของถ้ำกำแพงเนื้อ เงาคนเลือนรางเดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ร่างหนึ่งซ่อนอยู่ เขาก็คือหลิ่วหมิงนั่นเอง

ร่างกายของเขาถูกล้อมด้วยหมอกสีดำเบาบางชั้นหนึ่ง ภาพสัญลักษณ์เชอฮ่วนตรงหัวไหล่ส่องแสงสีน้ำเงินจางๆ เขาเห็นหนอนปรสิตประหลาดทั้งหลายแยกย้ายกันไปแล้ว ร่างกายจึงขยับลอยลงมา ทั้งร่างราวกับภาพลวงตาไม่ได้มีอยู่จริงและไม่แผ่กลิ่นอายออกไปเลยแม้แต่น้อย

หลังจากกลืนกินวิญญาณปีศาจจำนวนมากที่วังหมื่นปีศาจ ภาพสัญลักษณ์เชอฮ่วนก็ใกล้เข้าสู่ขั้นปลาย พลังในการซ่อนเร้นย่อมสำแดงออกมาได้ยอดเยี่ยมกว่าเดิม

พรึ่บ!

หนอนปรสิตประหลาดตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากกำแพงเนื้อใกล้ๆ หลิ่วหมิง ส่วนหัวขยับนิดๆ มาทางที่หลิ่วหมิงอยู่คล้ายสัมผัสอะไรได้

ครู่หนึ่งหลังจากนั้นหนอนปรสิตประหลาดก็ส่ายหัวมุดเข้าไปในกำแพงเนื้อใหม่อีกครั้ง

“ฟู่…”

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ถึงโล่งอกอย่างแท้จริง

พลังในการซ่อนเร้นของภาพสัญลักษณ์เชอฮ่วนทำให้หนอนปรสิตประหลาดอยู่ใกล้เท่านี้ก็ยังสัมผัสไม่ได้ เรื่องนี้ทำให้เขาดีใจเกินคาดอย่างแท้จริง

หลังจากหลิ่วหมิงกวาดสายตาไปรอบด้าน

ถึงค้นพบว่าพื้นที่ตรงหน้าใหญ่เท่าบ้านขนาดเจ็ดแปดห้องหลังหนึ่ง มันเต็มไปด้วยลมกัดกร่อนสีม่วงดังเดิม แต่ลมสีม่วงที่นี่หนาทึบยิ่งกว่าในอุโมงค์ก่อนหน้านี้

ในกำแพงเนื้อรอบด้านมีหนอนปรสิตประหลาดมุดเข้ามุดออกเป็นระยะ

“หนอนปรสิตประหลาดที่นี่เหมือนจะมากผิดปกติ…”

หลิ่วหมิงมองกำแพงเนื้อที่ขยุกขยิกอยู่รอบด้านเป็นระยะแล้วใบหน้าก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมาเล็กน้อย ยังดีที่ตอนนี้เขากลบกลิ่นอายด้วยภาพสัญลักษณ์เชอฮ่วนอยู่จึงไม่ต้องใส่ใจหนอนปรสิตประหลาดเหล่านี้นัก

หลิ่วหมิงพลิกมือข้างหนึ่งเรียกมุกสนองตอบออกมาจากนั้นหลับตาลงสัมผัส

มุกสนองตอบสีทองอ่อนทอแสงเรืองรองระยิบระยับลอยอยู่เบื้องหน้าเขา

“ดูจากขนาดร่างกายของอสูรตัวนี้ด้านนอก ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่ลึกที่สุดในร่างของมันแล้ว ทำไมยังสัมผัสเตาหล่อหลอมจิตวิญญาณไม่ได้แม้แต่น้อยนะ?” ครู่หนึ่งหลังจากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นอีกหนแล้วพึมพำกับตนเอง เห็นชัดว่าไม่ได้ผลแต่ประการใด

ก่อนหน้านี้เขาตรวจดูแล้วว่าพื้นที่ตรงหน้านี้นอกจากทางเข้าที่เขาเพิ่งเข้ามาก็ไม่มีเส้นทางอื่นอีก

“เดินมาถึงทางตันอีกแล้ว…”

หลิ่วหมิงหัวเราะฝืดเฝื่อนแล้วขยับเท้าคิดจะย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อค้นหาเส้นทางอื่น

ทว่าเขาเพิ่งยกเท้าก้าวเดิน ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วหยุดอีกครั้ง บนใบหน้าเผยสีหน้าครุ่นคิดออกมา

“ไม่ถูกสิ…”

เขาเข้ามาในท้องของอสูรยักษ์ได้เกินครึ่งชั่วยามแล้ว เขาค้นหาไปแล้วหลายที่ไม่น้อย แต่สิ่งที่แปลกก็คือจนกระทั่งถึงตอนนี้สิ่งที่ดวงตาเขามองเห็นมีเพียงกำแพงเนื้อกับหนอนปรสิตประหลาดเพียงเท่านั้น

จากคำบอกเล่าของจินเทียนชื่อกับเยี่ยโจ่ง อสูรยักษ์ตัวนี้มีชีวิตอยู่ในเศษซากแห่งโลกบนมานานหลายหมื่นปี วัตถุจิตวิญญาณที่กลืนลงไปในท้องน่าจะมากมายนับไม่ถ้วน แม้ถูกมันกัดกร่อนย่อยสลายไปส่วนหนึ่ง แต่อย่างไรก็น่าจะมีเศษซากเหลืออยู่ในตัวมันบ้าง แต่เขาเดินมาจนถึงตอนนี้ก็ไม่พบแม้แต่เศษเสี้ยว

หลิ่วหมิงเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที เขาตระหนักว่าเขาเหมือนจะเดินเข้ามาผิดที่ วัตถุจิตวิญญาณเหล่านั้นที่อสูรยักษ์กลืนเข้ามาในท้องน่าจะรวมอยู่ในสถานที่พิเศษแห่งหนึ่ง อีกทั้งสถานที่แห่งนั้นน่าจะใช้วิธีทั่วไปค้นหาไม่พบ

“อยู่ที่ไหนนะ?”

ในสมองหลิ่วหมิงพยายามนึกย้อนไปถึงของทุกสิ่งที่มองเห็นตั้งแต่เริ่มเข้ามาในท้องของอสูรยักษ์ พยายามค้นหาเงื่อนงำบางอย่าง

“โพล๊ะ” เสียงคล้ายกับถุงลมแตกดังขึ้นในถ้ำกำแพงเนื้อ

หลิ่วหมิงเลิกคิ้ว เสียงดังมาจากเหนือศีรษะ เขาครุ่นคิดเพียงเล็กน้อยก็ขยับร่างเหาะขึ้นไปบนเพดานของถ้ำเนื้อ

ไม่นานเขาก็หาต้นกำเนิดของเสียงพบ ใบหน้าเผยสีหน้าประหลาดใจ

“นี่มัน…”

ตรงมุมหนึ่งเพดานเนื้อมีถุงสีชมพูขนาดเท่าถังน้ำถุงหนึ่งห้อยอยู่ บนนั้นเต็มไปด้วยเส้นลมปราณสีน้ำเงินมากมายดูคล้ายเส้นเลือด

เวลานี้บนถุงมีรอยขาดรูหนึ่ง หัวสีชมพูขนาดเท่ากำปั้นหัวหนึ่งโผล่ออกมา หลังจากนั้นเพียงครู่เดียวตัวอ่อนปรสิตยาวครึ่งฉื่อตัวหนึ่งก็คืบคลานออกมาจากด้านในอย่างเชื่องช้า

หลิ่วหมิงมองไปรอบด้าน ยังมีถุงที่คล้ายกันอยู่อีกมากมายนัก ทุกระยะห่างสองสามจั้งจะมีถุงเช่นนี้หนึ่งถุง

ที่นี่คือรังของหนอนปรสิต!

ทันทีที่ตัวอ่อนคลานออกมาจากถุง ร่างกายก็ดีดทีหนึ่งร่วงลงบนเพดานของถ้ำเนื้อ ร่างกายเกาะแน่นอยู่ตรงส่วนบนของกำแพงเนื้อแต่ไม่ได้มุดเข้าไปในกำแพงเนื้อ ตรงกันข้ามมันกลับบิดร่างคืบคลานมุ่งหน้าไปยังทางออกอย่างเร็วไว

“…”

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ฉุกคิดบางอย่างได้จึงติดตามไปทันที

ตัวอ่อนเคลื่อนที่รวดเร็วยิ่งนัก เพียงครู่เดียวมันก็คลานมาถึงทางเข้าอุโมงค์ มันแหงนหน้า ‘มองดู’ เล็กน้อยก็ขยับอีกครั้งแล้วมุดเข้าไปอย่างว่องไว

เมื่อเดินทางมาถึงทางแยกสามทางตรงสุดปลายอุโมงค์ ตัวอ่อนก็บิดร่างเข้าไปในอุโมงค์อีกเส้นหนึ่งอย่างเร็วไว

หลิ่วหมิงดวงตาทอประกายวิบวับ เขาเห็นว่าไม่ไกลนักในอุโมงค์เบื้องหน้ามีตัวอ่อนอีกตัวหนึ่งกำลังคลานไปด้านหน้าเช่นกัน

อุโมงค์เส้นนี้เขาน่าจะยังไม่เคยเดินผ่านมาก่อน!

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วติดตามไปต่ออย่างเงียบเชียบ

“เอ๋!”

ผลปรากฏว่าเมื่อหลิ่วหมิงเข้ามาในอุโมงค์ได้ไม่นาน เขาก็ร้องเอ๋ขึ้นมาเบาๆ หลังจากกวาดสายตามองความว่างเปล่ารอบด้าน ทันใดนั้นมือข้างหนึ่งก็คว้าจับเบาๆ ลมสีม่วงสายหนึ่งถูกเขากำไว้ในมือ

เขาถ่ายเทพลังเวทจำนวนหนึ่งในทันใด หลังจากดวงตาทั้งสองข้างทอประกายสีดำ บนใบหน้าก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ 943 ตัวอ่อน

Now you are reading ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ Chapter 943 ตัวอ่อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“นี่มันหนอนประหลาดอะไร?” หลิ่วหมิงใช้เท้าเตะศพของหนอนประหลาดเบาๆ เพื่อพลิกร่างมันขึ้นมา มันแน่นิ่ง เห็นชัดว่าตายสนิทแล้ว

หลิ่วหมิงมองศพของหนอนประหลาดสองสามหน เมื่อสังเกตใกล้ๆ เวลานี้จึงพบว่าส่วนหัวที่เหมือนกิ้งก่าของหนอนปรสิตประหลาดตัวนี้ไม่มีดวงตาและจมูก นอกจากปากก็ไม่มีช่องอื่นอีก

เขาหันไปมองกำแพงเนื้อในอุโมงค์ จากนั้นสีหน้าก็ค่อยๆ เคร่งขรึม

ร่างกายของหนอนประหลาดเป็นสีเดียวกับกำแพงเนื้อทุกประการ อีกทั้งกลิ่นอายก็แทบจะเหมือนกัน มิน่าก่อนเกิดเรื่องเขาถึงไม่รู้สึกตัวสักนิด

“หรือหนอนประหลาดตัวนี้จะเป็นปรสิตในร่างอสูรยักษ์?” เขาครุ่นคิดจนถึงตรงนี้ในใจก็พรั่นพรึง

พลังของหนอนประหลาดตัวนี้ไม่ได้แข็งแกร่งนัก แต่ยามโจมตีไม่มีคลื่นพลังเวทแม้แต่น้อยทำให้คนไม่ทันป้องกัน!

ไม่รู้ว่ายิ่งเข้าไปลึกจะยิ่งมีหนอนปรสิตตัวอื่นโผล่ออกมาอีกหรือไม่

หลิ่วหมิงประเมินสถานการณ์อยู่ครู่หนึ่งในที่สุดก็รั้งสายตากลับมา ปราณดำหุ้มรอบร่างกายอีกครั้งแล้วมุ่งหน้าลึกเข้าไปในอุโมงค์กำแพงอย่างรวดเร็ว

นับตั้งแต่เข้ามาในทางแยก เขาก็พบเนื้อเยื่อเหนียวรูปร่างเหมือนใยแมงมุมนั่นขวางอยู่ในอุโมงค์กำแพงเนื้อเป็นระยะ ทำให้ความเร็วที่หลิ่วหมิงมุ่งไปข้างหน้าช้าลงไปมากอย่างเลี่ยงไม่ได้

อุโมงค์กำแพงเนื้อในร่างอสูรยักษ์เชื่อมต่อกันไปหมดคล้ายเขาวงกต ยิ่งเข้าไปลึก ลมกัดกร่อนสีม่วงรอบด้านก็ยิ่งหนาทึบ นอกจากนี้หนอนปรสิตประหลาดสีแดงคล้ำพวกนั้นก็เริ่มปรากฏตัวบ่อยขึ้นกว่าเดิม

หนอนปรสิตเหล่านี้แรกเริ่มพลังระดับศิษย์จิตวิญญาณเท่านั้น แต่เมื่อเข้าไปลึกขึ้น พลังก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาถึงระดับของเหลวจิตวิญญาณ หลังจากนั้นหนอนปรสิตระดับของเหลวจิตวิญญาณขั้นปลายก็เริ่มพบได้บ่อยครั้ง

แต่หนอนพวกนี้สำหรับหลิ่วหมิงในตอนนี้เป็นแค่เรื่องที่จัดการได้อย่างรวดเร็ว

ครึ่งชั่วยามผ่านไป หลิ่วหมิงเลี้ยวไปมาอยู่พักหนึ่งก็ยังคงตามหาร่องรอยของเตาหล่อหลอมจิตวิญญาณไม่พบแม้แต่นิด พลังจิตวิญญาณของชุดเกราะจักรกลบนร่างไหลรั่วออกไปแล้วราวหนึ่งในสี่ส่วน นี่ทำให้เขาร้อนรนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ปัง”

เสียงหนักๆ ดังขึ้น หนอนปรสิตยาวหนึ่งจั้งกว่าตัวหนึ่งปลิวออกไปหลังจากหลิ่วหมิงออกหมัด จากนั้นกระแทกบนกำแพงเนื้ออย่างหนักหน่วง

เวลานี้หลิ่วหมิงอยู่ในพื้นที่กว้างอย่างยิ่งแห่งหนึ่ง แม้รอบด้านยังคงเป็นกำแพงเนื้อที่ขยับขยุกขยิกไม่หยุดเช่นเดิม แต่ที่นี่มองดูแล้วเหมือนถ้ำกว้างขวางแห่งหนึ่ง มีก้อนเนื้อหนาก้อนแล้วก้อนเล่าห้อยลงมาเหมือนหินงอกหินย้อย ไม่ไกลนักมีอุโมงค์กำแพงเนื้อเส้นหนึ่ง เนื้อเยื่อคล้ายใยแมงมุมตรงปากทางมีรูขนาดใหญ่ที่เห็นชัดเจนรูหนึ่ง นี่เป็นทางที่เขาเข้ามานั่นเอง

หลังจากเสียง “ชี่” ดังขึ้นพักหนึ่ง หนอนปรสิตที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเจอมาจนถึงตอนนี้ซึ่งอยู่บนพื้นก็กลิ้งขลุกขลักแล้วผงกหัวขึ้นมาอีกครั้งคล้ายกับว่าไม่เป็นอะไรมาก

หลิ่วหมิงสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที

การโจมตีเมื่อครู่อย่างน้อยก็มีแรงหมื่นชั่ง แม้แต่ปีศาจอสูรระดับผลึกทั่วไป รับหนึ่งหมัดนี้ของเขาเข้าไปก็ต้องบาดเจ็บหนักไม่เบาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดูท่าอสูรปรสิตตัวนี้หากขนาดร่างเติบโตมาถึงระดับหนึ่ง พลังชีวิตทนทายาดจะเริ่มสำแดงออกมา

“ฟ่อๆ!”

หนอนปรสิตประหลาดสีเลือดพลิกตัวครั้งหนึ่ง ทันใดนั้นผิวหนังรอบร่างก็กลายเป็นสีแดงก่ำขึ้นอีกแล้วส่งเสียงกรีดร้องออกมา มันเคลื่อนไหวคล้ายอสรพิษ กลายเป็นเงาสีแดงเส้นหนึ่งกระโจนเข้าใส่หลิ่วหมิงอีกครั้ง

หลิ่วหมิงสีหน้าเย็นชา เขาพลิกมือข้างหนึ่งขึ้น มุกพลังวารีลูกหนึ่งไหลเข้ามาอยู่ตรงกลางฝ่ามือในพริบตา หมอกน้ำสีดำสายหนึ่งพวยพุ่งออกมาหุ้มหมัดไว้แล้วต่อยหนึ่งหมัดใส่อากาศดุจสายฟ้าแลบ

เสียงหนักหน่วงดังขึ้นครั้งหนึ่งกลางอากาศ!

พร้อมกับที่เสียงปริแยกดังขึ้น ร่างกายของหนอนปรสิตประหลาดก็ถูกโจมตีปลิวไปอีกครั้ง ครั้งนี้ปลิวออกไปสิบกว่าจั้งกระแทกบนกำแพงเนื้อจุดหนึ่งแล้วกลิ้งตกลงมา

บริเวณลำคอของหนอนปรสิตประหลาดยุบลงไปก้อนหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด ปากพ่นเลือดและเศษกระดูกกับเศษเนื้อออกมาพร้อมกัน ร่างกายที่เหมือนอสรพิษบิดดิ้นอยู่สองสามหน แต่ครู่เดียวหลังจากนั้นก็ไม่กระดิกอีกต่อไป

เวลานี้บนใบหน้าหลิ่วหมิงไม่มีความยินดีแม้แต่น้อย เขาได้ยินเสียงแสกสากดังขึ้นไปมารอบด้านไม่หยุด บนกำแพงเนื้อใกล้ๆ ขยับขยุกขยิกอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็นูนออกมา ทันใดนั้นหนอนปรสิตประหลาดขนาดเท่าครึ่งตัวคนเจ็ดแปดตัวก็ดีดตัวออกมาจากกำแพงเนื้อดังฟุบๆ พุ่งเข้าใส่หลิ่วหมิง

หลิ่วหมิงขมวดคิ้วแน่น สองแขนสะบัดโจมตีหนึ่งหมัดที่เหมือนช้าแต่ความจริงรวดเร็วออกมา

เกิดคลื่นสั่นสะเทือนขึ้นกลางอากาศ เงาหมัดสีดำขมุกขมัวขนาดหนึ่งจั้งกว่าหมัดหนึ่งก่อตัวขึ้นจากความว่างเปล่าล้อมหนอนปรสิตประหลาดที่พุ่งเข้ามาทั้งหมดไว้ตรงกลาง

เสียงดังติดกันเป็นพรวน!

หลังจากหนอนปรสิตประหลาดเจ็ดถึงแปดตัวสัมผัสถูกเงาหมัดเพียงเล็กน้อย ร่างกายของพวกมันก็สั่นสะท้านเหมือนฝัดข้าว เลือดสายแล้วสายเล่าซึมออกมาจากปากและจมูก จากนั้นก็ถูกกระแทกปลิวออกไปอย่างแรง

ยังไม่ทันที่เขาจะโล่งใจ ด้านหลังร่างก็มีเสียงฟึบๆ ดังขึ้นมาอีก หนอนปรสิตประหลาดอีกหลายตัวกระโจนเข้าใส่แผ่นหลังของเขา

“ไม่หมดไม่สิ้นจริงๆ!”

หลิ่วหมิงขมวดคิ้ว ปราณดำบนร่างพวยพุ่ง จากนั้นเท้าก็กระทืบหนักหน่วง ร่างกายเลือนหายไร้ร่องรอยในทันที

หนอนปรสิตประหลาดทั้งหลายกระโจนจับได้แต่ความว่างเปล่า ร่างกายของพวกมันนิ่งงันไปในทันที หัวที่เหมือนกิ้งก่าผงกขึ้นมา ‘มอง’ ไปรอบด้านเหมือนกำลังค้นหาร่างของหลิ่วหมิง

ในเวลาเดียวกันนี้บนกำแพงเนื้อสี่ด้านแปดทิศก็มีหนอนปรสิตประหลาดยี่สิบถึงสามสิบตัวโผล่มาอย่างต่อเนื่องแล้วมารวมตัวกันประหนึ่งฝูงอสรพิษชูคอส่งเสียงดังฟ่อๆ

ครู่หนึ่งหลังจากนั้นเมื่อหนอนปรสิตประหลาดเหล่านี้ค้นหาไม่ประสบผล ร่างกายก็ค่อยๆ เลื้อย แยกย้ายกันไปมุดลงไปในกำแพงเนื้อเหมือนไส้เดือนใหม่อีกครั้ง

เวลานี้ตรงมุมหนึ่งด้านบนของถ้ำกำแพงเนื้อ เงาคนเลือนรางเดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ร่างหนึ่งซ่อนอยู่ เขาก็คือหลิ่วหมิงนั่นเอง

ร่างกายของเขาถูกล้อมด้วยหมอกสีดำเบาบางชั้นหนึ่ง ภาพสัญลักษณ์เชอฮ่วนตรงหัวไหล่ส่องแสงสีน้ำเงินจางๆ เขาเห็นหนอนปรสิตประหลาดทั้งหลายแยกย้ายกันไปแล้ว ร่างกายจึงขยับลอยลงมา ทั้งร่างราวกับภาพลวงตาไม่ได้มีอยู่จริงและไม่แผ่กลิ่นอายออกไปเลยแม้แต่น้อย

หลังจากกลืนกินวิญญาณปีศาจจำนวนมากที่วังหมื่นปีศาจ ภาพสัญลักษณ์เชอฮ่วนก็ใกล้เข้าสู่ขั้นปลาย พลังในการซ่อนเร้นย่อมสำแดงออกมาได้ยอดเยี่ยมกว่าเดิม

พรึ่บ!

หนอนปรสิตประหลาดตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากกำแพงเนื้อใกล้ๆ หลิ่วหมิง ส่วนหัวขยับนิดๆ มาทางที่หลิ่วหมิงอยู่คล้ายสัมผัสอะไรได้

ครู่หนึ่งหลังจากนั้นหนอนปรสิตประหลาดก็ส่ายหัวมุดเข้าไปในกำแพงเนื้อใหม่อีกครั้ง

“ฟู่…”

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ถึงโล่งอกอย่างแท้จริง

พลังในการซ่อนเร้นของภาพสัญลักษณ์เชอฮ่วนทำให้หนอนปรสิตประหลาดอยู่ใกล้เท่านี้ก็ยังสัมผัสไม่ได้ เรื่องนี้ทำให้เขาดีใจเกินคาดอย่างแท้จริง

หลังจากหลิ่วหมิงกวาดสายตาไปรอบด้าน

ถึงค้นพบว่าพื้นที่ตรงหน้าใหญ่เท่าบ้านขนาดเจ็ดแปดห้องหลังหนึ่ง มันเต็มไปด้วยลมกัดกร่อนสีม่วงดังเดิม แต่ลมสีม่วงที่นี่หนาทึบยิ่งกว่าในอุโมงค์ก่อนหน้านี้

ในกำแพงเนื้อรอบด้านมีหนอนปรสิตประหลาดมุดเข้ามุดออกเป็นระยะ

“หนอนปรสิตประหลาดที่นี่เหมือนจะมากผิดปกติ…”

หลิ่วหมิงมองกำแพงเนื้อที่ขยุกขยิกอยู่รอบด้านเป็นระยะแล้วใบหน้าก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมาเล็กน้อย ยังดีที่ตอนนี้เขากลบกลิ่นอายด้วยภาพสัญลักษณ์เชอฮ่วนอยู่จึงไม่ต้องใส่ใจหนอนปรสิตประหลาดเหล่านี้นัก

หลิ่วหมิงพลิกมือข้างหนึ่งเรียกมุกสนองตอบออกมาจากนั้นหลับตาลงสัมผัส

มุกสนองตอบสีทองอ่อนทอแสงเรืองรองระยิบระยับลอยอยู่เบื้องหน้าเขา

“ดูจากขนาดร่างกายของอสูรตัวนี้ด้านนอก ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่ลึกที่สุดในร่างของมันแล้ว ทำไมยังสัมผัสเตาหล่อหลอมจิตวิญญาณไม่ได้แม้แต่น้อยนะ?” ครู่หนึ่งหลังจากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นอีกหนแล้วพึมพำกับตนเอง เห็นชัดว่าไม่ได้ผลแต่ประการใด

ก่อนหน้านี้เขาตรวจดูแล้วว่าพื้นที่ตรงหน้านี้นอกจากทางเข้าที่เขาเพิ่งเข้ามาก็ไม่มีเส้นทางอื่นอีก

“เดินมาถึงทางตันอีกแล้ว…”

หลิ่วหมิงหัวเราะฝืดเฝื่อนแล้วขยับเท้าคิดจะย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อค้นหาเส้นทางอื่น

ทว่าเขาเพิ่งยกเท้าก้าวเดิน ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วหยุดอีกครั้ง บนใบหน้าเผยสีหน้าครุ่นคิดออกมา

“ไม่ถูกสิ…”

เขาเข้ามาในท้องของอสูรยักษ์ได้เกินครึ่งชั่วยามแล้ว เขาค้นหาไปแล้วหลายที่ไม่น้อย แต่สิ่งที่แปลกก็คือจนกระทั่งถึงตอนนี้สิ่งที่ดวงตาเขามองเห็นมีเพียงกำแพงเนื้อกับหนอนปรสิตประหลาดเพียงเท่านั้น

จากคำบอกเล่าของจินเทียนชื่อกับเยี่ยโจ่ง อสูรยักษ์ตัวนี้มีชีวิตอยู่ในเศษซากแห่งโลกบนมานานหลายหมื่นปี วัตถุจิตวิญญาณที่กลืนลงไปในท้องน่าจะมากมายนับไม่ถ้วน แม้ถูกมันกัดกร่อนย่อยสลายไปส่วนหนึ่ง แต่อย่างไรก็น่าจะมีเศษซากเหลืออยู่ในตัวมันบ้าง แต่เขาเดินมาจนถึงตอนนี้ก็ไม่พบแม้แต่เศษเสี้ยว

หลิ่วหมิงเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที เขาตระหนักว่าเขาเหมือนจะเดินเข้ามาผิดที่ วัตถุจิตวิญญาณเหล่านั้นที่อสูรยักษ์กลืนเข้ามาในท้องน่าจะรวมอยู่ในสถานที่พิเศษแห่งหนึ่ง อีกทั้งสถานที่แห่งนั้นน่าจะใช้วิธีทั่วไปค้นหาไม่พบ

“อยู่ที่ไหนนะ?”

ในสมองหลิ่วหมิงพยายามนึกย้อนไปถึงของทุกสิ่งที่มองเห็นตั้งแต่เริ่มเข้ามาในท้องของอสูรยักษ์ พยายามค้นหาเงื่อนงำบางอย่าง

“โพล๊ะ” เสียงคล้ายกับถุงลมแตกดังขึ้นในถ้ำกำแพงเนื้อ

หลิ่วหมิงเลิกคิ้ว เสียงดังมาจากเหนือศีรษะ เขาครุ่นคิดเพียงเล็กน้อยก็ขยับร่างเหาะขึ้นไปบนเพดานของถ้ำเนื้อ

ไม่นานเขาก็หาต้นกำเนิดของเสียงพบ ใบหน้าเผยสีหน้าประหลาดใจ

“นี่มัน…”

ตรงมุมหนึ่งเพดานเนื้อมีถุงสีชมพูขนาดเท่าถังน้ำถุงหนึ่งห้อยอยู่ บนนั้นเต็มไปด้วยเส้นลมปราณสีน้ำเงินมากมายดูคล้ายเส้นเลือด

เวลานี้บนถุงมีรอยขาดรูหนึ่ง หัวสีชมพูขนาดเท่ากำปั้นหัวหนึ่งโผล่ออกมา หลังจากนั้นเพียงครู่เดียวตัวอ่อนปรสิตยาวครึ่งฉื่อตัวหนึ่งก็คืบคลานออกมาจากด้านในอย่างเชื่องช้า

หลิ่วหมิงมองไปรอบด้าน ยังมีถุงที่คล้ายกันอยู่อีกมากมายนัก ทุกระยะห่างสองสามจั้งจะมีถุงเช่นนี้หนึ่งถุง

ที่นี่คือรังของหนอนปรสิต!

ทันทีที่ตัวอ่อนคลานออกมาจากถุง ร่างกายก็ดีดทีหนึ่งร่วงลงบนเพดานของถ้ำเนื้อ ร่างกายเกาะแน่นอยู่ตรงส่วนบนของกำแพงเนื้อแต่ไม่ได้มุดเข้าไปในกำแพงเนื้อ ตรงกันข้ามมันกลับบิดร่างคืบคลานมุ่งหน้าไปยังทางออกอย่างเร็วไว

“…”

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ฉุกคิดบางอย่างได้จึงติดตามไปทันที

ตัวอ่อนเคลื่อนที่รวดเร็วยิ่งนัก เพียงครู่เดียวมันก็คลานมาถึงทางเข้าอุโมงค์ มันแหงนหน้า ‘มองดู’ เล็กน้อยก็ขยับอีกครั้งแล้วมุดเข้าไปอย่างว่องไว

เมื่อเดินทางมาถึงทางแยกสามทางตรงสุดปลายอุโมงค์ ตัวอ่อนก็บิดร่างเข้าไปในอุโมงค์อีกเส้นหนึ่งอย่างเร็วไว

หลิ่วหมิงดวงตาทอประกายวิบวับ เขาเห็นว่าไม่ไกลนักในอุโมงค์เบื้องหน้ามีตัวอ่อนอีกตัวหนึ่งกำลังคลานไปด้านหน้าเช่นกัน

อุโมงค์เส้นนี้เขาน่าจะยังไม่เคยเดินผ่านมาก่อน!

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วติดตามไปต่ออย่างเงียบเชียบ

“เอ๋!”

ผลปรากฏว่าเมื่อหลิ่วหมิงเข้ามาในอุโมงค์ได้ไม่นาน เขาก็ร้องเอ๋ขึ้นมาเบาๆ หลังจากกวาดสายตามองความว่างเปล่ารอบด้าน ทันใดนั้นมือข้างหนึ่งก็คว้าจับเบาๆ ลมสีม่วงสายหนึ่งถูกเขากำไว้ในมือ

เขาถ่ายเทพลังเวทจำนวนหนึ่งในทันใด หลังจากดวงตาทั้งสองข้างทอประกายสีดำ บนใบหน้าก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+