Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2058 ศัตรูแกร่งเกินไป!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2058 ศัตรูแกร่งเกินไป! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หา? ท่าน… ท่านคิดจะฉีกสัญญาหรือ?”

ติงเสี่ยวนั้นหน้าถอดสีทันทีจนเริ่มสงสัยขึ้นมาว่าตนหูฝาดไปหรือไม่

การยกเลิกสัญญานั้นมันไม่เป็นปัญหามากมายต่อห้างโอสถเมฆา แต่มันจะเป็นปัญหาใหญ่ต่อตระกูลซูและตระกูลเหรินมากกว่า

ผู้นำตระกูลซูยิ้มตอบกลับมา “อย่าพูดเช่นนั้นเลย แต่ซูผู้นี้ได้กลับไปพูดคุยกับเหล่าคนเฒ่าผู้อาวุโสของตระกูลมาแล้วและรู้สึกว่าโอสถที่เราซื้อจากห้างโอสถเมฆามันมีมากเกินไป เพราะฉะนั้น…”

ติงเสี่ยวนั้นมีประสบการณ์ในการค้ามากมายเท่าใด? ได้ยินแค่นี้เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่ามันมีอะไรไม่ปกติเกิดขึ้นแน่

หรือว่าทั้งสองตระกูลนี้จะถูกทางหอมหาสมบัติดึงตัวไป?

แต่หอมหาสมบัตินั้นยื่นข้อเสนอใดมากันถึงทำให้ทั้งสองตระกูลใหญ่นี้กล้าฉีกสัญญาเสี่ยงที่จะผิดใจกับพันธมิตรแดนใต้?

เหตุผลที่พันธมิตรแดนใต้นั้นแข็งแกร่งมันก็เป็นเพราะพวกเขานั้นรวมตัวเป็นปึกแผ่น

รวมตัวกันไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข

หากมีค่ายสำนักใดกล้าลบหลู่พวกเขาแล้วพวกเขาก็ย่อมจะไม่มีใครคิดขายโอสถให้แก่ค่ายสำนักนั้นไป

ผลลัพธ์เช่นนั้นแม้จะเป็นเมืองใหญ่อย่างยอดเมืองหลวงจักรพรรดิวาโยนิรันดร์มันก็คงไม่อาจจะทนทานรับไว้ได้

ติงเสี่ยวนั้นหรี่ตาลงพร้อมกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงกดดัน “ผู้นำตระกูลซู ผู้นำตระกูลเหริน ท่านเข้าใจหรือไม่ว่าการฉีกสัญญานี่มันหมายถึงเรื่องใด? ผลลัพธ์ที่ตามมาจากการลบหลู่พันธมิตรแดนใต้นั้นมันมิใช่สิ่งที่พวกท่านจะรับไว้ได้ง่ายๆ หรอกนะ!”

คำเตือนนี่มันหนักแน่นจนแทบจะเป็นคำขู่

ผู้นำตระกูลซูเองก็หน้าถอดสีลง แต่ทางผู้นำตระกูลเหรินที่อารมณ์ร้อนกว่ากลับหัวเราะขึ้น “ลบหลู่ก็ลบหลู่ไป จะมีเรื่องใหญ่ใดๆ ได้? ตระกูลเหรินข้าแค่มีหอมหาสมบัติเป็นคู่ค้าก็เกินพอแล้ว! เดิมทีพวกข้านั้นถูกเจ้าหลอกลวงมาจนทำให้เสียโอกาสสำคัญไปแล้ว เรื่องนั้นเหรินผู้นี้ยังไม่คิดจะล้างแค้นชำระบัญชีกับเจ้าเลย!”

เมื่อคำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวสีหน้าของติงเสี่ยวก็เปลี่ยนไปทันที

แค่ตระกูลเหรินน้อยๆ นี่มันกลับกล้าจัดขาดสายสัมพันธ์กับพันธมิตรแดนใต้อย่างนั้นหรือ?

ใครกันที่ให้ความกล้าเช่นนี้แก่เขา?

หอมหาสมบัติ?

แต่มันเพราะอะไรกัน?!

เมื่อผู้นำตระกูลซูได้ยินคำของผู้ตระกูลเหรินเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเรื่องมันคงไม่มีทางประนีประนอมได้แล้ว จึงได้แต่ต้องถอนหายใจกล่าวขึ้น “เถ้าแก่ติง ข้าต้องขออภัยด้วยจริงๆ จะอย่างไรข้าก็จำต้องเลือกทางที่เสียหายน้อยกว่า เวลานี้ตระกูลซูข้าไม่อาจร่วมการค้ากับท่านได้จริงๆ เพราะโอสถที่พวกท่านมีมันเป็นได้แค่ขยะหากเอาไปเทียบกับโอสถของหอมหาสมบัติ! ลาก่อน!”

พูดจบผู้นำตระกูลซูก็ยกมือขึ้นคารวะก่อนจะหันหน้าเดินจากไป

ผู้นำตระกูลเหรินเองก็ไม่คิดจะอยู่ต่อเดินตามผู้นำตระกูลซูหายไปจากห้างโอสถเมฆา

ติงเสี่ยวได้แต่ยืนมึนงงอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าแปลกประหลาดใจ

ขยะ?

หลายต่อหลายค่ายสำนักได้รวบรวมนักหลอมโอสถมาช่วยกันหลอมโอสถทรงคุณภาพ แต่มันกลับถูกเรียกว่าเป็นขยะ?

ติงเสี่ยวนั้นไม่อาจจะยอมรับเรื่องเช่นนี้ได้ เขานั้นแทบคิดจะอยากเดินไปฉีกปากเน่าๆ ของผู้นำตระกูลซูนั้นให้รู้เล่ารู้รอด

ใครกันเล่ามันจะเชื่อเหตุผลโง่ๆ เช่นนี้?

“มัน… เกิดอะไรขึ้นกัน? หอมหาสมบัติทำอะไรลงไปกันแน่?” เถ้าแก่หลินนั้นได้แต่ยืนนิ่งบ่นพึมพำราวคนไร้สติ

คนอื่นๆ ทั้งหลายเองก็แสดงสีหน้าตื่นตะลึงออกมาไม่น้อย ดูท่าพวกเขาทั้งหลายเองก็คงไม่ได้เตรียมใจมารับเรื่องราวเช่นนี้

ใครจะไปคิดว่าความพยายามสามเดือนของพวกเขาทั้งหลายนั้นมันกลับจะถูกหอมหาสมบัติทำลายลงได้ด้วยเวลาแค่เช้าวันเดียว?

แต่ทว่าเรื่องของตระกูลซูและตระกูลเหรินนั้นมันเป็นแค่สัญญาณแห่งการเริ่มต้น

หลังจากนั้นตระกูลน้อยใหญ่ค่ายสำนักทั้งหลายต่างได้มาเยี่ยมเยียนเพื่อขอยกเลิกสัญญาที่เคยมีสิ้น

และมันมิใช่แค่กับห้างโอสถเมฆา แต่รวมไปถึงศาลาใจสงัด ห้างเมฆม่วงและร้านรวงอื่นๆ ทั้งหลาย คำสัญญาใดๆ ที่เคยมีมันกลับแหลกสลายลงไปในวินาทีสุดท้าย

เมื่อเวลาผ่านไปได้ครบวันคนทั้งหลายก็ได้แต่นั่งเหนื่อยหอบจากงานเอกสารที่ต้องจัดการ

แต่เมื่อถึงเวลาค่ำนี้ ในที่สุดพวกเขาทั้งหลายก็ได้เห็นโอสถมากมายหลากหลายวางเรียงรายต่อหน้า ทำให้เหล่าเถ้าแก่ทั้งหลายเข้าใจคำพูดของผู้นำตระกูลซูทันที

“นี่มัน… มันโอสถอะไรกันนี่? หอมหาสมบัติไปเอาสูตรโอสถเช่นนี้มาจากที่ใด? ถึงกับสามารถจะหลอมโอสถอันแสนน่าหวาดกลัวเช่นนี้ออกมาได้?” เถ้าแก่หลินพูดไปพร้อมร่างกายที่สั่นเทา

เขานั้นใช้ชีวิตอยู่กับตลาดโอสถมาทั้งชีวิต แต่ก็ยังไม่เคยจะได้พบเจอศัตรูที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน

อีกฝ่ายนั้นมิใช้เทคนิคการควบคุมจัดการตลาดใดๆ ไม่ต้องไปพูดตกลงสัญญาลับหลังใครๆ เรียกได้ว่าไม่ต้องสนใจการตลาดเลยแม้แต่น้อย

เพราะเมื่อโอสถทั้งหลายเหล่านี้ถูกปล่อยออกมา ศัตรูใดๆ ทั้งหลายย่อมจะแหลกสลายลงเอง!

นี่มันคือพลังอำนาจอันเด็ดขาด ไม่ต้องใช้วิธีการใดๆ ให้ยุ่งยาก

เหมือนดั่งเวลาที่เทพสวรรค์คิดกำจัดเทพถ่องแท้ พวกเขาเองก็คงไม่ไปคิดวางแผนการใดๆ ให้ยากเย็น

เพราะผู้เหนือกว่าอย่างแท้จริงไม่ต้องทำอะไรเช่นนั้น!

แค่ตบออกมาฝ่ามือเดียวศัตรูใดๆ มันก็จะแหลกสลายลงทันที!

“นี่มันน่าจะเป็นสูตรพัฒนาของโอสถพุทธหยกสินะ? และนี่ก็น่าจะเป็นสูตรพัฒนาของโอสถโกลาหลต้นหายใจ? พระเจ้า! พวกเขามีสูตรพัฒนาของโอสถพื้นฐานทั้งหลายในตลาดหมดเลย!”

เถ้าแก่ผู้หนึ่งยิ้มออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน “พวกเขา… พวกเขาพัฒนาวิชาโอสถไปอีกยุคสมัยหนึ่ง! เทียบกันแล้วแน่นอนว่าโอสถในมือเรามันย่อมไม่ต่างจากขยะ!”

“นี่มัน… จะเป็นไปได้อย่างไร? ต่อให้เราจะมียอดค่ายสำนักนับร้อยๆ มารวมตัวกันมันก็คงไม่อาจสั่นคลอนอำนาจของหอมหาสมบัติได้อีกแล้ว! นี่มันมิใช่ศัตรูในระดับเดียวกับเราอีกต่อไปแล้ว!”

ความตื่นเต้นดีใจในชัยชนะใดๆ ที่พวกเขาเคยมีในตอนเช้ามันได้หายไปจนสิ้นในเวลาวันเดียว

เหล่าเถ้าแก่ร้านทั้งหลายนั้นต่างได้แต่ยืนนิ่งเหมือนจักจั่นในหน้าหนาว

หกแดนศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือกับค่ายสำนักน้อยใหญ่มากมาย พร้อมด้วยแผนการที่วางกันมาอย่างยาวนานมันกลับกลายเป็นแค่เรื่องตลก!

ติงเสี่ยวได้แต่ถอนหายใจ “เรื่องนี่มันเหนือกว่าที่เราจะตัดสินใจได้แล้ว เวลานี้ปล่อยให้พวกท่านทั้งหลายเบื้องบนจัดการกันเถอะ ศัตรูของเรานี่มันแข็งแกร่งเกินไป!

สภาพของติงเสี่ยวในเวลานี้สูญสิ้นความหวังจะชนะใดๆ ไปสิ้น

เขานั้นเคยล้มลุกคลุกคลานอยู่ต่อสู้กับศัตรูมากมาย แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่เคยจะพ่ายแพ้ให้แก่ใครในสงครามการค้า

แต่ครั้งนี้ เขารู้สึกว่าตนไม่อาจต้านทานใดๆ ได้เลย

ต่อสู้กับศัตรูเช่นนี้พวกเขาย่อมไม่มีทางใดจะชนะได้

เขานั้นเห็นได้ถึงเงาร่างอันยิ่งใหญ่เบื้องหลังหอมหาสมบัติอย่างชัดเจน ผู้ที่กุมสงครามนี้ไว้ในฝ่ามือ

คนผู้นั้นคือเย่หยวน ปรมาจารย์เย่!

ต่อหน้าปรมาจารย์เย่แล้วติงเสี่ยวรู้สึกราวกับตนเป็นแค่เด็กตัวน้อย

ไม่ว่าจะมีวิชาความสามารถโดดเด่นปานใด อีกฝ่ายก็ไม่มีทางจะหันมาสนใจ

แม้ว่าคำพูดของเขาจะบอกว่าให้เบื้องบนจัดการต่อ แต่ติงเสี่ยวเองก็ฉลาดพอที่จะเข้าใจว่าครานี้พันธมิตรแดนใต้ได้แพ้พ่ายลงแล้ว!

ต่อให้จะเป็นเหล่าหกปรมาจารย์มาร่วมมือกันมันก็ไม่อาจจะกู้คืนสถานการณ์เช่นนี้ได้แน่

เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นจะร่วมมือกันพัฒนาสูตรโอสถใหม่ขึ้นมาสู้บ้าง

เว้นเสียแต่ว่า… เรื่องนั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไร?

ต่อให้เป็นโอสถบรรพกาลมาลงมือเองมันก็ยังไม่แน่เลยว่าจะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้!

ข่าวร้ายหลั่งไหลเข้ามายังยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาอย่างไม่ขาดสาย

“ห้างโอสถเมฆาในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิวาโยนิรันดร์ไม่อาจขายโอสถใดๆ ได้และคงไม่อาจประคองต้นทุนได้อีกต่อไป เถ้าแก่ติงร้องขอถอนตัวจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิวาโยนิรันดร์!”

“ห้างโอสถเมฆาในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิหมอกทะยานล้นละลายเป็นที่เรียบร้อย เถ้าแก่เหอร้องขอถอนตัวจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิหมอกทะยาน!”

“ศาลาใจสงัดในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสารทมะโรงปิดร้านลงเรียบร้อยแล้ว เถ้าแก่เฟิงร้องขอถอนตัวจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสารทมะโรง!”

ในห้องโถงใหญ่นี้เทพสวรรค์ดันหยู่เทพสิ้นสติลง

ในข่าวร้ายทั้งหลายที่ถูกส่งกลับมานี้ หลายต่อหลายที่นั้นมันมิใช่เขตแดนของหอมหาสมบัติเสียด้วยซ้ำ แต่เป็นเขตแดนใต้อำนาจของหกดินแดนศักดิ์สิทธิ์!

มันราวกับว่าหอมหาสมบัติได้โจมตีทั่วทั้งแดนใต้ภายในชั่วข้ามคืน

ที่สำคัญไปกว่านั้นพวกเขายังใช้เวลาแค่สั้นๆ ก็สามารถพังทลายพันธมิตรแดนใต้ลงได้อย่างราบคาบ

โอสถใหม่ของหอมหาสมบัตินั้นมันเหนือล้ำจนเกินไป!

ตราบเท่าที่คนผู้นั้นไม่ได้โง่เง่า พวกเขาก็ย่อมจะหันไปซื้อโอสถของหอมหาสมบัติ

ราคาขึ้นแล้วทำไมเล่า?

ต่อให้มันจะขึ้นไปอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์แต่โอสถของหอมหาสมบัตินั้นมันก็ยังมีค่าสูงล้ำกว่าโอสถทั่วๆ ไปอย่างมาก!

สงครามนี่มันไม่อาจจะกู้คืนกลับมาได้แล้ว!

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2058 ศัตรูแกร่งเกินไป!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2058 ศัตรูแกร่งเกินไป! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หา? ท่าน… ท่านคิดจะฉีกสัญญาหรือ?”

ติงเสี่ยวนั้นหน้าถอดสีทันทีจนเริ่มสงสัยขึ้นมาว่าตนหูฝาดไปหรือไม่

การยกเลิกสัญญานั้นมันไม่เป็นปัญหามากมายต่อห้างโอสถเมฆา แต่มันจะเป็นปัญหาใหญ่ต่อตระกูลซูและตระกูลเหรินมากกว่า

ผู้นำตระกูลซูยิ้มตอบกลับมา “อย่าพูดเช่นนั้นเลย แต่ซูผู้นี้ได้กลับไปพูดคุยกับเหล่าคนเฒ่าผู้อาวุโสของตระกูลมาแล้วและรู้สึกว่าโอสถที่เราซื้อจากห้างโอสถเมฆามันมีมากเกินไป เพราะฉะนั้น…”

ติงเสี่ยวนั้นมีประสบการณ์ในการค้ามากมายเท่าใด? ได้ยินแค่นี้เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่ามันมีอะไรไม่ปกติเกิดขึ้นแน่

หรือว่าทั้งสองตระกูลนี้จะถูกทางหอมหาสมบัติดึงตัวไป?

แต่หอมหาสมบัตินั้นยื่นข้อเสนอใดมากันถึงทำให้ทั้งสองตระกูลใหญ่นี้กล้าฉีกสัญญาเสี่ยงที่จะผิดใจกับพันธมิตรแดนใต้?

เหตุผลที่พันธมิตรแดนใต้นั้นแข็งแกร่งมันก็เป็นเพราะพวกเขานั้นรวมตัวเป็นปึกแผ่น

รวมตัวกันไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข

หากมีค่ายสำนักใดกล้าลบหลู่พวกเขาแล้วพวกเขาก็ย่อมจะไม่มีใครคิดขายโอสถให้แก่ค่ายสำนักนั้นไป

ผลลัพธ์เช่นนั้นแม้จะเป็นเมืองใหญ่อย่างยอดเมืองหลวงจักรพรรดิวาโยนิรันดร์มันก็คงไม่อาจจะทนทานรับไว้ได้

ติงเสี่ยวนั้นหรี่ตาลงพร้อมกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงกดดัน “ผู้นำตระกูลซู ผู้นำตระกูลเหริน ท่านเข้าใจหรือไม่ว่าการฉีกสัญญานี่มันหมายถึงเรื่องใด? ผลลัพธ์ที่ตามมาจากการลบหลู่พันธมิตรแดนใต้นั้นมันมิใช่สิ่งที่พวกท่านจะรับไว้ได้ง่ายๆ หรอกนะ!”

คำเตือนนี่มันหนักแน่นจนแทบจะเป็นคำขู่

ผู้นำตระกูลซูเองก็หน้าถอดสีลง แต่ทางผู้นำตระกูลเหรินที่อารมณ์ร้อนกว่ากลับหัวเราะขึ้น “ลบหลู่ก็ลบหลู่ไป จะมีเรื่องใหญ่ใดๆ ได้? ตระกูลเหรินข้าแค่มีหอมหาสมบัติเป็นคู่ค้าก็เกินพอแล้ว! เดิมทีพวกข้านั้นถูกเจ้าหลอกลวงมาจนทำให้เสียโอกาสสำคัญไปแล้ว เรื่องนั้นเหรินผู้นี้ยังไม่คิดจะล้างแค้นชำระบัญชีกับเจ้าเลย!”

เมื่อคำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวสีหน้าของติงเสี่ยวก็เปลี่ยนไปทันที

แค่ตระกูลเหรินน้อยๆ นี่มันกลับกล้าจัดขาดสายสัมพันธ์กับพันธมิตรแดนใต้อย่างนั้นหรือ?

ใครกันที่ให้ความกล้าเช่นนี้แก่เขา?

หอมหาสมบัติ?

แต่มันเพราะอะไรกัน?!

เมื่อผู้นำตระกูลซูได้ยินคำของผู้ตระกูลเหรินเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเรื่องมันคงไม่มีทางประนีประนอมได้แล้ว จึงได้แต่ต้องถอนหายใจกล่าวขึ้น “เถ้าแก่ติง ข้าต้องขออภัยด้วยจริงๆ จะอย่างไรข้าก็จำต้องเลือกทางที่เสียหายน้อยกว่า เวลานี้ตระกูลซูข้าไม่อาจร่วมการค้ากับท่านได้จริงๆ เพราะโอสถที่พวกท่านมีมันเป็นได้แค่ขยะหากเอาไปเทียบกับโอสถของหอมหาสมบัติ! ลาก่อน!”

พูดจบผู้นำตระกูลซูก็ยกมือขึ้นคารวะก่อนจะหันหน้าเดินจากไป

ผู้นำตระกูลเหรินเองก็ไม่คิดจะอยู่ต่อเดินตามผู้นำตระกูลซูหายไปจากห้างโอสถเมฆา

ติงเสี่ยวได้แต่ยืนมึนงงอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าแปลกประหลาดใจ

ขยะ?

หลายต่อหลายค่ายสำนักได้รวบรวมนักหลอมโอสถมาช่วยกันหลอมโอสถทรงคุณภาพ แต่มันกลับถูกเรียกว่าเป็นขยะ?

ติงเสี่ยวนั้นไม่อาจจะยอมรับเรื่องเช่นนี้ได้ เขานั้นแทบคิดจะอยากเดินไปฉีกปากเน่าๆ ของผู้นำตระกูลซูนั้นให้รู้เล่ารู้รอด

ใครกันเล่ามันจะเชื่อเหตุผลโง่ๆ เช่นนี้?

“มัน… เกิดอะไรขึ้นกัน? หอมหาสมบัติทำอะไรลงไปกันแน่?” เถ้าแก่หลินนั้นได้แต่ยืนนิ่งบ่นพึมพำราวคนไร้สติ

คนอื่นๆ ทั้งหลายเองก็แสดงสีหน้าตื่นตะลึงออกมาไม่น้อย ดูท่าพวกเขาทั้งหลายเองก็คงไม่ได้เตรียมใจมารับเรื่องราวเช่นนี้

ใครจะไปคิดว่าความพยายามสามเดือนของพวกเขาทั้งหลายนั้นมันกลับจะถูกหอมหาสมบัติทำลายลงได้ด้วยเวลาแค่เช้าวันเดียว?

แต่ทว่าเรื่องของตระกูลซูและตระกูลเหรินนั้นมันเป็นแค่สัญญาณแห่งการเริ่มต้น

หลังจากนั้นตระกูลน้อยใหญ่ค่ายสำนักทั้งหลายต่างได้มาเยี่ยมเยียนเพื่อขอยกเลิกสัญญาที่เคยมีสิ้น

และมันมิใช่แค่กับห้างโอสถเมฆา แต่รวมไปถึงศาลาใจสงัด ห้างเมฆม่วงและร้านรวงอื่นๆ ทั้งหลาย คำสัญญาใดๆ ที่เคยมีมันกลับแหลกสลายลงไปในวินาทีสุดท้าย

เมื่อเวลาผ่านไปได้ครบวันคนทั้งหลายก็ได้แต่นั่งเหนื่อยหอบจากงานเอกสารที่ต้องจัดการ

แต่เมื่อถึงเวลาค่ำนี้ ในที่สุดพวกเขาทั้งหลายก็ได้เห็นโอสถมากมายหลากหลายวางเรียงรายต่อหน้า ทำให้เหล่าเถ้าแก่ทั้งหลายเข้าใจคำพูดของผู้นำตระกูลซูทันที

“นี่มัน… มันโอสถอะไรกันนี่? หอมหาสมบัติไปเอาสูตรโอสถเช่นนี้มาจากที่ใด? ถึงกับสามารถจะหลอมโอสถอันแสนน่าหวาดกลัวเช่นนี้ออกมาได้?” เถ้าแก่หลินพูดไปพร้อมร่างกายที่สั่นเทา

เขานั้นใช้ชีวิตอยู่กับตลาดโอสถมาทั้งชีวิต แต่ก็ยังไม่เคยจะได้พบเจอศัตรูที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน

อีกฝ่ายนั้นมิใช้เทคนิคการควบคุมจัดการตลาดใดๆ ไม่ต้องไปพูดตกลงสัญญาลับหลังใครๆ เรียกได้ว่าไม่ต้องสนใจการตลาดเลยแม้แต่น้อย

เพราะเมื่อโอสถทั้งหลายเหล่านี้ถูกปล่อยออกมา ศัตรูใดๆ ทั้งหลายย่อมจะแหลกสลายลงเอง!

นี่มันคือพลังอำนาจอันเด็ดขาด ไม่ต้องใช้วิธีการใดๆ ให้ยุ่งยาก

เหมือนดั่งเวลาที่เทพสวรรค์คิดกำจัดเทพถ่องแท้ พวกเขาเองก็คงไม่ไปคิดวางแผนการใดๆ ให้ยากเย็น

เพราะผู้เหนือกว่าอย่างแท้จริงไม่ต้องทำอะไรเช่นนั้น!

แค่ตบออกมาฝ่ามือเดียวศัตรูใดๆ มันก็จะแหลกสลายลงทันที!

“นี่มันน่าจะเป็นสูตรพัฒนาของโอสถพุทธหยกสินะ? และนี่ก็น่าจะเป็นสูตรพัฒนาของโอสถโกลาหลต้นหายใจ? พระเจ้า! พวกเขามีสูตรพัฒนาของโอสถพื้นฐานทั้งหลายในตลาดหมดเลย!”

เถ้าแก่ผู้หนึ่งยิ้มออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน “พวกเขา… พวกเขาพัฒนาวิชาโอสถไปอีกยุคสมัยหนึ่ง! เทียบกันแล้วแน่นอนว่าโอสถในมือเรามันย่อมไม่ต่างจากขยะ!”

“นี่มัน… จะเป็นไปได้อย่างไร? ต่อให้เราจะมียอดค่ายสำนักนับร้อยๆ มารวมตัวกันมันก็คงไม่อาจสั่นคลอนอำนาจของหอมหาสมบัติได้อีกแล้ว! นี่มันมิใช่ศัตรูในระดับเดียวกับเราอีกต่อไปแล้ว!”

ความตื่นเต้นดีใจในชัยชนะใดๆ ที่พวกเขาเคยมีในตอนเช้ามันได้หายไปจนสิ้นในเวลาวันเดียว

เหล่าเถ้าแก่ร้านทั้งหลายนั้นต่างได้แต่ยืนนิ่งเหมือนจักจั่นในหน้าหนาว

หกแดนศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือกับค่ายสำนักน้อยใหญ่มากมาย พร้อมด้วยแผนการที่วางกันมาอย่างยาวนานมันกลับกลายเป็นแค่เรื่องตลก!

ติงเสี่ยวได้แต่ถอนหายใจ “เรื่องนี่มันเหนือกว่าที่เราจะตัดสินใจได้แล้ว เวลานี้ปล่อยให้พวกท่านทั้งหลายเบื้องบนจัดการกันเถอะ ศัตรูของเรานี่มันแข็งแกร่งเกินไป!

สภาพของติงเสี่ยวในเวลานี้สูญสิ้นความหวังจะชนะใดๆ ไปสิ้น

เขานั้นเคยล้มลุกคลุกคลานอยู่ต่อสู้กับศัตรูมากมาย แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่เคยจะพ่ายแพ้ให้แก่ใครในสงครามการค้า

แต่ครั้งนี้ เขารู้สึกว่าตนไม่อาจต้านทานใดๆ ได้เลย

ต่อสู้กับศัตรูเช่นนี้พวกเขาย่อมไม่มีทางใดจะชนะได้

เขานั้นเห็นได้ถึงเงาร่างอันยิ่งใหญ่เบื้องหลังหอมหาสมบัติอย่างชัดเจน ผู้ที่กุมสงครามนี้ไว้ในฝ่ามือ

คนผู้นั้นคือเย่หยวน ปรมาจารย์เย่!

ต่อหน้าปรมาจารย์เย่แล้วติงเสี่ยวรู้สึกราวกับตนเป็นแค่เด็กตัวน้อย

ไม่ว่าจะมีวิชาความสามารถโดดเด่นปานใด อีกฝ่ายก็ไม่มีทางจะหันมาสนใจ

แม้ว่าคำพูดของเขาจะบอกว่าให้เบื้องบนจัดการต่อ แต่ติงเสี่ยวเองก็ฉลาดพอที่จะเข้าใจว่าครานี้พันธมิตรแดนใต้ได้แพ้พ่ายลงแล้ว!

ต่อให้จะเป็นเหล่าหกปรมาจารย์มาร่วมมือกันมันก็ไม่อาจจะกู้คืนสถานการณ์เช่นนี้ได้แน่

เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นจะร่วมมือกันพัฒนาสูตรโอสถใหม่ขึ้นมาสู้บ้าง

เว้นเสียแต่ว่า… เรื่องนั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไร?

ต่อให้เป็นโอสถบรรพกาลมาลงมือเองมันก็ยังไม่แน่เลยว่าจะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้!

ข่าวร้ายหลั่งไหลเข้ามายังยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาอย่างไม่ขาดสาย

“ห้างโอสถเมฆาในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิวาโยนิรันดร์ไม่อาจขายโอสถใดๆ ได้และคงไม่อาจประคองต้นทุนได้อีกต่อไป เถ้าแก่ติงร้องขอถอนตัวจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิวาโยนิรันดร์!”

“ห้างโอสถเมฆาในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิหมอกทะยานล้นละลายเป็นที่เรียบร้อย เถ้าแก่เหอร้องขอถอนตัวจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิหมอกทะยาน!”

“ศาลาใจสงัดในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสารทมะโรงปิดร้านลงเรียบร้อยแล้ว เถ้าแก่เฟิงร้องขอถอนตัวจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสารทมะโรง!”

ในห้องโถงใหญ่นี้เทพสวรรค์ดันหยู่เทพสิ้นสติลง

ในข่าวร้ายทั้งหลายที่ถูกส่งกลับมานี้ หลายต่อหลายที่นั้นมันมิใช่เขตแดนของหอมหาสมบัติเสียด้วยซ้ำ แต่เป็นเขตแดนใต้อำนาจของหกดินแดนศักดิ์สิทธิ์!

มันราวกับว่าหอมหาสมบัติได้โจมตีทั่วทั้งแดนใต้ภายในชั่วข้ามคืน

ที่สำคัญไปกว่านั้นพวกเขายังใช้เวลาแค่สั้นๆ ก็สามารถพังทลายพันธมิตรแดนใต้ลงได้อย่างราบคาบ

โอสถใหม่ของหอมหาสมบัตินั้นมันเหนือล้ำจนเกินไป!

ตราบเท่าที่คนผู้นั้นไม่ได้โง่เง่า พวกเขาก็ย่อมจะหันไปซื้อโอสถของหอมหาสมบัติ

ราคาขึ้นแล้วทำไมเล่า?

ต่อให้มันจะขึ้นไปอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์แต่โอสถของหอมหาสมบัตินั้นมันก็ยังมีค่าสูงล้ำกว่าโอสถทั่วๆ ไปอย่างมาก!

สงครามนี่มันไม่อาจจะกู้คืนกลับมาได้แล้ว!

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+