Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1665 มั่นคงอย่างเหลือเชื่อ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1665 มั่นคงอย่างเหลือเชื่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1665 มั่นคงอย่างเหลือเชื่อ
“สมบัติประเภทห้วงมิติบิน! ตามมันไป! เราจะปล่อยให้มันหนีไปไม่ได้!”

สีหน้าของเซียงหยุนเฟยเปลี่ยนไปอยากมากในทันทีที่ได้เห็น เขายกมือขึ้นมาใช้ฝ่ามือโจมตีไปยังโถงบัลลังก์ม่วงทันที

แต่ทว่าโถงบัลลังก์ม่วงนั้นกลับไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย!

สีหน้าของหวงไหเองก็ซีดลงไม่น้อย ร่างของเขาขยับพุ่งเข้ามาพร้อมพลังโลกเข้าโจมตีใส่โถงบัลลังก์ม่วงอย่างบ้าคลั่ง

นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นกลางสี่คนกำลังรุมโจมตี พลังของมันจะรุนแรงได้แค่ไหน?

พลังโลกอันบ้าคลั่งเข้าโจมตีโถงบัลลังก์ม่วงอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดพัก ทำให้ความเร็วของมันช้าลงไม่น้อย

“ทำลายมันให้ราบคาบ! หากผลึกปราณเทวะของพวกมันหมดลงเมื่อใด มันก็คงไม่พ้นต้องออกมา!” เซียงหยุนเฟยสั่ง

จากนั้นคนทั้งสี่ก็ใช้ทุกวิถีทางเพื่อโจมตีกระหน่ำใส่โถงบัลลังก์ม่วงอย่างบ้าคลั่ง

ส่วนที่ด้านในโถงบัลลังก์ม่วงนั้นเย่หยวนกำลังนั่งสบายใจอย่างไม่รู้ร้อนหนาว ค่อยๆ ฟื้นฟูปราณเทวะของตัวเองไปเรื่อยๆ

ตู้ม!

เสียงดังสนั่นจากการโจมตีด้านนอกยังคงมีให้ได้ยินเป็นระยะๆ ทำให้แม้แต่หนิงเทียนปิงก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นใจ

นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นกลางสี่คน คนหนึ่งถึงขั้นอาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาว การโจมตีของพวกเขานั้นมันจึงน่ากลัวไม่น้อย

ผลึกปราณเทวะที่ใช้ในการป้องกันของโถงบัลลังก์ม่วงเองก็ลดลงอย่างรวดเร็ว

เรื่องในตอนนี้มันต่างจากตอนเหวอัญเชิญปีศาจ เพราะตอนนั้นแม้ผู้โจมตีมาจะเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ แต่พวกเขาก็ดูถูกและไม่คิดจะตรวจสอบผลอย่างละเอียดจนทำให้เย่หยวนสามารถเนียนหลบหนีออกไปได้

แต่ตอนนี้โถงบัลลังก์ม่วงนั้นอยู่ต่อหน้าต่อตาของพวกเซียงหยุนเฟย ต่อให้มันจะกลายเป็นแค่เศษฝุ่นแต่พวกนั้นก็คงไม่ปล่อยให้มันคลาดสายตาไปง่ายๆ

โม่ลี่เฟยมองดูรอบๆ โถงอันใหญ่โตนี้ด้วยความตื่นตระหนกอย่างถึงที่สุด “นี่มัน… หรือว่าจะเป็นสมบัติเทพถ่องแท้เลิศล้ำ?”

หนิงเทียนปิงพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว! นี่คือสมบัติเทพถ่องแท้เลิศล้ำประเภทห้วงมิติบิน แต่นายใหญ่นั้นยังไม่สามารถหลอมมันได้หมดจึงยังไม่สามารถใช้งานมันได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่เช่นนั้นพวกขยะข้างนอกคงไม่มีทางทำอะไรได้มากมายขนาดนี้”

โม่ลี่เฟยพูดอะไรไม่ออก เขาได้รู้อีกครั้งแล้วว่าตัวเองไม่สามารถมองเย่หยวนคนนี้ได้ออกเลย

เด็กหนุ่มคนนี้มันช่างมีไม้เด็ดมากมายนัก

ทุกครั้งที่เขาเจอเข้ากับปัญหาแสนอันตราย เย่หยวนก็จะมีแผนสำรองไว้เสมอ

โม่ลี่เฟยถามขึ้น “แต่ด้วยพลังโจมตีที่รุนแรงของพวกมันนี้ ผลึกปราณเทวะที่เรามีมันจะพอหรือ?”

หนิงเทียนปิงยิ้ม “อาจารย์ท่านอย่าได้กังวลไป ที่เมืองหลวงลาภสายน้ำนายใหญ่นั้นหาผลึกปราณเทวะมาได้ถึงสี่แสนล้าน แม้ว่าเราจะใช้ไปแล้วกว่าสองแสนล้านแต่มันก็ยังเหลืออีกกว่าสองแสนล้าน หากพวกมันอยากให้เราใช้ผลึกปราณเทวะเหล่านั้นจนหมด ก็ให้พวกมันได้ลองดู”

โม่ลี่เฟยได้แต่อ้าปากค้าง เขาตกใจจนไม่รู้จะต้องพูดอะไร

เด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนหนึ่งกลับสามารถหาผลึกปราณเทวะมาไว้ได้ถึงสี่แสนล้าน เรื่องแบบนี้… มันจะหลุดโลกจนเกินไปแล้ว!

หลังจากโจมตีมาอย่างรุนแรงและยาวนาน คนทั้งสี่เองก็เหนื่อยจนแทบจะล้มหน้าคว่ำลงได้ทุกเมื่อ แต่โถงบัลลังก์ม่วงกลับยังดูมั่นคงไม่สั่นไหว

“ให้ตายสิ! พวกมันมีผลึกปราณเทวะมากแค่ไหนกัน? ถึงกับสามารถรับการโจมตีของพวกเราได้มากขนาดนี้!” เซียงหยุนเฟยบ่น

หวงไหจึงตอบ “ข้าไม่รู้หรอกนะว่าพวกมันจะมีผลึกปราณเทวะมากแค่ไหน แต่มันไม่น้อย! เพราะคราวนี้นายน้อยมาเพื่อประมูลซื้อศิลาวิญญาณสวรรค์ไร้สิ้นสุดแต่กลับถูกเจ้าเด็กคนนี้แย่งซื้อไป มันซื้อศิลาวิญญาณสวรรค์ไร้สิ้นสุดไปในราคากว่าหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นล้าน”

เมื่อซุนชิงได้ยินดังนั้นเขาก็ตะโกนกลับมา “ทำไมเจ้าไม่บอกเราก่อนเล่า?”

หวงไหจึงตอบ “บอกแล้วจะได้อะไร? สมบัติประเภทห้วงมิติบินชินนี้ดูยังไงมันก็ไม่ธรรมดา ข้าคิดว่ามันอย่างน้อยๆ ก็ต้องเป็นสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำ เราจึงไม่สามารถทำความเสียดายใดๆ ให้มันได้เลย! ตอนนี้เรามีแต่ต้องบังคับให้มันใช้ผลึกปราณเทวะจนหมดแล้วค่อยโจมตีมันให้ตาย!”

เซียงหยุนเฟยพยักหน้ารับทันที “ที่เฒ่าหวงพูดมามันก็ถูก! วิธีเดียวที่เราทำได้ก็คือการลากพวกมันออกมาเท่านั้น เด็กคนนี้มันสังหารนายน้อย เราต้องจับตัวมันให้ได้! ที่สำคัญสมบัตินี้เองมันก็ไม่ธรรมดา ตราบเท่าที่เราเอากลับมันไปได้เราอาจจะพอชดใช้เรื่องนายน้อยได้บ้าง ไม่ว่ายังไงตอนนี้เราก็จะปล่อยมันหนีไปไม่ได้ เราต้องจับตามองสมบัติห้วงมิติบินชิ้นนี้ไว้ให้ดีและอย่าได้ปล่อยมันคลาดสายตา!”

คนทั้งสี่ต่างพยักหน้ารับคำนั้น เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาคลาดสายตาจากโถงบัลลังก์ม่วงไปแม้แต่วินาทีเดียว มันก็คงหนีหายลับไปได้ทันที

คนทั้งสี่พักการโจมตีไประยะหนึ่งเพื่อทำให้พักฟื้นปราณเทวะของตนก่อนที่จะเริ่มกระหน่ำโจมตีโถงบัลลังก์ม่วงอีกครั้ง

แต่ทว่าฝั่งโถงบัลลังก์ม่วงเองก็ไม่สั่นไหวแม้สักนิด มันทำให้พวกเขาสิ้นหวังไม่น้อย

พวกเขาใช้ความสามารถทั้งหมดออกมา แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะทำให้ผลึกปราณเทวะในโถงบัลลังก์ม่วงหมดลงได้

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่ในที่สุดเย่หยวนก็ฟื้นฟูปราณเทวะของตัวเองกลับมาได้จนสมบูรณ์

“นายใหญ่ นายฟื้นตัวแล้ว! เจ้าพวกคนเหล่านั้นมันยังตามเรามาไม่หยุดเลย เราหนีมันไม่ได้!” หนิงเทียนปิงบอก

เย่หยวนยิ้ม “หากมันอยากตามก็ให้มันตาม เจ้าอยากลองเป็นเศรษฐีดูหน่อยไหม?”

หนิงเทียนปิงเปิดตากว้างตอบกลับไปทันที “แน่นอนสิ!”

เย่หยวนจึงบอก “หากเจ้าอยากก็จงบ่มเพาะให้บรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวเสีย!”

หนิงเทียนปิงตอบกลับมาด้วยท่าทางสุดตื่นเต้น “ได้เลย!”

หลังจากเปลี่ยนมาใช้วรยุทธ์เมฆาไพศาลฤกษ์ราตรี หนิงเทียนปิงก็ขึ้นไปแตะพื้นของอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวแล้ว

การจะบรรลุได้หรือไม่นั้นมันก็แค่ขึ้นอยู่กับเวลา

เมื่อเย่หยวนบอกเช่นนั้น หนิงเทียนปิงจึงเข้าใจความหมายที่เย่หยวนแฝงมาในทันที

เขาเองก็สงสัยไม่น้อยว่าเย่หยวนแท้จริงแล้วจะมีสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำติดตัวอยู่กี่ชิ้นกันแน่

การระบิดสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำชั้นต้นนั้น เย่หยวนแทบจะมีปราณเทวะไม่พอใช้ทำ

แต่หากอยากระเบิดสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำชั้นกลางแล้ว ไม่ว่าจะเย่หยวนหรือหนิงเทียนปิงก็ไม่สามารถที่จะทำได้

แต่ตราบเท่าที่หนิงเทียนปิงสามารถบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวได้ ทุกอย่างมันก็จะง่ายขึ้นมาก

เพราะฉะนั้นหนิงเทียนปิงจึงเริ่มทำการเก็บตัวบ่มเพาะพยายามจู่โจมฐานอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวทันที

ที่ด้านนอกคนทั้งสี่ก็ตัดสินใจที่จะทำสงครามระยะยาวกับเย่หยวนเช่นกัน พวกเขาต่างผลัดกันเข้ามาโจมตีโถงบัลลังก์ม่วงเรื่อยๆ

ผลึกปราณเทวะที่เย่หยวนมีนั้นถูกใช้งานไปอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยจำนวนถึงสองแสนล้านนั้นมันก็มากพอที่จะให้พวกเขาอยู่ได้นานแสนนาน

พริบตาเดียวเวลากว่าครึ่งปีก็ได้ผ่านพ้นไป

ในวงันนี้หนิงเทียนปิงเปิดตาขึ้นพร้อมดึงพลังงานวิญญาณรอบๆ ตัวเข้าไปหา

และที่รอบข้างของเขานั้นล้วนแล้วแต่เป็นผลึกปราณเทวะที่มากพอจะส่งเขาขึ้นอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวได้สบายๆ

“ฮ่าๆๆ บรรลุแล้ว!” หนิงเทียนปิงกล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้น

เย่หยวนยิ้ม “ใช่แล้ว แถมยังเร็วกว่าที่ข้าคิดไว้ด้วย!”

หนิงเทียนปิงหัวเราะลั่น “นายใหญ่เตรียมของทรัพยากรมาให้ตั้งมากมาย แถมยังได้วรยุทธ์บ่มเพาะที่อาจารย์ให้ข้ามาอีก หากข้ายังไม่สามารถบรรลุได้ข้าก็คงต้องเอาหัวไปโขกหินตายแล้ว! เอาล่ะ เจ้าพวกนั้นมันรอเรามาถึงครึ่งปีแล้ว ออกไประบายอารมณ์เสียหน่อยดีกว่า”

เย่หยวนหยิบสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำโยนให้หนิงเทียนปิงด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “ไปเถอะ ระเบิดมันให้เต็มที่ ข้าจะช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยของเจ้าเอง!”

หนิงเทียนปิงเองก็มีรอยยิ้มที่ไม่ต่างกัน “ได้เลย!”

พวกเซียงหยุนเฟยนั้นแทบอยากจะล้มเลิกความคิดลง

แต่การจากไปเสียตอนนี้ พวกเขาเองก็ยิ่งไม่อยากกว่า

“ไอ้เด็กสองคนนั้นมันจะเป็นเต่ามุดหัวในนั้นไปทั้งชีวิตเลยหรืออย่างไร?” ซุนชิงกัดฟันแน่น

“พวกมันมีผลึกปราณเทวะมากเพียงใดกัน? เมื่อไหร่มันจะหมดเสียที?!” เจิ้งซานพูดออกมาอย่างหมดแรง

เซียงหยุนเฟยเองก็หน้าตาไม่ค่อยสู้ดี “ช่างบัดซบเสียจริงๆ ด้วยการโจมตีอันต่อเนื่องของพวกเราต่อให้มีผลึกปราณเทวะเป็นแสนล้านมันก็น่าจะหมดไปแล้วแท้ๆ”

จู่ๆ สายตาของหวงไหก็หรี่เล็กลงราวกับว่าได้เห็นโลกใบใหม่พร้อมตะโกนขึ้น “ออกมาแล้ว! พวกมันออกมาแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า พวกมันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว!”

คนทั้งสามหันมามองตามในทันทีด้วยความรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ไม่แพ้กัน!

ใช่แล้ว ตอนนี้หนิงเทียนปิงออกมาด้านนอกแล้ว

“ฮ่าๆๆ เด็กน้อย ผลึกปราณเทวะคงหมดแล้วสิท่า? ครึ่งปีมานี้พวกเราพี่น้องช่วยกันโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง พี่น้อง วันนี้เราต้องดูแลเจ้าเด็กคนนี้เป็นพิเศษเสียหน่อยแล้ว!” เซียงหยุนเฟยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด