Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1878 วังสวรรค์นิรันดร์

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1878 วังสวรรค์นิรันดร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ช่างเป็นพลังโจมตีที่แสนรุนแรง!”

“ทำไมจู่ๆ ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวถึงได้แข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้กัน?”

“นี่มันผีเต๋าร้อยยันต์ ยันต์ที่แปดสิบเอ็ด เงาผีอนันต์! เขากลับสามารถบ่มเพาะมาจนถึงขั้นนี้ได้แล้ว!”

“ไม่ เดี๋ยวก่อน ก่อนหน้านี้เขาย่อมไม่มีพลังถึงขั้นนี้แน่ เย่หยวนทำอะไรกับเขากันแน่?”

คำของเย่หยวนนั้นมันคงยังดังก้องอยู่ในหูของหลายผู้คน เขานั้นบอกออกมาอย่างชัดเจนว่าจะช่วยให้ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวสามารถจัดการกับสองเทพสวรรค์เผ่าปีศาจได้

แต่พวกเขาทั้งหลายเองก็คิดไม่ต่างจากสองเทพสวรรค์เผ่าปีศาจ มองมันเป็นแค่เรื่องตลก

ไม่นึกไม่ฝันว่าในพริบตาเดียวผีเทพสวรรค์ขวังต้าวจะสามารถกำจัดสองเทพสวรรค์เผ่าปีศาจลงได้จริงด้วยดาบเดียว

เย่หยวนมองดูมิติที่แตกหักตรงหน้าพร้อมถอนหายใจยาวออกมา

ดาบนี้มันใช้ออกอย่างรวดเร็วและเก็บกลับไปอย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนการต่อสู้ก่อนหน้านี้ที่ทำลายมิติด้วยพลังอย่างเต็มขั้น ดาบนี้มันจึงไม่ส่งผลต่อมิติมากมายนัก

ก่อนหน้านี้ตอนที่ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวต่อสู้กับสองเทพสวรรค์เผ่าปีศาจนี้เขาไม่มีโอกาสใดๆ ที่จะตอบโต้เลย ตัวเขานั้นทำได้มากสุดก็เพียงแค่หลอกล่อความสนใจของทั้งสองไปจากปากถ้ำเท่านั้น

เย่หยวนมองดูที่เทพสวรรค์ทั้งสองก่อนจะพูดเย้ยขึ้น “เจ้ายังจะคิดว่ามันเป็นแค่มุกตลกอีกไหม?”

เฉียวหยวนได้แต่ทำหน้าเหยเก ตอนนี้ตัวเขาที่เป็นถึงเทพสวรรค์กลับถูกเด็กอาณาจักรนภาสวรรค์เย้ยหยัน

แต่ทว่าเด็กคนนี้มันทำอะไรลงไปกันแน่? เหตุใดพลังของผีเทพสวรรค์ขวังต้าวถึงได้เพิ่มพูนขึ้นขนาดนี้?

ผีเต๋าร้อยยันต์ ยันต์ที่แปดสิบเอ็ดนั้นคือสิ่งที่แม้แต่เทพสวรรค์ยังบรรลุได้ยากเย็นยิ่ง แต่ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวนั้นกลับสามารถใช้มันออกมาได้

“เด็กน้อย เจ้าอย่าได้อวดดีไป! การต่อสู้มันยังไม่จบ! อายเมิง เข้าโจมตีพร้อมกัน!”

เฉียวหยวนร้องบอกพร้อมปล่อยพลังปราณปีศาจออกมาจากร่างอย่างมหาศาล

เย่หยวนได้แต่หรี่ตามองภาพตรงหน้า “พวกเจ้าคิดจะต่อสู้ถึงเป็นถึงตายกันเพราะหินรุ้งเจ็ดสีนี้เลย?”

เฉียวหยวนจึงร้องตอบ “แล้วมันทำไม?”

เย่หยวนยิ้มกลับไป “ข้าไม่สนหรอกนะ แต่สมบัติที่แท้ของจอมเทพนิรันดร์มันน่าจะอยู่ในวังแห่งนั้น หากเจ้าคิดอยากสู้กันจนตายไปข้างกับผีเทพสวรรค์ขวังต้าว พลังจากการต่อสู้นี้มันคงทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ถึงเวลานั้นวังแห่งนั้นมันก็คงลอยไหลไปตามกระแสมิติและพวกเจ้าทั้งสองก็ลืมเรื่องที่จะเข้าไปถึงมันได้เลย!”

เมื่อเฉียวหยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็ชะงักไปในทันที

สิ่งที่เย่หยวนพูดมานั้นมันมีเหตุผล พวกเขาสัมผัสได้ก่อนหน้านี้แล้วว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มันไม่อาจทนทานพลังของเทพสวรรค์ได้เลย

หากพวกเขาทั้งหลายต่อสู้กันจนชี้เป็นชี้ตายจริง โลกใบนี้ทั้งใบคงแตกสลายลงส่งให้วังแห่งนั้นต้องไหลไปตามกระแสมิติ

หากคิดอยากไปยังวัง ถึงเวลานั้นมันก็คงไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว

แต่ทว่าเฉียวหยวนยังไม่คิดยอมแพ้และบอกกับผีเทพสวรรค์ขวังต้าว “ขวังต้าว เด็กคนนี้มันบอกว่ามันจะมอบหินรุ้งเจ็ดสีให้เจ้าแต่มันกลับยังไม่มอบให้เจ้าเลย หรือว่าเจ้าจะคิดปล่อยให้มันแย่งชิงของไปต่อหน้าเช่นนี้?”

ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวหันไปมองเย่หยวนก่อนจะพูดขึ้นต่อหน้าทุกผู้คน “ข้ารู้สึกชอบใจน้องชายคนนี้ไม่เบา หินรุ้งเจ็ดสีนี้ข้าจะมอบมันให้น้องชายคนนี้แล้วกัน!”

“ห้ะ?!”

เฉียวหยวนและพวกต่างเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง

ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวที่ต่อสู้กับพวกเขามาค่อนวันเพื่อปกป้องหินรุ้งเจ็ดสีนั้นกลับคิดจะมอบมันให้เย่หยวนไปง่ายๆ เช่นนั้น?

ผู้คนรอบๆ เองก็มีสีหน้าไม่ต่างกับเฉียวหยวนนัก รู้สึกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้มันเหนือสามัญสำนึกจนเกินไป

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียที่พวกเขาทั้งหลายต้องมาต่อสู้กับเหล่ายอดฝีมือผีเต๋าทั้งหลายนี้มันก็เพื่อแย่งชิงหินรุ้งเจ็ดสี

แต่ตอนนี้ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวกลับคิดที่จะมอบหินรุ้งเจ็ดสีนี้ให้เย่หยวนอย่างง่ายดาย

นี่มัน… ทำให้ผู้คนไม่พอใจอย่างมาก!

แน่นอนว่าที่มากกว่าความไม่พอใจก็คือความอิจฉาริษยา

นั่นคือหินรุ้งเจ็ดสี สิ่งที่ต่อให้มอบให้แก่นักยุทธนภาสวรรค์ไปมันก็เสียของเปล่า!

นี่คือสิ่งที่สามารถทำให้เทพสวรรค์ก้าวเดินพัฒนาต่อไปได้

“เยี่ยมจริงๆ ข้าเองก็เพิ่งจะถูกเรียกออกมาจากมิติผีไร้แดน ยังอยู่บนโลกนี้ได้อีกหลายวัน จนกว่าจะถึงตอนนั้นข้าจะขออยู่กับหนุ่มน้อยเย่หยวนคนนี้แล้วกัน” ระหว่างที่ทุกผู้คนต่างยังตื่นตกใจเรื่องเก่าไม่หาย ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวก็ได้โยนระเบิดก้อนใหญ่ลงมาอีกลูก

ใบหน้าของเฉียวหยวนดำคล้ำได้แต่ด่าทอว่าอีกฝ่ายอยู่ในใจ

เจ้าหมอนี่มันจะทำอะไรก็ไม่มีใครว่า แต่มันกลับคิดมาปกป้องเย่หยวนเสียอย่างนั้น!

เดิมทีเขานั้นยังคงคิดสังหารจัดการเย่หยวนลงระหว่างเดินทางข้างหน้า แต่ตอนนี้เรื่องใดๆ มันก็คงไม่มีทางทำได้แล้ว

ไม่มีใครคิดฝันว่าการต่อสู้แย่งชิงหินรุ้งเจ็ดสีมันกลับจะจบลงเช่นนี้ได้

เหล่าเทพถ่องแท้ต่อสู้กันมากว่าสิบวัน สุดท้ายกลับมีเทพสวรรค์ปรากฏตัวออกมา แต่สุดท้ายกลับไม่มีใครที่ได้หินรุ้งเจ็ดสีไป กลับกลายเป็นเย่หยวนนักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์คนนี้ที่ได้ไป

ตอนนี้ความหวังสุดท้ายของพวกเขาทั้งหลายได้แต่เอาไปฝากไว้ที่วังนั้น

เมื่อมีสามเทพสวรรค์เดินทางมาด้วยมันจึงทำให้อันตรายใดๆ บนเส้นทางไม่ได้เป็นอันตรายอีกต่อไป

ไม่นานเหล่าผู้คนก็ได้เดินทางมาถึงยอดเขาที่สูงที่สุด

หลังจากได้มาถึงหน้าประตูแล้วพวกเขาทั้งหลายจึงได้เห็นความงดงามอลังการที่แท้จริงของวังแห่งนี้

แต่สายตาของเย่หยวนกลับหันไปมองที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ

คนผู้นั้นเองก็เหมือนจะรู้สึกได้ถึงสายตาของเย่หยวนและยิ้มตอบกลับมา “พี่เย่ เราได้เจอกันอีกแล้ว! เจ้านี่เก่งกาจจริงๆ ถึงกลับสามารถแย่งชิงหินรุ้งเจ็ดสีมาจากมือของเทพสวรรค์ได้เช่นนั้น!”

คนผู้นี้มันมิใช่ใครอื่นนอกจากถังเหยียน!

เย่หยวนไม่นึกไม่ฝันว่าถังเหยียนผู้ที่เก็บซ่อนพลังไว้นี้จะสามารถเดินทางมาได้จนถึงตอนนี้!

เพราะก่อนหน้าจะถึงแดนกักวิญญาณ เหล่านภาสวรรค์ทั้งหลายที่ผ่านค่ายกลดาบสังหารมาก็ได้ตายลงจนเกือบหมดสิ้นแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักยุทธจรที่ไม่มีใครช่วยปกป้องมันยิ่งมีโอกาสจะตายมากกว่า

เย่หยวนไม่นึกไม่ฝันจริงๆ ว่าถังเหยียนจะยังเดินทางมาถึงจุดนี้ได้

“หึๆ พี่ถังเองก็เก็บซ่อนพลังได้อย่างมิดชิด! เย่หยวนคนนี้ขอนับถือ!” เขายกมือขึ้นมาคารวะด้วยรอยยิ้ม

เย่หยวนนั้นคิดมาเสมอว่าตนนั้นเก่งกาจในการอ่านธาตุแท้ผู้อื่น แต่กับถังเหยียนคนนี้เขานั้นไม่สามารถจะมองออกได้จริงๆ

ถังเหยียนยิ้มตอบ “ข้าจะไปมีอะไรให้ผิดซ่อนกัน? ข้ามาถึงนี้ก็ได้ก็เพราะความสามารถในการหลบซ่อนเท่านั้นจึงมาถึงตรงนี้ได้ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นถังคนนี้ก็เกือบตายมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว”

เย่หยวนยิ้มตอบ “พี่ถังช่างถ่อมตัวนัก”

“เหอะ ในที่สุดก็มาถึงรังเฒ่านิรันดร์! วังสวรรค์นิรันดร์! หึๆ หวังว่าเจ้าของสิ่งนั้นคงซ่อนอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” เฉียวหยวนหัวเราะและกำลังจะก้าวเดินเข้าไปภายใน

เขานั้นมั่นใจในฝีมือของตนอย่างมากและไม่กลัวว่าจอมเทพนิรันดร์จะวางกับดักใดๆ ไว้

“เดี๋ยวก่อน!” จี้ฉุนร้องบอก

เฉียวหยวนขมวดคิ้วแน่น “หืม? มีอะไรรึเฒ่าโหมวหยู่?”

เทพสวรรค์โหมวหยู่นั้นไม่อาจจะจัดการได้แม้แต่เทพถ่องแท้ แน่นอนว่าเฉียวหยวนย่อมไม่คิดจะเหลือความเคารพใดๆ ให้

โหมวหยู่จึงพูดบอกขึ้น “ท่านเจี่ยวชางส่งพวกเจ้าทั้งสองมานี้เขาไม่กลัวว่าพวกเจ้าจะทำเสียการใหญ่บ้างหรือ?”

เฉียวหยวนที่ได้ยินเช่นนั้นจึงหัวเราะลั่นขึ้นทันที “โหมวหยู่ เลิกวางท่าต่อหน้าพ่อเจ้าได้แล้ว! หากเจ้าเก่งกาจจริงเหตุใดจึงถูกเฒ่านิรันดร์สะกดไว้กว่าห้าล้านปีเล่า?”

จี้ฉุนหน้าแดงจนเปลี่ยนเป็นสีดำแทบจะระเบิดความโกรธออกมาเสียตรงนั้น

แต่ตอนนี้เขาคือเสือใหญ่ที่หมดแรง มีหรือที่จะต้านทานพลังของเฉียวหยวนได้?

เขาทำได้เพียงแค่พ่นลมอย่างไม่พอใจ “เช่นนั้นก็ตามสบาย! หากเจ้าอยากตายก็เชิญ!”

เฉียวหยวนขมวดคิ้วแน่นทันที คำพูดนี้มันกลับทำให้เขาใจเย็นลงแทน

จู่ๆ สายตาของเขาก็มองไปยังเทพถ่องแท้สามดาวคนหนึ่ง

“เจ้า เข้าไปก่อน!” เฉียวหยวนร้องบอก

เทพถ่องแท้สามดาวคนนั้นหน้าถอดสีแต่ก็ยังคงยืนลังเล

เฉียวหยวนจึงร้องบอก “ไม่ไปก็ตายเสีย!”

พูดไปพลังปราณปีศาจก็พวยพุ่งออกมากดดันร่างของเทพถ่องแท้สามดาวคนนั้นจนไม่อาจหายใจออกได้

ยอดฝีมือเทพสวรรค์ช่างแข็งแกร่ง!

‘ปัง!’

เฉียวหยวนไม่คิดจะให้โอกาสอีกฝ่ายได้ลังเลแม้แต่น้อย เขาต่อยหมัดพุ่งออกมาทำลายร่างของเทพถ่องแท้สามดาวคนนั้นทันที

จากนั้นสายตาของเขาก็ไปจับจ้องที่เทพถ่องแท้อีกคนหนึ่ง “เจ้าเข้าไป!”

เมื่อคนผู้นั้นได้ยินเขาก็หน้าซีดเผือดลงทันที

แต่คราวนี้เขาไม่คิดที่จะลังเลแม้แต่น้อย

แม้จะไม่พอใจสักเท่าไหร่แต่สุดท้ายเขาก็ได้เดินไปยังทางเข้าหลักของวังนั้น

‘ฟู่ ฟู่’.

‘ปัง!’

คลื่นพลังลึกลับถูกปลดปล่อยออกมาทำให้เทพถ่องแท้คนนั้นไม่มีโอกาสแม้แต่จะร้อง ร่างกายของเขาแตกสลายกลายเป็นจุณในทันที

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1878 วังสวรรค์นิรันดร์

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1878 วังสวรรค์นิรันดร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ช่างเป็นพลังโจมตีที่แสนรุนแรง!”

“ทำไมจู่ๆ ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวถึงได้แข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้กัน?”

“นี่มันผีเต๋าร้อยยันต์ ยันต์ที่แปดสิบเอ็ด เงาผีอนันต์! เขากลับสามารถบ่มเพาะมาจนถึงขั้นนี้ได้แล้ว!”

“ไม่ เดี๋ยวก่อน ก่อนหน้านี้เขาย่อมไม่มีพลังถึงขั้นนี้แน่ เย่หยวนทำอะไรกับเขากันแน่?”

คำของเย่หยวนนั้นมันคงยังดังก้องอยู่ในหูของหลายผู้คน เขานั้นบอกออกมาอย่างชัดเจนว่าจะช่วยให้ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวสามารถจัดการกับสองเทพสวรรค์เผ่าปีศาจได้

แต่พวกเขาทั้งหลายเองก็คิดไม่ต่างจากสองเทพสวรรค์เผ่าปีศาจ มองมันเป็นแค่เรื่องตลก

ไม่นึกไม่ฝันว่าในพริบตาเดียวผีเทพสวรรค์ขวังต้าวจะสามารถกำจัดสองเทพสวรรค์เผ่าปีศาจลงได้จริงด้วยดาบเดียว

เย่หยวนมองดูมิติที่แตกหักตรงหน้าพร้อมถอนหายใจยาวออกมา

ดาบนี้มันใช้ออกอย่างรวดเร็วและเก็บกลับไปอย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนการต่อสู้ก่อนหน้านี้ที่ทำลายมิติด้วยพลังอย่างเต็มขั้น ดาบนี้มันจึงไม่ส่งผลต่อมิติมากมายนัก

ก่อนหน้านี้ตอนที่ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวต่อสู้กับสองเทพสวรรค์เผ่าปีศาจนี้เขาไม่มีโอกาสใดๆ ที่จะตอบโต้เลย ตัวเขานั้นทำได้มากสุดก็เพียงแค่หลอกล่อความสนใจของทั้งสองไปจากปากถ้ำเท่านั้น

เย่หยวนมองดูที่เทพสวรรค์ทั้งสองก่อนจะพูดเย้ยขึ้น “เจ้ายังจะคิดว่ามันเป็นแค่มุกตลกอีกไหม?”

เฉียวหยวนได้แต่ทำหน้าเหยเก ตอนนี้ตัวเขาที่เป็นถึงเทพสวรรค์กลับถูกเด็กอาณาจักรนภาสวรรค์เย้ยหยัน

แต่ทว่าเด็กคนนี้มันทำอะไรลงไปกันแน่? เหตุใดพลังของผีเทพสวรรค์ขวังต้าวถึงได้เพิ่มพูนขึ้นขนาดนี้?

ผีเต๋าร้อยยันต์ ยันต์ที่แปดสิบเอ็ดนั้นคือสิ่งที่แม้แต่เทพสวรรค์ยังบรรลุได้ยากเย็นยิ่ง แต่ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวนั้นกลับสามารถใช้มันออกมาได้

“เด็กน้อย เจ้าอย่าได้อวดดีไป! การต่อสู้มันยังไม่จบ! อายเมิง เข้าโจมตีพร้อมกัน!”

เฉียวหยวนร้องบอกพร้อมปล่อยพลังปราณปีศาจออกมาจากร่างอย่างมหาศาล

เย่หยวนได้แต่หรี่ตามองภาพตรงหน้า “พวกเจ้าคิดจะต่อสู้ถึงเป็นถึงตายกันเพราะหินรุ้งเจ็ดสีนี้เลย?”

เฉียวหยวนจึงร้องตอบ “แล้วมันทำไม?”

เย่หยวนยิ้มกลับไป “ข้าไม่สนหรอกนะ แต่สมบัติที่แท้ของจอมเทพนิรันดร์มันน่าจะอยู่ในวังแห่งนั้น หากเจ้าคิดอยากสู้กันจนตายไปข้างกับผีเทพสวรรค์ขวังต้าว พลังจากการต่อสู้นี้มันคงทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ถึงเวลานั้นวังแห่งนั้นมันก็คงลอยไหลไปตามกระแสมิติและพวกเจ้าทั้งสองก็ลืมเรื่องที่จะเข้าไปถึงมันได้เลย!”

เมื่อเฉียวหยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็ชะงักไปในทันที

สิ่งที่เย่หยวนพูดมานั้นมันมีเหตุผล พวกเขาสัมผัสได้ก่อนหน้านี้แล้วว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มันไม่อาจทนทานพลังของเทพสวรรค์ได้เลย

หากพวกเขาทั้งหลายต่อสู้กันจนชี้เป็นชี้ตายจริง โลกใบนี้ทั้งใบคงแตกสลายลงส่งให้วังแห่งนั้นต้องไหลไปตามกระแสมิติ

หากคิดอยากไปยังวัง ถึงเวลานั้นมันก็คงไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว

แต่ทว่าเฉียวหยวนยังไม่คิดยอมแพ้และบอกกับผีเทพสวรรค์ขวังต้าว “ขวังต้าว เด็กคนนี้มันบอกว่ามันจะมอบหินรุ้งเจ็ดสีให้เจ้าแต่มันกลับยังไม่มอบให้เจ้าเลย หรือว่าเจ้าจะคิดปล่อยให้มันแย่งชิงของไปต่อหน้าเช่นนี้?”

ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวหันไปมองเย่หยวนก่อนจะพูดขึ้นต่อหน้าทุกผู้คน “ข้ารู้สึกชอบใจน้องชายคนนี้ไม่เบา หินรุ้งเจ็ดสีนี้ข้าจะมอบมันให้น้องชายคนนี้แล้วกัน!”

“ห้ะ?!”

เฉียวหยวนและพวกต่างเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง

ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวที่ต่อสู้กับพวกเขามาค่อนวันเพื่อปกป้องหินรุ้งเจ็ดสีนั้นกลับคิดจะมอบมันให้เย่หยวนไปง่ายๆ เช่นนั้น?

ผู้คนรอบๆ เองก็มีสีหน้าไม่ต่างกับเฉียวหยวนนัก รู้สึกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้มันเหนือสามัญสำนึกจนเกินไป

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียที่พวกเขาทั้งหลายต้องมาต่อสู้กับเหล่ายอดฝีมือผีเต๋าทั้งหลายนี้มันก็เพื่อแย่งชิงหินรุ้งเจ็ดสี

แต่ตอนนี้ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวกลับคิดที่จะมอบหินรุ้งเจ็ดสีนี้ให้เย่หยวนอย่างง่ายดาย

นี่มัน… ทำให้ผู้คนไม่พอใจอย่างมาก!

แน่นอนว่าที่มากกว่าความไม่พอใจก็คือความอิจฉาริษยา

นั่นคือหินรุ้งเจ็ดสี สิ่งที่ต่อให้มอบให้แก่นักยุทธนภาสวรรค์ไปมันก็เสียของเปล่า!

นี่คือสิ่งที่สามารถทำให้เทพสวรรค์ก้าวเดินพัฒนาต่อไปได้

“เยี่ยมจริงๆ ข้าเองก็เพิ่งจะถูกเรียกออกมาจากมิติผีไร้แดน ยังอยู่บนโลกนี้ได้อีกหลายวัน จนกว่าจะถึงตอนนั้นข้าจะขออยู่กับหนุ่มน้อยเย่หยวนคนนี้แล้วกัน” ระหว่างที่ทุกผู้คนต่างยังตื่นตกใจเรื่องเก่าไม่หาย ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวก็ได้โยนระเบิดก้อนใหญ่ลงมาอีกลูก

ใบหน้าของเฉียวหยวนดำคล้ำได้แต่ด่าทอว่าอีกฝ่ายอยู่ในใจ

เจ้าหมอนี่มันจะทำอะไรก็ไม่มีใครว่า แต่มันกลับคิดมาปกป้องเย่หยวนเสียอย่างนั้น!

เดิมทีเขานั้นยังคงคิดสังหารจัดการเย่หยวนลงระหว่างเดินทางข้างหน้า แต่ตอนนี้เรื่องใดๆ มันก็คงไม่มีทางทำได้แล้ว

ไม่มีใครคิดฝันว่าการต่อสู้แย่งชิงหินรุ้งเจ็ดสีมันกลับจะจบลงเช่นนี้ได้

เหล่าเทพถ่องแท้ต่อสู้กันมากว่าสิบวัน สุดท้ายกลับมีเทพสวรรค์ปรากฏตัวออกมา แต่สุดท้ายกลับไม่มีใครที่ได้หินรุ้งเจ็ดสีไป กลับกลายเป็นเย่หยวนนักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์คนนี้ที่ได้ไป

ตอนนี้ความหวังสุดท้ายของพวกเขาทั้งหลายได้แต่เอาไปฝากไว้ที่วังนั้น

เมื่อมีสามเทพสวรรค์เดินทางมาด้วยมันจึงทำให้อันตรายใดๆ บนเส้นทางไม่ได้เป็นอันตรายอีกต่อไป

ไม่นานเหล่าผู้คนก็ได้เดินทางมาถึงยอดเขาที่สูงที่สุด

หลังจากได้มาถึงหน้าประตูแล้วพวกเขาทั้งหลายจึงได้เห็นความงดงามอลังการที่แท้จริงของวังแห่งนี้

แต่สายตาของเย่หยวนกลับหันไปมองที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ

คนผู้นั้นเองก็เหมือนจะรู้สึกได้ถึงสายตาของเย่หยวนและยิ้มตอบกลับมา “พี่เย่ เราได้เจอกันอีกแล้ว! เจ้านี่เก่งกาจจริงๆ ถึงกลับสามารถแย่งชิงหินรุ้งเจ็ดสีมาจากมือของเทพสวรรค์ได้เช่นนั้น!”

คนผู้นี้มันมิใช่ใครอื่นนอกจากถังเหยียน!

เย่หยวนไม่นึกไม่ฝันว่าถังเหยียนผู้ที่เก็บซ่อนพลังไว้นี้จะสามารถเดินทางมาได้จนถึงตอนนี้!

เพราะก่อนหน้าจะถึงแดนกักวิญญาณ เหล่านภาสวรรค์ทั้งหลายที่ผ่านค่ายกลดาบสังหารมาก็ได้ตายลงจนเกือบหมดสิ้นแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักยุทธจรที่ไม่มีใครช่วยปกป้องมันยิ่งมีโอกาสจะตายมากกว่า

เย่หยวนไม่นึกไม่ฝันจริงๆ ว่าถังเหยียนจะยังเดินทางมาถึงจุดนี้ได้

“หึๆ พี่ถังเองก็เก็บซ่อนพลังได้อย่างมิดชิด! เย่หยวนคนนี้ขอนับถือ!” เขายกมือขึ้นมาคารวะด้วยรอยยิ้ม

เย่หยวนนั้นคิดมาเสมอว่าตนนั้นเก่งกาจในการอ่านธาตุแท้ผู้อื่น แต่กับถังเหยียนคนนี้เขานั้นไม่สามารถจะมองออกได้จริงๆ

ถังเหยียนยิ้มตอบ “ข้าจะไปมีอะไรให้ผิดซ่อนกัน? ข้ามาถึงนี้ก็ได้ก็เพราะความสามารถในการหลบซ่อนเท่านั้นจึงมาถึงตรงนี้ได้ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นถังคนนี้ก็เกือบตายมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว”

เย่หยวนยิ้มตอบ “พี่ถังช่างถ่อมตัวนัก”

“เหอะ ในที่สุดก็มาถึงรังเฒ่านิรันดร์! วังสวรรค์นิรันดร์! หึๆ หวังว่าเจ้าของสิ่งนั้นคงซ่อนอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” เฉียวหยวนหัวเราะและกำลังจะก้าวเดินเข้าไปภายใน

เขานั้นมั่นใจในฝีมือของตนอย่างมากและไม่กลัวว่าจอมเทพนิรันดร์จะวางกับดักใดๆ ไว้

“เดี๋ยวก่อน!” จี้ฉุนร้องบอก

เฉียวหยวนขมวดคิ้วแน่น “หืม? มีอะไรรึเฒ่าโหมวหยู่?”

เทพสวรรค์โหมวหยู่นั้นไม่อาจจะจัดการได้แม้แต่เทพถ่องแท้ แน่นอนว่าเฉียวหยวนย่อมไม่คิดจะเหลือความเคารพใดๆ ให้

โหมวหยู่จึงพูดบอกขึ้น “ท่านเจี่ยวชางส่งพวกเจ้าทั้งสองมานี้เขาไม่กลัวว่าพวกเจ้าจะทำเสียการใหญ่บ้างหรือ?”

เฉียวหยวนที่ได้ยินเช่นนั้นจึงหัวเราะลั่นขึ้นทันที “โหมวหยู่ เลิกวางท่าต่อหน้าพ่อเจ้าได้แล้ว! หากเจ้าเก่งกาจจริงเหตุใดจึงถูกเฒ่านิรันดร์สะกดไว้กว่าห้าล้านปีเล่า?”

จี้ฉุนหน้าแดงจนเปลี่ยนเป็นสีดำแทบจะระเบิดความโกรธออกมาเสียตรงนั้น

แต่ตอนนี้เขาคือเสือใหญ่ที่หมดแรง มีหรือที่จะต้านทานพลังของเฉียวหยวนได้?

เขาทำได้เพียงแค่พ่นลมอย่างไม่พอใจ “เช่นนั้นก็ตามสบาย! หากเจ้าอยากตายก็เชิญ!”

เฉียวหยวนขมวดคิ้วแน่นทันที คำพูดนี้มันกลับทำให้เขาใจเย็นลงแทน

จู่ๆ สายตาของเขาก็มองไปยังเทพถ่องแท้สามดาวคนหนึ่ง

“เจ้า เข้าไปก่อน!” เฉียวหยวนร้องบอก

เทพถ่องแท้สามดาวคนนั้นหน้าถอดสีแต่ก็ยังคงยืนลังเล

เฉียวหยวนจึงร้องบอก “ไม่ไปก็ตายเสีย!”

พูดไปพลังปราณปีศาจก็พวยพุ่งออกมากดดันร่างของเทพถ่องแท้สามดาวคนนั้นจนไม่อาจหายใจออกได้

ยอดฝีมือเทพสวรรค์ช่างแข็งแกร่ง!

‘ปัง!’

เฉียวหยวนไม่คิดจะให้โอกาสอีกฝ่ายได้ลังเลแม้แต่น้อย เขาต่อยหมัดพุ่งออกมาทำลายร่างของเทพถ่องแท้สามดาวคนนั้นทันที

จากนั้นสายตาของเขาก็ไปจับจ้องที่เทพถ่องแท้อีกคนหนึ่ง “เจ้าเข้าไป!”

เมื่อคนผู้นั้นได้ยินเขาก็หน้าซีดเผือดลงทันที

แต่คราวนี้เขาไม่คิดที่จะลังเลแม้แต่น้อย

แม้จะไม่พอใจสักเท่าไหร่แต่สุดท้ายเขาก็ได้เดินไปยังทางเข้าหลักของวังนั้น

‘ฟู่ ฟู่’.

‘ปัง!’

คลื่นพลังลึกลับถูกปลดปล่อยออกมาทำให้เทพถ่องแท้คนนั้นไม่มีโอกาสแม้แต่จะร้อง ร่างกายของเขาแตกสลายกลายเป็นจุณในทันที

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+