Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2027 เข้าใจในไม่กี่วินาที

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2027 เข้าใจในไม่กี่วินาที at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตัวของเย่หยวนในเวลานี้มันได้ใช้ทั้งร่างกายและจิตใจไปกับการวิเคราะห์สูตรโอสถจนสิ้น

คำพูดใดๆ ที่คนทั้งหลายพูดกล่าวมานี้เขาไม่อาจจะสนใจฟังแม้แต่น้อย

เมื่อเหลียวหมิงได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกตะลึง

ความสามารถในการจดจ่อระดับนี้มันไม่ธรรมดา

นี่เย่หยวนกำลังแสร้งทำท่าเหมือนครุ่นคิดจริงหรือ?

มันไม่แน่!

เพราะท่าทางจดจ่อเช่นนี้มันมิใช่สิ่งที่จะแกล้งทำขึ้นมาได้ง่ายๆ

แต่เขาเองก็รู้ดีว่าหากจะให้เย่หยวนวิเคราะห์สูตรโอสถโบราณนี้ให้ถ่องแท้จริงๆ แล้วมันคงต้องใช้เวลาอีกแสนนาน เขาจึงกล่าวขึ้น “เช่นนั้น… เรามาคุยกันต่อเถอะ”

“ข้าขอถามหน่อยได้หรือไม่พี่เหลียวหมิง สมุนไพรชนิดที่ห้าที่พวกท่านว่ามานั้นมันคือสมุนไพรวิญญาณตัวใดกัน?” ขณะที่ทุกผู้คนกำลังจะเริ่มทำการอภิปรายกันอีกครั้งเย่หยวนก็เปิดปากขึ้นมาถามเสียก่อน

เทพสวรรค์เหลียวหมิงนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมา “สมุนไพรชนิดที่ห้านั้นมันเป็นสิ่งที่พี่ซืออี้คิดขึ้นมาได้ว่าน่าจะเป็นหญ้าธาตุใจมายา เราได้ปรึกษาอภิปรายกันมากว่าครึ่งเดือนจนในที่สุดก็ตกลงกันว่ามันน่าจะเป็นสมุนไพรชนิดนี้จริง!”

เทพสวรรค์ซืออี้เงยหน้าขึ้นด้วยท่าทางภาคภูมิ สายตาที่เขาจ้องมองมายังเย่หยวนนั้นมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความดูถูก

แต่ทว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้คิดจะสนใจเขาแม้แต่น้อยและกลับไปยนั่งคิดเงียบๆ ต่อ

ทุกผู้คนที่เห็นเช่นนั้นก็แสดงสีหน้ามึนงงออกมา ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่

“หรือว่าปรมาจารย์เย่จะเข้าใจอะไรได้แล้ว?” เทพสวรรค์เหลียวหมิงถามขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินจึงส่ายหัวออกมา “สมุนไพรชนิดที่ห้ามันมิน่าจะใช่หญ้าธาตุใจมายาไปได้”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวเทพสวรรค์ซืออี้ก็แสดงสีหน้าดำมืดออกมาด้วยความไม่พอใจทันที

“หึ! เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังนัก! ผลลัพธ์ที่เราทั้งหลายช่วยกันคิดจนได้ข้อสรุปมาแล้วแต่เจ้ากลับคิดอยากขัดมันด้วยคำพูดเดียวนี้หรือ? เด็กน้อย ข้าทนท่าทางนั้นของเจ้ามานานพอแล้ว! ไม่รู้ก็อย่าได้มาเสมอหน้าทำเป็นรู้หน่อยเลย!” เทพสวรรค์ซืออี้ร้องตะโกนลั่น

คนอื่นๆ เองก็คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องตลกได้แต่มองดูอยู่ไม่คิดเข้ายุ่ง

เทพสวรรค์ซืออี้นั้นไม่อาจจะทนรับได้อีกต่อไป

เจิ้งฉีหยวนเองก็กล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าท่าทางเหยียดหยาม “ในเวลาแค่สิบห้านาทีตั้งแต่ที่เจ้าเข้ามานี้ เจ้ากลับคิดใช้มันปฏิเสธผลที่เราช่วยกันคิดมาถึงครึ่งเดือนหรือ? เด็กน้อย เจ้านั้นเก่งกาจจริงๆ! เหตุใดไม่บอกออกมาหน่อยเล่าว่าเหตุใดหญ้าธาตุใจมายามันถึงมิใช่ส่วนประกอบ?”

ตอนนี้แม้แต่เทพสวรรค์เหลียวหมิงก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ปรมาจารย์เย่ โอสถวาโยเมฆเจ็ดสมบัตินั้นมันเป็นโอสถธาตุลม มีส่วนประกอบที่รู้แน่สี่อย่างคือแอ่งสงัด หัวเขียวเมฆาใหญ่ ผลเมฆาเคลื่อนลมรุ่งและดอกซ้ำวิญญาณ พวกมันทั้งหลายนี้ล้วนเป็นสมุนไพรธาตุลมในหมู่สมุนไพรวิญญาณระดับเจ็ด และสิ่งที่จะเข้าผสานกับสมุนไพรทั้งสี่นี้ได้ดีที่สุดมันก็คือหญ้าธาตุใจมายา จะมีสิ่งใดผิดพลาดกันได้เล่า?”

เย่หยวนนั้นไม่ได้ตอบกลับมา ตอนนี้ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่จอแสงนั้น

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างหัวเราะเย้ยขึ้นมาในใจ พวกเขาได้เข้าใจอย่างแน่ชัดแล้วว่าเด็กคนนี้มันถือตำแหน่งไว้โดยไร้ฝีมือใดจริงๆ

ที่สำคัญพวกเขายังอดทนกันมาจนเกินขีดจำกัดแล้ว

หากเจ้ามีความสามารถจริงมันก็คงเป็นอีกเรื่อง แต่ในเวลานี้เจ้าเป็นได้เพียงแค่คนไร้ความสามารถแต่กลับยังจะมาวางท่า เช่นนั้นเจ้าต่างหากที่ผิด

“หึๆ ปรมาจารย์เย่ช่างเก่งกาจล้ำ นี่หรือคือสิ่งที่เจ้าว่าตัวเองเก่งกาจ? เลิกทำตัวเองขายหน้าเสียทีเถอะ โลกของจอมเทพโอสถเจ็ดดาวนั้นมันมิใช่สิ่งที่คนอย่างเจ้าจะอาจเอื้อมถึง!” เจิ้งฉีหยวนที่ได้โอกาสจึงร้องพูดขึ้นมา

“หนุ่มน้อย เลิกวางท่าหากไม่มีปัญหาจริงเถอะ! มันมิใช่ว่าแค่เจ้าถือเหรียญปรมาจารย์แล้วเจ้าก็จะเป็นปรมาจารย์จริงๆ เสียหน่อย”

“ไอ้เด็กโอหัง ที่แห่งนี้มันไม่เหมาะกับเจ้าหรอก รีบๆ ไสหัวไปเสีย!”

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างหมดความอดทนกันสิ้น เพราะเรื่องราวในวันนี้มันได้เปิดเผยธาตุแท้ของเย่หยวนออกมาจนสิ้น

เจ้าหมอนี่มันเป็นเพียงแค่นักหลอกลวงเท่านั้น!

เหรียญปรมาจารย์ในมือของเขานั้นมันคือคำดูถูกตำแหน่งปรมาจารย์แท้ๆ

แต่ทว่าเย่หยวนกลับไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ออกมาราวกับว่าไม่ได้ยินคำพูดไร้สาระทั้งหลายนี้โดยที่สายตาของเขายังคงจ้องมองในจอแสงนั้น

เจิ้งฉีหยวนหัวเราะขึ้นพร้อมยื่นมือออกมาหาเย่หยวนพร้อมพูด “ข้าบอกให้ออกไป ไม่ได้ยินหรือ?”

แต่มือของเขายังไม่ทันถึงตัวเย่หยวน เย่หยวนก็กลับเปิดปากพูดขึ้นมาเสียก่อน

“ก็จริงที่ว่าโอสถวาโยเมฆเจ็ดสมบัตินั้นมันมีคุณสมบัติธาตุลม ส่วนประกอบทั้งสี่เองนั้นก็ล้วนมีคุณสมบัติธาตุลมสิ้น หากมองดูผิวเผินแล้วมันย่อมจะเป็นหญ้าธาตุใจมายาแน่ที่เป็นส่วนประกอบที่ห้า เพียงแค่ว่าองค์ประกอบของโอสถที่เขียนไว้มันไม่เป็นเช่นนั้น!” เย่หยวนกล่าวขึ้น

“โอ้? ลองว่ามาหน่อย!” เทพสวรรค์เหลียวหมิงกล่าวขึ้นด้วยท่าทางสนใจ

เจิ้งฉีหยวนนั้นได้แต่ดึงมือกลับไปด้วยใบหน้าแดงๆ เล็กน้อยด้วยความอับอาย

เย่หยวนนั้นเริ่มทำการอธิบายออกมาต่อ “หากพูดถึงโอสถแล้วมันย่อมจะมีคุณสมบัติได้นับพัน นับหมื่นหรือนับแสนๆ ทางให้อธิบาย สมุนไพรหลักทั้งสี่นั้นแต่เดิมอาจจะดูเละเทะไม่มีระบบเกี่ยวข้องใดๆ กันแต่แท้จริงแล้วมันทั้งสี่นี้มีกฎเดียวกันอยู่ นั้นคือความเร็วในธาตุลมของมัน แต่เจ้าหญ้าธาตุใจมายานี้มันไม่มีสิ่งนั้นอยู่…”

เย่หยวนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความมั่นใจและหนักแน่นจนทำให้สีหน้าของทุกผู้คนเปลี่ยนสีไป

เขานั้นได้วิเคราะห์ถึงสมุนไพรทั้งสี่นี้อย่างละเอียดและเริ่มอธิบายถึงความเข้ากันได้ของสมุนไพรแต่ละตัวต่อกันและกัน เย่หยวนนั้นพูดออกมาอย่างหนักแน่นง่ายดายเหมือนมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวของเขา

นั่นทำให้สีหน้าของทุกผู้คนเปลี่ยนจากดูถูกเหยียดหยามกลายเป็นตกตะลึงและเริ่มนั่งลงนิ่งคิดตามในที่สุด

ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนนั้นกำลังนั่งฟังคำพูดของเย่หยวนอย่างสงบเรียบร้อยราวกับกำลังนั่งฟังครูบาอาจารย์สอนสั่ง

เทพสวรรค์เหลียวหมิงนั้นตื่นตะลึงอยู่ในใจ เพราะแม้แต่ตัวเขาก็ไม่เคยจะคิดถึงสิ่งทั้งหลายเหล่านี้

การอภิปรายของพวกเขาด้วยเวลากว่าครึ่งเดือนนี้มันกลับถูกเย่หยวนคว่ำลงด้วยเวลาสิบห้านาที!

เวลาเพียงเท่านี้อย่างมากเย่หยวนก็คงอ่านสูตรไปได้แค่รอบเดียวเท่านั้น

หรือว่า… แค่มองปราดเดียวเย่หยวนก็จะสามารถเข้าใจถึงสูตรนี้ได้?

เข้าใจในทันที?

นี่มัน… ช่างเป็นความสามารถในการเรียนรู้ที่สุดแสนรวดเร็ว!

หรือว่าเจ้าหมอนี่จะไม่ต้องหยุดคิดใดๆ ก็เข้าใจมันได้?

ยิ่งเทพสวรรค์เหลียวหมิงคิดเขาก็ยิ่งขนลุกพล่าน

เขานั้นได้เข้าใจแล้วว่าความเข้าใจของเย่หยวนต่อเต๋าโอสถนั้นมันลึกล้ำเสียยิ่งกว่าตัวเขาจนลงไปถึงรากของเต๋าโอสถได้แล้ว

ความเข้าใจเช่นนี้มันมิใช่สิ่งที่ผู้อาณาจักรสูงส่งทุกคนจะทำได้

ความเข้าใจถึงรากแก่นเหตุผลในการใช้สมุนไพรเช่นนี้มันย่อมจะสามารถบ่งบอกถึงอาณาจักรที่คนผู้นั้นยืนอยู่

ระดับของเย่หยวนนี้มันทำให้เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายได้แต่ก้มหน้านิ่งอย่างอับอาย

เจิ้งฉีหยวนนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมาเพราะเขานั้นไม่เคยคิดฝันว่าแท้จริงแล้วเย่หยวนจะเข้าใจวิชาโอสถได้ลึกล้ำปานนี้ มันเหนือล้ำจนทิ้งเขาไว้ไกลลิบ

สูตรโอสถนี้เย่หยวนได้ทำการวิเคราะห์ แยกแยะมันจนทุกผู้คนสามารถมองได้ทะลุปรุโปร่ง

แต่มันก็ยังมีบางส่วนที่แม้แต่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวอย่างเขาก็ยังไม่อาจเข้าใจได้สิ้น

เทพสวรรค์เหลียวหมิงเบิกตากว้างขึ้นเรื่อยๆ จนแทบถลนออกมาจนในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาตบเข่าของตนฉาดใหญ่ “เป็นเช่นนี้นี่เองๆ! ทำไมข้าถึงคิดไม่ถึงมันกัน? ปรมาจารย์เย่ เช่นนั้นในสายตาของท่านแล้วสมุนไพรที่ห้ามันควรเป็นสมุนไพรชนิดใดเล่า?”

เพราะคำพูดของเย่หยวนเมื่อสักครู่นี้มันทำให้เขาได้เข้าใจทุกสิ่งอย่างจนชัดแจ้ง

แต่เย่หยวนกลับส่ายหัวออกมา “ข้ายังไม่ได้นึกว่าจะใช้อะไรถึงเหมาะสม คงต้องขอเวลาคิดอีกหน่อย”

พูดจบเย่หยวนก็เริ่มหลับตาลง ดิ่งสู่ห้วงความคิดอีกครั้ง

เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็เพิ่งจะเคยเห็นสูตรโอสถนี้ แม้ว่าเขาจะเข้าใจมันได้อย่างแจ่มแจ้งแต่หากอยากหาอะไรขึ้นมาเป็นส่วนผสม มันก็คงต้องใช้เวลาคิดเลือกอีกไม่น้อย

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นย่อมจะเข้าใจดีว่าการวิเคราะห์สูตรโอสถนั้นมิใช่สิ่งที่จะทำได้ในรวดเดียว เพราะนอกจากจะต้องทำการอนุมานหาส่วนประกอบจากสมุนไพรที่มีนับไม่ถ้วนอย่างหนักหน่วงแล้วพวกเขายังต้องไปลองผิดลองถูกกันอีกมากมาย

เมื่อผ่านสิ่งทั้งหลายนั้นไปได้มันถึงจะเรียกได้ว่าเป็นการทำให้สูตรโอสถนั้นสำเร็จจริง

เวลาแค่สิบห้านาที อย่าว่าแต่เย่หยวน ต่อให้เป็นโอสถบรรพกาลก็คงไม่อาจทำได้เช่นกัน

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเรื่องนี้มันก็ทำให้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นได้แต่มองเย่หยวนที่นั่งขมวดคิ้วหลับตาแน่นราวกับว่าเห็นผีปีศาจอยู่ตรงหน้า

เจ้าเด็กคนนี้มันอายุแค่พันกว่าปีจริงหรือ?

ความเข้าใจที่ลึกล้ำปานนี้ แม้แต่สัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่มานับล้านๆ ปีก็ยังไม่อาจเทียบเคียงได้!

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2027 เข้าใจในไม่กี่วินาที

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2027 เข้าใจในไม่กี่วินาที at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตัวของเย่หยวนในเวลานี้มันได้ใช้ทั้งร่างกายและจิตใจไปกับการวิเคราะห์สูตรโอสถจนสิ้น

คำพูดใดๆ ที่คนทั้งหลายพูดกล่าวมานี้เขาไม่อาจจะสนใจฟังแม้แต่น้อย

เมื่อเหลียวหมิงได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกตะลึง

ความสามารถในการจดจ่อระดับนี้มันไม่ธรรมดา

นี่เย่หยวนกำลังแสร้งทำท่าเหมือนครุ่นคิดจริงหรือ?

มันไม่แน่!

เพราะท่าทางจดจ่อเช่นนี้มันมิใช่สิ่งที่จะแกล้งทำขึ้นมาได้ง่ายๆ

แต่เขาเองก็รู้ดีว่าหากจะให้เย่หยวนวิเคราะห์สูตรโอสถโบราณนี้ให้ถ่องแท้จริงๆ แล้วมันคงต้องใช้เวลาอีกแสนนาน เขาจึงกล่าวขึ้น “เช่นนั้น… เรามาคุยกันต่อเถอะ”

“ข้าขอถามหน่อยได้หรือไม่พี่เหลียวหมิง สมุนไพรชนิดที่ห้าที่พวกท่านว่ามานั้นมันคือสมุนไพรวิญญาณตัวใดกัน?” ขณะที่ทุกผู้คนกำลังจะเริ่มทำการอภิปรายกันอีกครั้งเย่หยวนก็เปิดปากขึ้นมาถามเสียก่อน

เทพสวรรค์เหลียวหมิงนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมา “สมุนไพรชนิดที่ห้านั้นมันเป็นสิ่งที่พี่ซืออี้คิดขึ้นมาได้ว่าน่าจะเป็นหญ้าธาตุใจมายา เราได้ปรึกษาอภิปรายกันมากว่าครึ่งเดือนจนในที่สุดก็ตกลงกันว่ามันน่าจะเป็นสมุนไพรชนิดนี้จริง!”

เทพสวรรค์ซืออี้เงยหน้าขึ้นด้วยท่าทางภาคภูมิ สายตาที่เขาจ้องมองมายังเย่หยวนนั้นมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความดูถูก

แต่ทว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้คิดจะสนใจเขาแม้แต่น้อยและกลับไปยนั่งคิดเงียบๆ ต่อ

ทุกผู้คนที่เห็นเช่นนั้นก็แสดงสีหน้ามึนงงออกมา ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่

“หรือว่าปรมาจารย์เย่จะเข้าใจอะไรได้แล้ว?” เทพสวรรค์เหลียวหมิงถามขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินจึงส่ายหัวออกมา “สมุนไพรชนิดที่ห้ามันมิน่าจะใช่หญ้าธาตุใจมายาไปได้”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวเทพสวรรค์ซืออี้ก็แสดงสีหน้าดำมืดออกมาด้วยความไม่พอใจทันที

“หึ! เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังนัก! ผลลัพธ์ที่เราทั้งหลายช่วยกันคิดจนได้ข้อสรุปมาแล้วแต่เจ้ากลับคิดอยากขัดมันด้วยคำพูดเดียวนี้หรือ? เด็กน้อย ข้าทนท่าทางนั้นของเจ้ามานานพอแล้ว! ไม่รู้ก็อย่าได้มาเสมอหน้าทำเป็นรู้หน่อยเลย!” เทพสวรรค์ซืออี้ร้องตะโกนลั่น

คนอื่นๆ เองก็คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องตลกได้แต่มองดูอยู่ไม่คิดเข้ายุ่ง

เทพสวรรค์ซืออี้นั้นไม่อาจจะทนรับได้อีกต่อไป

เจิ้งฉีหยวนเองก็กล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าท่าทางเหยียดหยาม “ในเวลาแค่สิบห้านาทีตั้งแต่ที่เจ้าเข้ามานี้ เจ้ากลับคิดใช้มันปฏิเสธผลที่เราช่วยกันคิดมาถึงครึ่งเดือนหรือ? เด็กน้อย เจ้านั้นเก่งกาจจริงๆ! เหตุใดไม่บอกออกมาหน่อยเล่าว่าเหตุใดหญ้าธาตุใจมายามันถึงมิใช่ส่วนประกอบ?”

ตอนนี้แม้แต่เทพสวรรค์เหลียวหมิงก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ปรมาจารย์เย่ โอสถวาโยเมฆเจ็ดสมบัตินั้นมันเป็นโอสถธาตุลม มีส่วนประกอบที่รู้แน่สี่อย่างคือแอ่งสงัด หัวเขียวเมฆาใหญ่ ผลเมฆาเคลื่อนลมรุ่งและดอกซ้ำวิญญาณ พวกมันทั้งหลายนี้ล้วนเป็นสมุนไพรธาตุลมในหมู่สมุนไพรวิญญาณระดับเจ็ด และสิ่งที่จะเข้าผสานกับสมุนไพรทั้งสี่นี้ได้ดีที่สุดมันก็คือหญ้าธาตุใจมายา จะมีสิ่งใดผิดพลาดกันได้เล่า?”

เย่หยวนนั้นไม่ได้ตอบกลับมา ตอนนี้ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่จอแสงนั้น

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างหัวเราะเย้ยขึ้นมาในใจ พวกเขาได้เข้าใจอย่างแน่ชัดแล้วว่าเด็กคนนี้มันถือตำแหน่งไว้โดยไร้ฝีมือใดจริงๆ

ที่สำคัญพวกเขายังอดทนกันมาจนเกินขีดจำกัดแล้ว

หากเจ้ามีความสามารถจริงมันก็คงเป็นอีกเรื่อง แต่ในเวลานี้เจ้าเป็นได้เพียงแค่คนไร้ความสามารถแต่กลับยังจะมาวางท่า เช่นนั้นเจ้าต่างหากที่ผิด

“หึๆ ปรมาจารย์เย่ช่างเก่งกาจล้ำ นี่หรือคือสิ่งที่เจ้าว่าตัวเองเก่งกาจ? เลิกทำตัวเองขายหน้าเสียทีเถอะ โลกของจอมเทพโอสถเจ็ดดาวนั้นมันมิใช่สิ่งที่คนอย่างเจ้าจะอาจเอื้อมถึง!” เจิ้งฉีหยวนที่ได้โอกาสจึงร้องพูดขึ้นมา

“หนุ่มน้อย เลิกวางท่าหากไม่มีปัญหาจริงเถอะ! มันมิใช่ว่าแค่เจ้าถือเหรียญปรมาจารย์แล้วเจ้าก็จะเป็นปรมาจารย์จริงๆ เสียหน่อย”

“ไอ้เด็กโอหัง ที่แห่งนี้มันไม่เหมาะกับเจ้าหรอก รีบๆ ไสหัวไปเสีย!”

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างหมดความอดทนกันสิ้น เพราะเรื่องราวในวันนี้มันได้เปิดเผยธาตุแท้ของเย่หยวนออกมาจนสิ้น

เจ้าหมอนี่มันเป็นเพียงแค่นักหลอกลวงเท่านั้น!

เหรียญปรมาจารย์ในมือของเขานั้นมันคือคำดูถูกตำแหน่งปรมาจารย์แท้ๆ

แต่ทว่าเย่หยวนกลับไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ออกมาราวกับว่าไม่ได้ยินคำพูดไร้สาระทั้งหลายนี้โดยที่สายตาของเขายังคงจ้องมองในจอแสงนั้น

เจิ้งฉีหยวนหัวเราะขึ้นพร้อมยื่นมือออกมาหาเย่หยวนพร้อมพูด “ข้าบอกให้ออกไป ไม่ได้ยินหรือ?”

แต่มือของเขายังไม่ทันถึงตัวเย่หยวน เย่หยวนก็กลับเปิดปากพูดขึ้นมาเสียก่อน

“ก็จริงที่ว่าโอสถวาโยเมฆเจ็ดสมบัตินั้นมันมีคุณสมบัติธาตุลม ส่วนประกอบทั้งสี่เองนั้นก็ล้วนมีคุณสมบัติธาตุลมสิ้น หากมองดูผิวเผินแล้วมันย่อมจะเป็นหญ้าธาตุใจมายาแน่ที่เป็นส่วนประกอบที่ห้า เพียงแค่ว่าองค์ประกอบของโอสถที่เขียนไว้มันไม่เป็นเช่นนั้น!” เย่หยวนกล่าวขึ้น

“โอ้? ลองว่ามาหน่อย!” เทพสวรรค์เหลียวหมิงกล่าวขึ้นด้วยท่าทางสนใจ

เจิ้งฉีหยวนนั้นได้แต่ดึงมือกลับไปด้วยใบหน้าแดงๆ เล็กน้อยด้วยความอับอาย

เย่หยวนนั้นเริ่มทำการอธิบายออกมาต่อ “หากพูดถึงโอสถแล้วมันย่อมจะมีคุณสมบัติได้นับพัน นับหมื่นหรือนับแสนๆ ทางให้อธิบาย สมุนไพรหลักทั้งสี่นั้นแต่เดิมอาจจะดูเละเทะไม่มีระบบเกี่ยวข้องใดๆ กันแต่แท้จริงแล้วมันทั้งสี่นี้มีกฎเดียวกันอยู่ นั้นคือความเร็วในธาตุลมของมัน แต่เจ้าหญ้าธาตุใจมายานี้มันไม่มีสิ่งนั้นอยู่…”

เย่หยวนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความมั่นใจและหนักแน่นจนทำให้สีหน้าของทุกผู้คนเปลี่ยนสีไป

เขานั้นได้วิเคราะห์ถึงสมุนไพรทั้งสี่นี้อย่างละเอียดและเริ่มอธิบายถึงความเข้ากันได้ของสมุนไพรแต่ละตัวต่อกันและกัน เย่หยวนนั้นพูดออกมาอย่างหนักแน่นง่ายดายเหมือนมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวของเขา

นั่นทำให้สีหน้าของทุกผู้คนเปลี่ยนจากดูถูกเหยียดหยามกลายเป็นตกตะลึงและเริ่มนั่งลงนิ่งคิดตามในที่สุด

ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนนั้นกำลังนั่งฟังคำพูดของเย่หยวนอย่างสงบเรียบร้อยราวกับกำลังนั่งฟังครูบาอาจารย์สอนสั่ง

เทพสวรรค์เหลียวหมิงนั้นตื่นตะลึงอยู่ในใจ เพราะแม้แต่ตัวเขาก็ไม่เคยจะคิดถึงสิ่งทั้งหลายเหล่านี้

การอภิปรายของพวกเขาด้วยเวลากว่าครึ่งเดือนนี้มันกลับถูกเย่หยวนคว่ำลงด้วยเวลาสิบห้านาที!

เวลาเพียงเท่านี้อย่างมากเย่หยวนก็คงอ่านสูตรไปได้แค่รอบเดียวเท่านั้น

หรือว่า… แค่มองปราดเดียวเย่หยวนก็จะสามารถเข้าใจถึงสูตรนี้ได้?

เข้าใจในทันที?

นี่มัน… ช่างเป็นความสามารถในการเรียนรู้ที่สุดแสนรวดเร็ว!

หรือว่าเจ้าหมอนี่จะไม่ต้องหยุดคิดใดๆ ก็เข้าใจมันได้?

ยิ่งเทพสวรรค์เหลียวหมิงคิดเขาก็ยิ่งขนลุกพล่าน

เขานั้นได้เข้าใจแล้วว่าความเข้าใจของเย่หยวนต่อเต๋าโอสถนั้นมันลึกล้ำเสียยิ่งกว่าตัวเขาจนลงไปถึงรากของเต๋าโอสถได้แล้ว

ความเข้าใจเช่นนี้มันมิใช่สิ่งที่ผู้อาณาจักรสูงส่งทุกคนจะทำได้

ความเข้าใจถึงรากแก่นเหตุผลในการใช้สมุนไพรเช่นนี้มันย่อมจะสามารถบ่งบอกถึงอาณาจักรที่คนผู้นั้นยืนอยู่

ระดับของเย่หยวนนี้มันทำให้เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายได้แต่ก้มหน้านิ่งอย่างอับอาย

เจิ้งฉีหยวนนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมาเพราะเขานั้นไม่เคยคิดฝันว่าแท้จริงแล้วเย่หยวนจะเข้าใจวิชาโอสถได้ลึกล้ำปานนี้ มันเหนือล้ำจนทิ้งเขาไว้ไกลลิบ

สูตรโอสถนี้เย่หยวนได้ทำการวิเคราะห์ แยกแยะมันจนทุกผู้คนสามารถมองได้ทะลุปรุโปร่ง

แต่มันก็ยังมีบางส่วนที่แม้แต่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวอย่างเขาก็ยังไม่อาจเข้าใจได้สิ้น

เทพสวรรค์เหลียวหมิงเบิกตากว้างขึ้นเรื่อยๆ จนแทบถลนออกมาจนในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาตบเข่าของตนฉาดใหญ่ “เป็นเช่นนี้นี่เองๆ! ทำไมข้าถึงคิดไม่ถึงมันกัน? ปรมาจารย์เย่ เช่นนั้นในสายตาของท่านแล้วสมุนไพรที่ห้ามันควรเป็นสมุนไพรชนิดใดเล่า?”

เพราะคำพูดของเย่หยวนเมื่อสักครู่นี้มันทำให้เขาได้เข้าใจทุกสิ่งอย่างจนชัดแจ้ง

แต่เย่หยวนกลับส่ายหัวออกมา “ข้ายังไม่ได้นึกว่าจะใช้อะไรถึงเหมาะสม คงต้องขอเวลาคิดอีกหน่อย”

พูดจบเย่หยวนก็เริ่มหลับตาลง ดิ่งสู่ห้วงความคิดอีกครั้ง

เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็เพิ่งจะเคยเห็นสูตรโอสถนี้ แม้ว่าเขาจะเข้าใจมันได้อย่างแจ่มแจ้งแต่หากอยากหาอะไรขึ้นมาเป็นส่วนผสม มันก็คงต้องใช้เวลาคิดเลือกอีกไม่น้อย

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นย่อมจะเข้าใจดีว่าการวิเคราะห์สูตรโอสถนั้นมิใช่สิ่งที่จะทำได้ในรวดเดียว เพราะนอกจากจะต้องทำการอนุมานหาส่วนประกอบจากสมุนไพรที่มีนับไม่ถ้วนอย่างหนักหน่วงแล้วพวกเขายังต้องไปลองผิดลองถูกกันอีกมากมาย

เมื่อผ่านสิ่งทั้งหลายนั้นไปได้มันถึงจะเรียกได้ว่าเป็นการทำให้สูตรโอสถนั้นสำเร็จจริง

เวลาแค่สิบห้านาที อย่าว่าแต่เย่หยวน ต่อให้เป็นโอสถบรรพกาลก็คงไม่อาจทำได้เช่นกัน

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเรื่องนี้มันก็ทำให้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นได้แต่มองเย่หยวนที่นั่งขมวดคิ้วหลับตาแน่นราวกับว่าเห็นผีปีศาจอยู่ตรงหน้า

เจ้าเด็กคนนี้มันอายุแค่พันกว่าปีจริงหรือ?

ความเข้าใจที่ลึกล้ำปานนี้ แม้แต่สัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่มานับล้านๆ ปีก็ยังไม่อาจเทียบเคียงได้!

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+