Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1316

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1316 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ร้อยปีแห่งการฝึกปรืออันขมขื่น

 

ภายในโลกแห่งศิลาจารึกบัลลังก์พิภพ วันเวลาไหลเวียนเรียงผ่านไปโดยเงียบ พริบตาเดียวก็เกือบจะครบร้อยปีแล้ว

หวูเฉินมองไปที่โอสถขั้นเทวะเม็ดหนึ่งตรงหน้า กลิ่นสมุนไพรหอมฟุ้งไปทั่ว เขาพูดไม่ออกกล่าวไม่ถูกอยู่นาน

โอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวขั้นเทวะ!

เย่หยวนสามารถทำได้จริงๆโดยที่ใช้เวลาไม่ถึงศตวรรษด้วยซ้ำ!

หวูเฉินยังไม่อยากจะเชื่อสายตาจวบจนตอนนี้ เย่หยวนได้ทำบางอย่างสำเร็จ โดยที่บางอย่างนั้นแม้แต่จอมเทพนิรันดร์ก็ไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น!

เขาพยายามประเมินเย่หยวนในแง่ดีที่สุดแล้ว แต่จำต้องพบว่า สิ่งที่ประเมินไปกลับต่ำกว่าเกณฑ์จนเป็นเรื่องตลก

ชายหนุ่มเบื้องหน้าไม่สามารถตัดสินใจด้วยสามัญสำนึกใดๆได้!

 

“ท่านอาวุโส ในที่สุดก็ทำได้สำเร็จ!”

เย่หยวนรู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน เขาย่อมตระหนักทราบ ความสำเร็จนี้ช่างน่าอัศจรรย์ใจนัก

 

“อืม…สำเร็จแล้ว! เจ้าหนู,เจ้าเกิดมาเพื่อหลอมกลั่นโอสถจริงๆ! สำหรับบางคน มีเวลาร้อยปีก็ยังเข้าใจคุณสมบัติสมุนไพรต่างๆไม่หมดเลยด้วยซ้ำ”

หวูเฉินกล่าวขึ้นพลางถอนหายใจหลากอารมณ์ลึกล้ำ

เย่หยวนศึกษาสมึนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จนเห็นแจ้งทะลุปรุโปร่ง

นับตั้งแต่ที่เข้าสู่สภาวะตัดชั่วฟ้าได้ในตอนนั้น รากฐานความรู้และความเร็วในการเรียนรู้ของเขาก็สูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

สมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกันมาก แต่นั้นก็หาได้หมายความว่ามันจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เย่หยวนสามารถนำสมุนไพรวิญญาณต่างๆมาหาจุดที่เชื่อมโยงกัน และค่อยๆขยายขอบเขตความรู้ความเข้าใจในแบบของเขาใหม่

หลังจากนั้นเขาก็เข้าใจคุณสมบัติของสมุนไพรแต่ละชนิดได้อย่างรวดเร็ว

ถึงเส้นทางในศาสตร์แห่งค่ายกลของเย่หยวนยังไม่ดีเท่าศาสตร์แห่งโอสถ แต่จวบจนวันนี้กล่าวได้ว่า อัตราความก้าวหน้าสูงลิบลิ่ว

ค่ายกลที่ใช้เพื่อหลอมกลั่นโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาว มันซับซ้อนเสียยิ่งกว่าค่ายกลปราณเทวะชั้นต้นไม่รู้กี่หมื่นเท่า

แต่เย่หยวนใช้เวลาเพียงยี่สิบปีก็สามารถเข้าใจทั้งหมดได้โดยละเอียด!

 

“ท่านอาวุโส ท่านเคยกล่าวว่า เพราะข้าเคยเข้าสู่สภาวะตัดชั่วฟ้าได้ จึงทำให้ข้ามีจุดเชื่อมต่อไปถึงอัตตา นั้นเป็นเหตุผลที่ความเข้าใจของข้าต่อเต๋าลึกซึ้งยิ่งขึ้น จนนำมาสู่ความเร็วในการเรียนรู้ที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ที่ผ่านมาถึงได้ราบรื่นนัก”

เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

 

“ก็เป็นเช่นนั้นถูกแล้ว แต่การที่เจ้าสามารถดำดิ่งเข้าสู่สภาวะตัดชั่วฟ้าได้ในตอนนั้น มันแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเรียนรู้ของเจ้าเช่นกัน เจ้าหนู,เจ้านี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ!”

หวูเฉินกล่าว คู่แววตายังคงงำประหลาดแววตื่นตะลึงหาคลายอ่อนไม่

 

“หุหุ ขอบพระคุณยิ่งสำหรับคำชมของท่านอาวุโส ยามนี้ข้าควรกลืนโอสถเม็ดนี้ก่อนเป็นดีที่สุด! ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของข้าถูกทำลายมาเป็นเวลาสิบปีเต็ม กายาไร้ซึ่งร่องรอยพลังปราณเทวะใดๆ ตัวข้าแทบพิการถาวรเต็มทีแล้ว!”

 

เย่หยวนไม่สามารถรีรอได้อีกแล้ว หากยังปล่อยไว้เช่นนี้ เขาจะกลายเป็น‘คนพิการ’โดยสมบูรณ์

เมื่อโอสถไหลลงสู่กระเพาะ ฤทธิ์โอสถคล้ายมวลน้ำป่ามหึมาพลันไหลบ่าอาบทั่วแขนขา ไขกระดูกทั้งหมดในร่างกายของเขาทันที

 

ไม่นานเกินรอ เย่หยวนสัมผัสได้ชัดแจ้ง ยามนี้ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขากำลังถูกซ่อมแซมทีละเล็กละน้อยแล้ว

โอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวนับว่าสมชื่อคำเลื่องลือโดยแท้!

ในที่สุด ศตวรรษแห่งความเพียรก็บรรลุผลแล้วในปัจจุบัน

แม้โอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวจะเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง แต่ความยากในการหลอมกลั่นกลับคนละโลก

เย่หยวนใช้ความเพียรพยายามขนาดไหนในช่วงร้อยปีมานี้ มีเพียงหวูเฉินเท่านั้นที่ตระหนักทราบ

 

“โอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวช่างเป็นโอสถมหัศจรรย์โดยแท้ มันสามารถกระตุ้นศาสตร์แห่งสวรรค์ในร่างกายและซ่อมแซมทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ได้จริงๆ!”

เย่หยวนอุทานลั่นด้วยความตื่นตะลึง

 

หวูเฉินกล่าวว่า

“แน่นอน! มิใช่ว่าโอสถอื่นใดก็ตามที่ลุถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์จะได้การยอมรับจากศาสตร์แห่งสวรรค์เสียหมด! ด้วยอาการบาดเจ็บของเจ้าตอนนี้ มีเพียงโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวเท่านั้นที่สามารถรักษาได้ แต่นี่ก็ไม่รับประกันเช่นกันว่า ในอนาคตจะมีผลข้างเคียงใดแฝงเร้นหรือไม่”

 

เย่หยวนพยักหน้าเชิงสัญญาณว่าเข้าใจ

แม้โอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวจะสามารถซ่อมแซมทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ส่วนที่ว่ามันจะส่งผลข้างเคียงอะไรหรือไม่ในการฝึกปรือในอนาคต เรื่องนี้กลับไม่มีใครทราบ

แต่อย่างลืมไปเสีย นี่เป็นถึงโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวขั้นเทวะ!

 

กระบวนการดูดซับฤทธิ์โอสถกินเวลาถึงสิบวันสิบคืนเต็ม!

 

โอสถตราสวรรค์หนึ่งดาว คล้ายกับมียอดปรมาจารย์เข้าซ่อมแซมฟื้นฟูทะเลจจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวน จนเริ่มกลับกลายเป็นปกติทีละเล็กน้อย

ในที่สุดร่องรอยพลังวิญญาณจากภายนอกก็ค่อยๆไหลบ่าเข้าสู่กายาเย่หยวนได้ หลังจากปรับแต่งโคจรไปครู่หนึ่ง มันก็กลายเป็นพลังปราณเทวะพร้อมหลั่งไหลเข้าสู่ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์!

 

เย่หยวนในยามนี้รู้สึกถึงความแข็งแกร่งอีกครั้ง การที่ได้ควบคุมพลังปราณเทวะดั่งใจนึก ช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!

 

 

………………………..

 

 

“เย่หยวนปลีกวิเวกเก็บตัวอยู่ในหอมหาสมบัติเป็นเวลาสิบปีแล้ว! กองโอสถที่เขาทิ้งไว้ให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเกินไป จนขายหมดไปตั้งแต่สองปีก่อน! ตอนนี้กลับมาให้นักหลอมโอสถของทางเรามาหลอมกลั่นเหมือนเดิม คุณภาพกลับสู้ไม่ได้เลย! ส่วนเจ้าพวกตระกูลหวังเองก็ผ่านช่วงวิกฤติมาได้แล้ว ตอนนี้พวกมันกำลังเงยหัวขึ้นอีกครั้ง!”

 

นับตั้งแต่เหตุการณ์ของเหลียงหวางหรูเมื่อสิบปีก่อน หอมหาสมบัติก็ได้รับความนิยมอย่างยิ่งจนสามารถปราบปรามสามตระกูลใหญ่ได้อย่างอยู่หมัด

อาจกล่าวได้ว่า ที่มีทุกวันนี้ได้เพราะยืมมือคนอื่น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโอสถปราณเทวะและโอสถล้างพิษที่เย่หยวนทิ้งเอาไว้ให้ ไม่ว่าคุณภาพจะเป็นระดับขั้นใด ขอได้ชื่อว่าเย่หยวนหลอมกลั่นกับมือ พวกมันล้วนได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม

คุณภาพโอสถของเย่หยวนสูงกว่าโอสถระดับขั้นเดียวกันมาก นอกจากนี้ ด้วยปริมาณโอสถของเย่หยวนที่มีอย่างจำกัด พวกมันจึงได้รับความนิยมเป็นเท่าทวี

ปริมาณโอสถที่เขาทิ้งให้ไว้มีมหาศาลก็จริง แต่นั้นกลับไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าได้เลย

ช่วงสิบปีมานี้ หอมหาสมบัติเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ยิ่งโอสถที่เย่หยวนทิ้งไว้ให้ลดน้อยลง ทางหอมหาสมบัติจำเป็นต้องเพิ่มราคา หวังเพื่อชะลอวิกฤติในภายหน้า

ถึงกระนั้น เหล่าฝูงชนกลับยอมควักเงินในจำนวนที่มากขึ้นโดยไม่ลังเล

ผู้ที่ย่างเท้าเข้าร้านค้าย่อมมีเงินไม่ขาดมือ

 

ในที่สุดโอสถที่เย่หยวนทิ้งไว้ให้จึงหมดลงไปตั้งแต่สองปีก่อน

เวลานั้นนับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของหอมหาสมบัติ ประสิทธิภาพสินค้าของพวกเขาตกฮวบ

 

ท้ายที่สุด ทางฝ่ายสามตระกูลใหญ่ได้โอกาสและเริ่มโต้กลับทันควัน เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดทันที

เย่หยวนไม่เคยออกจากการเก็บตัวมาเลยแม้นสักครั้ง ซึ่งนี่ทำให้ซูหลิงปู้วิตกกังวลใจยิ่ง

แต่หยางรุยกลับหาได้พะว้าพะวังอันใด เขากล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า

“เฒ่าซู สายตาของเจ้าคับแคบเกินไป! หากพวกมันอยากวิ่งเล่นก็ปล่อยไป รอให้พวกมันกระโดดโลดเต้นจนกว่าจะเหนื่อย!”

 

ซูหลิงปู้คลี่ยิ้มสุดแสนขมขื่นกล่าวว่า

“ข้าเองก็สงสัยมานานแล้ว ไฉนท่านประมุขหอถึงหาได้กังวลใจไม่? สถานการณ์ปัจจุบันอาจนำพาเราไปสู่ความตกอับดั่งกาลอดีตอีกครั้ง”

 

หยางรุยกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า

“แล้วอย่างไร? เจ้าลืมไปแล้วหรือว่า พวกเรายังมีเย่หยวน! ในตอนนั้นเขาใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นก็สามารถหลอมกลั่นโอสถล้างพิษขั้นเทวะได้ แล้วนี่ถึงขั้นเก็บตัวเป็นเวลาสิบปีเต็ม เจ้าลองคิดดู เมื่อเขาออกมาอีกครั้ง ความแกร่งกล้าในศาสตร์แห่งโอสถของเขาจะบรรลุสูงล้ำเพียงใด?”

คู่ดวงตาไสวของซูหลิงปู้เปล่งประกายขึ้นทันใด ก่อนจะพบว่าสายตาของตนยังคับแคบมองการณ์ไม่ขาดจริงๆ

เขาลืมไปสนิท สิ่งหนึ่งที่แตกต่างไปจากเมื่อก่อนคือ ยามนี้หอมหาสมบัติมีเย่หยวน!

ตราบใดที่ยังมีเย่หยวน หอมหาสมบัติสามารถกลับขึ้นมาผงาดได้ทุกเมื่อ!

 

ยิ่งไปกว่านั้น เย่หยวนเก็บตัวถึงสิบปีเต็ม มีเพียงสวรรค์ที่ทรงทราบ เส้นทางแห่งโอสถของเขาก้าวล้ำไปไกลถึงไหนแล้ว!

 

ซูหลิงปู้กล่าวขึ้นว่า

“ท่านประมุขหอ ท่านคิดว่า…เย่หยวนสามารถหลอมกลั่นโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวได้สำเร็จหรือไม่?”

 

หยางรุยส่ายหัวกล่าว

“เจ้าเองก็เป็นนักหลอมโอสถ คำถามนี้เจ้าน่าจะเจนจัดยิ่งกว่าใคร แต่หากในความเห็นของข้า หลอมกลั่นโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวภายในระยะสิบปียังคงเร็วเกินไป แต่…พวกเรารอได้!”

 

ซูหลิงปู้ยังพลางคิดไปว่า คำถามของตนค่อนข้างไร้สาระเกินไปเช่นกัน ความยากในการหลอมกลั่นโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาว กล่าวได้ว่าเข้าขั้นวิปลาส

ต่อให้เป็นจอมเทพโอสถสองดาว แต่คนที่สามารถหลอมกลั่นได้ก็น้อยจนนับนิ้ว

เป็นความจริงที่พรสวรรค์ในการหลอมกลั่นโอสถของเย่หยวนสูงจนวิปลาส แต่หากต้องการข้ามขั้นไปถึงจุดนั้นเกรงไม่มีทางภายในสิบปี

 

“ท่านประมุขหอ เช่นนั้น ซูคนนี้ขอลา”

เมื่อกล่าวจบ ซูหลิงปู้ก็จากออกมาทันที

 

“ผู้จัดการซู!”

ขณะที่ซูหลิงปู้กำลังเดินกลับไปยังโถงต้อนรับ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจนเขาชะงักฝีเท้าลงทันที

เขาเร่งเหลียวมองตามสุ้มเสียง พลางกล่าวขึ้นด้วยความดีใจอย่างอดมิได้

“เย่หยวน! ในที่สุดเจ้าก็ออกมา! หากเจ้ายังไม่ออกจากการเก็บตัวอีกสักปีสองปี เกรงว่าหอมหาสมบัติของเราจำต้องย้ายสาขาเสียแล้ว!”

 

เย่หยวนหัวเราะเก้อแก้เขินเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า

“ผู้จัดการซูมากอารมณ์ขันนัก ในเมื่อเย่คนนี้ยังอยู่ ทางหอมหาสมบัติยังต้องเสียแรงย้ายถิ่นฐานไปไหน?”

 

ซูหิงปู้แผดเสียงหัวเราะตอบๆเล็กน้อย แต่ทันทีทันใดเขาพลันถอดสีหน้าก่อนอุทานลั่นอย่างตะกุกตะกักว่า

“จะ-จะ-เจ้า…ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าหายดีแล้ว?”

 

เย่หยวนในปัจจุบันแตกต่างจากก่อนหน้าลิบลับ ยามนี้ทั่วร่างกายของเขาปลดปล่อยรัศมีแรงกดดันสุดน่าเกรงขามกว่าใครๆ ราวกับมิใช่คนพิการดั่งก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง!

 

ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนได้รับการซ่อมแซมจนกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด