Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1992 ชัยชนะอันสมบูรณ์แบบ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1992 ชัยชนะอันสมบูรณ์แบบ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หายแล้ว? หรือว่าเขาจะมีโอสถอมตะใดติดตัวไว้กัน?”

“ความเร็วในการฟื้นฟูนี้มันจะเหนือล้ำเกินไปหรือไม่? ก่อนหน้านี้เขายังมีสภาพใกล้ตายรอมร่อ แต่กลับหายเป็นปกติได้ในเวลาสามวันหรือ?”

เมื่อทุกผู้คนได้เห็นเย่หยวนลุกขึ้นเดินมาหามารกระดูกเทพสวรรค์เหล่าผู้คนทั้งหลายก็ได้แต่ตื่นตะลึงจนไม่อาจทำใจให้สงบได้

สามวันก่อนเย่หยวนนั้นยังไม่มีแรงแม้แต่จะคลาน

สามวันถัดมาตัวเย่หยวนกลับลุกเดินได้เป็นปกติ

เจ้าหมอนี่มันกินโอสถใดลงไปกันแน่?

“ผู้อาวุโส โปรดลงมือ!” เย่หยวนบอกด้วยสายตาดุดัน

มารกระดูกนั้นมองดูเย่หยวนและค่อยๆ เปิดปากออกพูด “เด็กน้อย เจ้านั้นไม่อาจก้าวไปได้มากกว่านี้แล้ว ดาบนี้เองเจ้าก็คงรับไม่ได้เช่นกัน ดาบที่สามของข้านี้มันเป็นดาบที่ผสานแนวคิดทั้งห้าเข้าด้วยกัน มีพลังเหนือล้ำจนเจ้าไม่อาจคาดเดาได้”

ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างใจเต้นสั่นรัว

ผสานแนวคิดห้าแนวคิด มันเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ด้วยหรือ?

หรือว่าเหล่ายอดอัจฉริยะในอดีตนั้นจะสามารถผสานแนวคิดสี่หรือห้าแนวคิดได้ทั้งสิ้น?

เย่หยวนตอบกลับไป “อย่าได้เตือนอีกเลย ผู้อาวุโส เชิญลงมือ!”

มารกระดูกนั้นตอบกลับมาอย่างเรียบเฉย “สงครามสิ้นโลกนั้นมันได้กลบฝังสิ่งต่างๆ ไปมากมาย เจ้าเองก็ไม่ต้องมากลัวเสียหน้ากับเรื่องเท่านี้หรอก แต่ในเมื่อเจ้าคิดยอมรับความตายเอง เทพสวรรค์ผู้นี้ก็คงต้องสงเคราะห์ให้ เจ้าดูให้ดีเล่า”

พูดจบมารกระดูกเทพสวรรค์นั้นก็แทงดาบออกมาอีกครั้ง

มันเป็นท่าเดิม เพียงแค่ว่าในครั้งนี้มันกลับดูธรรมดากว่าเดิมอย่างมากมาย

ตอนนี้โลกทั้งใบนี้มีแต่ความเงียบสงัด

แค่มารกระดูกยกดาบขึ้นมาเย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงความตายที่มาเยือนอยู่ตรงหน้า

ดาบนี้มันไม่อาจจะใช้คำพูดใดอธิบายได้

เมื่อได้เห็นความสุดยอดในความธรรมดานี้คนทั้งหลายจึงลืมแม้แต่จะหายใจ

ทุกสิ่งอย่างนั้นมันอยู่กับดาบนี้

ดาบนี้มันเป็นการใช้แนวคิดแห่งดาบออกมาอย่างงดงามจนถึงขั้นสุดยอด!

คนที่สามารถควบคุมดาบได้ถึงระดับนี้เย่หยวนแทบไม่เคยพบเจอเลยในชีวิต

ดูท่าว่าอีกฝ่ายนั้นในตอนมีชีวิตก็คงไม่ได้ต่างจากตัวเย่หยวนมากนัก เขาใช้พลังของแนวคิดอื่นผสานกับแนวคิดแห่งดาบเพื่อที่จะขึ้นถึงจุดสูงสุดที่แท้

เพียงแค่ว่าการผสานสี่แนวคิดเข้ากับแนวคิดแห่งดาบนั้นมันเป็นอะไรที่แม้แต่ตัวเย่หยวนก็ยังไม่อาจคาดคิด

เหล่าเด็กแห่งโชคชะตาทั้งหลายรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งกาย ตอนนี้พวกเขาเริ่มฉลาดขึ้นมาและขยับร่างกายถอยออกไปไกลจากวงการต่อสู้ของคนทั้งสองเผื่อว่าจะมีพลังลูกหลงใดๆ

ครั้งก่อนนั้นพวกเขาทั้งหลายแค่กระอักเลือดออกมา แต่ครั้งนี้มันไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะจบลงแค่นั้น

เพราะมารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้เองก็บอกมาแล้วว่าพลังของดาบนี้มันจะเหนือล้ำกว่าดาบที่สองถึงห้าสิบเท่า!

พลังในระดับนั้นมันเหนือล้ำกว่าคำว่าน่าเกรงกลัวใดๆ ไปไกลลิบ

พวกเขานั้นไม่อาจคาดคิดได้เลยว่าเย่หยวนนั้นจะใช้พลังใดออกมารับการโจมตีของดาบที่สามนี้ได้

แต่พวกเขาทั้งหลายนั้นต่างคาดหวังให้เกิดปาฏิหาริย์

เพราะหากเย่หยวนตายลงด้วยดาบนี้แล้วพวกเขาทั้งหลายก็คงต้องเป็นเป้าดาบของมารกระดูกเทพสวรรค์ต่อไป

คนที่เหลือทั้งหมดนี้มันมีใครบ้างที่มั่นใจว่าจะรอดจากดาบแรกของมารกระดูกเทพสวรรค์ได้?

หากเย่หยวนตาย พวกเขาทั้งหลายทั้งสิ้นนี้ก็คงต้องตายลงด้วยแล้ว

แต่ปัญหาคือเย่หยวนจะรับมันได้หรือไม่?

ระหว่างที่พวกเขาทั้งหลายยังคงเคลือบแคลงสงสัยทางมารกระดูกเทพสวรรค์ก็ได้ปล่อยดาบนั้นออกมา

ตอนนี้มันไม่ได้มีคลื่นพลังดาบหรือสิ่งใดนำ สิ่งที่เข้ามานั้นคือร่างของมารกระดูกเทพสวรรค์เอง!

มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นจับดาบของตนพุ่งเป้าแทงเข้ามายังหัวใจของเย่หยวน

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่ได้คิดจะตั้งท่าใช้ดาบสลักกลวงใดๆ

ยอมแพ้?

ทุกผู้คนนั้นต่างเข้าใจดีว่าเมื่อดาบนี้ของมารกระดูกเทพสวรรค์เข้ามาถึงตัวของเย่หยวนมันคงกลายเป็นพลังที่มหาศาลสั่นสะท้านฟ้าดิน

เพราะมันเร็วเสียยิ่งกว่าสิ่งใด

ในเวลาไม่ถึงพริบตามารกระดูกเทพสวรรค์ก็ได้พุ่งมาถึงเบื้องหน้าเย่หยวน

“พี่เย่ระวัง!

“พี่เย่!”

ซงหยูและพวกนั้นไม่เข้าใจว่าเย่หยวนกำลังคิดจะทำอะไรเมื่อได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาจึงมีใบหน้าขาวซีดด้วยความหวาดกลัว

ทุกผู้คนต่างร่ำร้องออกมาอย่างตื่นตกใจไม่เข้าใจว่าเย่หยวนคิดอะไรอยู่ในหัวกันแน่

แต่ในวินาทีนั้นเองที่กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น

เพราะตอนนี้ในจุดตันเถียนของเย่หยวนมันกลับมีสายฟ้าพุ่งพวยทะยานออกมารับดาบกระดูกนั้นไว้อย่างนับไม่ถ้วน

‘ฟู ฟู ฟู…’

อากาศรอบๆ เกิดเสียงร่ำร้องขึ้นที่ใดที่ดาบนั้นพุ่งผ่านเหล่าลายพระเจ้าทั้งหลายต่างพังทลายลง

แต่เมื่อเหล่าลายพระเจ้าทั้งหลายเริ่มรวมกันหนาแน่นความเร็วของดาบนั้นมันก็ยิ่งช้าเชื่องลงเรื่อยๆ

“นี่มัน… ลายพระเจ้า?”

นี่นับเป็นครั้งแรกที่มารกระดูกเทพสวรรค์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงอารมณ์ตื่นตกใจ

เทพถ่องแท้สองดาวผู้หนึ่งจะบ่มเพาะลายพระเจ้าได้อย่างไร?

พลังของดาบนี้มันสุดแสนรุนแรง ในตอนแรกเหล่าลายพระเจ้าทั้งหลายต่างไม่อาจต้านทานมันได้

แต่นานเข้าเหล่าลายพระเจ้ามันก็ยิ่งรวมตัวกันหนาแน่นขึ้น

จนสุดท้ายดาบนั้นกลับถูกตรึงไว้กลางอากาศ

แต่ทว่าเหล่าลายพระเจ้าทั้งหลายยังไม่หยุดลงเท่านั้น มันค่อยๆ ขยับเข้าไปพันร่างของมารกระดูกไว้

จนในที่สุดมารกระดูกเทพสวรรค์นั้นกลับไม่อาจขยับร่างได้แม้แต่น้อย

มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นตื่นตะลึงอย่างมากและพยายามออกแรงให้มากกว่าเก่า

จากเทพถ่องแท้สองดาว เป็นพลังเทพถ่องแท้สามดาว จนกลายเป็นพลังเทพถ่องแท้สี่ดาว

แต่มันก็ยังไม่อาจดิ้นหลุดได้!

คลื่นพลังจากร่างของมารกระดูกเทพสวรรค์จึงพุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อมันพุ่งกลับขึ้นไปถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้เจ็ดดาวเขาจึงพอที่จะฉีกลายพระเจ้าที่ล้อมรอบอยู่ให้ขาดลงได้!

เมื่อขึ้นไปถึงพลังเทพถ่องแท้เก้าดาวเย่หยวนก็ไม่อาจจะพันธนาการมารกระดูกเทพสวรรค์ไว้ได้อีกจนถูกคลื่นพลังนั้นดีดซัดไปไกล

ทุกผู้คนต่างมองดูภาพตรงหน้านี้อย่างตกตะลึงและหวาดกลัว

มารกระดูกเทพสวรรค์ที่สุดแสนแข็งแกร่งนั้นกลับต้องเพิ่มพลังบ่มเพาะกลับขึ้นไปเพื่อจะหนีจากเจ้าสายฟ้าทั้งหลายนี้

ไหนว่าจะใช้แค่วิชาดาบเล่า?

ไหนว่าจะใช้แค่พลังในระดับเดียวกันเล่า?

ดาบที่สามนี้มารกระดูกเทพสวรรค์พ่ายแพ้อย่างไม่มีทางขัดขืนเลย!

เย่หยวนนั้นยังไม่ทันได้ทำอะไรมารกระดูกเทพสวรรค์ก็ถูกลายสีฟ้าของเย่หยวนนี้จัดการจนอยู่หมัด

ภาพตรงหน้านี้มันทำให้ทุกผู้คนต้องอ้าปากค้างมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง

ตอนนี้เย่หยวนค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น

แต่นัยน์ตาของเขานั้นมันกลับไร้ความรู้สึกอารมณ์ใดๆ ทำให้พวกเขาทั้งหลายสั่นผวาไปทั้งใจ

ช่างเป็นดวงตาที่เย็นชาราวน้ำแข็ง!

สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันแตกต่างจากก่อนหน้าราวกับกลายเป็นคนละคน

ดวงตาของเขานั้นมันเหมือนผู้มองผ่านชีวิตทั้งหลายโดยไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ

เต๋าสวรรค์!

นี่คือคลื่นพลังแบบเดียวกับเต๋าสวรรค์!

แล้วเทพถ่องแท้สองดาวผู้หนึ่งจะมีคลื่นพลังอันน่ากลัวเช่นนี้ออมาจากร่างได้อย่างไร?

“เจ้าพูดกล่าวถึงว่ายอดอัจฉริยะในอดีตเก่งกาจอย่างนั้นอย่างนี้ ดาบที่สามมันรุนแรงเช่นนั้นเช่นนี้ แล้วดูสิ สุดท้ายมันก็แค่เท่านี้” เย่หยวนมองดูที่ร่างของมารกระดูกด้วยสายตาสุดแสนเย็นเยือก

ท้าทาย!

เย่หยวนนั้นกำลังท้าทายอีกฝ่าย!

เขานั้นกำลังท้าทายยอดฝีมือระดับเทพสวรรค์!

เจ้าหมอนี่มันบ้าไปแล้วหรือ?

แต่ทว่าตัวเขานั้นก็ได้ใช้คำของมารกระดูกเทพสวรรค์ต่อตัวมารกระดูกเทพสวรรค์เอง ทำให้เย่หยวนได้ตบหน้ามารกระดูกฉาดใหญ่

เย่หยวนนั้นไม่เพียงแค่รับดาบนี้ไว้ได้ แต่เขายังทำให้มารกระดูกเทพสวรรค์ต้องเพิ่มพลังบ่มเพาะขึ้นไปจนถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้เก้าดาว

นี่มันเหมือนกับเป็นการตบหน้ามารกระดูกเทพสวรรค์อย่างรุนแรงด้วยมือของมารกระดูกเทพสวรรค์เอง!

แม้ว่าพวกเขาทั้งหลายจะไม่ได้เป็นคนทำเองแต่เหล่าเด็กแห่งโชคชะตาทั้งหลายก็ได้รู้สึกปลดปล่อยความเครียดที่สะสมมา

เพราะจากปากของมารกระดูกเทพสวรรค์นั้นแม้จะเป็นยอดอัจฉริยะในอดีตเองพวกเขาก็ทำได้เพียงแค่รับดาบที่สามนี้ไว้

แต่เย่หยวนกลับสามารถทำให้เทพสวรรค์ต้องเร่งพลังของตนขึ้นจนถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้เก้าดาว

แค่นี้มันก็มากพอที่จะพิสูจน์แล้วว่าเย่หยวนนั้นมีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำกว่ายอดคนในอดีตมากมาย!

มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นใช้เบ้าตาที่กลวงโบ๋มองดูเย่หยวนส่วนเย่หยวนก็ใช้ดวงตาที่เย็นเยือกนั้นจ้องกลับไปยังมารกระดูกเทพสวรรค์

ดวงตาทั้งสองนั้นจ้องมองกันอย่างเงียบงัน

หลังผ่านไปนานแสนนานในที่สุดทางมารกระดูกเทพสวรรค์ก็กล่าวขึ้น “ข้าขอถอนคำพูด! เทพถ่องแท้บ่มเพาะลายพระเจ้า เรื่องเช่นนี้ข้าไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน พรสวรรค์ของเจ้านี้มันเหนือล้ำกว่าที่จะใช้สามัญสำนึกใดๆ มาวัดได้แล้ว”

พูดไปมารกระดูกเทพสวรรค์ก็ได้โยนดาบกระดูกในมือไปให้เย่หยวน

นั่นทำให้ใบหน้าของทุกผู้คนเปลี่ยนสีทันที มารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้กลับยอมแพ้ลง!

“ดาบกระดูกนี้เป็นของเจ้าแล้ว ส่วนเรื่องกระดูกของนายท่าน เจ้าก็เอามันไปได้! ยอดอัจฉริยะระดับนี้ปรากฏตัวขึ้นมา ดูท่า… สงครามสิ้นโลกครั้งต่อไปคงอยู่อีกไม่ไกลแล้วใช่หรือไม่? นายท่าน ข้าได้ทำภารกิจลุล่วงแล้ว ข้าขอพักก่อนล่ะ”

พูดจบร่างของมารกระดูกเทพสวรรค์นั้นก็แตกสลายลงหายไปกับสายลมทันที

เย่หยวนเก็บดาบกระดูกลงไปด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินหน้าขึ้นไปยังยอดเขากระดูก

บนยอดนั้นแสงที่กระดูกจักรพรรดิกิเลนปล่อยออกมามันทำให้ผู้คนที่พบเห็นต้องสั่นสะเทือนไปถึงจิตวิญญาณ

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1992 ชัยชนะอันสมบูรณ์แบบ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1992 ชัยชนะอันสมบูรณ์แบบ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หายแล้ว? หรือว่าเขาจะมีโอสถอมตะใดติดตัวไว้กัน?”

“ความเร็วในการฟื้นฟูนี้มันจะเหนือล้ำเกินไปหรือไม่? ก่อนหน้านี้เขายังมีสภาพใกล้ตายรอมร่อ แต่กลับหายเป็นปกติได้ในเวลาสามวันหรือ?”

เมื่อทุกผู้คนได้เห็นเย่หยวนลุกขึ้นเดินมาหามารกระดูกเทพสวรรค์เหล่าผู้คนทั้งหลายก็ได้แต่ตื่นตะลึงจนไม่อาจทำใจให้สงบได้

สามวันก่อนเย่หยวนนั้นยังไม่มีแรงแม้แต่จะคลาน

สามวันถัดมาตัวเย่หยวนกลับลุกเดินได้เป็นปกติ

เจ้าหมอนี่มันกินโอสถใดลงไปกันแน่?

“ผู้อาวุโส โปรดลงมือ!” เย่หยวนบอกด้วยสายตาดุดัน

มารกระดูกนั้นมองดูเย่หยวนและค่อยๆ เปิดปากออกพูด “เด็กน้อย เจ้านั้นไม่อาจก้าวไปได้มากกว่านี้แล้ว ดาบนี้เองเจ้าก็คงรับไม่ได้เช่นกัน ดาบที่สามของข้านี้มันเป็นดาบที่ผสานแนวคิดทั้งห้าเข้าด้วยกัน มีพลังเหนือล้ำจนเจ้าไม่อาจคาดเดาได้”

ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างใจเต้นสั่นรัว

ผสานแนวคิดห้าแนวคิด มันเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ด้วยหรือ?

หรือว่าเหล่ายอดอัจฉริยะในอดีตนั้นจะสามารถผสานแนวคิดสี่หรือห้าแนวคิดได้ทั้งสิ้น?

เย่หยวนตอบกลับไป “อย่าได้เตือนอีกเลย ผู้อาวุโส เชิญลงมือ!”

มารกระดูกนั้นตอบกลับมาอย่างเรียบเฉย “สงครามสิ้นโลกนั้นมันได้กลบฝังสิ่งต่างๆ ไปมากมาย เจ้าเองก็ไม่ต้องมากลัวเสียหน้ากับเรื่องเท่านี้หรอก แต่ในเมื่อเจ้าคิดยอมรับความตายเอง เทพสวรรค์ผู้นี้ก็คงต้องสงเคราะห์ให้ เจ้าดูให้ดีเล่า”

พูดจบมารกระดูกเทพสวรรค์นั้นก็แทงดาบออกมาอีกครั้ง

มันเป็นท่าเดิม เพียงแค่ว่าในครั้งนี้มันกลับดูธรรมดากว่าเดิมอย่างมากมาย

ตอนนี้โลกทั้งใบนี้มีแต่ความเงียบสงัด

แค่มารกระดูกยกดาบขึ้นมาเย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงความตายที่มาเยือนอยู่ตรงหน้า

ดาบนี้มันไม่อาจจะใช้คำพูดใดอธิบายได้

เมื่อได้เห็นความสุดยอดในความธรรมดานี้คนทั้งหลายจึงลืมแม้แต่จะหายใจ

ทุกสิ่งอย่างนั้นมันอยู่กับดาบนี้

ดาบนี้มันเป็นการใช้แนวคิดแห่งดาบออกมาอย่างงดงามจนถึงขั้นสุดยอด!

คนที่สามารถควบคุมดาบได้ถึงระดับนี้เย่หยวนแทบไม่เคยพบเจอเลยในชีวิต

ดูท่าว่าอีกฝ่ายนั้นในตอนมีชีวิตก็คงไม่ได้ต่างจากตัวเย่หยวนมากนัก เขาใช้พลังของแนวคิดอื่นผสานกับแนวคิดแห่งดาบเพื่อที่จะขึ้นถึงจุดสูงสุดที่แท้

เพียงแค่ว่าการผสานสี่แนวคิดเข้ากับแนวคิดแห่งดาบนั้นมันเป็นอะไรที่แม้แต่ตัวเย่หยวนก็ยังไม่อาจคาดคิด

เหล่าเด็กแห่งโชคชะตาทั้งหลายรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งกาย ตอนนี้พวกเขาเริ่มฉลาดขึ้นมาและขยับร่างกายถอยออกไปไกลจากวงการต่อสู้ของคนทั้งสองเผื่อว่าจะมีพลังลูกหลงใดๆ

ครั้งก่อนนั้นพวกเขาทั้งหลายแค่กระอักเลือดออกมา แต่ครั้งนี้มันไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะจบลงแค่นั้น

เพราะมารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้เองก็บอกมาแล้วว่าพลังของดาบนี้มันจะเหนือล้ำกว่าดาบที่สองถึงห้าสิบเท่า!

พลังในระดับนั้นมันเหนือล้ำกว่าคำว่าน่าเกรงกลัวใดๆ ไปไกลลิบ

พวกเขานั้นไม่อาจคาดคิดได้เลยว่าเย่หยวนนั้นจะใช้พลังใดออกมารับการโจมตีของดาบที่สามนี้ได้

แต่พวกเขาทั้งหลายนั้นต่างคาดหวังให้เกิดปาฏิหาริย์

เพราะหากเย่หยวนตายลงด้วยดาบนี้แล้วพวกเขาทั้งหลายก็คงต้องเป็นเป้าดาบของมารกระดูกเทพสวรรค์ต่อไป

คนที่เหลือทั้งหมดนี้มันมีใครบ้างที่มั่นใจว่าจะรอดจากดาบแรกของมารกระดูกเทพสวรรค์ได้?

หากเย่หยวนตาย พวกเขาทั้งหลายทั้งสิ้นนี้ก็คงต้องตายลงด้วยแล้ว

แต่ปัญหาคือเย่หยวนจะรับมันได้หรือไม่?

ระหว่างที่พวกเขาทั้งหลายยังคงเคลือบแคลงสงสัยทางมารกระดูกเทพสวรรค์ก็ได้ปล่อยดาบนั้นออกมา

ตอนนี้มันไม่ได้มีคลื่นพลังดาบหรือสิ่งใดนำ สิ่งที่เข้ามานั้นคือร่างของมารกระดูกเทพสวรรค์เอง!

มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นจับดาบของตนพุ่งเป้าแทงเข้ามายังหัวใจของเย่หยวน

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่ได้คิดจะตั้งท่าใช้ดาบสลักกลวงใดๆ

ยอมแพ้?

ทุกผู้คนนั้นต่างเข้าใจดีว่าเมื่อดาบนี้ของมารกระดูกเทพสวรรค์เข้ามาถึงตัวของเย่หยวนมันคงกลายเป็นพลังที่มหาศาลสั่นสะท้านฟ้าดิน

เพราะมันเร็วเสียยิ่งกว่าสิ่งใด

ในเวลาไม่ถึงพริบตามารกระดูกเทพสวรรค์ก็ได้พุ่งมาถึงเบื้องหน้าเย่หยวน

“พี่เย่ระวัง!

“พี่เย่!”

ซงหยูและพวกนั้นไม่เข้าใจว่าเย่หยวนกำลังคิดจะทำอะไรเมื่อได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาจึงมีใบหน้าขาวซีดด้วยความหวาดกลัว

ทุกผู้คนต่างร่ำร้องออกมาอย่างตื่นตกใจไม่เข้าใจว่าเย่หยวนคิดอะไรอยู่ในหัวกันแน่

แต่ในวินาทีนั้นเองที่กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น

เพราะตอนนี้ในจุดตันเถียนของเย่หยวนมันกลับมีสายฟ้าพุ่งพวยทะยานออกมารับดาบกระดูกนั้นไว้อย่างนับไม่ถ้วน

‘ฟู ฟู ฟู…’

อากาศรอบๆ เกิดเสียงร่ำร้องขึ้นที่ใดที่ดาบนั้นพุ่งผ่านเหล่าลายพระเจ้าทั้งหลายต่างพังทลายลง

แต่เมื่อเหล่าลายพระเจ้าทั้งหลายเริ่มรวมกันหนาแน่นความเร็วของดาบนั้นมันก็ยิ่งช้าเชื่องลงเรื่อยๆ

“นี่มัน… ลายพระเจ้า?”

นี่นับเป็นครั้งแรกที่มารกระดูกเทพสวรรค์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงอารมณ์ตื่นตกใจ

เทพถ่องแท้สองดาวผู้หนึ่งจะบ่มเพาะลายพระเจ้าได้อย่างไร?

พลังของดาบนี้มันสุดแสนรุนแรง ในตอนแรกเหล่าลายพระเจ้าทั้งหลายต่างไม่อาจต้านทานมันได้

แต่นานเข้าเหล่าลายพระเจ้ามันก็ยิ่งรวมตัวกันหนาแน่นขึ้น

จนสุดท้ายดาบนั้นกลับถูกตรึงไว้กลางอากาศ

แต่ทว่าเหล่าลายพระเจ้าทั้งหลายยังไม่หยุดลงเท่านั้น มันค่อยๆ ขยับเข้าไปพันร่างของมารกระดูกไว้

จนในที่สุดมารกระดูกเทพสวรรค์นั้นกลับไม่อาจขยับร่างได้แม้แต่น้อย

มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นตื่นตะลึงอย่างมากและพยายามออกแรงให้มากกว่าเก่า

จากเทพถ่องแท้สองดาว เป็นพลังเทพถ่องแท้สามดาว จนกลายเป็นพลังเทพถ่องแท้สี่ดาว

แต่มันก็ยังไม่อาจดิ้นหลุดได้!

คลื่นพลังจากร่างของมารกระดูกเทพสวรรค์จึงพุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อมันพุ่งกลับขึ้นไปถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้เจ็ดดาวเขาจึงพอที่จะฉีกลายพระเจ้าที่ล้อมรอบอยู่ให้ขาดลงได้!

เมื่อขึ้นไปถึงพลังเทพถ่องแท้เก้าดาวเย่หยวนก็ไม่อาจจะพันธนาการมารกระดูกเทพสวรรค์ไว้ได้อีกจนถูกคลื่นพลังนั้นดีดซัดไปไกล

ทุกผู้คนต่างมองดูภาพตรงหน้านี้อย่างตกตะลึงและหวาดกลัว

มารกระดูกเทพสวรรค์ที่สุดแสนแข็งแกร่งนั้นกลับต้องเพิ่มพลังบ่มเพาะกลับขึ้นไปเพื่อจะหนีจากเจ้าสายฟ้าทั้งหลายนี้

ไหนว่าจะใช้แค่วิชาดาบเล่า?

ไหนว่าจะใช้แค่พลังในระดับเดียวกันเล่า?

ดาบที่สามนี้มารกระดูกเทพสวรรค์พ่ายแพ้อย่างไม่มีทางขัดขืนเลย!

เย่หยวนนั้นยังไม่ทันได้ทำอะไรมารกระดูกเทพสวรรค์ก็ถูกลายสีฟ้าของเย่หยวนนี้จัดการจนอยู่หมัด

ภาพตรงหน้านี้มันทำให้ทุกผู้คนต้องอ้าปากค้างมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง

ตอนนี้เย่หยวนค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น

แต่นัยน์ตาของเขานั้นมันกลับไร้ความรู้สึกอารมณ์ใดๆ ทำให้พวกเขาทั้งหลายสั่นผวาไปทั้งใจ

ช่างเป็นดวงตาที่เย็นชาราวน้ำแข็ง!

สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันแตกต่างจากก่อนหน้าราวกับกลายเป็นคนละคน

ดวงตาของเขานั้นมันเหมือนผู้มองผ่านชีวิตทั้งหลายโดยไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ

เต๋าสวรรค์!

นี่คือคลื่นพลังแบบเดียวกับเต๋าสวรรค์!

แล้วเทพถ่องแท้สองดาวผู้หนึ่งจะมีคลื่นพลังอันน่ากลัวเช่นนี้ออมาจากร่างได้อย่างไร?

“เจ้าพูดกล่าวถึงว่ายอดอัจฉริยะในอดีตเก่งกาจอย่างนั้นอย่างนี้ ดาบที่สามมันรุนแรงเช่นนั้นเช่นนี้ แล้วดูสิ สุดท้ายมันก็แค่เท่านี้” เย่หยวนมองดูที่ร่างของมารกระดูกด้วยสายตาสุดแสนเย็นเยือก

ท้าทาย!

เย่หยวนนั้นกำลังท้าทายอีกฝ่าย!

เขานั้นกำลังท้าทายยอดฝีมือระดับเทพสวรรค์!

เจ้าหมอนี่มันบ้าไปแล้วหรือ?

แต่ทว่าตัวเขานั้นก็ได้ใช้คำของมารกระดูกเทพสวรรค์ต่อตัวมารกระดูกเทพสวรรค์เอง ทำให้เย่หยวนได้ตบหน้ามารกระดูกฉาดใหญ่

เย่หยวนนั้นไม่เพียงแค่รับดาบนี้ไว้ได้ แต่เขายังทำให้มารกระดูกเทพสวรรค์ต้องเพิ่มพลังบ่มเพาะขึ้นไปจนถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้เก้าดาว

นี่มันเหมือนกับเป็นการตบหน้ามารกระดูกเทพสวรรค์อย่างรุนแรงด้วยมือของมารกระดูกเทพสวรรค์เอง!

แม้ว่าพวกเขาทั้งหลายจะไม่ได้เป็นคนทำเองแต่เหล่าเด็กแห่งโชคชะตาทั้งหลายก็ได้รู้สึกปลดปล่อยความเครียดที่สะสมมา

เพราะจากปากของมารกระดูกเทพสวรรค์นั้นแม้จะเป็นยอดอัจฉริยะในอดีตเองพวกเขาก็ทำได้เพียงแค่รับดาบที่สามนี้ไว้

แต่เย่หยวนกลับสามารถทำให้เทพสวรรค์ต้องเร่งพลังของตนขึ้นจนถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้เก้าดาว

แค่นี้มันก็มากพอที่จะพิสูจน์แล้วว่าเย่หยวนนั้นมีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำกว่ายอดคนในอดีตมากมาย!

มารกระดูกเทพสวรรค์นั้นใช้เบ้าตาที่กลวงโบ๋มองดูเย่หยวนส่วนเย่หยวนก็ใช้ดวงตาที่เย็นเยือกนั้นจ้องกลับไปยังมารกระดูกเทพสวรรค์

ดวงตาทั้งสองนั้นจ้องมองกันอย่างเงียบงัน

หลังผ่านไปนานแสนนานในที่สุดทางมารกระดูกเทพสวรรค์ก็กล่าวขึ้น “ข้าขอถอนคำพูด! เทพถ่องแท้บ่มเพาะลายพระเจ้า เรื่องเช่นนี้ข้าไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน พรสวรรค์ของเจ้านี้มันเหนือล้ำกว่าที่จะใช้สามัญสำนึกใดๆ มาวัดได้แล้ว”

พูดไปมารกระดูกเทพสวรรค์ก็ได้โยนดาบกระดูกในมือไปให้เย่หยวน

นั่นทำให้ใบหน้าของทุกผู้คนเปลี่ยนสีทันที มารกระดูกเทพสวรรค์ตนนี้กลับยอมแพ้ลง!

“ดาบกระดูกนี้เป็นของเจ้าแล้ว ส่วนเรื่องกระดูกของนายท่าน เจ้าก็เอามันไปได้! ยอดอัจฉริยะระดับนี้ปรากฏตัวขึ้นมา ดูท่า… สงครามสิ้นโลกครั้งต่อไปคงอยู่อีกไม่ไกลแล้วใช่หรือไม่? นายท่าน ข้าได้ทำภารกิจลุล่วงแล้ว ข้าขอพักก่อนล่ะ”

พูดจบร่างของมารกระดูกเทพสวรรค์นั้นก็แตกสลายลงหายไปกับสายลมทันที

เย่หยวนเก็บดาบกระดูกลงไปด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินหน้าขึ้นไปยังยอดเขากระดูก

บนยอดนั้นแสงที่กระดูกจักรพรรดิกิเลนปล่อยออกมามันทำให้ผู้คนที่พบเห็นต้องสั่นสะเทือนไปถึงจิตวิญญาณ

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+