Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2041 มังกรคู่หวนปรากฏ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2041 มังกรคู่หวนปรากฏ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คลื่นพลังอันแสนเดียวดายพุ่งทะยานออกมาจากร่างของเทพสวรรค์ดันหยู่

คลื่นพลังของเขาในเวลานี้มันแข็งแกร่งเหนือล้ำกว่าทุกผู้คนที่ผ่านมาอย่างมาก รวมไปถึงตัวเย่หยวนด้วย

พลังของเทพสวรรค์ดันหยู่ตรงหน้านี้มันแทบจะเรียกได้ว่าเทียบเคียงเต๋าสวรรค์

มันเป็นพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบสามารถเปลี่ยนแปลงฤดูกาลได้ในพริบตา พลังที่อยู่ตรงหน้าผู้คนทั้งหลายในเวลานี้มันคือพลังในระดับนั้น

“นี่หรือคืออาณาจักรบรรพกาล?” เย่หยวนมองดูเทพสวรรค์ดันหยู่อย่างตื่นตะลึง

เพราะนี่มันคือตัวตนสูงส่งที่สุดเท่าที่นักหลอมโอสถจะก้าวขึ้นไปถึง เป็นยอดของเต๋าโอสถอย่างแท้จริง!

อาณาจักรนี้มันเป็นสิ่งที่ทุกผู้คนเฝ้าใฝ่ฝัน รวมไปถึงตัวเย่หยวนเองด้วย

เทพสวรรค์ดันหยู่ยื่นมือออกมาก่อนจะพลิกกลับเปลี่ยนแปลงสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายให้กลายเป็นผงลอยเข้าไปในสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ของตนทันทีจนทำให้เกิดแสงสีเหลืองทองพุ่งกระจายออกมาจากภายในสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ชิ้นนั้นพุ่งเข้าปกคลุมรอบกายเทพสวรรค์เปียวหยูสิ้น

“นี่คือเคล็ดทะยานสวรรค์แปลงฟ้าของเทพสวรรค์ดันหยู่ ว่ากันว่าหากบ่มเพาะไปได้จนถึงขั้นสุดแล้วมันจะสามารถหลอมกลั่นได้ทุกสิ่งอย่างแม้แต่ดวงดาว ได้เห็นมันวันนี้แล้วดูท่าคงเป็นความจริง”

“สมชื่อยอดเต๋าโอสถอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้เราจริงๆ พลังฝีมือในระดับนี้มันทำให้ผู้คนกลัวไม่กล้าแม้แต่จะไปท้าทายต่อสู้! เทพสวรรค์เปียวหยูเองก็บ้าบิ่นเกินไป ต่อให้เขาจะก้าวขึ้นถึงอาณาจักรบรรพกาลได้จริงๆ แต่มีหรือที่จะเทียบเคียงกับเทพสวรรค์ดันหยู่ได้รวดเร็วปานนั้น?”

“นี่หรือคืออาณาจักรบรรพกาล? ช่างเหนือล้ำเสียจริง! ข้ารู้สึกได้เลยว่าเต๋าโอสถของตนนั้นมันเป็นได้แค่มดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าพลังนี้”

อย่าว่าแต่แค่แดนใต้นี้ ต่อให้เป็นทั้งมหาพิภพถงเทียนก็ตาม คนที่จะก้าวขึ้นไปให้ถึงอาณาจักรบรรพกาลได้นั้นมันย่อมจะมีเพียงแค่หยิบมือ

ต่อให้เป็นเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนี้ พวกเขาทั้งหลายเองก็แทบจะไม่เคยได้เห็นยอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาลลงมือเองจริงๆ

เพราะในหมู่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายก็มิใช่ทุกคนที่จะเคยได้เห็นเทพสวรรค์ดันหยู่ลงมือ

เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาล ตัวตนของเขานั้นคือตำนานที่ยังมีลมหายใจ

แต่ในวันนี้พวกเขากลับได้เห็นตำนานผู้นั้นลงมือต่อหน้า!

ทุกผู้คนมองดูทุกท่วงท่าของเทพสวรรค์ดันหยู่อย่างไม่ละสายตา กลัวว่าจะพลาดรายละเอียดสำคัญใดๆ ไป

เพราะประสบการณ์เช่นนี้มันย่อมจะล้ำค่าแก่ทุกผู้คนอย่างมากล้น

“เปียวหยู เจ้าเป็นผู้ที่ท้ารับความอับอายนี้เอง! เจ้าอย่าได้ลืมไป หากเจ้าแพ้แล้วยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวจะต้องมอบส่วนแบ่งตลาดโอสถครึ่งหนึ่งออกมา!” เทพสวรรค์ดันหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“วางใจเถอะ เทพสวรรค์ผู้นี้ย่อมรู้ดีว่ามันเดิมพันอะไรไว้” เทพสวรรค์เปียวหยูตอบ

เย่หยวนที่ได้ยินจึงขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่เข้าใจความหมายของคนทั้งสอง

เขานั้นคิดและเข้าใจไปว่านี้เป็นแค่การประลองโอสถธรรมดาๆ แต่พอได้ยินเช่นนี้แล้วดูท่ามันจะไม่เรียบง่ายปานนั้น

“พี่ซืออี้ พวกเขาทั้งสองกำลังพูดถึงเรื่องใดกันอยู่หรือ?” เย่หยวนถามเทพสวรรค์ซืออี้

เทพสวรรค์ซืออี้ยิ้มตอบไปด้วยใบหน้าไม่ค่อยดีนัก “เรื่องมันยาวน่ะ ก็จริงที่ว่างานชุมนุมโอสถเมฆานี้มันคือแหล่งที่เหล่านักหลอมโอสถจากสารทิศจะมาแลกเปลี่ยนความรู้กัน แต่มันก็ยังมีหน้าที่ในการแลกเปลี่ยนแย่งชิงผลกำไรกันด้วย!”

ที่แท้แล้วตอนที่เหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดรวมตัวกันก่อตั้งพันธมิตรแดนใต้ ทางยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาได้นั่งตำแหน่งผู้นำพันธมิตรด้วยความสามารถอันเก่งกาจเหนือล้ำของเทพสวรรค์ดันหยู่

เหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดนั้นได้ครอบครองส่วนแบ่งของการค้าขายโอสถและสมุนไพรวิญญาณในแดนใต้ไปกว่าเจ็ดในสิบ

เพราะเหล่าโอสถทั้งหลายนั้นมันย่อมจะเป็นสินค้าที่นักยุทธผู้บ่มเพาะฝึกตนทุกผู้คนต้องการ แน่นอนว่าเจ็ดส่วนของมันนี้ย่อมจะเป็นผลประโยชน์ที่มหาศาล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดที่อยู่ในอาณาจักรเต๋าขั้นสุดด้วยแล้ว ตำแหน่งใดๆ ของพวกเขาย่อมจะเหนือล้ำอย่างไม่อาจเทียบเคียงได้

และเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดนั้นได้ตกลงกันว่าจะให้ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆานั้นเป็นผู้นำของพวกเขาทั้งหลาย

ระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยกันแล้ว หากพวกเขาคิดอยากได้ดินแดนหรือส่วนแบ่งตลาดจากใคร พวกเขาก็จะมาตัดสินดวลกันที่งานชุมนุมโอสถเมฆานี้

แต่ทว่าตัวตนของเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นมันเหนือล้ำผู้คน นั่งตำแหน่งผู้นำของพันธมิตรมาตลอด

ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆานั้นกินส่วนแบ่งไปถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์จากผลประโยชน์เจ็ดในสิบที่พันธมิตรครอบครอง ส่วนที่เหลือหกสิบเปอร์เซ็นต์นั้นแบ่งกันไปในหกดินแดน

และเรื่องราวการแย่งชิงผลประโยชน์ใดๆ ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกนั้นพวกเขาทั้งหลายจะสามารถใช้ส่วนแบ่งที่ตัวเองมีได้แค่หนึ่งในสิบเท่านั้นในการดวลแต่ละครั้ง ผู้ชนะได้หนึ่งในสิบของผู้แพ้ ผู้แพ้เสียหนึ่งในสิบของที่ตนมี

แต่เพราะว่าเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกนั้นพวกเขาทั้งหลายมีฝีมือไม่แตกต่างกันมากมายนัก แม้จะจัดงานชุมนุมโอสถเมฆาขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่ส่วนแบ่งของแต่ละคนก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากมายใดๆ

หากให้พูดตามจริงแล้วเทพสวรรค์เปียวหยูที่เก่งกาจที่สุดน่าจะสามารถนำส่วนแบ่งผลประโยชน์กลับไปให้ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวได้มากที่สุด แต่เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นก็มักจะขัดขวางลงดาบยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวด้วยตำแหน่งของผู้นำพันธมิตรอยู่เสมอ ทำให้กลายเป็นว่ายอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวนั้นมีส่วนแบ่งน้อยกว่าอีกห้าดินแดนไปเสีย

และก็เป็นเพราะเช่นนี้เองที่ทำให้เทพสวรรค์เปียวหยูไม่ค่อยจะพอใจในตัวของเทพสวรรค์ดันหยู่มากมายนัก

แต่ทว่าหากคิดอยากท้าทายผู้นำพันธมิตรแล้ว พวกเขาจะต้องใช้ผลประโยชน์ส่วนแบ่งตลาดที่ตนมีถึงครึ่งหนึ่งออกมาวางเป็นเดิมพัน มันเป็นผลประโยชน์ที่มหาศาลเกินกว่าจะตีเป็นตัวเลขได้

หากชนะแล้วยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวย่อมจะพุ่งทะยานข้ามฟ้าไปคราเดียว กลายขึ้นมาเป็นผู้นำพันธมิตรในทันที ชื่อของงานชุมนุมโอสถเมฆาก็จะเปลี่ยนเป็นงานชุมนุมทองวาวไป

หากแพ้พ่าย ทางหอมหาสมบัติก็ย่อมจะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดการค้าในแดนใต้ไปอย่างมหาศาล

หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหลายนี้ขึ้นเย่หยวนถึงได้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วงานชุมนุมโอสถเมฆานี้ยังมีเรื่องราวของผลประโยชน์มหาศาลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

“ก็ไม่แปลกล่ะนะ ผู้คนล้วนใฝ่หาผลประโยชน์กันสิ้น ที่ใดมีผลประโยชน์ที่นั่นย่อมมีผู้คน ที่แท้แดนใต้เรามันได้แบ่งแยกออกเป็นพวกฝ่ายกันมานานแล้วนี่เอง!” เย่หยวนถอนหายใจยาวด้วยความเหนื่อยอ่อนในใจ

ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจเสียทีว่าเหตุใดเทพสวรรค์ดันอยู่ถึงมีท่าทีไม่ชอบใจเขานัก

เมื่อหอมหาสมบัติมีสองยอดอาณาจักรเต๋าขั้นสุดปรากฏกายขึ้น ที่สำคัญยังเป็นปรมาจารย์ระดับที่อาจก้าวขึ้นถึงอาณาจักรบรรพกาลได้เช่นเดียวกับตัวเขา แน่นอนว่าเทพสวรรค์ดันหยู่ย่อมจะรู้สึกว่าอำนาจอันมั่นคงของตนเริ่มสั่นคลอน!

เทพสวรรค์ซืออี้จึงได้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเหนื่อยใจไม่แพ้กัน “ใช่แล้ว! ทางวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นเหนือล้ำผู้คนไม่สนใจโลก เพราะฉะนั้นผู้ที่จะดูแลแย่งชิงเรื่องราวในโลกหล้าจริงๆ มันจึงจะเป็นยอดเมืองหลวงจักรพรรดิ และตัวตนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโอสถนั้นมันย่อมจะเหนือล้ำจนสูงส่งกว่าเหล่ายอดเมืองหลวงจักรพรรดิทั่วๆ ไปในระดับหนึ่ง แต่ไม่ว่าอย่างไรเสียวันนี้ข้าก็รู้สึกว่าพี่เปียวหยูจะบ้าบิ่นเกินไปแล้ว! ต่อให้เขาจะบรรลุขึ้นอาณาจักรบรรพกาลไปได้จริง แต่เขาก็ยังไม่น่าจะเทียบเคียงกับเทพสวรรค์ดันอยู่ได้อยู่ดี!”

“โฮ่ก!”

เสียงของเทพสวรรค์ซืออี้ยังไม่ทันจางหายก็เกิดมังกรคู่คำรามร้องทะยานสู่ฟากฟ้าจนทำให้เกิดเสียงโห่ร้องดังลั่นตามมา

ใช่แล้ว มันเป็นมังกรคู่

มังกรเทวะทั้งสองนี้บินพุ่งสลับกันไปมาทำให้เกิดคลื่นพลังที่หนักหน่วงรุนแรงอย่างที่ไม่อาจต้านรับได้

เมื่อมันทะยานขึ้น มันกลับปล่อยพลังที่ไม่อ่อนด้อยไปกว่าคลื่นพลังของเทพสวรรค์ดันหยู่ทีเดียว!

สองยอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาลปะทะกันอย่างไม่ลดละ ไม่มีใครยอมใคร

เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นมีคลื่นพลังที่สามารถรับมือกับเทพสวรรค์ดันหยู่ได้อย่างไม่เสียเปรียบ!

เมื่อเย่หยวนได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น

“หึๆ พี่ซืออี้วางใจเถอะ ศึกนี้พี่เปียวหยูย่อมจะชนะอย่างแน่นอน!” เย่หยวนยิ้มบอก

เพราะภาพตรงหน้าของเย่หยวนนั้นมันสุดแสนคุ้นตา เพราะมันไม่ได้ต่างจากการประลองของเขากับเทพสวรรค์เปียวหยูเมื่อครานั้นเลย

แต่ภาพตรงหน้านี้ยังคงอ่อนแอกว่าการประลองในครานั้นไปขั้นหนึ่ง

มันมิใช่เพราะว่ากำลังของเทพสวรรค์ดันหยู่ถดถอยใดๆ แต่มันเป็นเพราะว่าการผสานของพวกเขาในครานั้นมันแข็งแกร่งจนเกินไป!

เย่หยวนและเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นได้ผสานกระแสพลังกันอย่างเท่าเทียมไม่มีใครสูงใครต่ำไปกว่ากัน ทำให้เกิดคลื่นพลังที่รุนแรงเช่นนั้นออกมาได้

การผสานเช่นนั้นมันเหนือล้ำเสียยิ่งกว่าอาณาจักรบรรพกาล!

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียโอสถที่คนทั้งสองหลอมได้ในครานั้นมันก็เป็นถึงขั้นเทวะวิญญาณมรณา

โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะวิญญาณมรณา ต่อให้เป็นยอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาลอย่างเทพสวรรค์ดันหยู่เองก็มิอาจจะหลอมขึ้นมาได้

เทพสวรรค์เปียวหยู่นั้นได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากการประลองนั้น ทำให้ตอนนี้เขาสามารถก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรบรรพกาลได้ในคราเดียว

ที่สำคัญไปกว่านั้นด้วยพลังของมังกรคู่นี้ แม้ว่าตัวเขาจะเพิ่งก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรบรรพกาลแต่พลังของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพสวรรค์ดันหยู่แม้แต่น้อย

เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นหน้าเสียไปในทันทีที่เห็นมังกรคู่นั้น เพราะเขาไม่นึกไม่ฝันว่าเทพสวรรค์เปียวหยูที่เพิ่งก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรบรรพกาลจะแข็งแกร่งได้ถึงปานนี้!

ตอนนี้เจ้ามังกรคู่นั้นมันได้ช่วยผสานพลังกันราวกับว่าจะสานกรงยักษ์ผนึกฟ้าดิน กดดันจนทำให้เทพสวรรค์ดันหยู่ไม่อาจแม้แต่จะพักหายใจ

สองยอดคนอาณาจักรบรรพกาลนี้ปะทะกันอย่างดุเดือดสูสีอยู่อย่างไม่มีใครยอมใครจนเวลาผ่านไปถึงสามวันเต็ม

ในเวลาสามวันนี้บรรยากาศของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆามันได้ปกคลุมครอบไปด้วยภาพอันตื่นตามีแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วทุกแห่ง เป็นภาพที่สวยงามจนเกินพรรณนา

“หลอม!”

“หลอมให้ข้า!”

สองยอดคนอาณาจักรบรรพกาลร้องขึ้นมาพร้อมๆ กันเป็นสัญญาณว่าการหลอมโอสถสำเร็จเสร็จสิ้นลงแล้ว!

ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ รอฟังว่าผลการประลองนี้จะออกมาเป็นอย่างไร

เจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือทั้งห้าต่างเดินขึ้นไปบนสังเวียนอย่างพร้อมเพรียงก่อนจะเปิดหม้อหลอมออกมาพร้อมๆ กัน

“เทพสวรรค์ดันหยู่ ขั้นเทวะวิญญาณไพศาล!”

“เทพสวรรค์เปียวหยู ขั้นเทวะวิญญาณไพศาล!”

………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2041 มังกรคู่หวนปรากฏ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2041 มังกรคู่หวนปรากฏ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คลื่นพลังอันแสนเดียวดายพุ่งทะยานออกมาจากร่างของเทพสวรรค์ดันหยู่

คลื่นพลังของเขาในเวลานี้มันแข็งแกร่งเหนือล้ำกว่าทุกผู้คนที่ผ่านมาอย่างมาก รวมไปถึงตัวเย่หยวนด้วย

พลังของเทพสวรรค์ดันหยู่ตรงหน้านี้มันแทบจะเรียกได้ว่าเทียบเคียงเต๋าสวรรค์

มันเป็นพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบสามารถเปลี่ยนแปลงฤดูกาลได้ในพริบตา พลังที่อยู่ตรงหน้าผู้คนทั้งหลายในเวลานี้มันคือพลังในระดับนั้น

“นี่หรือคืออาณาจักรบรรพกาล?” เย่หยวนมองดูเทพสวรรค์ดันหยู่อย่างตื่นตะลึง

เพราะนี่มันคือตัวตนสูงส่งที่สุดเท่าที่นักหลอมโอสถจะก้าวขึ้นไปถึง เป็นยอดของเต๋าโอสถอย่างแท้จริง!

อาณาจักรนี้มันเป็นสิ่งที่ทุกผู้คนเฝ้าใฝ่ฝัน รวมไปถึงตัวเย่หยวนเองด้วย

เทพสวรรค์ดันหยู่ยื่นมือออกมาก่อนจะพลิกกลับเปลี่ยนแปลงสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายให้กลายเป็นผงลอยเข้าไปในสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ของตนทันทีจนทำให้เกิดแสงสีเหลืองทองพุ่งกระจายออกมาจากภายในสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ชิ้นนั้นพุ่งเข้าปกคลุมรอบกายเทพสวรรค์เปียวหยูสิ้น

“นี่คือเคล็ดทะยานสวรรค์แปลงฟ้าของเทพสวรรค์ดันหยู่ ว่ากันว่าหากบ่มเพาะไปได้จนถึงขั้นสุดแล้วมันจะสามารถหลอมกลั่นได้ทุกสิ่งอย่างแม้แต่ดวงดาว ได้เห็นมันวันนี้แล้วดูท่าคงเป็นความจริง”

“สมชื่อยอดเต๋าโอสถอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้เราจริงๆ พลังฝีมือในระดับนี้มันทำให้ผู้คนกลัวไม่กล้าแม้แต่จะไปท้าทายต่อสู้! เทพสวรรค์เปียวหยูเองก็บ้าบิ่นเกินไป ต่อให้เขาจะก้าวขึ้นถึงอาณาจักรบรรพกาลได้จริงๆ แต่มีหรือที่จะเทียบเคียงกับเทพสวรรค์ดันหยู่ได้รวดเร็วปานนั้น?”

“นี่หรือคืออาณาจักรบรรพกาล? ช่างเหนือล้ำเสียจริง! ข้ารู้สึกได้เลยว่าเต๋าโอสถของตนนั้นมันเป็นได้แค่มดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าพลังนี้”

อย่าว่าแต่แค่แดนใต้นี้ ต่อให้เป็นทั้งมหาพิภพถงเทียนก็ตาม คนที่จะก้าวขึ้นไปให้ถึงอาณาจักรบรรพกาลได้นั้นมันย่อมจะมีเพียงแค่หยิบมือ

ต่อให้เป็นเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนี้ พวกเขาทั้งหลายเองก็แทบจะไม่เคยได้เห็นยอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาลลงมือเองจริงๆ

เพราะในหมู่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายก็มิใช่ทุกคนที่จะเคยได้เห็นเทพสวรรค์ดันหยู่ลงมือ

เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาล ตัวตนของเขานั้นคือตำนานที่ยังมีลมหายใจ

แต่ในวันนี้พวกเขากลับได้เห็นตำนานผู้นั้นลงมือต่อหน้า!

ทุกผู้คนมองดูทุกท่วงท่าของเทพสวรรค์ดันหยู่อย่างไม่ละสายตา กลัวว่าจะพลาดรายละเอียดสำคัญใดๆ ไป

เพราะประสบการณ์เช่นนี้มันย่อมจะล้ำค่าแก่ทุกผู้คนอย่างมากล้น

“เปียวหยู เจ้าเป็นผู้ที่ท้ารับความอับอายนี้เอง! เจ้าอย่าได้ลืมไป หากเจ้าแพ้แล้วยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวจะต้องมอบส่วนแบ่งตลาดโอสถครึ่งหนึ่งออกมา!” เทพสวรรค์ดันหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“วางใจเถอะ เทพสวรรค์ผู้นี้ย่อมรู้ดีว่ามันเดิมพันอะไรไว้” เทพสวรรค์เปียวหยูตอบ

เย่หยวนที่ได้ยินจึงขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่เข้าใจความหมายของคนทั้งสอง

เขานั้นคิดและเข้าใจไปว่านี้เป็นแค่การประลองโอสถธรรมดาๆ แต่พอได้ยินเช่นนี้แล้วดูท่ามันจะไม่เรียบง่ายปานนั้น

“พี่ซืออี้ พวกเขาทั้งสองกำลังพูดถึงเรื่องใดกันอยู่หรือ?” เย่หยวนถามเทพสวรรค์ซืออี้

เทพสวรรค์ซืออี้ยิ้มตอบไปด้วยใบหน้าไม่ค่อยดีนัก “เรื่องมันยาวน่ะ ก็จริงที่ว่างานชุมนุมโอสถเมฆานี้มันคือแหล่งที่เหล่านักหลอมโอสถจากสารทิศจะมาแลกเปลี่ยนความรู้กัน แต่มันก็ยังมีหน้าที่ในการแลกเปลี่ยนแย่งชิงผลกำไรกันด้วย!”

ที่แท้แล้วตอนที่เหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดรวมตัวกันก่อตั้งพันธมิตรแดนใต้ ทางยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาได้นั่งตำแหน่งผู้นำพันธมิตรด้วยความสามารถอันเก่งกาจเหนือล้ำของเทพสวรรค์ดันหยู่

เหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดนั้นได้ครอบครองส่วนแบ่งของการค้าขายโอสถและสมุนไพรวิญญาณในแดนใต้ไปกว่าเจ็ดในสิบ

เพราะเหล่าโอสถทั้งหลายนั้นมันย่อมจะเป็นสินค้าที่นักยุทธผู้บ่มเพาะฝึกตนทุกผู้คนต้องการ แน่นอนว่าเจ็ดส่วนของมันนี้ย่อมจะเป็นผลประโยชน์ที่มหาศาล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดที่อยู่ในอาณาจักรเต๋าขั้นสุดด้วยแล้ว ตำแหน่งใดๆ ของพวกเขาย่อมจะเหนือล้ำอย่างไม่อาจเทียบเคียงได้

และเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดนั้นได้ตกลงกันว่าจะให้ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆานั้นเป็นผู้นำของพวกเขาทั้งหลาย

ระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยกันแล้ว หากพวกเขาคิดอยากได้ดินแดนหรือส่วนแบ่งตลาดจากใคร พวกเขาก็จะมาตัดสินดวลกันที่งานชุมนุมโอสถเมฆานี้

แต่ทว่าตัวตนของเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นมันเหนือล้ำผู้คน นั่งตำแหน่งผู้นำของพันธมิตรมาตลอด

ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆานั้นกินส่วนแบ่งไปถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์จากผลประโยชน์เจ็ดในสิบที่พันธมิตรครอบครอง ส่วนที่เหลือหกสิบเปอร์เซ็นต์นั้นแบ่งกันไปในหกดินแดน

และเรื่องราวการแย่งชิงผลประโยชน์ใดๆ ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกนั้นพวกเขาทั้งหลายจะสามารถใช้ส่วนแบ่งที่ตัวเองมีได้แค่หนึ่งในสิบเท่านั้นในการดวลแต่ละครั้ง ผู้ชนะได้หนึ่งในสิบของผู้แพ้ ผู้แพ้เสียหนึ่งในสิบของที่ตนมี

แต่เพราะว่าเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกนั้นพวกเขาทั้งหลายมีฝีมือไม่แตกต่างกันมากมายนัก แม้จะจัดงานชุมนุมโอสถเมฆาขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่ส่วนแบ่งของแต่ละคนก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากมายใดๆ

หากให้พูดตามจริงแล้วเทพสวรรค์เปียวหยูที่เก่งกาจที่สุดน่าจะสามารถนำส่วนแบ่งผลประโยชน์กลับไปให้ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวได้มากที่สุด แต่เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นก็มักจะขัดขวางลงดาบยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวด้วยตำแหน่งของผู้นำพันธมิตรอยู่เสมอ ทำให้กลายเป็นว่ายอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวนั้นมีส่วนแบ่งน้อยกว่าอีกห้าดินแดนไปเสีย

และก็เป็นเพราะเช่นนี้เองที่ทำให้เทพสวรรค์เปียวหยูไม่ค่อยจะพอใจในตัวของเทพสวรรค์ดันหยู่มากมายนัก

แต่ทว่าหากคิดอยากท้าทายผู้นำพันธมิตรแล้ว พวกเขาจะต้องใช้ผลประโยชน์ส่วนแบ่งตลาดที่ตนมีถึงครึ่งหนึ่งออกมาวางเป็นเดิมพัน มันเป็นผลประโยชน์ที่มหาศาลเกินกว่าจะตีเป็นตัวเลขได้

หากชนะแล้วยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวย่อมจะพุ่งทะยานข้ามฟ้าไปคราเดียว กลายขึ้นมาเป็นผู้นำพันธมิตรในทันที ชื่อของงานชุมนุมโอสถเมฆาก็จะเปลี่ยนเป็นงานชุมนุมทองวาวไป

หากแพ้พ่าย ทางหอมหาสมบัติก็ย่อมจะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดการค้าในแดนใต้ไปอย่างมหาศาล

หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหลายนี้ขึ้นเย่หยวนถึงได้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วงานชุมนุมโอสถเมฆานี้ยังมีเรื่องราวของผลประโยชน์มหาศาลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

“ก็ไม่แปลกล่ะนะ ผู้คนล้วนใฝ่หาผลประโยชน์กันสิ้น ที่ใดมีผลประโยชน์ที่นั่นย่อมมีผู้คน ที่แท้แดนใต้เรามันได้แบ่งแยกออกเป็นพวกฝ่ายกันมานานแล้วนี่เอง!” เย่หยวนถอนหายใจยาวด้วยความเหนื่อยอ่อนในใจ

ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจเสียทีว่าเหตุใดเทพสวรรค์ดันอยู่ถึงมีท่าทีไม่ชอบใจเขานัก

เมื่อหอมหาสมบัติมีสองยอดอาณาจักรเต๋าขั้นสุดปรากฏกายขึ้น ที่สำคัญยังเป็นปรมาจารย์ระดับที่อาจก้าวขึ้นถึงอาณาจักรบรรพกาลได้เช่นเดียวกับตัวเขา แน่นอนว่าเทพสวรรค์ดันหยู่ย่อมจะรู้สึกว่าอำนาจอันมั่นคงของตนเริ่มสั่นคลอน!

เทพสวรรค์ซืออี้จึงได้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเหนื่อยใจไม่แพ้กัน “ใช่แล้ว! ทางวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นเหนือล้ำผู้คนไม่สนใจโลก เพราะฉะนั้นผู้ที่จะดูแลแย่งชิงเรื่องราวในโลกหล้าจริงๆ มันจึงจะเป็นยอดเมืองหลวงจักรพรรดิ และตัวตนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโอสถนั้นมันย่อมจะเหนือล้ำจนสูงส่งกว่าเหล่ายอดเมืองหลวงจักรพรรดิทั่วๆ ไปในระดับหนึ่ง แต่ไม่ว่าอย่างไรเสียวันนี้ข้าก็รู้สึกว่าพี่เปียวหยูจะบ้าบิ่นเกินไปแล้ว! ต่อให้เขาจะบรรลุขึ้นอาณาจักรบรรพกาลไปได้จริง แต่เขาก็ยังไม่น่าจะเทียบเคียงกับเทพสวรรค์ดันอยู่ได้อยู่ดี!”

“โฮ่ก!”

เสียงของเทพสวรรค์ซืออี้ยังไม่ทันจางหายก็เกิดมังกรคู่คำรามร้องทะยานสู่ฟากฟ้าจนทำให้เกิดเสียงโห่ร้องดังลั่นตามมา

ใช่แล้ว มันเป็นมังกรคู่

มังกรเทวะทั้งสองนี้บินพุ่งสลับกันไปมาทำให้เกิดคลื่นพลังที่หนักหน่วงรุนแรงอย่างที่ไม่อาจต้านรับได้

เมื่อมันทะยานขึ้น มันกลับปล่อยพลังที่ไม่อ่อนด้อยไปกว่าคลื่นพลังของเทพสวรรค์ดันหยู่ทีเดียว!

สองยอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาลปะทะกันอย่างไม่ลดละ ไม่มีใครยอมใคร

เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นมีคลื่นพลังที่สามารถรับมือกับเทพสวรรค์ดันหยู่ได้อย่างไม่เสียเปรียบ!

เมื่อเย่หยวนได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น

“หึๆ พี่ซืออี้วางใจเถอะ ศึกนี้พี่เปียวหยูย่อมจะชนะอย่างแน่นอน!” เย่หยวนยิ้มบอก

เพราะภาพตรงหน้าของเย่หยวนนั้นมันสุดแสนคุ้นตา เพราะมันไม่ได้ต่างจากการประลองของเขากับเทพสวรรค์เปียวหยูเมื่อครานั้นเลย

แต่ภาพตรงหน้านี้ยังคงอ่อนแอกว่าการประลองในครานั้นไปขั้นหนึ่ง

มันมิใช่เพราะว่ากำลังของเทพสวรรค์ดันหยู่ถดถอยใดๆ แต่มันเป็นเพราะว่าการผสานของพวกเขาในครานั้นมันแข็งแกร่งจนเกินไป!

เย่หยวนและเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นได้ผสานกระแสพลังกันอย่างเท่าเทียมไม่มีใครสูงใครต่ำไปกว่ากัน ทำให้เกิดคลื่นพลังที่รุนแรงเช่นนั้นออกมาได้

การผสานเช่นนั้นมันเหนือล้ำเสียยิ่งกว่าอาณาจักรบรรพกาล!

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียโอสถที่คนทั้งสองหลอมได้ในครานั้นมันก็เป็นถึงขั้นเทวะวิญญาณมรณา

โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะวิญญาณมรณา ต่อให้เป็นยอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาลอย่างเทพสวรรค์ดันหยู่เองก็มิอาจจะหลอมขึ้นมาได้

เทพสวรรค์เปียวหยู่นั้นได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากการประลองนั้น ทำให้ตอนนี้เขาสามารถก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรบรรพกาลได้ในคราเดียว

ที่สำคัญไปกว่านั้นด้วยพลังของมังกรคู่นี้ แม้ว่าตัวเขาจะเพิ่งก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรบรรพกาลแต่พลังของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพสวรรค์ดันหยู่แม้แต่น้อย

เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นหน้าเสียไปในทันทีที่เห็นมังกรคู่นั้น เพราะเขาไม่นึกไม่ฝันว่าเทพสวรรค์เปียวหยูที่เพิ่งก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรบรรพกาลจะแข็งแกร่งได้ถึงปานนี้!

ตอนนี้เจ้ามังกรคู่นั้นมันได้ช่วยผสานพลังกันราวกับว่าจะสานกรงยักษ์ผนึกฟ้าดิน กดดันจนทำให้เทพสวรรค์ดันหยู่ไม่อาจแม้แต่จะพักหายใจ

สองยอดคนอาณาจักรบรรพกาลนี้ปะทะกันอย่างดุเดือดสูสีอยู่อย่างไม่มีใครยอมใครจนเวลาผ่านไปถึงสามวันเต็ม

ในเวลาสามวันนี้บรรยากาศของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆามันได้ปกคลุมครอบไปด้วยภาพอันตื่นตามีแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วทุกแห่ง เป็นภาพที่สวยงามจนเกินพรรณนา

“หลอม!”

“หลอมให้ข้า!”

สองยอดคนอาณาจักรบรรพกาลร้องขึ้นมาพร้อมๆ กันเป็นสัญญาณว่าการหลอมโอสถสำเร็จเสร็จสิ้นลงแล้ว!

ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ รอฟังว่าผลการประลองนี้จะออกมาเป็นอย่างไร

เจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือทั้งห้าต่างเดินขึ้นไปบนสังเวียนอย่างพร้อมเพรียงก่อนจะเปิดหม้อหลอมออกมาพร้อมๆ กัน

“เทพสวรรค์ดันหยู่ ขั้นเทวะวิญญาณไพศาล!”

“เทพสวรรค์เปียวหยู ขั้นเทวะวิญญาณไพศาล!”

………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+