Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1898 หักขาสุนัขเจ้า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1898 หักขาสุนัขเจ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สำนักอากาศแจ่ม ตึกลมไหล

ที่แห่งนี้มันคือสถานที่จัดการดูแลเหล่าศิษย์ทั้งหลายของสำนักอากาศแจ่ม หลังจากศิษย์อย่างเจียงยู่ถังกลับมาจากเมืองจักรพรรดิต่างๆ เขาก็ต้องมายังที่แห่งนี้เพื่อรายงานเรื่องราว

แน่นอนว่าที่ผิวนอกแล้วเจียงยู่ถังยังคงรับคำสั่งโดยตรงจากทางจวนเจ้าเมือง

ด้านในหอนั้นมีชายชราร่างผอมคนหนึ่งมองดูเย่หยวนด้วยสายตาที่ตื่นตกใจไม่น้อย

ชายแก่ถามขึ้น “เจ้าเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จริง?”

นภาสวรรค์ที่อายุน้อยขนาดนี้มันย่อมหาได้ยากยิ่งแม้จะเป็นในสำนักอากาศแจ่มเองก็ตาม

กับเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เช่นนั้นที่แม้เจ้าเมืองก็ยังเป็นแค่นภาสวรรค์สองดาว แต่ผู้อาวุโสใหญ่ที่มาจากเมืองเช่นนั้นกลับเป็นถึงนภาสวรรค์ห้าดาว แน่นอนว่ามันต้องทำให้เกิดความตกตะลึง

อาณาจักรบ่มเพาะระดับนี้มันสามารถขึ้นไปเป็นเจ้าเมืองของเมืองจักรพรรดิขั้นกลางได้ง่ายๆ

เย่หยวนหยิบเหรียญประจำตัวออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม “ข้านั้นออกเดินทางด้านนอกและเพิ่มจะกลับมาถึงเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์แค่ไม่กี่วันก่อน”

ชายแก่รับมันไปดูและแน่นอนว่ามันคือเหรียญตาผู้อาวุโสใหญ่แห่งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัย

ได้ยินเช่นนั้นแล้วเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่เย่หยวนออกเดินทางด้านนอกเขาน่าจะได้พบเจอกับสมบัติล้ำค่าสักอย่างจึงสามารถบรรลุขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

มันอาจจะเป็นผลวิญญาณเต๋านภาสวรรค์ก็เป็นได้

นภาสวรรค์เช่นนี้มันเป็นนักยุทธที่ไม่มีอนาคตมากมาย

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ชายแก่จึงยิ่งมองดูถูกเย่หยวนหนักกว่าเก่า

นภาสวรรค์ห้าดาวนั้นมันเป็นตัวตนที่มีอยู่ทั่วเมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่น คนที่ก้าวไปถึงจุดนั้นได้มันมิใช่ส่วนน้อยเลย

ชายแก่คืนเหรียญให้แก่เย่หยวนและพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เจ้ามาหาผู้ดูแลผู้นี้ด้วยธุระใด?”

ชายแก่คนนี้มีนามว่าหลู่เฉิน ผู้ดูแลตึกลมไหลและยังเป็นหัวหน้าผู้ดูแลเจียงยู่ถังโดยตรงด้วย

เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะอีกฝ่าย “ผู้ดูแลหลู่ ผู้ตรวจการคนก่อนของสิบเมืองสันเขาใต้เจียงยู่ถังและเย่ผู้นี้เป็นสหายกัน เย่ผู้นี้แค่ได้ยินว่าเขาถูกจับรอประหารจากทางจวนเจ้าเมืองเพราะเขาไปทำความผิดใดสักอย่างไว้จึงได้เร่งรุดมาเพื่อสอบถาม”

หลู่เฉินหน้าเปลี่ยนสีไปในทันทีที่ได้ยินแต่เขาก็กลับมายิ้มได้อย่างรวดเร็ว “ที่แท้เป็นเรื่องของเจียงยู่ถัง แท้จริงแล้ว… ข้าเองก็ไม่ได้รู้เรื่องราวมากมาย แต่ได้ยินว่าสิ่งที่มันก่อนั้นไม่ใช่เรื่องน้อยๆ เลย”

มีหรือที่สีหน้านั้นของหลู่เฉินจะหลบรอดสายตาเย่หยวนไปได้?

แต่เขานั้นมาเพื่อสอบถามหาข่าวย่อมต้องมีวิธีและธรรมเนียมการปฏิบัติ เขาจึงยิ้มออกมา “ผู้ดูแลหลู่ ช่วยสั่งสอนด้วย”

หลู่เฉินไม่คิดกล่าวใดๆ และทำแค่ยกมือขึ้นลูบเครายาว

เย่หยวนนั่นเข้าใจได้ทันทีจึงหยิบขวดโอสถหนึ่งออกมาและมอบมันให้หลู่เฉินพร้อมรอยยิ้ม “ผู้ดูแลหลู่นั้นคอยดูแลพี่เจียงเสมอมาและพี่เจียงก็ได้ดูแลเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ของข้าด้วยเช่นกัน นี่คือคำขอบคุณเล็กๆ น้อยจากเย่ผู้นี้ ผู้ดูแลหลู่โปรดรับไว้”

ผู้ดูแลอย่างหลู่เฉินนั้นย่อมทำการรับสินบนและส่วนแบ่งจากคนเบื้องล่างอยู่เสมอๆ

พวกเขาทั้งหลายนั้นดูแลผู้ตรวจการเมืองจักรพรรดิต่างๆ

เหล่าผู้ตรวจการนั้นจะได้เงินติดกระเป๋ามาจากเมืองจักรพรรดิ ส่วนพวกเขาผู้ดูแลนั้นก็จะรับส่วนแบ่งที่เหล่าผู้ตรวจการได้มานั้นอีกระดับ

แน่นอนว่าคนอย่างเจียงยู่ถังนั้นย่อมไม่ค่อยแสดงความเคารพใดๆ ออกมาแก่เขา

ต่อให้เขาจะอยากเก็บส่วนแบ่งมากมายเพียงแค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็ไม่อาจรีดออกมาได้มากนัก

เพราะฉะนั้นเจียงยู่ถังจึงมีตำแหน่งที่ค่อนข้างต่ำต้อยในตึกลมไหลนี้

เขานั้นเป็นเพียงแค่นภาสวรรค์สี่ดาว ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังฝีมือหรือสถานะ ตัวเขานั้นก็ไม่ได้เป็นคนที่ยิ่งใหญ่ใดๆ เลย

“นี่มัน…โอสถหยกวารีขั้นเทวะ! ของดี!”

เมื่อหลู่เฉินเห็นโอสถในขวดน้อยตรงหน้าสองตาของเขาก็เบิกกว้าง

โอสถหยกวารีนั้นคือโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าขั้นกลาง มันสามารถเพิ่มพูนพลังให้เหล่านักยุทธนภาสวรรค์ได้อย่างมากมาย

โอสถนี้คือโอสถที่เย่หยวนฝึกหลอมในมิติอนันตาก่อไผ่เมื่อนานมาแล้ว ในเวลานั้นฝีมือการหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าของเขายังไม่สูงนักทำให้ได้คุณภาพออกมาแค่ขั้นเทวะ

แต่เจ้าโอสถที่ผิดพลาดนี้มันกลับเป็นสมบัติล้ำค่าในสายตาหลู่เฉิน

หลู่เฉินรับโอสถหยกวารีนั้นและรีบเก็บมันลงไปในทันทีอย่างที่กลัวว่าเย่หยวนจะคิดเปลี่ยนใจ

“อืม ไม่เลว อย่างน้อยเจ้าก็รู้เรื่องราวบนโลก แต่เรื่องของเจียงยู่ถังนี่ข้าว่าเจ้าอย่าคิดมาข้องเกี่ยวดีกว่า ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้ตายไปด้วย” หลู่เฉินเก็บโอสถหยกวารีไปและบอกขึ้น

เขานั้นทำท่าทางเหมือนหมดเรื่องจะคุยกับเย่หยวนแล้วและพยายามจะไล่คนกลับไป

เย่หยวนขมวดคิ้วขึ้นทันที แต่เขาก็ยังควบคุมตัวเองไว้ได้ “พี่เจียงนั้นดูแลข้าผู้นี้มานาน เย่ผู้นี้แค่มาถามไถ่เรื่องราวไม่คิดเรื่องราวใดๆ มากมาย”

หลู่เฉินเองก็ขมวดคิ้วกลับมา “ข้านั้นหวังดี เจ้ารีบๆ ไปเสียเถอะ!”

เย่หยวนรู้สึกได้ถึงความโกรธที่ปะทุขึ้นมาในจิตใจ “ผู้ดูแลหลู่ ท่านรับของไปแล้วแต่กลับไม่ยอมทำตามที่ขอ?”

เขานั้นไม่นึกเช่นกันว่าหลู่เฉินจะเป็นคนหน้าไม่อายเรียกรับสินบนแต่กลับไม่คิดทำตามที่ถูกขอไว้เช่นนี้ เป็นแบบนี้เขาเอาโอสถหยกวารีไปให้หมากินยังดีเสียกว่า

แม้ว่าโอสถนี้มันจะเป็นแค่ขยะสำหรับเย่หยวน แต่สุดท้ายมันก็ยังเป็นโอสถขั้นเทวะที่ล้ำค่าอยู่ดี

เมื่อได้เห็นท่าทางนั้นของเย่หยวนหลู่เฉินก็ยิ้มขึ้น “ทำไม ที่นี่คือตึกลมไหลเจ้าคิดจะหาเรื่องทำร้ายผู้คนหรือ? เจ้าคิดว่าตัวเองจะสามารถติดสินบนข้าคนนี้ได้หรือ! เป็นแค่ผู้อาวุโสใหญ่แห่งเมืองจักรพรรดิหนึ่งอย่าได้มาอวดดีกับผู้ดูแลคนนี้นัก! ไสหัวไป!”

กับคนที่มาจากเมืองด้านล่างนั้นหลู่เฉินย่อมคิดวางท่าเป็นเจ้าไม่สนใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

และท่าทางนั้นของเย่หยวนมันก็ทำให้เขาโกรธเคืองไม่น้อย

เมื่อคนเบื้องล่างทั้งหลายเห็นตัวเขา พวกมันทั้งหลายนั้นล้วนแต่แสดงท่าทางเกรงใจเคารพออกมา

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับกล้าทำตัวเช่นนี้ใส่เขา ช่างไม่รู้จักเสียจริงๆ ว่าอะไรไม่ถูกไม่ควร

ดวงตาของเย่หยวนเบิกขึ้นด้วยความเย็นเยือก “ดูท่าเจ้าจะหลงตัวเองมากนักนะ!”

หลู่เฉินนั้นโกรธแค้นขึ้นในทันทีที่ได้ยิน “เด็กน้อย เจ้าคิดว่าแค่โชคดีได้หลอมผลวิญญาณเต๋านภาสวรรค์แล้วตัวเองจะสามารถอวดดีต่อหน้าผู้ดูแลคนนี้ได้? ผู้ดูแลคนนี้ได้ให้โอกาสเจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับยังไม่ไสหัวไป เช่นนั้นข้าจะหักขาสุนัขของเจ้าแล้วโยนเจ้าทิ้งไปเอง!”

ปัง!

หลู่เฉินปล่อยพลังโลกของตนออกมาพร้อมบดขยี้ไปยังเย่หยวน

หลู่เฉินนั้นเป็นถึงนภาสวรรค์หกดาว ส่วนเย่หยวนเป็นแค่นภาสวรรค์ห้าดาวขั้นกลาง แน่นอนว่าเขาย่อมไม่คิดว่าเย่หยวนจะตอบสนองสู้กลับมาได้

ร่างของเขาขยับพริบตาเดียวพลังโลกนั้นมันก็บดขยี้มาถึงตัวเย่หยวน

แต่เย่หยวนกลับยืนอยู่ตรงนั้นอย่างนิ่งเฉยไม่คิดแม้แต่จะเดินปราณเทวะ ราวกับว่าเขากลัวจนไม่อาจทำอะไรตอบโต้ได้แล้ว

หลู่เฉินที่เห็นเช่นนั้นจึงพูดขึ้น “ไม่รู้จักประมาณตัวเองกลับกล้ามาทำตัวอวดดีต่อหน้าผู้ดูแลคนนี้!”

คนทั้งสองนั้นอยู่ห่างกันแค่ไม่มาก หลู่เฉินจึงมาถึงตัวเย่หยวนได้ในพริบตา

ในวินาทีต่อไป เขาก็คิดจะหักขาเย่หยวนอย่างที่ว่า

แต่ในวินาทีนั้นเย่หยวนกลับขยับ

เขาได้แค่ยืนตรงนั้นพร้อมเหวี่ยงเตะขาออกมา

ตุบ!

เสียงของกระดูกที่หักลั่นไปทั่วทั้งร่างทำให้หลู่เฉินต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ก้มคุกเข่าลงต่อหน้าเย่หยวนในทันที

“อ่า! ขาข้า!” หลู่เฉินร้อง

เย่หยวนมองดูที่เขา “ไม่รู้จักประมาณตนกลับกล้ามาทำตัวอวดดีต่อหน้าข้า? ข้ามอบโอสถหยกวารีให้เพราะเห็นแก่หน้าพี่เจียงหรอกนะ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนเก่งกาจมากบารมีหรือ?”

หลู่เฉินนั้นเจ็บปวดจนถึงขั้นกระดูก เหงื่อเย็นเหยียบไหลลงมาท่วมกาย

แรงเตะของเย่หยวนนี้มันหักทำลายกระดูกของเขาจนเป็นผงไม่อาจลุกขึ้นยืนได้

เขานั้นคิดหักขาเย่หยวน แต่สุดท้ายแล้วกลับเป็นตัวเองที่ขาหักลง

ดินแดนของพลังโลกของเขานั้นไม่อาจส่งผลใดๆ แก่เย่หยวนได้เลย

เป็นตอนนี้เองที่หลู่เฉินได้รู้ว่าชายหนุ่มผู้อาวุโสใหญ่แห่งเมืองจักรพรรดิตรงหน้าเขานี้ไม่ใช่คนทั่วๆ ไปที่จะข่มขู่ได้เลย!

“ข้า…ข้าผิดไปแล้ว! ข้า…ข้าขอร้อง ปล่อยข้าไปเถอะ” หลู่เฉินบอกพร้อมเหงื่อที่ไหลท่วมกาย

เย่หยวนพยักหน้าออกมา “ก็ไม่ใช่ว่าข้าคิดจะฆ่าสังหารเจ้า แต่เจ้าน่าจะรู้ดีว่าข้าต้องการอะไร”

หลู่เฉินเบิกตากว้างก่อนจะพยักหน้าออกมา “ข้า…ข้าจะพูด ข้าจะบอกทุกเรื่องที่ข้ารู้!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1898 หักขาสุนัขเจ้า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1898 หักขาสุนัขเจ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สำนักอากาศแจ่ม ตึกลมไหล

ที่แห่งนี้มันคือสถานที่จัดการดูแลเหล่าศิษย์ทั้งหลายของสำนักอากาศแจ่ม หลังจากศิษย์อย่างเจียงยู่ถังกลับมาจากเมืองจักรพรรดิต่างๆ เขาก็ต้องมายังที่แห่งนี้เพื่อรายงานเรื่องราว

แน่นอนว่าที่ผิวนอกแล้วเจียงยู่ถังยังคงรับคำสั่งโดยตรงจากทางจวนเจ้าเมือง

ด้านในหอนั้นมีชายชราร่างผอมคนหนึ่งมองดูเย่หยวนด้วยสายตาที่ตื่นตกใจไม่น้อย

ชายแก่ถามขึ้น “เจ้าเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จริง?”

นภาสวรรค์ที่อายุน้อยขนาดนี้มันย่อมหาได้ยากยิ่งแม้จะเป็นในสำนักอากาศแจ่มเองก็ตาม

กับเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เช่นนั้นที่แม้เจ้าเมืองก็ยังเป็นแค่นภาสวรรค์สองดาว แต่ผู้อาวุโสใหญ่ที่มาจากเมืองเช่นนั้นกลับเป็นถึงนภาสวรรค์ห้าดาว แน่นอนว่ามันต้องทำให้เกิดความตกตะลึง

อาณาจักรบ่มเพาะระดับนี้มันสามารถขึ้นไปเป็นเจ้าเมืองของเมืองจักรพรรดิขั้นกลางได้ง่ายๆ

เย่หยวนหยิบเหรียญประจำตัวออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม “ข้านั้นออกเดินทางด้านนอกและเพิ่มจะกลับมาถึงเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์แค่ไม่กี่วันก่อน”

ชายแก่รับมันไปดูและแน่นอนว่ามันคือเหรียญตาผู้อาวุโสใหญ่แห่งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัย

ได้ยินเช่นนั้นแล้วเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่เย่หยวนออกเดินทางด้านนอกเขาน่าจะได้พบเจอกับสมบัติล้ำค่าสักอย่างจึงสามารถบรรลุขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

มันอาจจะเป็นผลวิญญาณเต๋านภาสวรรค์ก็เป็นได้

นภาสวรรค์เช่นนี้มันเป็นนักยุทธที่ไม่มีอนาคตมากมาย

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ชายแก่จึงยิ่งมองดูถูกเย่หยวนหนักกว่าเก่า

นภาสวรรค์ห้าดาวนั้นมันเป็นตัวตนที่มีอยู่ทั่วเมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่น คนที่ก้าวไปถึงจุดนั้นได้มันมิใช่ส่วนน้อยเลย

ชายแก่คืนเหรียญให้แก่เย่หยวนและพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เจ้ามาหาผู้ดูแลผู้นี้ด้วยธุระใด?”

ชายแก่คนนี้มีนามว่าหลู่เฉิน ผู้ดูแลตึกลมไหลและยังเป็นหัวหน้าผู้ดูแลเจียงยู่ถังโดยตรงด้วย

เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะอีกฝ่าย “ผู้ดูแลหลู่ ผู้ตรวจการคนก่อนของสิบเมืองสันเขาใต้เจียงยู่ถังและเย่ผู้นี้เป็นสหายกัน เย่ผู้นี้แค่ได้ยินว่าเขาถูกจับรอประหารจากทางจวนเจ้าเมืองเพราะเขาไปทำความผิดใดสักอย่างไว้จึงได้เร่งรุดมาเพื่อสอบถาม”

หลู่เฉินหน้าเปลี่ยนสีไปในทันทีที่ได้ยินแต่เขาก็กลับมายิ้มได้อย่างรวดเร็ว “ที่แท้เป็นเรื่องของเจียงยู่ถัง แท้จริงแล้ว… ข้าเองก็ไม่ได้รู้เรื่องราวมากมาย แต่ได้ยินว่าสิ่งที่มันก่อนั้นไม่ใช่เรื่องน้อยๆ เลย”

มีหรือที่สีหน้านั้นของหลู่เฉินจะหลบรอดสายตาเย่หยวนไปได้?

แต่เขานั้นมาเพื่อสอบถามหาข่าวย่อมต้องมีวิธีและธรรมเนียมการปฏิบัติ เขาจึงยิ้มออกมา “ผู้ดูแลหลู่ ช่วยสั่งสอนด้วย”

หลู่เฉินไม่คิดกล่าวใดๆ และทำแค่ยกมือขึ้นลูบเครายาว

เย่หยวนนั่นเข้าใจได้ทันทีจึงหยิบขวดโอสถหนึ่งออกมาและมอบมันให้หลู่เฉินพร้อมรอยยิ้ม “ผู้ดูแลหลู่นั้นคอยดูแลพี่เจียงเสมอมาและพี่เจียงก็ได้ดูแลเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ของข้าด้วยเช่นกัน นี่คือคำขอบคุณเล็กๆ น้อยจากเย่ผู้นี้ ผู้ดูแลหลู่โปรดรับไว้”

ผู้ดูแลอย่างหลู่เฉินนั้นย่อมทำการรับสินบนและส่วนแบ่งจากคนเบื้องล่างอยู่เสมอๆ

พวกเขาทั้งหลายนั้นดูแลผู้ตรวจการเมืองจักรพรรดิต่างๆ

เหล่าผู้ตรวจการนั้นจะได้เงินติดกระเป๋ามาจากเมืองจักรพรรดิ ส่วนพวกเขาผู้ดูแลนั้นก็จะรับส่วนแบ่งที่เหล่าผู้ตรวจการได้มานั้นอีกระดับ

แน่นอนว่าคนอย่างเจียงยู่ถังนั้นย่อมไม่ค่อยแสดงความเคารพใดๆ ออกมาแก่เขา

ต่อให้เขาจะอยากเก็บส่วนแบ่งมากมายเพียงแค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็ไม่อาจรีดออกมาได้มากนัก

เพราะฉะนั้นเจียงยู่ถังจึงมีตำแหน่งที่ค่อนข้างต่ำต้อยในตึกลมไหลนี้

เขานั้นเป็นเพียงแค่นภาสวรรค์สี่ดาว ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังฝีมือหรือสถานะ ตัวเขานั้นก็ไม่ได้เป็นคนที่ยิ่งใหญ่ใดๆ เลย

“นี่มัน…โอสถหยกวารีขั้นเทวะ! ของดี!”

เมื่อหลู่เฉินเห็นโอสถในขวดน้อยตรงหน้าสองตาของเขาก็เบิกกว้าง

โอสถหยกวารีนั้นคือโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าขั้นกลาง มันสามารถเพิ่มพูนพลังให้เหล่านักยุทธนภาสวรรค์ได้อย่างมากมาย

โอสถนี้คือโอสถที่เย่หยวนฝึกหลอมในมิติอนันตาก่อไผ่เมื่อนานมาแล้ว ในเวลานั้นฝีมือการหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าของเขายังไม่สูงนักทำให้ได้คุณภาพออกมาแค่ขั้นเทวะ

แต่เจ้าโอสถที่ผิดพลาดนี้มันกลับเป็นสมบัติล้ำค่าในสายตาหลู่เฉิน

หลู่เฉินรับโอสถหยกวารีนั้นและรีบเก็บมันลงไปในทันทีอย่างที่กลัวว่าเย่หยวนจะคิดเปลี่ยนใจ

“อืม ไม่เลว อย่างน้อยเจ้าก็รู้เรื่องราวบนโลก แต่เรื่องของเจียงยู่ถังนี่ข้าว่าเจ้าอย่าคิดมาข้องเกี่ยวดีกว่า ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้ตายไปด้วย” หลู่เฉินเก็บโอสถหยกวารีไปและบอกขึ้น

เขานั้นทำท่าทางเหมือนหมดเรื่องจะคุยกับเย่หยวนแล้วและพยายามจะไล่คนกลับไป

เย่หยวนขมวดคิ้วขึ้นทันที แต่เขาก็ยังควบคุมตัวเองไว้ได้ “พี่เจียงนั้นดูแลข้าผู้นี้มานาน เย่ผู้นี้แค่มาถามไถ่เรื่องราวไม่คิดเรื่องราวใดๆ มากมาย”

หลู่เฉินเองก็ขมวดคิ้วกลับมา “ข้านั้นหวังดี เจ้ารีบๆ ไปเสียเถอะ!”

เย่หยวนรู้สึกได้ถึงความโกรธที่ปะทุขึ้นมาในจิตใจ “ผู้ดูแลหลู่ ท่านรับของไปแล้วแต่กลับไม่ยอมทำตามที่ขอ?”

เขานั้นไม่นึกเช่นกันว่าหลู่เฉินจะเป็นคนหน้าไม่อายเรียกรับสินบนแต่กลับไม่คิดทำตามที่ถูกขอไว้เช่นนี้ เป็นแบบนี้เขาเอาโอสถหยกวารีไปให้หมากินยังดีเสียกว่า

แม้ว่าโอสถนี้มันจะเป็นแค่ขยะสำหรับเย่หยวน แต่สุดท้ายมันก็ยังเป็นโอสถขั้นเทวะที่ล้ำค่าอยู่ดี

เมื่อได้เห็นท่าทางนั้นของเย่หยวนหลู่เฉินก็ยิ้มขึ้น “ทำไม ที่นี่คือตึกลมไหลเจ้าคิดจะหาเรื่องทำร้ายผู้คนหรือ? เจ้าคิดว่าตัวเองจะสามารถติดสินบนข้าคนนี้ได้หรือ! เป็นแค่ผู้อาวุโสใหญ่แห่งเมืองจักรพรรดิหนึ่งอย่าได้มาอวดดีกับผู้ดูแลคนนี้นัก! ไสหัวไป!”

กับคนที่มาจากเมืองด้านล่างนั้นหลู่เฉินย่อมคิดวางท่าเป็นเจ้าไม่สนใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

และท่าทางนั้นของเย่หยวนมันก็ทำให้เขาโกรธเคืองไม่น้อย

เมื่อคนเบื้องล่างทั้งหลายเห็นตัวเขา พวกมันทั้งหลายนั้นล้วนแต่แสดงท่าทางเกรงใจเคารพออกมา

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับกล้าทำตัวเช่นนี้ใส่เขา ช่างไม่รู้จักเสียจริงๆ ว่าอะไรไม่ถูกไม่ควร

ดวงตาของเย่หยวนเบิกขึ้นด้วยความเย็นเยือก “ดูท่าเจ้าจะหลงตัวเองมากนักนะ!”

หลู่เฉินนั้นโกรธแค้นขึ้นในทันทีที่ได้ยิน “เด็กน้อย เจ้าคิดว่าแค่โชคดีได้หลอมผลวิญญาณเต๋านภาสวรรค์แล้วตัวเองจะสามารถอวดดีต่อหน้าผู้ดูแลคนนี้ได้? ผู้ดูแลคนนี้ได้ให้โอกาสเจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับยังไม่ไสหัวไป เช่นนั้นข้าจะหักขาสุนัขของเจ้าแล้วโยนเจ้าทิ้งไปเอง!”

ปัง!

หลู่เฉินปล่อยพลังโลกของตนออกมาพร้อมบดขยี้ไปยังเย่หยวน

หลู่เฉินนั้นเป็นถึงนภาสวรรค์หกดาว ส่วนเย่หยวนเป็นแค่นภาสวรรค์ห้าดาวขั้นกลาง แน่นอนว่าเขาย่อมไม่คิดว่าเย่หยวนจะตอบสนองสู้กลับมาได้

ร่างของเขาขยับพริบตาเดียวพลังโลกนั้นมันก็บดขยี้มาถึงตัวเย่หยวน

แต่เย่หยวนกลับยืนอยู่ตรงนั้นอย่างนิ่งเฉยไม่คิดแม้แต่จะเดินปราณเทวะ ราวกับว่าเขากลัวจนไม่อาจทำอะไรตอบโต้ได้แล้ว

หลู่เฉินที่เห็นเช่นนั้นจึงพูดขึ้น “ไม่รู้จักประมาณตัวเองกลับกล้ามาทำตัวอวดดีต่อหน้าผู้ดูแลคนนี้!”

คนทั้งสองนั้นอยู่ห่างกันแค่ไม่มาก หลู่เฉินจึงมาถึงตัวเย่หยวนได้ในพริบตา

ในวินาทีต่อไป เขาก็คิดจะหักขาเย่หยวนอย่างที่ว่า

แต่ในวินาทีนั้นเย่หยวนกลับขยับ

เขาได้แค่ยืนตรงนั้นพร้อมเหวี่ยงเตะขาออกมา

ตุบ!

เสียงของกระดูกที่หักลั่นไปทั่วทั้งร่างทำให้หลู่เฉินต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ก้มคุกเข่าลงต่อหน้าเย่หยวนในทันที

“อ่า! ขาข้า!” หลู่เฉินร้อง

เย่หยวนมองดูที่เขา “ไม่รู้จักประมาณตนกลับกล้ามาทำตัวอวดดีต่อหน้าข้า? ข้ามอบโอสถหยกวารีให้เพราะเห็นแก่หน้าพี่เจียงหรอกนะ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนเก่งกาจมากบารมีหรือ?”

หลู่เฉินนั้นเจ็บปวดจนถึงขั้นกระดูก เหงื่อเย็นเหยียบไหลลงมาท่วมกาย

แรงเตะของเย่หยวนนี้มันหักทำลายกระดูกของเขาจนเป็นผงไม่อาจลุกขึ้นยืนได้

เขานั้นคิดหักขาเย่หยวน แต่สุดท้ายแล้วกลับเป็นตัวเองที่ขาหักลง

ดินแดนของพลังโลกของเขานั้นไม่อาจส่งผลใดๆ แก่เย่หยวนได้เลย

เป็นตอนนี้เองที่หลู่เฉินได้รู้ว่าชายหนุ่มผู้อาวุโสใหญ่แห่งเมืองจักรพรรดิตรงหน้าเขานี้ไม่ใช่คนทั่วๆ ไปที่จะข่มขู่ได้เลย!

“ข้า…ข้าผิดไปแล้ว! ข้า…ข้าขอร้อง ปล่อยข้าไปเถอะ” หลู่เฉินบอกพร้อมเหงื่อที่ไหลท่วมกาย

เย่หยวนพยักหน้าออกมา “ก็ไม่ใช่ว่าข้าคิดจะฆ่าสังหารเจ้า แต่เจ้าน่าจะรู้ดีว่าข้าต้องการอะไร”

หลู่เฉินเบิกตากว้างก่อนจะพยักหน้าออกมา “ข้า…ข้าจะพูด ข้าจะบอกทุกเรื่องที่ข้ารู้!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+