Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1319

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1319 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มีคนทรยศ!

 

สองคน สองทาง

เย่หยวนกับหลัวเจีย คนหนึ่งอยู่ซ้าย อีกคนอยู่ขวา สองคู่ก้าวแช่มย่างสามขุมเปิดท้องถนนโล่งกว้าง

เช้าตรู่วันนี้ ดวงสุริยันยังมิทันสว่างขึ้นเฉิดจรัส ทั้งสองก็เดินทางออกจากเมืองกุยฉางไปอย่างเงียบงัน

เสี้ยวพริบตาเดียว ทั้งสองควบทะยานออกไกลนับหลายหมื่นลี้

ออกจากเมืองครั้งนี้ เย่หยวนยังต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างยิ่ง

เขาทราบดี ทันทีที่ตระกูลหวังทราบข่าวเขาออกจากเมืองกุยฉาง พวกนั้นจะต้องล่าสังหารเขาแน่นอน

ระยะสิบปีมานี้ เย่หยวนฝึกปรือหลอมกลั่นโอสถอยู่ในโลกแห่งศิลาจารึกบัลลังก์พิภพโดยตลอด ซึ่งจำนวนโอสถที่หลอมกลั่นขึ้นได้ นับเป็นจำนวนมหาศาลเกินพอสำหรับหอมหาสมบัตินำไปจำหน่าย

โอสถเหล่านี้ เย่หยวนได้กำชับกับผู้จัดการซูไว้อย่างดี ยามเขาและหลัวเจียออกจากเมืองแล้วเท่านั้น ถึงจะเริ่มวางจำหน่ายได้

ข่าวที่เขาออกจากการเก็บตัว ถือเป็นความลับสุดยอดยิ่ง นอกจากสมาชิกระดับสูงไม่กี่คนของหอมหาสมบัติ ก็ไม่มีใครทราบเลย

นับเป็นเวลาสิบปีเต็มที่เย่หยวนไม่เคลื่อนไหวใดๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้เช่นกันที่ตระกูลหวังจะว่างจนจับตาเขาดูตลอด

เย่หยวนทราบดี ที่ตระกูลหวังกลายมาเป็นสามตระกูลใหญ่แห่งเมืองกุยฉางได้ แสดงว่าพวกเขามีบรรพบุรุษที่เป็นถึงเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าดำรงอยู่นแน่นอน

ซึ่งขุมพลังใหญ่ขนาดนี้ เพียงความแกร่งกล้าของเย่หยวนในปัจจุบันกลับมิใช่คู่มือได้เลย

 

ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากระมัดระวังตัวให้ดีที่สุด

เว้นเสียแต่ เย่หยวนกลับไม่ทราบเลยว่า ข่าวของเขากลับรั่วไหลไปถึงหูหวังหลินโปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยใครบางคน

ซึ่งตระกูลหวังเองก็เตรียมการแอบซุ่มโจมตีนานแล้ว

 

ขณะที่ทั้งสองกำลังควบทะยานเร่งรุด จู่ๆก็มีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาขวางทาง

ไร้ซึ่งบ้านเรือน ปราศจากโรงเตี๊ยมแหล่งพักพิงใดๆ บริเวณนี้ช่างเป็นสถานที่ล่อแหลมเหมาะสำหรับดักฆ่านัก

 

วูบบ… วูบบบ…

ทั้งสองยังไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนอง กระทั่งอีกฝ่ายยังไม่ทันเห็น ทว่าญาณสัมผัสพลันลั่นดังทันใด สายลมกระโชกแรงสองหอบซัดกระหน่ำจู่โจมพวกเขา

เย่หยวนหน้าถอดสี พลันกระโจนขึ้นฉับพลัน

 

บูมมมม!

ลูกมังกรที่พวกเขาขี่อยู่ถูกซัดกระเด็นบดขยี้ไม่เหลือ

เหล่าเซียนในมหาพิภพถงเทียนไม่สามารถบินได้ พวกเขาจึงต้องใช้ลูกมังกรเพื่อเดินทางระยะไกล หากทรงประสิทธิภาพมีกำลังวังชาดี อาจเดินทางได้ไกลถึงหลายหมื่นลี้ต่อวัน!

 

แต่ใครจะไปคาดคิด กลับเกิดโศกนาฎกรรมกับลูกมังกรทั้งสองเสียก่อน

 

ยามนี้ขยับขยายสายตาสาดพินิจร่างตรงหน้า ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นถึง เซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดขนานแท้!

ทั้งสองกลิ่งตกลงมา หลัวเจียที่เห็นดังนั้นถึงขั้นมุ่นคิ้วอุทานลั่นว่า

“หวังอวีกั่น!”

 

ปรากฏว่า อีกฝ่ายเป็นชายชราคนหนึ่ง เขาคลี่ยิ้มบางกล่าวขึ้น

“ข้าไม่คิดไม่ฝัน ยังมีใครบางคนจดจำเราชายชราผู้นี้ได้! เจ้าคงเป็นหลัวเจีย ข้าเคยได้ชื่อเสียงเรียงนามของเจ้ามาบ้าง จอมดาบอันดับหนึ่งแห่งหอมหาสมบัติม,หลัวเจีย!”

 

หลัวเจียขมวดคิ้วแน่น แต่ไม่ตอบ

 

เย่ยหยวนพลันขมวดคิ้วตามเช่นกัน เขากล่าวถามขึ้นว่า

“คนของตระกูลหวัง?”

 

หลัวเจียพยักหน้าเร่งกล่าวอธิบาย

“ผู้อาวุโสสี่ของตระกูลหวัง ขึ้นกลายเป็นเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าได้ตั้งแต่ห้าพันปีก่อน! โดยปกติแล้ว เขามักจะปลีกวิเวกเก็บตัวอย่างสันโดษมาโดยตลอด แต่ข้าไม่เคยเลยว่า หวังหลินโปจะส่งเขาออกมาจริงๆ!”

 

เย่หยวนถอนหายใจอย่างไร้ประโยชน์เฮือกยาว ก่อนกล่าวว่า

“ข้อมูลของเรารั่วไหลออกไปแล้วจริงๆ ดูท่า…ภายในหอมหาสมบัติจะมีคนทรยศ!”

 

 

“เป็นไปไม่ได้!”

หลัวเจียโพล่งตอบสวนทันที

เห็นได้ชัดว่า เขาไม่มีวันเชื่อสนิทใจ ภายในหอมหาสมบัติไม่มีทางมีคนทรยศแน่นอน

 

เย่หยวนเพียงคลี่ยิ้มบางแต่หาได้เอ่ยตอบอันใด

 

 

เดินทางออกจากเมืองคราวนี้ เขาเก็บทุกรายละเอียดและระวังตัวอย่างที่สุด แต่ก็ยังอุตส่าห์มีข่าวรั่วไหลไปถึงตระกูลหวังจนได้ เรื่องนี้ผิดปกติชัดเจน แต่ตัวละครผู้น่าสงสัยในหอมหาสมบัติกลับมีมากเกินตรวจจับ

ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่เถียงอันใดตอบ

เย่หยวนยังไม่แน่ใจว่า ใครกันที่ทรยศต่อหอมหาสมบัติ?

 

“มันคือใคร?”

หลัวเจียเอ่ยถาม

 

“มีคนที่น่าสงสัยอยู่ แต่ข้ายังไม่กล้าการันตีในตอนนี้ นี่มิใช่เวลามาตามสืบ เจ้าพอจะต่อกรกับชายชราคนนั้นได้หรือไม่?”

เย่หยวนเอ่ยขึ้น

 

หลัวเจียกอดดาบพลางเหลียวจับจ้องไปที่หวังอวีกั่น เขากล่าวเสียงเข้ม

“ข้าจะถ่วงเวลาเอง! เจ้าถอยไปก่อน!”

 

ทันทีที่ได้ยินวาจาเหล่านั้น หวังอวีกั่นอดใจระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นอย่างอดมิได้และกล่าวว่า

“เด็กน้อยฟ้าต่ำแผ่นดินสูงหาตระหนักไม่! ยามที่เราชายชราท่องยุทธตะลุยเมืองกุยฉางสารทิศ พวกเจ้ายังไม่ทันลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ! ข้าทราบ ใครต่อใครต่างยกย่อเจ้าว่าสามารถสัประยุทธ์ต่อกรกับเซียนปฐมพระเจ้าขั้นสุดได้อย่างสูสี แต่ต่อหน้าเราชายชรา เจ้าที่มิใช่เซียนปฐมพระเจ้าขั้นสุดขนานแท้ กลับถึงคราวเคราะห์แล้ว!”

 

หลัวเจียมิใช่นิสัยใช้วาจาเป็นอาวุธ ได้จังหวะพลางร่ายกระบวนดาบเข้าจู่โจมโดนตรง!

 

เกร๊งงง!

รัศมีคมดาบสีเย็นสาดสะท้อนถอนจากฝักดาบ

 

สุ้มเสียงหัวเราะของหวังอวีกั่นพลันหยุดชะงักทันใด ดาบของหลัวเจียปราดลุถึงตรงหน้าเขาแล้ว!

 

“อาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุด! นี่เป็นไปได้อย่างไร!”

หวังอวีกั่นร้องอุทานลั่น

ถึงยามนี้จะตื่นตะลึงสุดขีด แต่ปฏิกิริยาของเขายังคงเฉียบคมว่องไวไม่ลดทอนแม้แต่น้อย

 

เกร๊งงง!

 

ทวนยาวเข้าปะทะกับคมดาบของหลัวเจีย เสียงโลหะกระแทกชนดังเสียดหู

 

อาวุธคมเข้าต้านรับรุนแรง เห็นท่าไม่ดีเขาเร่งปรีถอยออกห่างหลัวเจียช่วงตัว

ครั้งนี้หลัวเจียเข้าคู่กับเขาได้!

 

“เหอะ เราชายชราผู้นี้ต้องยอมรับ ช่างน่าแปลกใจโดยแท้ ทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดได้ก่อนออกจากเมือง!”

แม้หวังอวีกั่นจะตื่นตะตกใจ ทว่าหาได้วิตกกังวลไม่

แม้พลังฝีมือของหลัวเจียจะน่าสะพรึงขวัญ แต่ก็ยังมิใช่คู่มือของเขาอยู่ดี

ท้ายที่สุดนี้ หวังอวีกั่นเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะทะลวงขึ้นกลายเป็นเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าแล้ว!

 

แต่น่าเสีย ขั้นตอนนี้กลับยากเย็นดั่งการขึ้นสวรรค์

หากมิอาจพานพบประสบโชคชะตาครั้งใหญ่ ชั่วชีวิตนี้คงยากที่จะทะลวงขึ้นไป

 

หลัวเจียเหลือบมองเย่หยวนเล็กน้อย พร้อมแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความขอบคุณ

ทั้งหมดเป็นเพราะเย่หยวนได้มอบโอสถปราณเทวะขั้นเทวะให้แก่หลัวเจียอย่างลับๆ ซึ่งนั้นช่วยทำให้เขาก้าวข้ามผ่านปัญหาคอขวดเจ้าปัญหามาได้

เขาติดอยู่ที่จุดสูงสุดแห่งอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นปลายมานานเกินนับแล้ว ซึ่งโอกาสที่จะเลื่อนระดับต่อไปกลับไม่มีแม้แต่แวว

 

ด้วยระดับพลังของหลัวเจีย แท้ที่จริงโอสถปราณเทวะไม่มีผลอันใดต่อเขานานแล้ว

เว้นเสียแต่เป็น โอสถปราณเทวะขั้นเทวะ!

 

โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งชั้นต่ำที่เย่หยวนหลอมกลั่นกลับไม่ส่งผลอะไรกับเขามากนัก แต่หากเป็นโอสถปราณเทวะขั้นเทวะ ตราบใดที่มีจำนวนมากพอ ก็สามารถกลืนเข้าไปได้เรื่อยๆจนกว่าจะทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรปัจฉิมพระเจ้า

 

แน่นอน นี่คือขอบเขตเบื้องต้นและข้อกำจัดของโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง

ภายใต้ฤทธิ์โอสถปราณเทวะขั้นเทวะที่เข้าไปกระตุ้น ในท้ายที่สุดหลัวเจียก็ทะลวงฝ่าปัญหาคอขวดที่ติดอยู่นานเป็นเวลาเนินนานได้ในอึดใจเดียว

 

 

หวังอวีกั่นนับเป็นชายชราหัวไวและฉลาดหลักแหลม ปัญญาประสบการณ์สูงส่งตามอายุ เพียงปราดตาเดียว เขาก็อ่านผ่านอ่านสถานการณ์ออกในทันที ก่อนที่จะอดกล่าวขึ้นอย่างประหลาดใจมิได้ว่า

“ดูท่าเด็กคนนี้จะเป็นคนช่วยให้เจ้าฝ่าปัญหาคอขวดขึ้นมาได้? ด้วยระดับของเจ้าในตอนนี้ มีเพียงโอสถปราณเทวะขั้นเทวะเท่านั้นที่ใช้ได้ผล! ช่างน่าทึ่งนัก! เด็กคนนี้สามารถหลอมกลั่นโอสถปราณเทวะขั้นเทวะให้เจ้ากรอกกินได้ราวกับขนม ไม่น่าแปลกใจว่าไฉนหวังหลินโปถึงกลัวเจ้าขนาดนี้ หากอยู่กับตระกูลหวังของข้าแต่แรก คงดูแลอย่างดีเช่นกัน ทว่ากลับน่าเสียดาย หอมหาสมบัติได้ตัวไป เช่นนั้นจำต้องตาย หากไม่ตายพวกเราตระกูลหวังจะเงยหน้าขึ้นสู่ฟ้าได้อีกอย่างไร?”

เมื่อกล่าวจบหวังอวีกั่นหาได้ปกปิดจิตสังหารใดๆอีก

 

หลัวเจียส่งเสียงเย็นเอ่ยแช่มขึ้นว่า

“หากต้องการฆ่าเขา ข้ามศพข้าไปก่อน!”

 

หวังอวีกั่นยิ้มและกล่าวว่า

“พัฒนาการของเจ้าชวนข้าตะลึงได้ก็จริง แต่นั้นมิได้หมายความว่าผลลัพธ์ที่ได้จะต่างออกไป! ท้ายที่สุดนี้ ประสบการณ์ของเจ้ากลับไม่เจนจัดเท่าข้า!”

กล่าวจบ ทวนยาวของหวังอวีกั่นเร่งปรี่พลังปราณไหลเวียนก่อตัวแน่น ยามเพลงทวนปราดรุกออกไป คลื่นพลังร่ายคลั่งดุจมังกรพิโรธ!

 

หลัวเจียสีหน้าขรึมเข้ม นี่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ที่เขาวิตกถึงขนาดนี้!

เพลงทวนของหวังอวีกั่นทั้งหนักหน่วงและทรงพลัง บัญชานภาควบคุมกระแสลมอย่างอิสระ และอย่างลืมเสีย เขาเป็นจอมทวนผู้เจนจัดคนหนึ่ง!

 

ร่างของหลัวเจียคล้ายแผ่นกระดาษบางต้านพายุ หากโดนเพลงทวนนี้เข้าสักบท เกรงว่าตัวขาดเป็นสองท่องในพริบตา

อย่างไรก็ตามแต่ เพลงดาบคลั่งของหลัวเจียก็หาใช่ชนชั้นกินเจ นี่เป็นกระบวนดาบที่มีพื้นฐานคือความคล่องตัว

หลัวเจียไม่ได้ปะทะกับหวังอวีกั่นตรงๆ แต่เลือกที่จะหยั่งเชิงเคลื่อนต้านเคลื่อนรุกตามจังหวะ

 

“เย่หยวน เจ้าออกไปก่อน! ข้าจะถ่วงเวลาเขาเอง!”

หลัวเจียตะโกนลั่น

 

อย่างไรก็ตามแต่ เย่หยวนหาได้มีเจตนาหนี เขากล่าวตอบเสียงเย็นว่า

“เย่คนนี้หาใช่คนทิ้งมิตรสหาย! หากวันนี้พี่หลัวพินาศ เย่คนนี้ก็ขอพินาศไปพร้อมกัน!”

ลั่นวาจาหนักแน่นโดยไม่มีลังเลแม้สักนิด

สุ้มเสียงเย่หยวนเอ่ยลั่นเข้าหูหลัวเจีย เขาพลันรู้สึกประทับจับใจยิ่ง

เย่หยวนคนนี้ถือสัจจะคุณธรรมนำใจ หากเป็นคนอื่นคงหนีหางจุกตูดไปนานแล้ว

 

คำกล่าวนี้ได้ปลุกกระตุ้นจิตวิญญาณนักสู้ในกายหลัวเจียจนเลือดร้อน รัศมีแรงกดดันบนคมดาบยิ่งทวีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ

 

เย่หยวนเป็นเพียงเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นต้นเท่านั้น ความแตกต่างระหว่างทั้งสองกว้างใหญ่ไพศาลเกินไป จนมิอาจแทรกแซงช่วยเหลือได้เลย เลี่ยงไม่ได้นอกจากยืนสังเกตการณ์อยู่ข้างศึกสัประยุทธ์

 

ความแกร่งกล้าของเย่หยวนหาใช่สิ่งที่เซียนในระดับเดียวกันจะต่อกรได้ก็จริง แต่จะให้มาสัประยุทธ์ข้ามระดับแบบในดินแดนพฤกษานิรันดร์คงเป็นไปไม่ได้แล้ว

หากนับเสียงแห่งจอมเทพมังกร ซึ่งเป็นไพ่ตายเด็ดของเย่หยวน นั้นยังพอมีทุนรอนต่อกรกับเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นกลางได้บ้าง

แต่หวังอวีกั่นเป็นถึงเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุด!

 

ยามนี้เห็นว่าเย่หยวนไม่มีเจตนาคิดหลบหนี หวังอวีกั่นลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

พัฒนาการของเจียหลัวเหนือกว่าที่เขาคาดไว้มาก

ถึงจะฆ่าหลัวเจียลงได้ แต่หากเย่หยวนคิดหนีออกไป การจะไล่ล่าจับตัวอีกครั้งกลับเป็นเรื่องยากแน่นอน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด