Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1888 กดหัวเทพสวรรค์

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1888 กดหัวเทพสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่หยวนมองดูที่เขาลูกยักษ์ตรงหน้าด้วยจิตใจที่เย็นเยือก

ไม่มีใครเข้าใจไปได้ดีกว่าเขาว่าเขาน้อยแห่งถงเทียนนั้นมันคืออะไร

มันคือแหล่งกำเนิดเต๋า เป็นจุดต้นของยอดเต๋าแห่งถงเทียน

เย่หยวนนั้นเชื่อมต่อมันเข้ากับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ย่อมจะหมายความว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้มันมิใช่โลกใบน้อยที่แสนเปราะบางอีกต่อไป

ต่อหน้ายอดเต๋าของถงเทียนนี้ ต่อให้จะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้วมันจะทำไม?

“เจี่ยวชาง ความแค้นของเราในครานี้มีฟ้าดินเป็นพยาน! วันนี้ข้าอ่อนแอเกินกว่าที่จะสังหารเจ้าลงได้ แต่…สักวันหนึ่งข้าจะเข้าไปลากวิญญาณของเจ้าลงนรกเอง! ไปเสีย!”

เย่หยวนสะบัดมือหนึ่งครั้งก่อนจะส่งเขาลูกนั้นให้จางหายไป ก่อนจะเกิดกลุ่มเมฆสีดำพุ่งพวยขึ้นไปยังท้องฟ้า

“เด็กน้อย จักรพรรดิผู้นี้จะจำเรื่องราวในวันนี้ไว้! หลังเจ้ากลับมายังมหาพิภพถงเทียนแล้ว… เจ้าจะต้องไม่ได้ตายดีแน่!”

ปัง!

เมฆดำนั้นเปิดช่องว่างมิติขึ้นและพุ่งตัวจางหายไป

เมื่อเห็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางจากไปเช่นนั้นเย่หยวนก็ได้แต่มองดูมันด้วยความเสียดาย

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ได้กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใหม่แล้ว

แต่พลังฝีมือของเขายังอ่อนแอนัก!

แน่นอนว่ายอดฝีมืออาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันย่อมฆ่าไม่ตายง่ายๆ

ที่สำคัญนี่ยังเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางผู้ที่ขึ้นชื่อในเผ่าปีศาจว่าเป็นคนที่อึดถึกทนที่สุด

เมื่อต้องเจอกับยอดฝีมือประเภทนี้ เขาย่อมไม่สามารถฆ่าสังหารอีกฝ่ายลงได้

ที่สำคัญหากไม่ใช่เพราะจอมเทพนิรันดร์สร้างบาดแผลอันหนักหนาให้แก่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางไว้ แม้ว่าเย่หยวนจะหยิบเขาน้อยแห่งถงเทียนออกมามันก็คงเป็นการยากที่จะหลบหนีความตาย

แต่หลังจากวันนี้ไปจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางเองก็คงต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานับหมื่นๆ ปี

ฟุบ ฟุบ…

สองเงาร่างสีดำนั้นพุ่งตัวขึ้นท้องฟ้าไปคิดที่จะหลบหนีตามจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางเพื่อกลับสู่มหาพิภพถงเทียน

เย่หยวนมองดูที่เงาทั้งสองก่อนจะหัวเราะออกมา “สังหารเจี่ยวชางไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่สังหารพวกเจ้า! ในเมื่อเจ้ามาแล้วก็อยู่ที่นี่ตลอดไปเถอะ!”

แค่สะบัดมือเขาลูกยักษ์นั้นก็ปรากฏออกมาอีกครั้ง

ปัง!

สองยอดฝีมือเผ่าปีศาจนั้นถูกเขาน้อยแห่งถงเทียนกดทับอย่างไม่อาจขัดขืนจนร่างแหลกเป็นฝุ่นผงทันที

คนทั้งสองนี้คือเทพสวรรค์ขั้นต้น เทียบกับเจี่ยวชางแล้วมันย่อมเหมือนนรกกับสวรรค์

หากเย่หยวนคิดอยากสังหารเขา มันย่อมง่ายดาย

เพียงแค่ว่าในสายตาคนอื่นแล้วเรื่องมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

จ่าวมินและตู้หงทั้งสองมีใบหน้าที่ซีดเซียว

ตั้งแต่ที่พวกเขาขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์มาพวกเขาต่างไม่เคยพบเจอกับพลังกดดันที่มหาศาลขนาดนี้มาก่อน

“นี่มัน…เรื่องนี้…เย่หยวน เรื่องราวก่อนหน้านั้นล้วนแต่เป็นความเข้าใจผิด” จ่าวมินร้องบอกด้วยใบหน้าเหยเก

เย่หยวนหัวมองอย่างเย็นชา “ตอนนี้เจ้ากลับมาบอกว่ามันเข้าใจผิด? ระหว่างทางมาทั้งศิษย์นภาสวรรค์ของเจ้าก็คิดฆ่าสังหารข้า ผู้อาวุโสเทพถ่องแท้ของเจ้าก็คิดจัดการข้าลง แถมยังมีเจ้า เทพสวรรค์คนนี้ที่คิดขู่จะฆ่าข้า แต่ตอนนี้เจ้ากลับมีหน้ามาบอกว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน?”

จ่าวมินหน้าซีดเผือดลงทันทีก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างจนปัญญา “เจ้า…เจ้าสังหารข้าไม่ได้! ข้า…ข้าคือยอดผู้อาวุโสจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างนะ!”

เย่หยวนหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้าง? มันคือที่ไหนกัน? เจ้าคิดว่าข้าที่กล้าท้าทายจักรพรรดิเทพสวรรค์จะมาสนใจเรื่องลบหลู่เมืองน้อยๆ ของเจ้าหรือ?”

เมื่อจ่าวมินได้ยินเขาก็หน้าเสียไปทันที

ใช่แล้ว!

เย่หยวนนั้นท้าทายตัวตนระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์อย่างเจี่ยวชางไปแล้ว มีหรือที่เขาจะมาสนใจเรื่องอย่างยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างนี้?

“เอาล่ะ ไม่ต้องหวังให้เหนื่อยแล้ว! พวกเจ้าห้ามไปไหนทั้งสิ้น!”

พูดจบเย่หยวนก็ชี้นิ้วออกมาทำให้ท้องฟ้าแผ่นดินเปลี่ยนสี

ตอนนี้ลายพระเจ้าหลายต่อหลายลายได้ไหลมารวมกันที่ปลายนิ้วของเขาก่อนจะพุ่งตัวออกมา

“อ่อก!”

“อ่อก!”

“อ่อก!”

จีคัง จี้ฉุน ฉูชิงทั้งหลายต่างแตกสลายกลายเป็นผง

เทพสวรรค์โหมวหยู่ที่หลบซ่อนอยู่ในจิตศักดิ์สิทธิ์ของจี้ฉุนเองก็ได้ถูกทำลายไปพร้อมๆ กับเจ้าของร่างเช่นกัน

จ่าวมินเบิกตากว้างก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปจับคว้าเล้งชิวหลิงไว้

เรื่องราวในครั้งนี้มันเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันไม่มีใครที่จะรับมือได้ทัน

เพียงแต่ว่าแม้เขาจะเร็ว แต่ก็ยังไม่เร็วเท่าเย่หยวน!

เพราะในพริบตาเดียวนี้เย่หยวนกลับเข้ามาขวางหน้าเล้งชิวหลิงไว้ก่อนแล้ว

ปัง!

เย่หยวนชี้นิ้วออกส่งร่างของจ่าวมินกระเด็นกลับออกไปอย่างไม่มีท่าทีจะต่อต้านได้

เวลานั้นเองเขายักษ์ลูกนั้นก็ตกร่วงลงมาอีกครั้ง

ตู้ม!

เหล่ายอดฝีมือเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างถูกเย่หยวนกดหัวจนเสียชีวิตไปหลายต่อหลายคน

คนอื่นๆ ก็ได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่ที่จะหายใจ

ภายใต้เต๋าสวรรค์ใหม่นี้ เย่หยวนช่างแข็งแกร่งเสียเหลือเกิน!

และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเขาลูกนั้นที่มันสามารถฆ่าสังหารเทพสวรรค์ได้เหมือนฆ่าหมูฆ่าหมา!

เมื่อจัดการเรื่องเรียบร้อยเย่หยวนก็ได้ชี้นิ้วออกไปด้านหน้าทำให้เกิดหลุมดำขึ้นมา

“พวกเจ้าทั้งหลายไปเสีย!” เย่หยวนบอก

นั่นทำให้คนทั้งหลายต่างหันมามองเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ตู้หงเป็นคนแรกที่กล่าวถามขึ้นมา “เจ้า…เจ้าจะปล่อยพวกเราไปจริงๆ?”

ในวินาทีนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มันก็ไม่ต่างจากกรงขังขนาดใหญ่ของพวกเขา

ภายในกรงนี้ไม่ว่าจะเป็นยอดคนมาจากไหนมันก็ต้องก้มหัวให้แก่เย่หยวน

หากเป็นตัวพวกเขาทั้งหลายเอง พวกเขาคงไม่มีทางปล่อยให้มีผู้รู้เห็นกลับไป

แต่เย่หยวนกลับปล่อยพวกเขาไป

เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงไม่คิดอยากเชื่อและคิดว่าเย่หยวนอาจจะกำลังวางแผนหลอกลวงอะไรสักอย่างอยู่

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่น “ก่อนข้าจะเปลี่ยนใจ รีบไปเสีย!”

ตู้หงหน้าถอดสีทันทีที่ได้ยินเขาพุ่งร่างเข้าไปยังหลุมดำนั้นอย่างไม่คิดลังเลอีก

และตามคาดว่าเย่หยวนไม่ได้คิดจะห้ามใดๆ

ด้วยการนำของตู้หง เหล่าคนทั้งหลายเองก็รู้สึกเหมือนได้ยกเขาออกจากอกรีบตามผู้นำออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ทันที

เย่หยวนหันมาถามเล้งชิวหลิง “เจ้าจะเอาอย่างไรต่อ?”

เล้งชิวหลิงหันไปมองที่กู่เทียนเฉทีหันมามองที่เย่หยวนที ก่อนจะส่ายหัวออกมา “ข้า…ข้าก็ไม่ทราบ”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปก่อนจะหยิบหินรุ้งเจ็ดสีออกมาโยนให้แก่กู่เทียนเฉ “ผู้อาวุโสกู่ เย่หยวนนั้นได้รับการดูแลจากท่านอย่างดีมานานและไม่มีอะไรจะตอบแทนได้ ถือเสียว่าเจ้าหินรุ้งเจ็ดสีนี้เป็นของตอบแทนท่านแล้วกัน!”

กู่เทียนเฉเบิกตากว้างก่อนจะมองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตกใจ “นี่มัน…หลายชายคงไม่ได้ล้อเล่น?”

ด้วยเจ้าหินรุ้งเจ็ดสีนี้เขามีความมั่นใจอย่างมากว่าตัวเองจะสามารถบรรลุขึ้นสู่อาณาจักรเทพสวรรค์ได้

ถึงตอนนั้นต่อให้เป็นยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างแล้วจะทำไม?

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ผู้อาวุโสกู่ ท่านเองก็ถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เมื่อออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วท่านคงไม่มีทางกลับขึ้นเป็นเจ้าเมืองได้อีก เดิมทีต่อหน้าจี้ฉุนผู้อาวุโสกู่ท่านเองก็ได้ปกป้องข้าไว้ เจ้าหินรุ้งเจ็ดสีนี้ถือว่าเป็นคำขอบคุณจากข้า เย่หยวนคนนี้ ส่วนเรื่องของชิวหลิง นางคงไม่อาจกลับไปยังเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยานได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นจากวันนี้ไปหากนางต้องการนางคงร่วมเดินทางกับข้าไป”

เย่หยวนนั้นสังหารยอดฝีมือจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างไปมากมาย แถมยังแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์อย่างชัดเจนด้วย

กู่เทียนเฉและเล้งชิวหลิงนั้นเป็นสองคนที่สนิทกับเขามากที่สุด แน่นอนว่าทุกผู้คนย่อมเห็นและรับทราบดี

หากพวกเขากลับไปแล้วมันคงไม่มีเรื่องดีๆ รอคอยอยู่แน่

กู่เทียนเฉนั้นต่างจากเล้งชิวหลิง เขานั้นเพียงแค่คิดว่าเย่หยวนนั้นมาจากค่ายสำนักใหญ่จึงพยายามที่จะเอาอกเอาใจเย่หยวนก็เท่านั้น

ตอนที่ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงหินรุ้งเจ็ดสีเย่หยวนก็ได้เห็นธาตุแท้ของกู่เทียนเฉไปแล้ว

ส่วนเรื่องของเล้งชิวหลิง เย่หยวนนั้นมองนางว่าเป็นสหายสนิทคนหนึ่งไปแล้วเรื่องราวมันย่อมแตกต่าง

กู่เทียนเฉรีบตอบกลับมา “หึๆ การที่เฒ่าคนนี้ได้หินรุ้งเจ็ดสีไปเช่นนี้เฒ่าคนนี้คงต้องเริ่มเข้าการเก็บตัวในทันทีและคงไม่มีโอกาสไปดูแลชิวหลิงอีก เช่นนั้นข้าคงต้องขอให้หลานเย่คอยดูแลศิษย์คนนี้ให้ข้าด้วย”

ในสายตาของเขานั้นเย่หยวนสนใจตัวนางเล้งชิวหลิง ทำให้เขากล้าที่จะเสียมากขนาดนี้

เล้งชิวหลิงนั้นยังคงมีใบหน้าที่เรียบเฉยแต่สายตาของนางนั้นเปี่ยมไปด้วยความผิดหวัง

เย่หยวนย่อมเข้าใจดีว่ากู่เทียนเฉกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว แต่เย่หยวนเองก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรให้ยืดยาว เขาทำแค่เพียงยกมือขึ้นมาคารวะ “ผู้อาวุโสกู่ ดูแลตัวเองด้วย”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1888 กดหัวเทพสวรรค์

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1888 กดหัวเทพสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่หยวนมองดูที่เขาลูกยักษ์ตรงหน้าด้วยจิตใจที่เย็นเยือก

ไม่มีใครเข้าใจไปได้ดีกว่าเขาว่าเขาน้อยแห่งถงเทียนนั้นมันคืออะไร

มันคือแหล่งกำเนิดเต๋า เป็นจุดต้นของยอดเต๋าแห่งถงเทียน

เย่หยวนนั้นเชื่อมต่อมันเข้ากับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ย่อมจะหมายความว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้มันมิใช่โลกใบน้อยที่แสนเปราะบางอีกต่อไป

ต่อหน้ายอดเต๋าของถงเทียนนี้ ต่อให้จะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้วมันจะทำไม?

“เจี่ยวชาง ความแค้นของเราในครานี้มีฟ้าดินเป็นพยาน! วันนี้ข้าอ่อนแอเกินกว่าที่จะสังหารเจ้าลงได้ แต่…สักวันหนึ่งข้าจะเข้าไปลากวิญญาณของเจ้าลงนรกเอง! ไปเสีย!”

เย่หยวนสะบัดมือหนึ่งครั้งก่อนจะส่งเขาลูกนั้นให้จางหายไป ก่อนจะเกิดกลุ่มเมฆสีดำพุ่งพวยขึ้นไปยังท้องฟ้า

“เด็กน้อย จักรพรรดิผู้นี้จะจำเรื่องราวในวันนี้ไว้! หลังเจ้ากลับมายังมหาพิภพถงเทียนแล้ว… เจ้าจะต้องไม่ได้ตายดีแน่!”

ปัง!

เมฆดำนั้นเปิดช่องว่างมิติขึ้นและพุ่งตัวจางหายไป

เมื่อเห็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางจากไปเช่นนั้นเย่หยวนก็ได้แต่มองดูมันด้วยความเสียดาย

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ได้กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใหม่แล้ว

แต่พลังฝีมือของเขายังอ่อนแอนัก!

แน่นอนว่ายอดฝีมืออาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันย่อมฆ่าไม่ตายง่ายๆ

ที่สำคัญนี่ยังเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางผู้ที่ขึ้นชื่อในเผ่าปีศาจว่าเป็นคนที่อึดถึกทนที่สุด

เมื่อต้องเจอกับยอดฝีมือประเภทนี้ เขาย่อมไม่สามารถฆ่าสังหารอีกฝ่ายลงได้

ที่สำคัญหากไม่ใช่เพราะจอมเทพนิรันดร์สร้างบาดแผลอันหนักหนาให้แก่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางไว้ แม้ว่าเย่หยวนจะหยิบเขาน้อยแห่งถงเทียนออกมามันก็คงเป็นการยากที่จะหลบหนีความตาย

แต่หลังจากวันนี้ไปจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางเองก็คงต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานับหมื่นๆ ปี

ฟุบ ฟุบ…

สองเงาร่างสีดำนั้นพุ่งตัวขึ้นท้องฟ้าไปคิดที่จะหลบหนีตามจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางเพื่อกลับสู่มหาพิภพถงเทียน

เย่หยวนมองดูที่เงาทั้งสองก่อนจะหัวเราะออกมา “สังหารเจี่ยวชางไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่สังหารพวกเจ้า! ในเมื่อเจ้ามาแล้วก็อยู่ที่นี่ตลอดไปเถอะ!”

แค่สะบัดมือเขาลูกยักษ์นั้นก็ปรากฏออกมาอีกครั้ง

ปัง!

สองยอดฝีมือเผ่าปีศาจนั้นถูกเขาน้อยแห่งถงเทียนกดทับอย่างไม่อาจขัดขืนจนร่างแหลกเป็นฝุ่นผงทันที

คนทั้งสองนี้คือเทพสวรรค์ขั้นต้น เทียบกับเจี่ยวชางแล้วมันย่อมเหมือนนรกกับสวรรค์

หากเย่หยวนคิดอยากสังหารเขา มันย่อมง่ายดาย

เพียงแค่ว่าในสายตาคนอื่นแล้วเรื่องมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

จ่าวมินและตู้หงทั้งสองมีใบหน้าที่ซีดเซียว

ตั้งแต่ที่พวกเขาขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์มาพวกเขาต่างไม่เคยพบเจอกับพลังกดดันที่มหาศาลขนาดนี้มาก่อน

“นี่มัน…เรื่องนี้…เย่หยวน เรื่องราวก่อนหน้านั้นล้วนแต่เป็นความเข้าใจผิด” จ่าวมินร้องบอกด้วยใบหน้าเหยเก

เย่หยวนหัวมองอย่างเย็นชา “ตอนนี้เจ้ากลับมาบอกว่ามันเข้าใจผิด? ระหว่างทางมาทั้งศิษย์นภาสวรรค์ของเจ้าก็คิดฆ่าสังหารข้า ผู้อาวุโสเทพถ่องแท้ของเจ้าก็คิดจัดการข้าลง แถมยังมีเจ้า เทพสวรรค์คนนี้ที่คิดขู่จะฆ่าข้า แต่ตอนนี้เจ้ากลับมีหน้ามาบอกว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน?”

จ่าวมินหน้าซีดเผือดลงทันทีก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างจนปัญญา “เจ้า…เจ้าสังหารข้าไม่ได้! ข้า…ข้าคือยอดผู้อาวุโสจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างนะ!”

เย่หยวนหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้าง? มันคือที่ไหนกัน? เจ้าคิดว่าข้าที่กล้าท้าทายจักรพรรดิเทพสวรรค์จะมาสนใจเรื่องลบหลู่เมืองน้อยๆ ของเจ้าหรือ?”

เมื่อจ่าวมินได้ยินเขาก็หน้าเสียไปทันที

ใช่แล้ว!

เย่หยวนนั้นท้าทายตัวตนระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์อย่างเจี่ยวชางไปแล้ว มีหรือที่เขาจะมาสนใจเรื่องอย่างยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างนี้?

“เอาล่ะ ไม่ต้องหวังให้เหนื่อยแล้ว! พวกเจ้าห้ามไปไหนทั้งสิ้น!”

พูดจบเย่หยวนก็ชี้นิ้วออกมาทำให้ท้องฟ้าแผ่นดินเปลี่ยนสี

ตอนนี้ลายพระเจ้าหลายต่อหลายลายได้ไหลมารวมกันที่ปลายนิ้วของเขาก่อนจะพุ่งตัวออกมา

“อ่อก!”

“อ่อก!”

“อ่อก!”

จีคัง จี้ฉุน ฉูชิงทั้งหลายต่างแตกสลายกลายเป็นผง

เทพสวรรค์โหมวหยู่ที่หลบซ่อนอยู่ในจิตศักดิ์สิทธิ์ของจี้ฉุนเองก็ได้ถูกทำลายไปพร้อมๆ กับเจ้าของร่างเช่นกัน

จ่าวมินเบิกตากว้างก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปจับคว้าเล้งชิวหลิงไว้

เรื่องราวในครั้งนี้มันเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันไม่มีใครที่จะรับมือได้ทัน

เพียงแต่ว่าแม้เขาจะเร็ว แต่ก็ยังไม่เร็วเท่าเย่หยวน!

เพราะในพริบตาเดียวนี้เย่หยวนกลับเข้ามาขวางหน้าเล้งชิวหลิงไว้ก่อนแล้ว

ปัง!

เย่หยวนชี้นิ้วออกส่งร่างของจ่าวมินกระเด็นกลับออกไปอย่างไม่มีท่าทีจะต่อต้านได้

เวลานั้นเองเขายักษ์ลูกนั้นก็ตกร่วงลงมาอีกครั้ง

ตู้ม!

เหล่ายอดฝีมือเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างถูกเย่หยวนกดหัวจนเสียชีวิตไปหลายต่อหลายคน

คนอื่นๆ ก็ได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่ที่จะหายใจ

ภายใต้เต๋าสวรรค์ใหม่นี้ เย่หยวนช่างแข็งแกร่งเสียเหลือเกิน!

และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเขาลูกนั้นที่มันสามารถฆ่าสังหารเทพสวรรค์ได้เหมือนฆ่าหมูฆ่าหมา!

เมื่อจัดการเรื่องเรียบร้อยเย่หยวนก็ได้ชี้นิ้วออกไปด้านหน้าทำให้เกิดหลุมดำขึ้นมา

“พวกเจ้าทั้งหลายไปเสีย!” เย่หยวนบอก

นั่นทำให้คนทั้งหลายต่างหันมามองเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ตู้หงเป็นคนแรกที่กล่าวถามขึ้นมา “เจ้า…เจ้าจะปล่อยพวกเราไปจริงๆ?”

ในวินาทีนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มันก็ไม่ต่างจากกรงขังขนาดใหญ่ของพวกเขา

ภายในกรงนี้ไม่ว่าจะเป็นยอดคนมาจากไหนมันก็ต้องก้มหัวให้แก่เย่หยวน

หากเป็นตัวพวกเขาทั้งหลายเอง พวกเขาคงไม่มีทางปล่อยให้มีผู้รู้เห็นกลับไป

แต่เย่หยวนกลับปล่อยพวกเขาไป

เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงไม่คิดอยากเชื่อและคิดว่าเย่หยวนอาจจะกำลังวางแผนหลอกลวงอะไรสักอย่างอยู่

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่น “ก่อนข้าจะเปลี่ยนใจ รีบไปเสีย!”

ตู้หงหน้าถอดสีทันทีที่ได้ยินเขาพุ่งร่างเข้าไปยังหลุมดำนั้นอย่างไม่คิดลังเลอีก

และตามคาดว่าเย่หยวนไม่ได้คิดจะห้ามใดๆ

ด้วยการนำของตู้หง เหล่าคนทั้งหลายเองก็รู้สึกเหมือนได้ยกเขาออกจากอกรีบตามผู้นำออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ทันที

เย่หยวนหันมาถามเล้งชิวหลิง “เจ้าจะเอาอย่างไรต่อ?”

เล้งชิวหลิงหันไปมองที่กู่เทียนเฉทีหันมามองที่เย่หยวนที ก่อนจะส่ายหัวออกมา “ข้า…ข้าก็ไม่ทราบ”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปก่อนจะหยิบหินรุ้งเจ็ดสีออกมาโยนให้แก่กู่เทียนเฉ “ผู้อาวุโสกู่ เย่หยวนนั้นได้รับการดูแลจากท่านอย่างดีมานานและไม่มีอะไรจะตอบแทนได้ ถือเสียว่าเจ้าหินรุ้งเจ็ดสีนี้เป็นของตอบแทนท่านแล้วกัน!”

กู่เทียนเฉเบิกตากว้างก่อนจะมองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตกใจ “นี่มัน…หลายชายคงไม่ได้ล้อเล่น?”

ด้วยเจ้าหินรุ้งเจ็ดสีนี้เขามีความมั่นใจอย่างมากว่าตัวเองจะสามารถบรรลุขึ้นสู่อาณาจักรเทพสวรรค์ได้

ถึงตอนนั้นต่อให้เป็นยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างแล้วจะทำไม?

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ผู้อาวุโสกู่ ท่านเองก็ถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เมื่อออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วท่านคงไม่มีทางกลับขึ้นเป็นเจ้าเมืองได้อีก เดิมทีต่อหน้าจี้ฉุนผู้อาวุโสกู่ท่านเองก็ได้ปกป้องข้าไว้ เจ้าหินรุ้งเจ็ดสีนี้ถือว่าเป็นคำขอบคุณจากข้า เย่หยวนคนนี้ ส่วนเรื่องของชิวหลิง นางคงไม่อาจกลับไปยังเมืองหลวงจักรพรรดิพันทะยานได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นจากวันนี้ไปหากนางต้องการนางคงร่วมเดินทางกับข้าไป”

เย่หยวนนั้นสังหารยอดฝีมือจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างไปมากมาย แถมยังแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์อย่างชัดเจนด้วย

กู่เทียนเฉและเล้งชิวหลิงนั้นเป็นสองคนที่สนิทกับเขามากที่สุด แน่นอนว่าทุกผู้คนย่อมเห็นและรับทราบดี

หากพวกเขากลับไปแล้วมันคงไม่มีเรื่องดีๆ รอคอยอยู่แน่

กู่เทียนเฉนั้นต่างจากเล้งชิวหลิง เขานั้นเพียงแค่คิดว่าเย่หยวนนั้นมาจากค่ายสำนักใหญ่จึงพยายามที่จะเอาอกเอาใจเย่หยวนก็เท่านั้น

ตอนที่ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงหินรุ้งเจ็ดสีเย่หยวนก็ได้เห็นธาตุแท้ของกู่เทียนเฉไปแล้ว

ส่วนเรื่องของเล้งชิวหลิง เย่หยวนนั้นมองนางว่าเป็นสหายสนิทคนหนึ่งไปแล้วเรื่องราวมันย่อมแตกต่าง

กู่เทียนเฉรีบตอบกลับมา “หึๆ การที่เฒ่าคนนี้ได้หินรุ้งเจ็ดสีไปเช่นนี้เฒ่าคนนี้คงต้องเริ่มเข้าการเก็บตัวในทันทีและคงไม่มีโอกาสไปดูแลชิวหลิงอีก เช่นนั้นข้าคงต้องขอให้หลานเย่คอยดูแลศิษย์คนนี้ให้ข้าด้วย”

ในสายตาของเขานั้นเย่หยวนสนใจตัวนางเล้งชิวหลิง ทำให้เขากล้าที่จะเสียมากขนาดนี้

เล้งชิวหลิงนั้นยังคงมีใบหน้าที่เรียบเฉยแต่สายตาของนางนั้นเปี่ยมไปด้วยความผิดหวัง

เย่หยวนย่อมเข้าใจดีว่ากู่เทียนเฉกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว แต่เย่หยวนเองก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรให้ยืดยาว เขาทำแค่เพียงยกมือขึ้นมาคารวะ “ผู้อาวุโสกู่ ดูแลตัวเองด้วย”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+