Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1680 ทุบตีระดับสี่อย่างไม่ยั้ง

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1680 ทุบตีระดับสี่อย่างไม่ยั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1680 ทุบตีระดับสี่อย่างไม่ยั้ง
“ไอ้โง่ขี้อวดอ้าง! ค่ายกลนี้ของพ่อเจ้านี่ถูกใช้งานมานับหมื่นปี แต่ยังไม่เคย…”

หัวหน้าเหอนั้นมั่นใจในค่ายกลวารีมายาทุลักกักเทพของตัวเองมาก เขาใช้ค่ายกลนี้ดักปล้นมานับครั้งไม่ถ้วน มียอดฝีมือตายเถอะมันไม่รู้กี่คน และมันก็ไม่เคยที่จะพลาดเลย

แต่เขายังพูดไม่ทันจบประโยคก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นจากในหุบเขา

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เสียงระเบิดหลายลูกรวมกันแทบจะกลายเป็นเสียงเดียว จากนั้นก็มีแสงหนึ่งพุ่งออกมาจากค่ายกลและออกจากค่ายกลวารีมายาทุลักกักเทพได้ในที่สุด

หัวหน้าเหอตัวสั่นด้วยความไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง

โถงบัลลังก์ม่วงหยุดอยู่กลางอากาศ พร้อมๆ กับร่างของเย่หยวนและหนิงเทียนปิง โดยที่สายตาของเย่หยวนที่มองมานั้นมันเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารอย่างถึงที่สุด

‘ไม่เคยมีใครหลุดรอดออกมาได้’ คำพูดต่อท้ายเหล่านั้นเขาต้องกลืนมันคงคอไปอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้เขามีสีหน้าที่ราวกับได้เห็นผีมองดูเย่หยวนและร้องขึ้น “บ้าน่า! ออก… ออกมาได้ยังไงกัน? ค่ายกลวารีมายาทุลักกักเทพนั้นเป็นค่ายกลที่ไร้ช่องว่าง! ทำไม… เจ้าทำมันได้ยังไง?”

เย่หยวนหัวเราะเย้ยขึ้น “ไม่มีช่องว่าง? มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีค่ายกลไหนไม่มีช่องว่าง? ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งเพียงใดแต่นี่ก็เป็นแค่ค่ายกลศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ แค่ระเบิดมันสักทีก็รู้เรื่องแล้ว!”

“ร-ระเบิดมัน?” หัวหน้าเหอพูดออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ

เมื่อสักครู่นี้เขาเห็นจริงๆ ว่ามีการระเบิดเกิดขึ้นในค่ายกล แต่เขาไม่สามารถที่จะนึกได้เลยว่าต้องเป็นระเบิดประเภทใดที่จะระเบิดค่ายกลของเขาทิ้งได้

เย่หยวนมองดูเขาและกล่าว “ใช่ สมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นกลางระเบิดพร้อมกันกว่าสามสิบชิ้น มันจะพังไหมล่ะ?”

ได้ยินแบบนั้นทั้งเซียงหยุนเฟยและหัวหน้าเหอก็ต้องตัวสั่นเทา

“ส-สมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นกลางกว่าสามสิบชิ้น! เจ้าบ้า! จ-เจ้าไปมีสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นกลางจากไหนมาตั้งเยอะแยะขนาดนั้น?”

เรื่องนี้มันทำให้หัวใจของหัวหน้าเหอและเซียงหยุนเฟยต้องหลั่งเลือด สมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นกลางกว่าสามสิบชิ้นกลับหายไปง่ายๆ แบบนี้!

เจ้าหมอนี่มันไม่ใช่แค่บ้า แต่เป็นอัจฉริยะบ้าเลย

เย่หยวนนั้นเดิมทีก็ไม่ได้มีสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นกลางมากมายนัก แต่ตอนที่เขาชิงของจากพวกซัวหานและศิษย์น้องมา เขาก็ได้สมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำมาอีกหลายชิ้น และในจำนวนนั้นสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นกลางเองก็ไม่ได้มีน้อยๆ

อย่างแหวนของซัวหานเองก็มีสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นกลางถึงเจ็ดหรือแปดชิ้น

อัจฉริยะจากเมืองจักรพรรดินี่รวยกันเสียจริงๆ

หากไม่ใช่เพราะสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นกลางเหล่านี้ การที่เย่หยวนจะออกมามันก็คงไม่ง่ายนัก

เย่หยวนรู้ตัวมาตั้งแต่เริ่มแล้วว่าปราณเทวะของเขามันต่างจากคนอื่นๆ และหลังจากลองอัดมันเข้าไปในสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นกลาง มันก็ระเบิดขึ้นได้จริงๆ

แต่มันยังไม่มีผลใดๆ กับสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นสูง

การระเบิดสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำกว่าสามสิบชิ้นพร้อมๆ กันมันก็เหมือนการโจมตีสุดแรงเกิดของยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นกลางสามสิบคนพร้อมๆ

และเมื่อนำแรงระเบิดนั้นมารวมไว้ที่จุดเดียว มันจึงได้พลังที่เทียบเท่ากับการโจมตีสุดตัวของยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นสูงเลยทีเดียว

ไม่แปลกหรอกหากค่ายกลนั้นมันจะแตกบ้างด้วยการโจมตีแบบนั้น

และแค่รอยแตกมันก็มากพอ!

เย่หยวนมองดูหัวหน้าเหอและยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น “อืม เพราะเจ้าตอนนี้ข้าจึงไม่เหลือสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นกลางติดตัวอีกแล้ว! ให้พูดตรงๆ มันเป็นเพราะเจ้าแท้ๆ”

เมื่อเห็นสายตานั้นของเย่หยวน หัวหน้าเหอก็อดไม่ได้ที่จะต้องตัวสั่น

สมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นกลางกว่าสามสิบชิ้น มันเป็นมูลค่าที่มหาศาลอย่างนับไม่ได้

ต่อให้เป็นเย่หยวนมันก็ยังเจ็บปวดไม่น้อย

แต่เมื่อเซียงหยุนเฟยได้ยินเช่นนั้นเขากลับหัวเราะออกมาลั่น “เย่หยวน เจ้าบอกว่าตัวเองไม่มีสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำขั้นกลางติดตัวแล้วอย่างนั้นหรือ? ฮ่าๆๆ … ไอ้เจ้าโง่ ไม่รู้จักวิธีการตีหน้าขู่สินะถึงได้มาบอกเรื่องราวแบบนี้กับข้า!”

เพราะสิ่งที่เขากลับที่สุดจากเย่หยวนก็คือการระเบิดสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำ

เพราะโดนแบบนั้นพลังบ่มเพาะของเขาถึงได้ตกลงมาระดับหนึ่ง ตอนนี้เขามีพลังบ่มเพาะเพียงแค่อาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวเท่านั้น และคงกลับไปสู่ห้าดาวได้ยากแล้วในชีวิตนี้

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับบอกออกมาว่าเขาไม่มีสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำชั้นกลางติดตัวแล้ว เขาจึงไม่คิดที่จะเกรงกลัวอีก

แม้ว่าเซียงหยุนเฟยจะไม่สามารถหยั่งพลังของเย่หยวนได้มากมาย แต่ต่อให้เขาจะบรรลุอาณาจักรมาได้ มันก็คงไม่พ้นแค่อาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาว

ด้วยพลังบ่มเพาะอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวขั้นสุดของเขา การสังหารเย่หยวนนั้นมันเกินพอ!

เย่หยวนมองดูที่เซียงหยุนเฟยราวกับมองศพคนตายก่อนจะหันไปสั่งหนิงเทียนปิง “เจ้าไปจัดการพวกนั้นเสีย หมอนี่ข้าจะจัดการมันเอง!”

หนิงเทียนปิงพยักหน้ารับ “นายใหญ่โปรดระวัง!”

หัวหน้าเหอเองก็เป็นเพียงแค่นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวเช่นกัน ส่วนลูกน้องที่เหลือนั้นอยู่แค่อาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นต้น

การต่อสู้ระหว่างอาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นกลาง พวกเขาทั้งหลายนั้นไม่มีปัญญาที่จะยื่นมือมายุ่งได้เลย

เมื่อเซียงหยุนเฟยได้ยินเขาก็หัวเราะลั่น “เจ้าว่าเจ้าจะจัดการข้าคนเดียว? ไอ้โง่เอ๊ย เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าแค่บรรลุอาณาจักรมาได้ใหม่ๆ เจ้าจะสามารถชนะได้ทุกผู้คนน่ะ? ต่อให้พ่อเจ้าคนนี้พลังบ่มเพาะตกลงมันก็ยังอยู่ในอาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นกลาง สังหารเจ้า… มันลำบากก็แค่ขยับนิ้วเท่านั้น!”

เย่หยวนมองหน้าอีกฝ่ายและตอบไปอย่างไม่แยแส “เรอะ? งั้นเรอะ?”

ฟุบ!

พูดจบร่างของเย่หยวนก็จางหายไปจากจุดที่เขายืนทันที

เซียงหยุนเฟยหรี่ตาลงทันที “เร็วมาก!”

“กรงเล็บมังกรเอกภพ!”

เย่หยวนตะโกนลั่น ลายสีฟ้าบนร่างเปล่งแสงพร้อมปล่อยกรงเล็บออกมาพุ่งเข้าใส่เซียงหยุนเฟยอย่างรวดเร็ว

เมื่อกรงเล็บมังกรพุ่งเข้ามา อีกฝ่ายก็ต้องตื่นตระหนก!

เพราะกรงเล็บนี้มันเร็วมาก เร็วจนเซียงหยุนเฟยไม่ทันที่จะตอบโต้ใดๆ เลย

บัง!

“อ่อก!”

เซียงหยุนเฟยถูกกรงเล็บซัดจนปลิวไป พร้อมกระอักเลือดออกมาคำโต

แต่ทว่าเย่หยวนไม่ได้คิดที่จะหยุดมือลงแม้แต่น้อย หลังปล่อยกรงเล็บแรกออกไป กรงเล็บที่สองก็ตามมาติดๆ

บัง!

บัง!

บัง!

บนท้องฟ้ามีภาพเล็บมังกรปรากฏขึ้นและจางหายไป

ตอนนี้เย่หยวนนั้นพิโรธมาก มากจนต้องปลดปล่อยมันออกมาอย่างบ้าคลั่งใส่ร่างของเซียงหยุนเฟย

ส่วนการต่อสู้ของทางนี้ยังไม่ทันได้เริ่มเสียด้วยซ้ำ เพราะพวกเขาได้แต่มองไปที่อีกฝั่งอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

การต่อสู้ของฝั่งนั้นมันเป็นการกระทืบฝ่ายเดียวอย่างที่พวกเขาคาดคิด แต่มันกลับไม่เหมือนกับที่พวกเขาจินตนาการไว้แม้แต่น้อย!

เพราะฝ่ายเดียว แต่ฝ่ายนั้นกลับเป็นเย่หยวนที่โจมตีใส่เซียงหยุนเฟยอย่างไม่ยั้งมือ

ที่บนท้องฟ้าเซียงหยุนเฟยพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถรับกรงเล็บอันรุนแรงนี้ได้เลยแม้แต่น้อย

ตอนนี้เย่หยวนใช้เพียงแค่กำลังกายในการกดดันเขา!

เซียงหยุนเฟยนั้นสั่นสะท้านไปถึงแก่น เขาไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนที่เพิ่งบรรลุอาณาจักรมาใหม่ๆ คนนี้จะมีพลังที่เหนือล้ำได้ถึงขั้นนี้

มุมมองที่เขาเคยมีต่อเย่หยวนนั้นคือเขาเป็นนักระเบิดสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำ แต่ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าแม้แต่พลังฝีมือของเย่หยวนเองเขาก็ไม่มีทางที่จะต่อต้านได้เลยแม้แต่นิด!

เย่หยวนเองก็ตื่นเต้นดีใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เพราะเขาได้รู้ว่าตอนนี้วรยุทธเผ่ามังกรของเขามันแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆ ด้าน

เขารู้สึกได้ว่าทุกครั้งที่เขาใช้มันออกมา มันจะมีพลังลึกลับบางอย่างผสานเข้ามาในวรยุทธเหล่านั้นด้วยทำให้พลังของมันเพิ่งพูนขึ้นเป็นเท่าตัว

เย่หยวนรู้ได้ทันทีว่านี่คือพลังจากลายสีฟ้าแปลกๆ นั้น

เมื่อเห็นแบบนี้ลายสีฟ้าที่ว่ามันก็คงเป็นของดีมากกว่าของเสียแล้ว

เพราะต่อให้วรยุทธเผ่ามังกรจะแข็งแกร่งเพียงใด มันก็ไม่มีทางที่จะแกร่งพอที่จะกดดันเซียงหยุนเฟยไว้ในทุกด้านแบบนี้

เซียงหยุนเฟยนั้นคืออดีตยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาว แม้ตอนนี้พลังบ่มเพาะของเขาจะตกลงมา แต่มันก็ยังไม่ใช่ในระดับที่นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวทั่วๆ ไปจะเทียบเคียงได้

พลังฝีมือของเขาในตอนนี้คงสามารถชนะนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวได้ทั่วหล้า

เพราะฉะนั้นเขาจึงมั่นใจมากและกล้าไปขอร้องให้โจรอย่างหัวหน้าเหอช่วยเหลือ

แต่ตอนนี้ด้วยพลังจากลายสีฟ้า เย่หยวนกลับสามารถกดดันเซียงหยุนเฟยได้ด้วยแค่พลังจากกายทองคำเท่านั้น

แน่นอนแล้วว่าเสียงแห่งเทพมังกรเมื่อสักครู่เองก็คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เซียงหยุนเฟยมีความคิดเดียวเหลืออยู่ในหัวตอนนี้ คือหนี!

จู่ๆ ร่างของเซียงหยุนเฟยก็เปล่งแสงสว่างออกมาก่อนที่ร่างนั้นจะมุ่งหน้าออกไปห่างไกลในเวลาแค่พริบตา

เห็นแบบนั้นเย่หยวนก็แอบหัวเราะและยกมือขึ้นมาวาดตราทันที!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด